ธันวา บอกว่าบทที่อยากเล่นต่อไปคือแนว...

"ถ้าถามว่าสิ่งที่ผมอยากลองเล่นครั้งหน้าก็อยากลองเล่นบทบ้านๆ หนุ่มอีสานได้พูดอีสาน เพราะก็นานมากแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้เล่นแนวนี้นะ"

ตอนนี้ ช่อง 7 มีนิยายที่พระเอกบ้าน ๆ เป็นลูกอีสานอยู่ในมือบ้างมั้ย อยากเห็นธันวาเป็นหนุ่มบ้านทุ่งแล้วค่ะ


https://www.thairath.co.th/entertain/news/2119035
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้“ธันวา” จับมือ “กรีน” สู้ต่อพิษโควิด ขอเวลาเก็บเงินสร้างอนาคตค่อยคิดแต่งงาน

หลุดกรอบลุคนิ่งๆ กลายเป็นคุณหมอปฐพีจอมกวน สำหรับ ธันวา สุริยจักร พระเอกหนุ่มจากละคร “หลงกลิ่นจันทน์” ทางช่อง 7 HD เป็นการกลับมาร่วมงานกับนางเอกสาวมากฝีมือ ทับทิม-อัญรินทร์ อีกครั้ง เคมีเข้ากันอย่างดี ถูกอกถูกใจแฟนๆ ยิ่งเป็นแนวสืบสวนสอบสวนเข้าทาง หนุ่มธันวา ไม่น้อยเลย พร้อมเล่าเบื้องหลังการทำงานมีมากกว่า คำว่าสนุกเพราะมีเรื่องราวให้ “ลุ้น” ตลอดเวลา พร้อมแย้มสถานะหัวใจกับกรีน-อัษฎาพร แฟนสาว หวานไม่แผ่วแต่ใกล้จะปักหมุดสร้าง “ครอบครัว” ด้วยกันแล้วหรือยัง “คนดังนั่งคุย” มีคำตอบให้จ้า...าาา


คาแรกเตอร์ของธันวาในละครเป็น อย่างไร

     “จริงๆทุกบทบาทที่ได้รับก็จะมีมุมที่คล้ายๆ กับตัวเองบ้างแหละ อย่างหมอดิน เขาเป็นคนที่จะเชื่อในสิ่งที่เขาเห็น เชื่อบนพื้นฐานของความจริง เขาจะชอบพิสูจน์ด้วยตัวเขาเอง ซึ่งหมอปฐพีเขาเป็นหมอนิติเวช แน่นอนเขาต้องคิดวิเคราะห์ตลอดเวลาว่าถ้าเจอศพแบบนี้น่าจะเกิดจากสาเหตุอะไร มันทำให้เราได้คิดตามตัวละครไปด้วยมันเลยทำให้เราสนุกไปกับตัวละคร แล้วส่วนตัวผมเป็นคนชอบดูหนังแนวสืบสวนสอบสวน แนวที่ต้องให้คิดตาม มุมนี้แหละที่ผมว่าผมกับหมอปฐพีน่าจะมีความคล้ายกัน”

มุมมองของธันวาเสน่ห์ของละครเรื่องนี้คืออะไร

     “ผมมองว่าหลงกลิ่นจันทน์เป็นละครแนวใหม่ แนวสืบสวนที่คนดูได้มีส่วนร่วมไปกับตัวละครทุกตัวในเรื่อง มันทำให้คนดูตื่นเต้น และทำให้ได้คิดไปพร้อมกัน ความกลมกล่อมของเรื่องที่ไม่ได้มีแต่การฆาตกรรม เพราะถ้ามีแต่ฆาตกรรมมันจะดูน่าเบื่อ แต่เรื่องนี้มีความคอมเมดี้ด้วย มันมีความน่ารักของพระนางด้วย ทั้งหมดมันลงตัวกันหมด และอีกจุดเด่นคือ ทุกตัวละครมันมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันและกันอย่างมีความหมายในตัวของทุกคนที่จะค่อยๆคลายปม ออกมาเรื่อยๆ มันเลย ทำให้คนดูได้สนุกและลุ้นตลอดเวลา บางคนก็บอกว่าดูเป็นอีกแนวที่แปลกตา ไม่เคยเห็น ดูเป็นซีรีส์ มุมภาพ มุมกล้องก็สวยดี”

ฟีดแบ็กละครหลงกลิ่นจันทน์ล่ะ

     “ดีมากเลยครับ ต้องขอขอบคุณแฟนละครที่ชื่นชอบกันขนาดนี้ ดีใจที่ผลงานของเราถูกใจแฟนละคร กระแสตอบรับมาเต็มทุกช่องทางเลยก็ว่าได้ทั้งไอจี หรือตามสื่อโซเชียลต่างๆ ได้ตามอ่านอยู่ตลอด อย่างตอนที่พวกเราไลฟ์ในไอจีก็จะมีแฟนๆเข้ามาคอมเมนต์ว่าชอบละครของเราที่ตรงไหน ฉากไหน เราก็ดีใจนะที่มีคนดูละครเราเยอะขนาดนี้ หลายคนบอกว่าเหมือนซีรีส์เกาหลี จริงๆมันอาจไม่ได้เหมือนขนาดนั้น แต่ด้วยความที่มุมภาพ มุมกล้อง มันอาจดูแตกต่างจากละครบ้านเรา มันดูอินเตอร์มากขึ้น ก็ดีใจนะครับที่ทุกคนชอบ”


การได้กลับมาร่วมงานกับทับทิมอีกครั้งนึง

     “ดีใจครับ เพราะเราทำงานด้วยกันมานาน เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ 4 ของคู่เราแล้วครับ เรื่องการปรับตัวไม่ต้องมีอะไรมาก เวลาทำงานมีอะไรพวกเราจะคุยกันตลอด ความเต็มที่ในการทำงานของทับทิม (อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) การเข้าขามันทำให้เราทำงานกันง่ายมากครับ แต่ก่อนเปิดกล้องเราจะมีเวิร์กช็อปกัน เราก็มานั่งคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันว่าตัวละครของแต่ละคนเป็นอย่างไร ใครจะเล่นออกมาเป็นแบบไหน อีกคนจะรับส่งอย่างไร เราตั้งใจกันเต็มที่ ละครเรื่องนี้เราช่วยกันดีไซน์สร้างตัวละครพร้อมกัน เพราะเราอยากให้เรื่องนี้คนดูได้สนุกไปกับเรามากที่สุด ซึ่งตรงนี้ทับทิมเขาก็เต็มที่มากครับ” 

ฉากไหนในละครเรื่องนี้ที่ธันวาประทับใจที่สุด

     “โห...ประทับใจหลายฉากนะ เลือกไม่ถูกเลย แต่ถ้าฉากที่เกี่ยวกับบทของหมอปฐพีก็คงเป็นฉากที่ได้ถ่ายทำในห้องผ่าศพ ซึ่งเราได้ไปถ่ายทำในสถานที่จริง มันทำให้เราได้สัมผัสกับบรรยากาศจริงๆ ที่ก็อึ้งๆไปเหมือนกัน เราก็มียกมือไหว้บอกเจ้าที่เจ้าทางก่อนทำงาน บรรยากาศมันไม่เหมือนกับที่เราเซต มันคือสถานที่จริงๆ ก็ค่อนข้างตื่นเต้น ถ้าเราไม่ได้มาทำงานเราก็คงไม่มีโอกาสได้เข้ามาเห็นสถานที่จริงแบบนี้”

นอกจากละครเรื่องนี้ ตอนนี้ธันวามีงานอะไรอยู่บ้าง

     “ถ้าเป็นผลงานละครที่กำลังถ่ายทำอยู่อีกหนึ่งเรื่อง พริกกับเกลือ แสดงคู่กับแคท (ซอนญ่า สิงหะ) มันก็จะเป็นแนวน่ารักกุ๊กกิ๊ก เรื่องราวคล้ายโรมิโอจูเลียต ที่แบบถูกกีดกันอะไรประมาณนี้ต้องรอติดตามครับ การทำงานกับแคทเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สองแล้ว แคทเขาจะเป็นแนวใส สดใส ร่าเริงดี แต่อย่างทับทิมนี่ด้วยบทละครที่เราเจอกันแต่ละครั้งมันค่อนข้างจะหนัก แต่ดูจะเป็นทางของทับทิม เขาก็จะมีมุมของเขา นางเอกแต่ละคนเขาจะมีมุมของตัวเอง ก็ดีไปคนละแบบ ถ้าถามว่าสิ่งที่ผมอยากลองเล่นครั้งหน้าก็อยากลองเล่นบทบ้านๆ หนุ่มอีสานได้พูดอีสาน เพราะก็นานมากแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้เล่นแนวนี้นะ...ในส่วนธุรกิจตอนนี้ผมมีธุรกิจกรีนเด้ดีท็อกซ์ (greendedetox) เป็นหลัก ก็ทำมาได้ปีกว่าแล้ว เน้นขายออนไลน์ ซึ่งช่วงนี้ก็จะเหนื่อยนิดหนึ่ง แต่ก็โชคดีที่เราไม่ได้มีหน้าร้าน เป็นเน้นขายออนไลน์ เรื่องต้นทุนก็เลยพอไหวแต่ก็ต้องขอฝากแฟนๆด้วยนะครับ”

สถานการณ์โควิด–19 กระทบกับตัวธันวา รวมถึงงานมากมั้ย

     “โห...มีมากเลย เหงาเลยครับ คือเพราะมันทำให้การถ่ายทำละครก็ต้องหยุดชะงัก งานโชว์ตัว อีเวนต์ที่เคยทำให้ได้ไปเจอแฟนๆก็ต้องงดอย่างไม่มีกำหนด ยิ่งด้านการธุรกิจหนักเลย มันยิ่งทำให้เราต้องวางแผนปรับตัวในทุกด้าน รวมทั้งการใช้ชีวิตให้เยอะขึ้นด้วย อย่างเรื่องง่ายๆเลยนะ การออกจากบ้าน ปกติเราก็แต่งตัวออกจากบ้านมาทำงานได้เลย แต่ตอนนี้เราต้องใส่แมสก์ พกเจลแอลกอฮอล์ ซึ่งมันกลายเป็นของที่จำเป็น แล้วถ้าไม่มีเราก็ไม่สามารถเข้าไปสถานที่ต่างๆได้ ซึ่งผมมองว่าจากที่เราโตมาแบบที่ไม่เคยต้องทำอะไรแบบนี้ แต่พอวันหนึ่งที่เราต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เรื่องการใช้ชีวิตเราก็ต้องปรับกันทุกคน แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กแต่เราก็ต้องปรับให้เคยชิน ยิ่งถ้าเป็นเรื่องธุรกิจนอกจากหนักในการทำงานแล้ว ใจก็ต้องหนักแน่นเหมือนกัน เพื่อพาธุรกิจไปให้รอดให้ได้ครับ”

แล้วแก้สถานการณ์ในเรื่องธุรกิจอย่างไร

     “จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันทำให้เราได้เรียนรู้และต้องวางแผนการทำธุรกิจให้รัดกุมมากขึ้น เราเอาบทเรียนจากธุรกิจที่เคยทำมาวิเคราะห์ วางแผนงานใหม่ ว่าถ้าจะเดินต่อต้องเดินไปแนวทางไหน ทำให้เราต้องคิดมากขึ้นกว่าเดิมมาก ซึ่งผมว่าคนทำธุรกิจตอนนี้ก็คงต้องทำไม่ต่างกัน รู้ว่าตอนนี้สิ่งที่ทุกคนเจอมันหนัก แต่ถ้าใครผ่านไปได้คือเก่งมาก ก็ยอมรับในใจของคนที่ทำธุรกิจอยู่ตอนนี้ว่าทุกคนใจสู้ เข้มแข็งจริงๆ ก็อยากฝากเป็นกำลังใจให้กับทุกคน ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี และเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวเร็ววันนะครับ”


ถามถึงเรื่องหัวใจบ้าง สถานะตอนนี้เป็นอย่างไร

     “สถานะตอนนี้มีความสุขดีครับ เขาเป็นคนที่เราคุยปรึกษาด้วยได้ทุกเรื่อง” เห็นว่าทำธุรกิจร่วมกับกรีน เป็นอย่างไรบ้าง หลายคนจะกังวล เลยจะไม่ลงทุนร่วมกับคนรักเพราะกลัวมีปัญหา “ผมมองว่าเป็นเรื่องปกตินะ มันต้องมีถกเถียงกันบ้างอยู่แล้ว แต่เราถกกันเพื่อหาข้อสรุปเอาไปวางแผนการทำธุรกิจ ซึ่งไม่ว่าจะทำงานกับใครมันก็ต้องเป็นแบบนี้ ผมไม่ได้มองหรือรู้สึกว่าการทำงานกับคนรักมันมีความแตกต่างหรืออะไรที่ต่างจากการทำงานกับคนอื่น ผมมองว่าอันนี้ก็เป็นการทำงานอย่างหนึ่ง การทำงานกับกรีนเวลาที่ทำธุรกิจ เขาช่วยเราได้เยอะ ผมอาจจะถนัดเรื่องติดต่อลูกค้า หรือดูการจัดการ แต่บางทีผมมองข้ามเรื่องเล็กๆที่มันคือเรื่องใหญ่ ถ้าเรามองพลาดไป อย่างเรื่องบัญชี ผมอาจมองแค่รายรับ รายจ่ายแล้วจบ แต่กรีนเขาจะมาช่วยสกรีนในรายละเอียดปลีกย่อยของรายรับรายจ่ายทีละไอเท็ม เราไม่ได้สังเกตแต่มันคือรายได้หรือบางจุดที่เรามองข้ามไป เขาก็จะมาช่วยเสริมรายละเอียดอะไรตรงนี้ให้กับเราเสมอ”

ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดกับกรีนต้องปิดไป ขาดทุน เจ็บหนักขนาดไหน

     “เจ็บพอสมควร แต่ผมกับกรีนมองว่ามันเป็นบทเรียนที่ทำให้เราได้เรียนรู้ แล้วเอาบทเรียนที่ผ่านมามาศึกษาวิเคราะห์แก้ไข ปรับปรุงกับการวางแผนทำธุรกิจ กำลังคุยกันว่าถ้ามีโปรเจกต์ใหม่จะต้องทำอย่างไร เอาประสบการณ์ที่ผ่านมามาพัฒนาต่อยอดให้ดีขึ้น มีกอดคอร้องไห้กันบ้างเป็นเรื่องธรรมดาแต่ร้องไปอีกคนก็จะคอยปลอบกันไป คอยเป็นกำลังใจ อย่างเราท้อมากๆ กรีนเขาจะเป็นมุมเข้มแข็งซัพพอร์ตเราทันที การทำธุรกิจเราก็ลองผิดลองถูกกัน แต่เราก็ไม่เคยท้อ แม้เราจะล้มเราก็พร้อมลุกสู้กันตลอด เราสองคนก็เป็นเหมือนกำลังเสริมของกันและกันตลอด”

ตอนนี้เริ่มคิดถึงการวางแผนครอบครัวในอนาคตหรือยัง

     “เรื่องการวางแผนอันนั้นยังไม่ขนาดนั้นครับ (เขินมาก) คือเราสองคนคบกันแบบผู้ใหญ่ เรามีฝันมีอนาคตที่เรามองไว้ด้วยกันว่าอยากจะปูไว้ให้สำเร็จให้มั่นคง ทำทุกอย่างให้พร้อมที่สุดในทุกด้าน ให้ทุกคนรอบข้างเรามีความสุขไปพร้อมกับเรา วันนี้กับทุกวันของเราเราก็โฟกัสและก็ตั้งใจทำทุกวันให้มีความสุข และทุกวันนี้เราก็มีความสุขในทุกวันของเรามากเพราะถ้าจะมีครอบครัวจริงๆ เรื่องเงินสำคัญที่ต้องพร้อมก่อนอันดับแรกเลยนะ ผมมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่เราต้องพร้อมที่สุด เพื่อให้ครอบครัวของเราอยู่ได้แบบมีความสุข ซึ่งตอนนี้เราต้องปูฐานตรงนี้ให้มั่นคงก่อนครับ”

ตัวธันวาเองมองอนาคตไว้อย่างไร ทั้งเรื่องครอบครัวและงานในวงการบันเทิง

     “ผมมองว่าทุกอย่างที่มีในชีวิตตอนนี้ ผมอยากทำออกมาให้ดีที่สุดในทุกเรื่อง มีงานอะไรที่ได้รับมอบหมายหรือรับผิดชอบก็พยายามตั้งใจโฟกัสกับสิ่งเหล่านั้นให้เต็มที่และดีที่สุดเป็นสำคัญครับ”


วันนี้สิ่งที่ธันวาคิดว่าสำคัญที่สุด และเป็นเป้าหมายที่อยากทำให้สำเร็จคืออะไร

     “ธุรกิจครับ เป็นสิ่งที่ผมอยากจะทำให้ประสบความสำเร็จ ผมมองว่าตอนนี้เรามีแรงก็อยากทำงานให้เต็มที่ แล้วพอวันที่เราอยู่ในช่วงอายุหนึ่ง หรือเราอยู่ในจุดที่พร้อมพอ เราก็อยากจะแบ่งเวลาทำงานสลับกับการพักผ่อนท่องเที่ยว เป็นการให้กำไรชีวิต ตอนนี้เรายังไปไม่ถึงตรงนั้น แต่มันเป็นเป้าที่เราอยากจะไปให้ถึงที่สุดครับ”.

เรื่อง: วรรณี ห่อวโนทยาน