เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรก... ตื่นเต้นมาก ^^
ลงไว้เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลี้ยงลูกนะคะ
สิ่งที่อยากให้ทราบก่อนอ่าน
• เด็กทุกคนแตกต่างกัน ไม่เหมือนกัน วิธีที่เราใช้กับลูกอาจจะได้ผลกับคนอื่นก็ได้นะคะ
• เราเริ่มฝึกน้องทานข้าวเองด้วยวิธี BLW ตั้งแต่ 7 เดือน ถึง 2.1 ขวบ
• น้องทานยากมาตลอดและเลือกทานมากๆ จนขาดธาตุเหล็กนอน รพ.ไป 3 คืน
• หลังจาก 2.1 ขวบ เราใช้วิธีคอมโบ คือ ป้อนสลับกับให้ทานเอง น้องทานดีขึ้นมากๆ
• แต่เนื่องจากเรามีความกดดันจากหลายๆทาง อาทิเช่น ทำไมสอนทานเองมาตั้งแต่แรก สุดท้ายมาป้อนล่ะ ?
เหตุการณ์นี้ก็เลยเกิดขึ้น
ก่อนหน้าวันที่เกิด น้องไม่มีท้องผูกท้องเสียใดๆนะคะ
ปัจจุบัน น้อง 2.9 ขวบ เราเลยคิดว่า น่าจะถึงเวลาให้หัดทานเองได้ 100% สักที เราเลยคุยกับลูกว่า ตั้งแต่พรุ่งนี้แม่จะไม่ป้อนแล้วนะคะ ต้องทานเอง ทั้งผัก ผลไม้ อาหารที่แม่เตรียมไว้ให้ในแต่ละมื้อ ไม่หมดไม่เป็นไร หนูอิ่มก็พอ ลูกก็โอเค
พอวันรุ่งขึ้น เราใจแข็ง ไม่ป้อน มื้อเช้านั่งทานได้ 40 นาที 1 คำ บอกอิ่มแล้ว มื้อกลางวัน 2-3 คำ นั่งไป 45 นาที บอกอิ่มแล้ว มื้อเย็น 2 คำ นั่งไป 30 นาที บอกอิ่มแล้ว ... เราก็ปล่อย
ตกดึก น้องนอนไม่หลับ ลุกมาบ่นปวดท้องราวๆ 2-3 รอบ ตอนตี 5 น้องบอกหิวน้ำ ก็ให้ทานน้ำแล้วไปนอนต่อ
พอสัก 6.30 กำลังหลับดีๆ น้องตื่นมาอาเจียน พุ่งออกมาเป็นน้ำเปล่าล้วนๆที่ทานเข้าไป วัดไข้รุมๆ 37.1 - 37.3 แล้วบอกปวดท้อง
ตอนแรก เราก็ยังไม่คิดว่า เกี่ยวกับเมื่อวานที่ไม่ได้ทานอะไรทั้งวันเลยมั้ย เลยลองพาไปนั่งถ่าย ก็ไม่ออก
ใกล้จะ 7.00 แล้ว เราเลยพามาทานข้าวเช้า แต่น้องไม่ให้เราไปทำกับข้าวเลย ขอกอดแม่ ให้แม่อุ้ม บอกปวดท้อง ทนไม่ไหว เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยสั่งแกรบ สั่งข้าวต้มง่ายๆมา กะว่าทานข้าวเสร็จจะพาไปหาหมอ ระหว่างรอพี่แกรบ น้องก็หลับไป ร้องครางๆบอกปวดท้อง ... (แม่ก็ยังคิดว่าท้องเสียอยู่)
พออาหารมา พาน้องทานข้าว มื้อนี้แม่ยอมป้อน เพราะเห็นว่าไม่สบาย น้องทานหมดเกลี้ยงในปริมาณของผู้ใหญ่ แล้วบอกว่า ขอนอนพัก ง่วง ก็พานอน นอนถึงเที่ยง ตื่นมา หายเป็นปกติ ไข้ไม่มี ปวดท้องไม่มี สุดท้ายแม่เลยไม่ได้พาไปหาหมอ
คือเราไม่รู้หรอกว่า จริงๆแล้ว สาเหตุมาจากอะไร เพราะเราไม่ได้ไปหาหมอ เนื่องจากน้องปกติดี แล้วตอนนี้ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้ว ก่อนหน้านี้น้องไม่ได้ท้องผูก ไม่มีถ่ายท้อง ไม่มีท้องเสีย ทานอาหารใหม่ทุกมื้อ แม่ไม่เคยให้น้องทานอาหารค้าง หรือข้ามวัน ไม่ได้ซื้อข้างนอก แม่ทำใหม่ตลอด จะว่าอาหารเป็นพิษก็ไม่แน่ใจว่าใช่มั้ย ก่อนทานอะไรก็ตาม ล้างมือตลอดและบ่อยมาก ไม่ได้ออกไปไหนเลยมาร่วม 3 เดือนแล้ว (จากสถานการณ์ปัจจุบัน แม่เลยไม่พาน้องไปไหนเลย) อยู่บ้านตลอดกัน 2 คน เลยไม่รู้เลยว่าเพราะอะไร ซึ่งจริงๆ อาจจะไม่ใช่เรื่องทานข้าวก็ได้
สภาพจิตใจแม่ตอนนั้นคือ บอบช้ำมาก แม่เป็นแม่ฟูลไทม์ เลี้ยงคนเดียวมาตลอดเกือบ 3 ปี โดนคนว่านั่นนี่มาตลอด ก็อดทนไว้เรื่อยๆ ... สุดท้าย เกือบทำลูกป่วยหนัก เพราะความอยากเอาชนะเสียงคนอื่นของแม่
การเลี้ยงลูกไม่มีผิดไม่มีถูก ขึ้นอยู่กับแต่ละบ้านว่าจะเลี้ยงแนวทางไหน ... BLW ไม่ใช่ไม่ดี แต่มันแค่ไม่เหมาะกับลูกบ้านนี้ แต่แม่เอง อยากเอาชนะ เลยอดทนทำมาเรื่อยๆเป็นปีๆ สุดท้ายลูกป่วยไม่รู้กี่ครั้ง เพราะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ วันนี้ที่มาเล่า แค่อยากจะแชร์ประสบการณ์ประกอบการตัดสินใจนะคะ อาจจะเป็น 1 บทความ ที่ช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นว่าเราจะเลี้ยงไปในแนวทางไหน ^^
• การฝึกทานข้าวแบบ BLW ข้อดีคือ ได้ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก ได้ฝึก EF และการช่วยเหลือตัวเอง
• ตามหลัก EF แล้ว เด็กควรทานอาหารได้เองก่อน 3 ขวบ
• บ้านไหนน้องทานง่าย การฝึกแบบนี่คือดีมากนะคะ น้องจะรู้จักความหิว ความอิ่ม รู้จักหยุด รู้จักกินด้วยตัวเอง แต่มันคงไม่น่าเหมาะกับเรา เราพิสูจน์มา 2 ปีแล้ว
• ดูลูกเป็นหลักนะคะ ว่าลูกชอบแบบไหน
• มีคนเคยบอกว่า ขาดสารอาหารทานเสริมได้ แต่ขาด EF เสียหายระยะยาว ... เราว่าจริงส่วนนึงนะคะ ส่วนตัวเราเอง เราลองอดทนมาแล้ว ผ่านช่วงเวลาลูกขาดสารอาหารมาแล้ว เราตอบตัวเองได้เลยว่า เราทนไม่ได้ และเราก็จะไม่ทนแล้ว ค่อยๆฝึกเมือโตกว่านี้ดีกว่า สุดท้าย ทุกคนก็ต้องทานเอง และ EF เราไปฝึกทางอื่นเอาล่ะกัน เช่น ทำงานบ้าน ซึ่งเด็กบ้านนี้ทำงานบ้านเก่งมาก เช่นล้างจาน กวาดบ้าน รดน้ำต้นไม้ (ขอขิงลูกหน่อย ^^)
สุดท้าย เป็นกำลังใจให้แม่ๆทุกคนนะคะ ^^
ลูกไม่ยอมทานข้าวเอง .. แม่ก็อยากเอาชนะลูก สุดท้ายลูกป่วย
ลงไว้เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลี้ยงลูกนะคะ
สิ่งที่อยากให้ทราบก่อนอ่าน
• เด็กทุกคนแตกต่างกัน ไม่เหมือนกัน วิธีที่เราใช้กับลูกอาจจะได้ผลกับคนอื่นก็ได้นะคะ
• เราเริ่มฝึกน้องทานข้าวเองด้วยวิธี BLW ตั้งแต่ 7 เดือน ถึง 2.1 ขวบ
• น้องทานยากมาตลอดและเลือกทานมากๆ จนขาดธาตุเหล็กนอน รพ.ไป 3 คืน
• หลังจาก 2.1 ขวบ เราใช้วิธีคอมโบ คือ ป้อนสลับกับให้ทานเอง น้องทานดีขึ้นมากๆ
• แต่เนื่องจากเรามีความกดดันจากหลายๆทาง อาทิเช่น ทำไมสอนทานเองมาตั้งแต่แรก สุดท้ายมาป้อนล่ะ ?
เหตุการณ์นี้ก็เลยเกิดขึ้น
ก่อนหน้าวันที่เกิด น้องไม่มีท้องผูกท้องเสียใดๆนะคะ
ปัจจุบัน น้อง 2.9 ขวบ เราเลยคิดว่า น่าจะถึงเวลาให้หัดทานเองได้ 100% สักที เราเลยคุยกับลูกว่า ตั้งแต่พรุ่งนี้แม่จะไม่ป้อนแล้วนะคะ ต้องทานเอง ทั้งผัก ผลไม้ อาหารที่แม่เตรียมไว้ให้ในแต่ละมื้อ ไม่หมดไม่เป็นไร หนูอิ่มก็พอ ลูกก็โอเค
พอวันรุ่งขึ้น เราใจแข็ง ไม่ป้อน มื้อเช้านั่งทานได้ 40 นาที 1 คำ บอกอิ่มแล้ว มื้อกลางวัน 2-3 คำ นั่งไป 45 นาที บอกอิ่มแล้ว มื้อเย็น 2 คำ นั่งไป 30 นาที บอกอิ่มแล้ว ... เราก็ปล่อย
ตกดึก น้องนอนไม่หลับ ลุกมาบ่นปวดท้องราวๆ 2-3 รอบ ตอนตี 5 น้องบอกหิวน้ำ ก็ให้ทานน้ำแล้วไปนอนต่อ
พอสัก 6.30 กำลังหลับดีๆ น้องตื่นมาอาเจียน พุ่งออกมาเป็นน้ำเปล่าล้วนๆที่ทานเข้าไป วัดไข้รุมๆ 37.1 - 37.3 แล้วบอกปวดท้อง
ตอนแรก เราก็ยังไม่คิดว่า เกี่ยวกับเมื่อวานที่ไม่ได้ทานอะไรทั้งวันเลยมั้ย เลยลองพาไปนั่งถ่าย ก็ไม่ออก
ใกล้จะ 7.00 แล้ว เราเลยพามาทานข้าวเช้า แต่น้องไม่ให้เราไปทำกับข้าวเลย ขอกอดแม่ ให้แม่อุ้ม บอกปวดท้อง ทนไม่ไหว เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยสั่งแกรบ สั่งข้าวต้มง่ายๆมา กะว่าทานข้าวเสร็จจะพาไปหาหมอ ระหว่างรอพี่แกรบ น้องก็หลับไป ร้องครางๆบอกปวดท้อง ... (แม่ก็ยังคิดว่าท้องเสียอยู่)
พออาหารมา พาน้องทานข้าว มื้อนี้แม่ยอมป้อน เพราะเห็นว่าไม่สบาย น้องทานหมดเกลี้ยงในปริมาณของผู้ใหญ่ แล้วบอกว่า ขอนอนพัก ง่วง ก็พานอน นอนถึงเที่ยง ตื่นมา หายเป็นปกติ ไข้ไม่มี ปวดท้องไม่มี สุดท้ายแม่เลยไม่ได้พาไปหาหมอ
คือเราไม่รู้หรอกว่า จริงๆแล้ว สาเหตุมาจากอะไร เพราะเราไม่ได้ไปหาหมอ เนื่องจากน้องปกติดี แล้วตอนนี้ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้ว ก่อนหน้านี้น้องไม่ได้ท้องผูก ไม่มีถ่ายท้อง ไม่มีท้องเสีย ทานอาหารใหม่ทุกมื้อ แม่ไม่เคยให้น้องทานอาหารค้าง หรือข้ามวัน ไม่ได้ซื้อข้างนอก แม่ทำใหม่ตลอด จะว่าอาหารเป็นพิษก็ไม่แน่ใจว่าใช่มั้ย ก่อนทานอะไรก็ตาม ล้างมือตลอดและบ่อยมาก ไม่ได้ออกไปไหนเลยมาร่วม 3 เดือนแล้ว (จากสถานการณ์ปัจจุบัน แม่เลยไม่พาน้องไปไหนเลย) อยู่บ้านตลอดกัน 2 คน เลยไม่รู้เลยว่าเพราะอะไร ซึ่งจริงๆ อาจจะไม่ใช่เรื่องทานข้าวก็ได้
สภาพจิตใจแม่ตอนนั้นคือ บอบช้ำมาก แม่เป็นแม่ฟูลไทม์ เลี้ยงคนเดียวมาตลอดเกือบ 3 ปี โดนคนว่านั่นนี่มาตลอด ก็อดทนไว้เรื่อยๆ ... สุดท้าย เกือบทำลูกป่วยหนัก เพราะความอยากเอาชนะเสียงคนอื่นของแม่
การเลี้ยงลูกไม่มีผิดไม่มีถูก ขึ้นอยู่กับแต่ละบ้านว่าจะเลี้ยงแนวทางไหน ... BLW ไม่ใช่ไม่ดี แต่มันแค่ไม่เหมาะกับลูกบ้านนี้ แต่แม่เอง อยากเอาชนะ เลยอดทนทำมาเรื่อยๆเป็นปีๆ สุดท้ายลูกป่วยไม่รู้กี่ครั้ง เพราะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ วันนี้ที่มาเล่า แค่อยากจะแชร์ประสบการณ์ประกอบการตัดสินใจนะคะ อาจจะเป็น 1 บทความ ที่ช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นว่าเราจะเลี้ยงไปในแนวทางไหน ^^
• การฝึกทานข้าวแบบ BLW ข้อดีคือ ได้ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก ได้ฝึก EF และการช่วยเหลือตัวเอง
• ตามหลัก EF แล้ว เด็กควรทานอาหารได้เองก่อน 3 ขวบ
• บ้านไหนน้องทานง่าย การฝึกแบบนี่คือดีมากนะคะ น้องจะรู้จักความหิว ความอิ่ม รู้จักหยุด รู้จักกินด้วยตัวเอง แต่มันคงไม่น่าเหมาะกับเรา เราพิสูจน์มา 2 ปีแล้ว
• ดูลูกเป็นหลักนะคะ ว่าลูกชอบแบบไหน
• มีคนเคยบอกว่า ขาดสารอาหารทานเสริมได้ แต่ขาด EF เสียหายระยะยาว ... เราว่าจริงส่วนนึงนะคะ ส่วนตัวเราเอง เราลองอดทนมาแล้ว ผ่านช่วงเวลาลูกขาดสารอาหารมาแล้ว เราตอบตัวเองได้เลยว่า เราทนไม่ได้ และเราก็จะไม่ทนแล้ว ค่อยๆฝึกเมือโตกว่านี้ดีกว่า สุดท้าย ทุกคนก็ต้องทานเอง และ EF เราไปฝึกทางอื่นเอาล่ะกัน เช่น ทำงานบ้าน ซึ่งเด็กบ้านนี้ทำงานบ้านเก่งมาก เช่นล้างจาน กวาดบ้าน รดน้ำต้นไม้ (ขอขิงลูกหน่อย ^^)
สุดท้าย เป็นกำลังใจให้แม่ๆทุกคนนะคะ ^^