ฟุตบอลยูโร 2020 แข่งจบรอบแรกไปแล้ว นอกจากจะได้ 16 ทีมที่ผ่านเข้าไปสู้ต่อในรอบน็อคเอาท์แล้ว ก็มีอีก 8 ทีมที่ต้องอำลาเวทีตกรอบแรกไป มาดูกันดีกว่าว่ามีใครบ้าง แต่ละทีมมีผลงานเป็นอย่างไรกันบ้าง เรียงลำดับตามผลงานที่ทำได้เลย
อันดับ 17 ฟินแลนด์ (ที่ 3 กลุ่ม B)
ผลงาน : ชนะเดนมาร์ก 1-0 แพ้รัสเซีย 0-1 แพ้เบลเยียม 0-2 ได้ 3 แต้ม ประตูได้เสีย 1-3
ได้เข้าเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์หลังจากรอคอยมาหลายสิบปี และก็ถือว่าทำผลงานไม่เลวเลยโดยเฉพาะในกลุ่มที่ถือว่าแข็งพอสมควร แต่ฟินแลนด์ก็ใช้เกมรับที่เหนียวแน่นแบกทีมจนสามารถเก็บชัยชนะได้ตั้งแต่นัดแรกในการเล่นรอบสุดท้ายของรายการใหญ่ แม้ว่าสุดท้ายจะไม่ผ่านรอบแรก แต่การที่ได้อยู่ลุ้นจนถึงวันสุดท้ายของรอบแรก ก็ถือว่าเป็นผลงานที่ดีใช้ได้แล้ว
สรุป - สำหรับการเล่นรอบสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรก ถือว่าสอบผ่านเลย
อันดับ 18 สโลวาเกีย (ที่ 3 กลุ่ม E)
ผลงาน : ชนะโปแลนด์ 2-1 แพ้สวีเดน 0-1 แพ้สเปน ได้ 3 แต้ม ประตูได้เสีย 2-7
เริ่มต้นได้ดีพอใช้จากการชนะโปแลนด์มาได้แบบมีโชคช่วยเล็กน้อย เกมสองก็ไม่ถึงกับแย่ ทำให้ดูจะมีลุ้นเข้ารอบอยู่เหมือนกัน แต่มาเละในเกมสุดท้ายที่โดนสเปนถล่มชนิดต้องเรียกว่าเหมือนเป็นบอลคนละชั้นกันเลย
สรุป - ไม่น่าแปลกใจและไม่น่าเสียดายที่ต้องตกรอบแรก
อันดับ 19 รัสเซีย (ที่ 4 กลุ่ม B)
ผลงาน : แพ้เบลเยียม 0-3 ชนะฟินแลนด์ 1-0 แพ้เดนมาร์ก 1-4 ได้ 3 แต้ม ประตูได้เสีย 2-7
รัสเซียก็ยังคงเป็นรัสเซียที่ดูเหมือนจะดี แต่มักจะโชว์ฟอร์มไม่ได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น แม้จะได้เล่นในบ้านสองนัดแรก แต่ก็ไม่สามารถทำผลงานกุมความได้เปรียบเอาไว้ได้เท่าไหร่ ก่อนจะออกไปโดนเดนมาร์กถล่มเละในนัดสุดท้าย
สรุป - ผลงานไม่สมราคาทีมโถสอง
อันดับ 20 ฮังการี (ที่ 4 กลุ่ม F)
ผลงาน : แพ้โปรตุเกส 0-3 เสมอฝรั่งเศส 1-1 เสมอเยอรมัน 2-2 ได้ 2 แต้ม ประตูได้เสีย 3-6
น่าจะเป็นทีมที่ตกรอบแรกที่ทำผลงานได้เหนือความคาดหมายและได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุดแล้ว เพราะก่อนแข่งใคร ๆ ก็มองว่าการอยู่ Group of Death แบบนี้ ฮังการีน่าจะเป็นทีมแจกแต้มให้กับคู่แข่งสุดหินทั้งสามทีมที่เหลือ แต่ฮังการีก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยด้วยการสร้างปัญหาให้กับคู่แข่งได้ตลอดทั้งสามเกม โดยเฉพาะในเกมสุดท้ายที่เล่นงานเยอรมันจนเจียนอยู่เจียนไปกว่าจะเอาตัวรอดไปได้แบบหวุดหวิด เรียกว่าอีกนิดเดียวฮังการีก็จะสร้างปาฏิหาริย์พาตัวเองเข้ารอบในกลุ่มสุดโหดได้เหมือนกัน
สรุป - น่าเสียดายมากที่อยู่กลุ่มแข็งโป๊ก ไม่งั้นน่าจะผ่านเข้ารอบได้เลย
อันดับ 21 โปแลนด์ (ที่ 4 กลุ่ม E)
ผลงาน : แพ้สโลวาเกีย 1-2 เสมอสเปน 1-1 แพ้สวีเดน 2-3 ได้ 1 แต้ม ประตูได้เสีย 4-6
โปแลนด์ก็ยังคงมีปัญหาเดิม ๆ เรื้อรังมาตั้งแต่บอลโลกเมื่อสามปีก่อน คือมีดาวยิงระดับโลกอย่างเลวานดอฟสกีในทีมก็จริง แต่เลวานฯ คนเดียวก็แบกทีมไม่ไหวถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีมมากพอ สุดท้ายก็ไม่สามารถไปไหนได้ไกล ต้องจบเส้นทางตั้งแต่รอบแรกไปอย่างพลิกความคาดหมายอีกครั้ง
สรุป - จบแบบช้ำ ๆ ซ้ำรอยเดิม
อันดับ 22 สก็อตแลนด์ (ที่ 4 กลุ่ม D)
ผลงาน : แพ้สาธารณรัฐเช็ก 0-2 เสมออังกฤษ 0-0 แพ้โครเอเชีย 1-3 ได้ 1 แต้ม ประตูได้เสีย 1-5
ทีมเบรฟฮาร์ตแสดงให้เห็นว่า ลำพังแค่ความใจสู้และเสียงเชียร์จากคนดูยังไม่เพียงพอที่จะต่อกรกับคู่ต่อสู้ที่ชั้นเชิงและความเก๋าเหนือกว่าได้ นอกจากการบุกมาเสมอกับคู่แข่งตลอดกาลอย่างอังกฤษที่เวมบลีย์แล้ว ก็ไม่มีผลงานอะไรที่น่าพูดถึงเท่าไหร่
สรุป - ยังดีไม่พอที่จะผ่านรอบแรกได้ตามเคย
อันดับ 23 นอร์ทมาซิโดเนีย (ที่ 4 กลุ่ม C)
ผลงาน : แพ้ออสเตรีย 1-3 แพ้ยูเครน 1-2 แพ้เนเธอร์แลนด์ 0-3 ได้ 0 แต้ม ประตูได้เสีย 2-8
แน่นอนว่าก่อนแข่ง ใคร ๆ ก็มองอยู่แล้วว่าพวกเขาเป็นทีมไม้ประดับ ที่ได้มาเล่นก็เพราะว่ายูฟาต้องการเปิดโอกาสให้ทีมเล็ก ๆ มีส่วนร่วมในการแข่งขัน และนอร์ทมาซิโดเนียก็คว้าตั๋วใบนั้นมาได้ และผลงานที่ออกมาก็ไม่ได้มีอะไรที่เหนือความคาดหมาย แพ้สามนัดรวด ยังดีที่ยังสามารถยิงประตูเป็นที่ระลึกในการเข้าร่วมการแข่งขันรายการใหญ่ครั้งแรกได้สำเร็จ ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าพอใจแล้วสำหรับทีมเต็งบ๊วยทีมนี้
สรุป - เป็นไปตามความคาดหมายทุกประการ
อันดับ 24 ตุรกี (ที่ 4 กลุ่ม A)
ผลงาน : แพ้อิตาลี 0-3 แพ้เวลส์ 0-2 แพ้สวิตเซอร์แลนด์ 1-3 ได้ 0 แต้ม ประตูได้เสีย 1-8
ถือเป็นทีมที่น่าผิดหวังมากที่สุดในรายการนี้แล้ว จากที่ก่อนหน้านี้มีหลายคนบอกว่าอาจจะเป็นม้ามืดของการแข่งขัน แต่หลังจากแพ้อิตาลีอย่างหมดรูปในนัดเปิดสนาม ก็ทำให้ทีมเหมือนเสียศูนย์ไปเลยไม่สามารถเรียกฟอร์มที่ดีในรอบคัดเลือกมาได้ จนต้องตกรอบแรกด้วยการแพ้สามนัดรวดและผลงานแย่ที่สุดในรายการนี้ไปอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
สรุป - ล้มเหลวสุดยอด
ฟุตบอลยูโร 2020 กับ 8 ทีมที่ต้องอำลาเวทีตั้งแต่รอบแรก
อันดับ 17 ฟินแลนด์ (ที่ 3 กลุ่ม B)
ผลงาน : ชนะเดนมาร์ก 1-0 แพ้รัสเซีย 0-1 แพ้เบลเยียม 0-2 ได้ 3 แต้ม ประตูได้เสีย 1-3
ได้เข้าเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์หลังจากรอคอยมาหลายสิบปี และก็ถือว่าทำผลงานไม่เลวเลยโดยเฉพาะในกลุ่มที่ถือว่าแข็งพอสมควร แต่ฟินแลนด์ก็ใช้เกมรับที่เหนียวแน่นแบกทีมจนสามารถเก็บชัยชนะได้ตั้งแต่นัดแรกในการเล่นรอบสุดท้ายของรายการใหญ่ แม้ว่าสุดท้ายจะไม่ผ่านรอบแรก แต่การที่ได้อยู่ลุ้นจนถึงวันสุดท้ายของรอบแรก ก็ถือว่าเป็นผลงานที่ดีใช้ได้แล้ว
สรุป - สำหรับการเล่นรอบสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรก ถือว่าสอบผ่านเลย
อันดับ 18 สโลวาเกีย (ที่ 3 กลุ่ม E)
ผลงาน : ชนะโปแลนด์ 2-1 แพ้สวีเดน 0-1 แพ้สเปน ได้ 3 แต้ม ประตูได้เสีย 2-7
เริ่มต้นได้ดีพอใช้จากการชนะโปแลนด์มาได้แบบมีโชคช่วยเล็กน้อย เกมสองก็ไม่ถึงกับแย่ ทำให้ดูจะมีลุ้นเข้ารอบอยู่เหมือนกัน แต่มาเละในเกมสุดท้ายที่โดนสเปนถล่มชนิดต้องเรียกว่าเหมือนเป็นบอลคนละชั้นกันเลย
สรุป - ไม่น่าแปลกใจและไม่น่าเสียดายที่ต้องตกรอบแรก
อันดับ 19 รัสเซีย (ที่ 4 กลุ่ม B)
ผลงาน : แพ้เบลเยียม 0-3 ชนะฟินแลนด์ 1-0 แพ้เดนมาร์ก 1-4 ได้ 3 แต้ม ประตูได้เสีย 2-7
รัสเซียก็ยังคงเป็นรัสเซียที่ดูเหมือนจะดี แต่มักจะโชว์ฟอร์มไม่ได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น แม้จะได้เล่นในบ้านสองนัดแรก แต่ก็ไม่สามารถทำผลงานกุมความได้เปรียบเอาไว้ได้เท่าไหร่ ก่อนจะออกไปโดนเดนมาร์กถล่มเละในนัดสุดท้าย
สรุป - ผลงานไม่สมราคาทีมโถสอง
อันดับ 20 ฮังการี (ที่ 4 กลุ่ม F)
ผลงาน : แพ้โปรตุเกส 0-3 เสมอฝรั่งเศส 1-1 เสมอเยอรมัน 2-2 ได้ 2 แต้ม ประตูได้เสีย 3-6
น่าจะเป็นทีมที่ตกรอบแรกที่ทำผลงานได้เหนือความคาดหมายและได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุดแล้ว เพราะก่อนแข่งใคร ๆ ก็มองว่าการอยู่ Group of Death แบบนี้ ฮังการีน่าจะเป็นทีมแจกแต้มให้กับคู่แข่งสุดหินทั้งสามทีมที่เหลือ แต่ฮังการีก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยด้วยการสร้างปัญหาให้กับคู่แข่งได้ตลอดทั้งสามเกม โดยเฉพาะในเกมสุดท้ายที่เล่นงานเยอรมันจนเจียนอยู่เจียนไปกว่าจะเอาตัวรอดไปได้แบบหวุดหวิด เรียกว่าอีกนิดเดียวฮังการีก็จะสร้างปาฏิหาริย์พาตัวเองเข้ารอบในกลุ่มสุดโหดได้เหมือนกัน
สรุป - น่าเสียดายมากที่อยู่กลุ่มแข็งโป๊ก ไม่งั้นน่าจะผ่านเข้ารอบได้เลย
อันดับ 21 โปแลนด์ (ที่ 4 กลุ่ม E)
ผลงาน : แพ้สโลวาเกีย 1-2 เสมอสเปน 1-1 แพ้สวีเดน 2-3 ได้ 1 แต้ม ประตูได้เสีย 4-6
โปแลนด์ก็ยังคงมีปัญหาเดิม ๆ เรื้อรังมาตั้งแต่บอลโลกเมื่อสามปีก่อน คือมีดาวยิงระดับโลกอย่างเลวานดอฟสกีในทีมก็จริง แต่เลวานฯ คนเดียวก็แบกทีมไม่ไหวถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีมมากพอ สุดท้ายก็ไม่สามารถไปไหนได้ไกล ต้องจบเส้นทางตั้งแต่รอบแรกไปอย่างพลิกความคาดหมายอีกครั้ง
สรุป - จบแบบช้ำ ๆ ซ้ำรอยเดิม
อันดับ 22 สก็อตแลนด์ (ที่ 4 กลุ่ม D)
ผลงาน : แพ้สาธารณรัฐเช็ก 0-2 เสมออังกฤษ 0-0 แพ้โครเอเชีย 1-3 ได้ 1 แต้ม ประตูได้เสีย 1-5
ทีมเบรฟฮาร์ตแสดงให้เห็นว่า ลำพังแค่ความใจสู้และเสียงเชียร์จากคนดูยังไม่เพียงพอที่จะต่อกรกับคู่ต่อสู้ที่ชั้นเชิงและความเก๋าเหนือกว่าได้ นอกจากการบุกมาเสมอกับคู่แข่งตลอดกาลอย่างอังกฤษที่เวมบลีย์แล้ว ก็ไม่มีผลงานอะไรที่น่าพูดถึงเท่าไหร่
สรุป - ยังดีไม่พอที่จะผ่านรอบแรกได้ตามเคย
อันดับ 23 นอร์ทมาซิโดเนีย (ที่ 4 กลุ่ม C)
ผลงาน : แพ้ออสเตรีย 1-3 แพ้ยูเครน 1-2 แพ้เนเธอร์แลนด์ 0-3 ได้ 0 แต้ม ประตูได้เสีย 2-8
แน่นอนว่าก่อนแข่ง ใคร ๆ ก็มองอยู่แล้วว่าพวกเขาเป็นทีมไม้ประดับ ที่ได้มาเล่นก็เพราะว่ายูฟาต้องการเปิดโอกาสให้ทีมเล็ก ๆ มีส่วนร่วมในการแข่งขัน และนอร์ทมาซิโดเนียก็คว้าตั๋วใบนั้นมาได้ และผลงานที่ออกมาก็ไม่ได้มีอะไรที่เหนือความคาดหมาย แพ้สามนัดรวด ยังดีที่ยังสามารถยิงประตูเป็นที่ระลึกในการเข้าร่วมการแข่งขันรายการใหญ่ครั้งแรกได้สำเร็จ ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าพอใจแล้วสำหรับทีมเต็งบ๊วยทีมนี้
สรุป - เป็นไปตามความคาดหมายทุกประการ
อันดับ 24 ตุรกี (ที่ 4 กลุ่ม A)
ผลงาน : แพ้อิตาลี 0-3 แพ้เวลส์ 0-2 แพ้สวิตเซอร์แลนด์ 1-3 ได้ 0 แต้ม ประตูได้เสีย 1-8
ถือเป็นทีมที่น่าผิดหวังมากที่สุดในรายการนี้แล้ว จากที่ก่อนหน้านี้มีหลายคนบอกว่าอาจจะเป็นม้ามืดของการแข่งขัน แต่หลังจากแพ้อิตาลีอย่างหมดรูปในนัดเปิดสนาม ก็ทำให้ทีมเหมือนเสียศูนย์ไปเลยไม่สามารถเรียกฟอร์มที่ดีในรอบคัดเลือกมาได้ จนต้องตกรอบแรกด้วยการแพ้สามนัดรวดและผลงานแย่ที่สุดในรายการนี้ไปอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
สรุป - ล้มเหลวสุดยอด