สวัสดี ตอนนี้เราประสบณ์ปัญหาในที่ทำงานกับเจ้านาย
เริ่มแรกเราทำงานที่บ.นี้ได้ 1เดือนซึ่งฝ่ายของเรามีแค่เราคนเดียว ตอนเราเข้ามาทำงานใหม่ๆเขาไม่ได้แจ้งว่ามีแค่เรานะ เพราะพนักงานชุดเก่าได้ลาออกไปหมดแล้ว(รู้จากพี่ๆฝ่ายอื่น) ใน1เดือนที่เริ่มทำงานนั้นเราก็ทำทุกอย่างของฝ่ายที่เราอยู่ ซึ่งมันค่อนข้างเยอะ แต่เราก็สามารถทำได้ถึงแม้จะช้าแต่เราก็พยายามเร่งตัวเองให้งานออกมาดี พอเราเริ่มทำมาเรื่อยๆเราเริ่มรู้ตัวเองว่า เราไม่ค่อยมีความสุขกับงานตรงนี้เลย ต้องบอกตรงนี้ว่าพี่ๆที่ทำงานฝ่ายอื่นๆน่ารักมากใจดีทุกคน แต่เจ้านายค่อนข้างเป็นคนที่มีอีโก้สูงอันนี้ขอไม่ลงรายละเอียด แต่เขาเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เราไม่อยากทำงานด้วย
พอหมดเดือนแรก เราได้คุยกับเจ้านายว่าเราอยากลาออก เราได้พูดเหตุผลของเราออกไปให้เขารับรู้(แต่ไม่ได้พูดถึงเขา) ว่าเราไม่มีความสุขในการทำงานเท่าไหร่ เขาก็อ้างเหตุผล หลายๆอย่างมา เราก็ใจอ่อน ลองใหม่อีกสักตั้ง เขาก็บอกว่าจะรีบหาคนมาช่วย พอผ่านไปประมาณ2 อาทิตย์ ซึ่งในสองอาทิตย์นั้นเราก็พยายามทบทวนตัวเองว่ายังอยากทำต่อมั้ย เราก็ได้ข้อสรุปว่าไม่อยากทำแล้วจริงๆ ไม่อยากฝืนอยู่ และในสองอาทิตย์นั้นก็ยังไม่มีคนใหม่เข้ามา เราก็เลยตัดสินใจอีกครั้งเพื่อบอกเขาว่าเราไม่อยากทำแล้วจริงๆ เขาพูดในสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกผิดกับงาน ประมาณว่าชักทุกอย่างออกมาพูด และเขาก็ขอให้เราอยู่ต่ออีก1เดือน เขาจะหาคนใหม่และให้เราสอนงานคนใหม่ เขาบอกเราว่าช่วยๆกันหน่อย อันนี้เราก็ขำแห้งไป คือใจเราไม่อยากอยู่แล้ว แล้วการที่ต้องมาพูดซ้ำๆว่าอยากออกๆ ไปเรื่อยๆมันทำให้ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันไม่ได้และเรายิ่งอึดอัดเข้าไปอีก หลังจากวันที่เราบอกอยากลาออกครั้งที่2 เขาก็หาคนมาเพิ่มอีก4คน ภายในไม่กี่วัน ซึ่งมี2คนที่ได้เข้ามาเริ่มงานก่อน เราก็ได้สอนงานไปทั้งหมดแล้ว และยังเหลืออีกสองคน และในระหว่างนั้นก็มีงานใหม่ติดต่อเราเข้ามา3ที่ เราต้องปฎิเสธไปสองที่เพราะเราไม่สามารถออกจากที่เก่าได้ พอที่ที่3ติดต่อมาคือ เราไม่อยากปฎิเสธแล้วเพราะเราเสียดายโอกาสใหม่มาก ถ้าเราอยู่ช่วยเขาอีก1เดือน แล้วโอกาสใหม่ที่เข้ามาเราก็ต้องปล่อยไป เราไม่รู้จะทำยังไงเลย เราต้องพูดยังไงดี ตอนนี้เราอึดอัด กังวลมาก
จะออกจากงานแต่เจอแบบนี้ควรทำยังไง
เริ่มแรกเราทำงานที่บ.นี้ได้ 1เดือนซึ่งฝ่ายของเรามีแค่เราคนเดียว ตอนเราเข้ามาทำงานใหม่ๆเขาไม่ได้แจ้งว่ามีแค่เรานะ เพราะพนักงานชุดเก่าได้ลาออกไปหมดแล้ว(รู้จากพี่ๆฝ่ายอื่น) ใน1เดือนที่เริ่มทำงานนั้นเราก็ทำทุกอย่างของฝ่ายที่เราอยู่ ซึ่งมันค่อนข้างเยอะ แต่เราก็สามารถทำได้ถึงแม้จะช้าแต่เราก็พยายามเร่งตัวเองให้งานออกมาดี พอเราเริ่มทำมาเรื่อยๆเราเริ่มรู้ตัวเองว่า เราไม่ค่อยมีความสุขกับงานตรงนี้เลย ต้องบอกตรงนี้ว่าพี่ๆที่ทำงานฝ่ายอื่นๆน่ารักมากใจดีทุกคน แต่เจ้านายค่อนข้างเป็นคนที่มีอีโก้สูงอันนี้ขอไม่ลงรายละเอียด แต่เขาเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เราไม่อยากทำงานด้วย
พอหมดเดือนแรก เราได้คุยกับเจ้านายว่าเราอยากลาออก เราได้พูดเหตุผลของเราออกไปให้เขารับรู้(แต่ไม่ได้พูดถึงเขา) ว่าเราไม่มีความสุขในการทำงานเท่าไหร่ เขาก็อ้างเหตุผล หลายๆอย่างมา เราก็ใจอ่อน ลองใหม่อีกสักตั้ง เขาก็บอกว่าจะรีบหาคนมาช่วย พอผ่านไปประมาณ2 อาทิตย์ ซึ่งในสองอาทิตย์นั้นเราก็พยายามทบทวนตัวเองว่ายังอยากทำต่อมั้ย เราก็ได้ข้อสรุปว่าไม่อยากทำแล้วจริงๆ ไม่อยากฝืนอยู่ และในสองอาทิตย์นั้นก็ยังไม่มีคนใหม่เข้ามา เราก็เลยตัดสินใจอีกครั้งเพื่อบอกเขาว่าเราไม่อยากทำแล้วจริงๆ เขาพูดในสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกผิดกับงาน ประมาณว่าชักทุกอย่างออกมาพูด และเขาก็ขอให้เราอยู่ต่ออีก1เดือน เขาจะหาคนใหม่และให้เราสอนงานคนใหม่ เขาบอกเราว่าช่วยๆกันหน่อย อันนี้เราก็ขำแห้งไป คือใจเราไม่อยากอยู่แล้ว แล้วการที่ต้องมาพูดซ้ำๆว่าอยากออกๆ ไปเรื่อยๆมันทำให้ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันไม่ได้และเรายิ่งอึดอัดเข้าไปอีก หลังจากวันที่เราบอกอยากลาออกครั้งที่2 เขาก็หาคนมาเพิ่มอีก4คน ภายในไม่กี่วัน ซึ่งมี2คนที่ได้เข้ามาเริ่มงานก่อน เราก็ได้สอนงานไปทั้งหมดแล้ว และยังเหลืออีกสองคน และในระหว่างนั้นก็มีงานใหม่ติดต่อเราเข้ามา3ที่ เราต้องปฎิเสธไปสองที่เพราะเราไม่สามารถออกจากที่เก่าได้ พอที่ที่3ติดต่อมาคือ เราไม่อยากปฎิเสธแล้วเพราะเราเสียดายโอกาสใหม่มาก ถ้าเราอยู่ช่วยเขาอีก1เดือน แล้วโอกาสใหม่ที่เข้ามาเราก็ต้องปล่อยไป เราไม่รู้จะทำยังไงเลย เราต้องพูดยังไงดี ตอนนี้เราอึดอัด กังวลมาก