“พ่อ เพื่อนโกรธหนู ที่หนูไม่โทรปลุกเค้า ทำไงดี”
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้มีอยู่ว่า ในยุคที่ต้องเรียน online ผ่าน application ไม่ว่าจะ Zoom, Meet หรือ Team การเลื่อนเวลาเรียนอาจทำได้ง่ายกว่าเมื่อก่อนที่ต้องเรียนโดยการเข้าชั้นเรียนมาก เพราะไม่ต้องเดินทาง และอาจารย์อาจติดธุระอย่างอื่น
วันหนึ่งอาจารย์ท่านนี้ได้เลื่อนเวลาเรียนให้เร็วขึ้นและได้แจ้งใน Zoom แล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมเพื่อนไม่รู้ และ “ในกลุ่มกลับมีหนูคนเดียวที่ได้เข้าเรียน” เสียงของลูกสาวบอกมาทาง VDO call “มันเป็นความผิดของหนูเหรอ เพราะเพื่อนว่าหนู”
ก่อนอื่นพ่ออยากจะบอกลูกว่า ลูกไม่ได้ทำผิดอะไร
ในฐานะนักศึกษา มันเป็นความรับผิดชอบของตัวนักศึกษาเองที่ต้องรู้ว่าอาจารย์เลื่อนเวลาเรียน เพราะอาจารย์ได้แจ้งใน Zoom แล้ว และลูกก็ไม่รู้ว่าเพื่อนไม่รู้ เพราะเวลาเข้าเรียนใน Zoom มันไม่เหมือนกับเข้าเรียนในห้องเรียนจริงที่เราสามารถมองเห็นได้ว่าใครเข้าเรียนบ้าง (ถึงแม้ใน Zoom เราจะสามารถรู้ได้ก็เถอะ แต่ก็น้อยคนที่จะมาส่องดูว่าใครเข้าเรียนบ้าง)
“แล้วเขาทำไมว่าหนู”
เขาอาจจะพูดด้วยอารมณ์หรือเปล่า เพราะมันเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ที่เรียกว่า กลไกการป้องกันตนเอง ไม่มีใครโทษตัวเองหรอกลูก เวลาเกิดอะไรขึ้นคนเรามักโทษคนอื่น บางครั้งก็โทษดินฟ้าอากาศ หากโทษใครไม่ได้ก็โทษดวงไม่ดี โชคไม่ดี อะไรประมาณนี้ เดี๋ยวเขาคิดได้เขาก็คงคุยกับลูกเองแหละ
แต่พ่ออยากจะบอกลูกว่า ในทางกลับกันหากลูกเป็นเพื่อนบ้าง หรือเกิดเหตุการณ์อะไรที่ผิดพลาดเกิดขึ้นกับลูก ก่อนอื่นที่เราจะโทษคนอื่น เราต้องโทษตัวเองก่อนนะ เพราะหากเราโทษตัวเอง เราจะสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเราเอง แค่เราปรับปรุงตัวเอง เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นก็สามารถแก้ไขได้แล้ว และจะทำให้เราเป็นคนที่ดีขึ้นด้วย เพราะหากเรามัวแต่โทษคนอื่น เราก็จะไม่คิดว่ามันเป็นความผิดของเรา สุดท้ายก็เป็นเราเองที่ย่ำอยู่กับที่ ไม่พัฒนา เรื่องแบบนี้สามารถเอาไปใช้กับเรื่องอื่นๆได้ด้วยนะ
“ค่ะ พ่อ หนูเข้าใจละ”
……………………………………………………………………
ผมยอมรับว่า การให้คำปรึกษากับลูก มันอาจจะมีการลำเอียงเข้าข้างลูกตัวเองบ้าง
กรณีนี้ บางคนอาจแย้งว่า ในฐานะที่เป็นเพื่อนกันทำไมไม่โทรปลุก ตรงนี้ก็จริงอยู่ครับ แต่เด็กไม่รู้นี่ครับว่าเพื่อนไม่รู้ เพราะอาจารย์ก็แจ้งแล้ว และคนอื่นๆ ใน sec ก็เข้าเรียนตามปกติ การเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยก็ต้องมีความรับผิดชอบในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ผมจึงบอกลูกไปแบบนั้น
………………………………………………………………………
ที่มา :
I am your Father จากพ่อถึงลูก
#ทำไมเธอไม่ปลุกฉัน
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้มีอยู่ว่า ในยุคที่ต้องเรียน online ผ่าน application ไม่ว่าจะ Zoom, Meet หรือ Team การเลื่อนเวลาเรียนอาจทำได้ง่ายกว่าเมื่อก่อนที่ต้องเรียนโดยการเข้าชั้นเรียนมาก เพราะไม่ต้องเดินทาง และอาจารย์อาจติดธุระอย่างอื่น
วันหนึ่งอาจารย์ท่านนี้ได้เลื่อนเวลาเรียนให้เร็วขึ้นและได้แจ้งใน Zoom แล้ว แต่ไม่รู้ว่าทำไมเพื่อนไม่รู้ และ “ในกลุ่มกลับมีหนูคนเดียวที่ได้เข้าเรียน” เสียงของลูกสาวบอกมาทาง VDO call “มันเป็นความผิดของหนูเหรอ เพราะเพื่อนว่าหนู”
ก่อนอื่นพ่ออยากจะบอกลูกว่า ลูกไม่ได้ทำผิดอะไร
ในฐานะนักศึกษา มันเป็นความรับผิดชอบของตัวนักศึกษาเองที่ต้องรู้ว่าอาจารย์เลื่อนเวลาเรียน เพราะอาจารย์ได้แจ้งใน Zoom แล้ว และลูกก็ไม่รู้ว่าเพื่อนไม่รู้ เพราะเวลาเข้าเรียนใน Zoom มันไม่เหมือนกับเข้าเรียนในห้องเรียนจริงที่เราสามารถมองเห็นได้ว่าใครเข้าเรียนบ้าง (ถึงแม้ใน Zoom เราจะสามารถรู้ได้ก็เถอะ แต่ก็น้อยคนที่จะมาส่องดูว่าใครเข้าเรียนบ้าง)
“แล้วเขาทำไมว่าหนู”
เขาอาจจะพูดด้วยอารมณ์หรือเปล่า เพราะมันเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ที่เรียกว่า กลไกการป้องกันตนเอง ไม่มีใครโทษตัวเองหรอกลูก เวลาเกิดอะไรขึ้นคนเรามักโทษคนอื่น บางครั้งก็โทษดินฟ้าอากาศ หากโทษใครไม่ได้ก็โทษดวงไม่ดี โชคไม่ดี อะไรประมาณนี้ เดี๋ยวเขาคิดได้เขาก็คงคุยกับลูกเองแหละ
แต่พ่ออยากจะบอกลูกว่า ในทางกลับกันหากลูกเป็นเพื่อนบ้าง หรือเกิดเหตุการณ์อะไรที่ผิดพลาดเกิดขึ้นกับลูก ก่อนอื่นที่เราจะโทษคนอื่น เราต้องโทษตัวเองก่อนนะ เพราะหากเราโทษตัวเอง เราจะสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเราเอง แค่เราปรับปรุงตัวเอง เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นก็สามารถแก้ไขได้แล้ว และจะทำให้เราเป็นคนที่ดีขึ้นด้วย เพราะหากเรามัวแต่โทษคนอื่น เราก็จะไม่คิดว่ามันเป็นความผิดของเรา สุดท้ายก็เป็นเราเองที่ย่ำอยู่กับที่ ไม่พัฒนา เรื่องแบบนี้สามารถเอาไปใช้กับเรื่องอื่นๆได้ด้วยนะ
“ค่ะ พ่อ หนูเข้าใจละ”
……………………………………………………………………
ผมยอมรับว่า การให้คำปรึกษากับลูก มันอาจจะมีการลำเอียงเข้าข้างลูกตัวเองบ้าง
กรณีนี้ บางคนอาจแย้งว่า ในฐานะที่เป็นเพื่อนกันทำไมไม่โทรปลุก ตรงนี้ก็จริงอยู่ครับ แต่เด็กไม่รู้นี่ครับว่าเพื่อนไม่รู้ เพราะอาจารย์ก็แจ้งแล้ว และคนอื่นๆ ใน sec ก็เข้าเรียนตามปกติ การเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยก็ต้องมีความรับผิดชอบในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ผมจึงบอกลูกไปแบบนั้น
………………………………………………………………………
ที่มา : I am your Father จากพ่อถึงลูก