ถึง ผู้บริหาร RATCH ดีลซื้อโรงไฟฟ้าถ่านหิน ไม่ฉลาดจริง หรือเก่งจริง ทำไม่ได้ นะ เพราะคุณต้องว่ายทวนกระแส

กระทู้สนทนา
การที่พวกคุณเอาเงินเพิ่มทุน ไปซื้อโรงไฟฟ้าถ่านหิน แสดงว่าพวกคุณต้องฉลาดมาก 

เพราะคุณต้องเอา ชนะอุปสรรคเหล่านี้ได้  และยืนอยู่ในฐานะผู้ชนะ ซึ่งมันไม่ง่าย

ที่จะสามารถเอาชนะกระแส ของโลกอนาคต  หรือการว่าย ทวนกระแส  ไม่เก่งจริงทำไม่ได้

เพราะส่วนใหญ่จะตายหมด เพราะหมดแรง    เหมือนการออกแรงที่เสียเปล่า

การที่จะทำ เพิ่มคาร์บอนฟุตปรินต์   แสดงว่าต้องมั่นใจว่า เก่งมาก ถึงจะสวนและอยู่รอด  มีท่าไม้ตายไว้รองรับ

เพียงแต่ผู้ถือหุ้น ส่วนใหญ่ไม่เก่งพอที่จะมองออกว่า   ท่าไม้ตายของ พวกคุณ  คืออะไร



1. ไฟฟ้า เป็น ของฟรี หรือ ต้นทุนต่ำ ไม่ใช่ต้นทุนสูง

อนาคต แนวโน้มไฟฟ้าเป็นของ ฟรี  จากพลังงานแสงอาทิตย์  ลงทุนครั้งแรก และทุก 25-30ปี ตามอายุแฟล solar cell

ตอนนี้ คนรุ่นใหม่   การเกษตรรุ่นใหม่  เขาไม่ใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจาก กฟผ  กันแล้ว

เขาทำ solar cell ใช้กันเอง  ต่อไปไฟเองต่อกับปั้มน้ำ ไม่เชื่อไปดูใน youtube มีเยอะแยะ  ต่างประเทศคลิปมีเยอะเลยครับ

การไปซื้อโรงไฟฟ้า

และตอนนี้โรงงานก็เริ่มมาใช้พลังงานจากโซล่าเซลกันเยอะเลยครับ

ดังนั้น  สัญญา ซื้อขายไฟฟ้า กับทางการอินโดนีเซีย  นั้นแทบไม่มีความมหมายอันใด 

เพราะคนอินโดนีเซียจะไม้ไฟฟ้าจากทางการผลิตในอนาคต หรือ

ใช้แต่จะน้อยลง  จากการผลิตกระแสไฟฟ้าใช้เอง

2.โลกร้อน  carbon footprint

การซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน

เป็นการเพิ่มคาร์บอนฟุตปรินต์  ซึ่งเป็นการเพิ่มภาวะโลกร้อน ซึ่งจะทำให้ ESG ของ RATCH ยิ่งตกต่ำ

จากทฤษฎี butterfly effect  ต่อปอาจกระทบความน่าเชื่อถือ  เรตติ้ง  และอัตราดอกเบี้ย เงินกู้ในอนาคต ตามความน่าเชื่อถือ

ซึ่งล้วน แต่ทำให้ ต้องเหนื่อย เพิ่ม ขึ้นทั้งนั้น

หลังจากเข้าซื้อ  อัตราผลตอบแทน   1+1  มันจะ ไม่ได้ เท่ากับ 2  แต่ 1+1  อาจได้เป็น -1  หรือ  -2

ผู้บริหารไม่เก่งจริง จะอยู่ไม่รอด  

3. หนึ้ที่ต้องชำระคืน 2565

เกือบ 70 % จะถึงกำหนดชำระคืนในปี  2565 

แนวโน้มในอีก 2 ปี จะเป็นดอกเบี้ยขาขึ้น

การเพิ่มทุน แต่ละครั้ง  ถึงแม้น จะเป็นการลงทุนเพื่ออผลตอบแทน

แต่สิ่งที่ต้องเอาเข้า แลก  คือ    สภาพคล่อง ของผู้ถือหุ้น ก็จะหายไปด้วย  นั่นหมายถึง เงินในกระเป๋าผู้ถือหุ้นอ่อนแอลง

หากมีปัญหาและต้องเพิ่มทุนอีก แนวโน้มมีปัญหาแน่ ๆ

หากรู้ว่าแนวโน้มดอกเบี้ยจะขึ้น อนาคต  เราต้องทำอย่างไร  ไม่ต้องบอก  ผู้บริหารเก่งๆเขารู้กันทั้งนั้น

4. แบกความคาดหวัง เงินออมของประชาชน เงิน ประกันสังคม  สหกรณ์การไฟฟ้าฝ่ายผลิต

ผู้ถือหุ้นใหญ่นอกจาก กฟผ  ก็ ปกส  สหกรณ์ กฟผ

ซึ่งเป็น รัฐ และเงินออม   ก็คือเงินออม ของคนส่วนใหญ่

ในฐานะผู้ถือหุ้น ได้แต่หวังว่า  ท่าไม้ตาย ในการว่ายทวนกระแส ครั้งนี้มันคือ อะไร เพราะไม่ฉลาดอจะเดาออก

เพราะ deal นี้   1+1  มันไม่ได้ เท่ากับ 2  แน่นอน  ไม่ว่าจะมองด้วยสายตาของคน gen  X   Y  or Z

นัยยะแฝง คือหวังผลตอบแทนทางการลงทุน จากสัญญาซื้อไฟฟ้า 21  ปี  เพราะนั่นคือ กับดัก หลุมพลาง หลุมใหญ่

ตกไปแล้ว ผู้บริหาร ไม่เก่ง จริง  พา กันไปตาย แน่นอน ในอนาคต  ไม่สามารถขึ้นจากหลุมพลางได้

หรือขึ้นมาได้ ก็เสียเวลาไปอีก  5-10 ปี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่