ถ้าหากเกิดเครสแบบนี้ คุณคิดว่า เขาควรทำอย่างไร ถ้าเขาเชื่อใจเรา และมาปรึกษาเรา แต่เราไม่รู้จะให้คำปรึกษาที่ถูกต้องกับเขาอย่างไร
เรื่องของเรื่องก็คือ มีผู้หญิงคนหนึ่ง เขาเป็นลูกสาวคนเดียว มีพ่อและแม่ครบ ตามที่สถาบันครอบครัว ทั่วๆไป เรียกกัน หลังจากที่เขา จบ ม.6 เขาก็เข้ามาอยู่หอ ที่กรุงเทพ เรียนมหาวิทยาลัย แห่งหนึ่งในกรุงเทพ แทบจะไม่กลับไปเยี่ยมบ้านเลย ถ้าไม่จำเป็น ไม่ว่าจะปิดเทอมใหญ่ หรือเทศกาลต่างๆ และพอเขาเรียนจบ ได้ทำงาน เขาก็ไม่กลับ บ้านอีกเลย เขาทำงานเลี้ยงตัวเอง และไม่ติดต่อ พ่อกับแม่ ของเธอ อีกเลย คนที่หมู่บ้านเธอ หรือแม้แต่เพื่อนฝูงคนรู้จัก ในแถวๆนั้น เขาก็ ต่างซุบซิบนินทา และว่ากล่าวให้เธอ ในทางเสียหาย ว่า สงสัยจะหลงแสงสีเสียงในเมือง เป็นเด็กใจแตก ไม่เห็นกลับมาบ้านเลย สงสัย คงจะท้อง หรือ หนีตามผู้ชายไปแล้ว บ้างก็ว่า เป็นลูกอกตัญญูบ้าง ที่ไม่กลับมาเลี้ยงดูบิดามารดา ชีวิตของเธอ หลังจากเรียนจบ และออกมาอยู่ตัวคนเดียว โดยไม่ได้พึ่งพา ติดต่อครอบครัวเลย และก็ไม่ค่อยจะสู้ดี เท่าไหร่นัก มีทั้งอุปสรรคปัญหา หลายๆ อย่างในชีวิต ตามพนักงานเงินเดือนบริษัททั่วๆไป
มีอยู่วันหนึ่งเพื่อนๆ ที่ทำงานเขา พากันไปดูดวง กับ หมอดู ที่เขาว่า แม่น ก็ลากเขาไปด้วย ซึ่งหมอดูก็ทักว่า เขาว่ามีกรรม กับ พ่อแม่ น่ะ ถ้าอยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ ต้องไปกราบขออโหสิกรรม กับพ่อกับแม่ เอาน้ำไปล้างเท้าท่าน และเอามาอาบ เพื่อเป็นสิริมงคล เพื่อนๆ ที่ไปด้วยกัน ก็บอกให้เขาไปทำซิ แต่เขาก็ไม่ไป ซึ่งทุกคนก็ไม่รู้ เหตุผล อะไร และเขาก็ไม่พูดไม่อธิบาย อะไร เขาเป็นคนที่ไม่เคย ลางาน หรือแม้ ช่วงเทศกาล ก็ไม่เคย กลับบ้าน เลย เขาก็เลยโดย เพื่อน ซุบซิบ นินทา ไปอีกอย่างหนึ่ง ถ้าทุกคน อ่านมาถึง ...ตอนนี้ คงจะคล้อยตาม ที่ได้ยิน ได้ฟัง ตามคนอื่น ว่า ผู้หญิงคนนี้ ช่างใช้ไม่ได้ เลยจริงๆ จะอะไร ก็แล้วแต่ พ่อและแม่ ก็คือ ผู้มีพระคุณ
แต่ในมุมมองเด็ก คนนี้ การที่เขาไม่ไป หาพ่อแม่ หรือ ที่ไม่ได้กลับบ้าน นั้น ก็คือ เขาได้พยายาม ทำหน้าที่ของลูก อยู่ ตอนแรก เราก็ไม่เข้าใจ และ งง ว่า เพราะอะไร จนในที่สุด เขาก็ได้เล่าเหตุผล อันน่า เจ็บปวด ที่เขาไม่สามารถ เล่า ให้ใครต่อใคร ฟังได้ หรือ แม้แต่แก้ตัว ว่าทำไม เพราะอะไร และต้อง ทนแบกรักสายตา และการซุบซิบ นินทา ต่างๆ นั้น ที่ต่อว่าให้เขาต่างๆนานาได้ เขาเล่าว่า พ่อกับแม่ เขาก็เป็น คนพอมีหน้ามีตาในสังคมแถวๆในหมู่บ้านต่างจังหวัด อยู่บ้าง คนภายนอก จะไม่มีใครได้เห็นมุม ที่ไม่ค่อยดี ของครอบครัวเขาเลย ค่อยข้างจะมีภาพลักษณ์ดี เพราะครอบครัวเขา จะค่อนข้างเก็บตัว และไม่เคย ทำการทะเลาะเบาะแว้ง หรือ มีเรื่องมีราวอะไร ภายในบ้านที่ไม่ดี ให้คนอื่นได้รู้เลย เขาเล่าว่า เขาถูกพ่อแท้ ๆ ข่มขืน นานหลายปี โดยที่แม่ แท้ๆ ก็รู้เห็น โดยไม่ได้ว่ากล่าว อะไรให้พ่อ ของเขาเลย เพราะแม่กลัวพ่อ และพ่อก็เป็นคนมีอำนาจ ในบ้าน คนอาจจะสงสัย ว่าทำไม ไม่แจ้งความ ไม่ขอความช่วยเหลือ ใดๆ จากหน่วยงาน ที่เขาคุ้มครอง เขาก็ให้เหตุผล ตามความคิดของเขา ซึ่งเราไม่สามารถ บอกได้ว่า สิ่งที่เขาคิดนั้นถูกหรือผิด อันดับแรก เขาอาย ที่จะบอก หรือเล่า เรื่องแบบนี้ ให้คนอื่น ได้รับทราบ และเขาก็กลัวการใช้ชีวิตในสังคมของเขาหลังจากนั้น อันดับที่สอง เขาก็ไม่อยากให้พ่อกับแม่เขากลายเป็นขี้ปากสังคมและโดนดำเนินคดีความ ใดๆ เขาก็คิดเสียว่า สิ่งที่เขา โดน มันคือกรรม และ ถึงแม้จะทวงความยุติธรรมมาได้ เขาก็ไม่สามารถที่เรียกที่เขาเสียไปแล้วกลับคืน มาได้ เขาจึงทำได้แค่ อดทน เพื่อรอ วันที่จะได้ออกจากบ้านหลังนั้น คือ วิธี ที่ดี ที่สุด ที่เขาจะทำได้ ในฐานะ ลูก ที่จะทำให้พ่อ กับแม่ ของเขา แต่เขา ก็ไม่สามารถ กลับไป กราบ ขออโหสิกรรม กับ พ่อ กับแม่ ของเขาได้ลง หรือ และยังไม่สามารถทำใจ ที่จะกลับไป หลังจากออกจากบ้านมาแล้ว หลายปี ในความคิดของเขา เขาอยากจะฝังให้มันตายไปกับเขา ไปเลย โดยที่ไม่ต้องมีใครรู้ และใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ต่อไป
คุณ คิดว่า เราจะ แนะนำให้เขา คิดแบบไหนดี ถึงจะเป็นทางดีที่สุด หรือ จะบอกให้เขา อย่าไปโกรธ พ่อ และแม่ ของเขาเลย มันจะเป็นบาปเป็นกรรมเปล่าๆ ก็พูดไม่ได้เต็มปาก เพราะถ้าเหตุการณ์นี้ ถ้าโดนกับตัวเอง ก็คงไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน และ ถ้าจะให้เขาทำแบบนี้ต่อไป หรือ ตัดพ่อ ตัดแม่ ไปเลย ก็อาจจะดูเป็นการแนะนำที่ไม่ดี อีก และเขามาปรึกษาเรา เนี่ยจะได้บุญ หรือ ได้บาป แทน ล่ะนี่ ใครเป็น ปราชญ์ ผู้รู้ ช่วย สอน ให้ปัญญาที วิธีที่ดี ที่สุด ของเครสคนคนนี้ ที่จะไม่ก่อ ให้เกิด กรรม จะมีไหม หรือ เป็นวิธีที่ให้กรรมเบาบางที่สุด เขาควรจะทำอย่างไร
คุณคิดว่า "ผู้หญิงคนนี้ ควรกลับไปกราบขออโหสิกรรม พ่อกับแม่" ตามคำที่หมอดูทักหรือไม่ แต่ทำไมเขาทำไม่ได้
เรื่องของเรื่องก็คือ มีผู้หญิงคนหนึ่ง เขาเป็นลูกสาวคนเดียว มีพ่อและแม่ครบ ตามที่สถาบันครอบครัว ทั่วๆไป เรียกกัน หลังจากที่เขา จบ ม.6 เขาก็เข้ามาอยู่หอ ที่กรุงเทพ เรียนมหาวิทยาลัย แห่งหนึ่งในกรุงเทพ แทบจะไม่กลับไปเยี่ยมบ้านเลย ถ้าไม่จำเป็น ไม่ว่าจะปิดเทอมใหญ่ หรือเทศกาลต่างๆ และพอเขาเรียนจบ ได้ทำงาน เขาก็ไม่กลับ บ้านอีกเลย เขาทำงานเลี้ยงตัวเอง และไม่ติดต่อ พ่อกับแม่ ของเธอ อีกเลย คนที่หมู่บ้านเธอ หรือแม้แต่เพื่อนฝูงคนรู้จัก ในแถวๆนั้น เขาก็ ต่างซุบซิบนินทา และว่ากล่าวให้เธอ ในทางเสียหาย ว่า สงสัยจะหลงแสงสีเสียงในเมือง เป็นเด็กใจแตก ไม่เห็นกลับมาบ้านเลย สงสัย คงจะท้อง หรือ หนีตามผู้ชายไปแล้ว บ้างก็ว่า เป็นลูกอกตัญญูบ้าง ที่ไม่กลับมาเลี้ยงดูบิดามารดา ชีวิตของเธอ หลังจากเรียนจบ และออกมาอยู่ตัวคนเดียว โดยไม่ได้พึ่งพา ติดต่อครอบครัวเลย และก็ไม่ค่อยจะสู้ดี เท่าไหร่นัก มีทั้งอุปสรรคปัญหา หลายๆ อย่างในชีวิต ตามพนักงานเงินเดือนบริษัททั่วๆไป
มีอยู่วันหนึ่งเพื่อนๆ ที่ทำงานเขา พากันไปดูดวง กับ หมอดู ที่เขาว่า แม่น ก็ลากเขาไปด้วย ซึ่งหมอดูก็ทักว่า เขาว่ามีกรรม กับ พ่อแม่ น่ะ ถ้าอยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ ต้องไปกราบขออโหสิกรรม กับพ่อกับแม่ เอาน้ำไปล้างเท้าท่าน และเอามาอาบ เพื่อเป็นสิริมงคล เพื่อนๆ ที่ไปด้วยกัน ก็บอกให้เขาไปทำซิ แต่เขาก็ไม่ไป ซึ่งทุกคนก็ไม่รู้ เหตุผล อะไร และเขาก็ไม่พูดไม่อธิบาย อะไร เขาเป็นคนที่ไม่เคย ลางาน หรือแม้ ช่วงเทศกาล ก็ไม่เคย กลับบ้าน เลย เขาก็เลยโดย เพื่อน ซุบซิบ นินทา ไปอีกอย่างหนึ่ง ถ้าทุกคน อ่านมาถึง ...ตอนนี้ คงจะคล้อยตาม ที่ได้ยิน ได้ฟัง ตามคนอื่น ว่า ผู้หญิงคนนี้ ช่างใช้ไม่ได้ เลยจริงๆ จะอะไร ก็แล้วแต่ พ่อและแม่ ก็คือ ผู้มีพระคุณ
แต่ในมุมมองเด็ก คนนี้ การที่เขาไม่ไป หาพ่อแม่ หรือ ที่ไม่ได้กลับบ้าน นั้น ก็คือ เขาได้พยายาม ทำหน้าที่ของลูก อยู่ ตอนแรก เราก็ไม่เข้าใจ และ งง ว่า เพราะอะไร จนในที่สุด เขาก็ได้เล่าเหตุผล อันน่า เจ็บปวด ที่เขาไม่สามารถ เล่า ให้ใครต่อใคร ฟังได้ หรือ แม้แต่แก้ตัว ว่าทำไม เพราะอะไร และต้อง ทนแบกรักสายตา และการซุบซิบ นินทา ต่างๆ นั้น ที่ต่อว่าให้เขาต่างๆนานาได้ เขาเล่าว่า พ่อกับแม่ เขาก็เป็น คนพอมีหน้ามีตาในสังคมแถวๆในหมู่บ้านต่างจังหวัด อยู่บ้าง คนภายนอก จะไม่มีใครได้เห็นมุม ที่ไม่ค่อยดี ของครอบครัวเขาเลย ค่อยข้างจะมีภาพลักษณ์ดี เพราะครอบครัวเขา จะค่อนข้างเก็บตัว และไม่เคย ทำการทะเลาะเบาะแว้ง หรือ มีเรื่องมีราวอะไร ภายในบ้านที่ไม่ดี ให้คนอื่นได้รู้เลย เขาเล่าว่า เขาถูกพ่อแท้ ๆ ข่มขืน นานหลายปี โดยที่แม่ แท้ๆ ก็รู้เห็น โดยไม่ได้ว่ากล่าว อะไรให้พ่อ ของเขาเลย เพราะแม่กลัวพ่อ และพ่อก็เป็นคนมีอำนาจ ในบ้าน คนอาจจะสงสัย ว่าทำไม ไม่แจ้งความ ไม่ขอความช่วยเหลือ ใดๆ จากหน่วยงาน ที่เขาคุ้มครอง เขาก็ให้เหตุผล ตามความคิดของเขา ซึ่งเราไม่สามารถ บอกได้ว่า สิ่งที่เขาคิดนั้นถูกหรือผิด อันดับแรก เขาอาย ที่จะบอก หรือเล่า เรื่องแบบนี้ ให้คนอื่น ได้รับทราบ และเขาก็กลัวการใช้ชีวิตในสังคมของเขาหลังจากนั้น อันดับที่สอง เขาก็ไม่อยากให้พ่อกับแม่เขากลายเป็นขี้ปากสังคมและโดนดำเนินคดีความ ใดๆ เขาก็คิดเสียว่า สิ่งที่เขา โดน มันคือกรรม และ ถึงแม้จะทวงความยุติธรรมมาได้ เขาก็ไม่สามารถที่เรียกที่เขาเสียไปแล้วกลับคืน มาได้ เขาจึงทำได้แค่ อดทน เพื่อรอ วันที่จะได้ออกจากบ้านหลังนั้น คือ วิธี ที่ดี ที่สุด ที่เขาจะทำได้ ในฐานะ ลูก ที่จะทำให้พ่อ กับแม่ ของเขา แต่เขา ก็ไม่สามารถ กลับไป กราบ ขออโหสิกรรม กับ พ่อ กับแม่ ของเขาได้ลง หรือ และยังไม่สามารถทำใจ ที่จะกลับไป หลังจากออกจากบ้านมาแล้ว หลายปี ในความคิดของเขา เขาอยากจะฝังให้มันตายไปกับเขา ไปเลย โดยที่ไม่ต้องมีใครรู้ และใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ต่อไป
คุณ คิดว่า เราจะ แนะนำให้เขา คิดแบบไหนดี ถึงจะเป็นทางดีที่สุด หรือ จะบอกให้เขา อย่าไปโกรธ พ่อ และแม่ ของเขาเลย มันจะเป็นบาปเป็นกรรมเปล่าๆ ก็พูดไม่ได้เต็มปาก เพราะถ้าเหตุการณ์นี้ ถ้าโดนกับตัวเอง ก็คงไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน และ ถ้าจะให้เขาทำแบบนี้ต่อไป หรือ ตัดพ่อ ตัดแม่ ไปเลย ก็อาจจะดูเป็นการแนะนำที่ไม่ดี อีก และเขามาปรึกษาเรา เนี่ยจะได้บุญ หรือ ได้บาป แทน ล่ะนี่ ใครเป็น ปราชญ์ ผู้รู้ ช่วย สอน ให้ปัญญาที วิธีที่ดี ที่สุด ของเครสคนคนนี้ ที่จะไม่ก่อ ให้เกิด กรรม จะมีไหม หรือ เป็นวิธีที่ให้กรรมเบาบางที่สุด เขาควรจะทำอย่างไร