☻ รักต้องเลือก ☻ บทที่ 1 ...


*บทที่ 1 *
ศูนย์ฝึกอบรมธนาคารไทยพาณิชย์’  หาดตะวันรอน


เช้าวันนี้เป็นวันกุลีกุจอสุด ๆ ที่ ‘ติ๊นา’ ต้องกระวีกระวาดตื่นแต่ตีห้า และกว่าจะอาบน้ำแต่งตัว ปัดแก้มแต้มตาเสร็จ ยังต้องรีบบึ่งไปให้ทันรถตู้ที่หน้าสำนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อรีบเดินทางมาให้ถึง ‘หาดตะวันรอน’ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้

รถตู้ของบริษัทก็ช่างทันใจ เพราะพาพวกเรามาถึงที่หมายแทบจะกลั้นหายใจไม่รู้กี่ตลบ ที่จริงน่าจะใช้คำว่าแทบลืมหายใจด้วยซ้ำ เพราะหากใครมองออกหน้าต่างรถ ไม่มีหรอก ที่ใครจะไม่กลั้นหายใจ

พอเสร็จสรรพกับมื้อเช้าที่ห้องอาหาร ‘ศูนย์ฝึกอบรม’  หัวหน้าผู้ตามมาจากกรุงเทพก็มาถึงด้วยรถส่วนตัว พวกเราสี่คนมี ติ๊นา ติ๊ก แมน และ อุ้ม ต่างรีบออกไปตั้งแถวรับหัวหน้าวิศวกรหนุ่มใหญ่โดยพร้อมเพรียงกัน

คุณธนชาติ’ บอกไม่ต้องเรื่องมาก ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวจะขออะไรรองท้องก่อน เรื่องงานเดี๋ยวค่อยว่ากัน  โถ..  อุตส่าห์เช็ดแก้มเลอะเค้กบราวด์นี่ออก แล้วยังโป๊ะหน้าทาลิปมันใหม่ ถ้ารู้ล่วงหน้า คงเบิ้ลเค้กอีกสองชิ้นไปแล้ว หัวหน้านะหัวหน้า..

พวกเราย้อนกลับเข้าห้องอาหารอีกหน คราวนี้แต่ละคนวางมาดเป็นนางเอกทั้งก๊วน  อ้อ.. มีแมนคนเดียวที่รักษามาดตัวประกอบชายด้วยการสั่งชาเขียวร้อน ขณะพวกนางเอกสั่งน้ำส้มคั้นใหม่คนละแก้ว เอาน่ะ..  แค่อยากรู้ว่าแก้วสาม รสชาติมันยังจะเสถียรอยู่หรือเปล่า 

คุณธนชาตินั่งเงียบ สาละวนอยู่กับไอแพดส่วนตัวบนโต๊ะด้านในสุด

อุ้มเริ่มต้นต่อยหอยในกลุ่มอีกครั้ง แม่คุณเธอก็ช่างหาเรื่องมาเล่าได้แสนสารพัด ฟังดูจะออกไปทางวีรกรรมของตัวเองเป็นหลัก ติ๊กได้แต่อือ ๆ .. ออ ๆ .. แมนซึ่งเป็นเด็กแผนกเขียนแบบได้แต่ ..เหรอครับ? .. พี่อุ้มเจ๋งอ่ะ.. แหล่มมากพี่อุ้ม .. แล้วก็ตามด้วยคำพูดเออออไปด้วยอย่างออกนอกหน้า  ส่วนติ๊นาได้แต่ลอบมองหน้าจอโทรศัพท์ตัวเอง

ผู้ชายนะผู้ชาย.. กว่าจะใช้มารยาพันแปดเล่มเกวียนสำเร็จ นั่นก็เกือบสิ้นใจแล้ว พอได้เราไปนะ  โอ๊ะ..  ไม่ใช่สิ  พอได้คบหากัน ทำไมเรายังต้องมานั่งคอยเช็กข้อความทักทายอยู่อีก มันจะยุ่งยากซักแค่ไหนกัน กับอิแค่กดส่งสติ๊กเกอร์มาหา  หรือไม่ก็.. พอวางแก้วน้ำ วางแปรงสีฟันเสร็จ ถึงจะยังล่อนจ้อนอยู่ก็เถอะ แค่พิมพ์อะไรมาหากันบ้าง ก็ไม่เห็นจะลำบากลำบนอะไรนี่นา   ชิ!

งุ่นง่านอยู่แวบเดียว

เสียงจากสวรรค์ชั้นฟ้าก็ดัง ปิ๊ง! เข้ามาในโทรศัพท์

มันต้องอย่างนี้สิ   คุณเจ้าชาย



ข้อความอวยพรตามด้วยสติ๊กเกอร์ทะเล้น เห็นแล้วเปลี่ยนอารมณ์ได้เหมือนกัน  แหม..  ต้องส่งกระแสข่มขู่ถึงจะรู้สึกพระวรกายสินะ..  ติ๊นาอมยิ้มอยู่คนเดียว ไม่ได้ยินเสียงเสวนาใดบนโลก เว้นแต่เสียงจากห้วงหาวที่เหมือนแทรกมากับข้อความไลน์

"นี่! แม่คุณคริสติน่า! ชาวบ้านชาวช่องเขาคุยเรื่องแอฟเที่ยวทั่วไทยกันอยู่ แม่เจ้าปะคุณเห็นเป็นเรื่องขำขันงั้นเร๊อะ ห๊ะ!" อุ้มสะกิดด้วยเสียงเข้มราวกับครูประจำชั้นกำลังเฉ่งลูกศิษย์แอบเล่นมือถือ

"โทษทีค่า.. บังเอิญไม่ได้ยินอะไร  ได้ยินแต่เสียงจากห้วงหาวดาวดึงส์"

เท่านั้นแหละ

เสียงอื้อฮือ. . . .  ก็ดังพรึ่บ!  แต่พอรู้สึกตัวกันว่าหัวหน้านั่งอยู่ไม่ไกล เสียงลุแก่มารยาทอันดีงาม ก็เงียบลง


คุณธนชาติหัวหน้าทีมเสร็จสิ้นภารกิจมื้อเช้าแล้ว เวลาตอนนี้เก้าโมงเศษ พวกเราทั้งหมดห้าคนต่างพร้อมแล้วสำหรับการมุ่งหน้าสู่บ้านพักตากอากาศริมทะเลหลังสุดท้าย สุดเขตของศูนย์ฝึกอบรมธนาคารไทยพาณิชย์

แมน’ เก็บรายละเอียดด้วยกล้องมือถือ สลับกับถ่ายคลิปเป็นระยะ ทั้งยังเดินจดรายการตามที่หัวหน้าเดินไปสั่งไปด้วย ติ๊นาเดินออกไปสำรวจรอบบริเวณตัวบ้านซึ่งจะต้องทำการทั้งรีโมเดลทั้งรีโนเวตนั้น ด้วยความตื่นตาตื่นใจ

บ้านตากอากาศสองชั้นหลังนี้ยังดูดีนะ แม้จะใช้งานมาจนสังขารร่วงโรย  แต่สภาพโดยรวมยังสมบูรณ์แบบครบถ้วน



นี่ไง

งานที่ติ๊นาจะต้องดีไซน์บ้านหลังนี้ใหม่ ทั้งภายนอกและภายในให้เสร็จภายในเวลาห้าวัน!

คำสั่งจากผู้ใหญ่ซึ่งสรุปโป้ง!มาอย่างนั้น พวกเรายังนึกหาเหตุผลขอเพิ่มเวลาไม่ออกจริง ๆ



ภาพที่สองซึ่งติ๊นาถ่ายเองจากหน้าบ้านหันออกทะเล มองเห็นสันกำแพงหินภูเขาก่อกั้นแยกส่วนชายหาดที่ต่างระดับกัน คลื่นลมซึ่งถ่ายเทเข้ามาหา ช่างชื่นฉ่ำเย็นใจเสียจริง

เก็บภาพรอบบ้านด้วยโทรศัพท์มือถือเสร็จ ก็ถึงคราวต้องตามเข้าไปเก็บภาพภายใน ติ๊นาถ่ายเก็บทุกมุมภายในไว้อย่างละเอียด ไม่ลืมแม้กระทั่งขั้นบันได ช่องเก็บของใต้บันได พอไล่เรียงมาจนสะดุดเข้ากับหินอ่อนในห้องน้ำ ในหัวก็สะดุดกับตารางนัดหมายใครคนหนึ่งไว้เช่นกัน  โอ้ ..  แล้วเราจะกลับไปทันนัดเขาไหมนี่

ใบหน้าซึ่งละม้ายคล้ายกับดนัย ทำให้ติ๊นาสะบัดหัวไปมา  เอาน่า..  เพราะสเปกเจ้าชายเราต้องแบบนี้ไง หน้าตาผู้ชายสองคนเลยออกไปทางพิมพ์เดียวกันซึ่งมันก็แค่นั้นเอง เธอคิดมากไปรึเปล่า?  ไม่มั้ง

แต่เอ..  แค่คิดแว่บเดียว  ทำไมในหัวมันรู้สึกรวน ๆ นะ

ชายหนุ่มคนที่สองที่กำลังแทรกเข้ามา ถึงเขาจะเข้ามาด้วยเรื่องธุรกิจ แต่เหมือนกับเขาพกพาอะไรมาด้วยก็ไม่รู้  เราเจอกันก็ด้วยเรื่องงาน เขาคิดกับเราแค่ไหน? อย่างไร? ยังไม่รู้เลย  ทำไมเราต้องคิดไปนู่น    ..แล้วดนัยล่ะ?   เฮ้อ..

ทีต้องเฝ้ารอเบื้องบนส่งเจ้าชายมาให้สักพระองค์ ก็ต้องรอแล้วรอเล่าอยู่นานเน

พอเจ้าชายองค์แรกแย้มพระวรกายมา ทำไมฟ้าต้องส่งอีกพระองค์ลงมาด้วย


พวกเราใช้เวลาสำรวจบ้านร่วมชั่วโมง และเมื่อคุณธนชาติคุยโทรศัพท์กับใครบางคนเสร็จ ก็เป็นอันว่าสิ้นสุดการสำรวจและเก็บรายละเอียดของพวกเราเช่นกัน แล้วเราทั้งห้าก็เดินกลับล็อบบี้ห้องอาหารอีกครั้ง เพื่อรอเวลาประชุมกับฝ่ายอาคาร รวมไปถึงอีกสองบริษัทผู้เป็นคนจัดเตรียมวัสดุในการรีโนเวตครั้งนี้

ขณะว่างในช่วงหนึ่งบนโต๊ะประชุม มือถือติ๊นาดิ้นขลุก ๆ เพราะมีสายเรียกเข้า แอบมองซ้ายมองขวาเสร็จ จึงค่อย ๆ ล้วงโทรศัพท์ที่ปิดเสียงไว้ออกมาจากกระเป๋ากางเกงชุดทำงาน พลิกหงายดูเห็นชื่อ ‘ดุลยรัฐ’ โชว์หราหน้าจอ  อ๊ะ! คนอะไร..   นึกเห็นหน้ายังไม่ทันถึงชั่วโมงเลย นึกเห็นหน้าเฉย ๆ นะ  ไม่ได้ภาวนาให้ต่อสายมาหาสักหน่อย

แต่ก็ไม่เป็นไรนี่  แค่ขอตัวออกไปรับสายแป๊บเดียวเอง  ใครจะไปรู้

พาพันชอบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่