คือ จริงๆแล้วผมก็ไม่ทราบนะครับ ดูข่าวจากทางทีวี ก็มีกลุ่ม คนงาน โรงงาน ก่อสร้าง ตลาด แหล่งชุมชนต่างๆ
แต่ที่ผมเจอกับตัวนะ ง่ายๆเลยคือ เวลาไปที่สาธารณะ คนไม่เว้นระยะห่างกันเลย
สามข้อ ใส่หน้ากาก ( กฎหมายบังคับ ) ล้างมือบ่อยๆ และ เว้นระยะห่าง
ข้อแรก ไม่มีปัญหา ใส่หน้ากากกันเพราะไม่ใส่โดนปรับ ข้อสองล้างมือผมไม่ทราบใครล้างไม่ล้าง
แต่ข้อสาม ผมเจอกับตัว และ วันนี้ก็ยังเจอคือ ไปซื้อของใน ซุปเปอร์มาร์เก็ต แล้วจะต้องมีคนรอจ่ายเงิน เดินเข้ามาแบบประชิดแทบจะติดตัวเราเลย คือเราไม่ได้เข้าไปบ่อย ก็ลืมว่าคราวก่อนก็เคยเจอ จนต้องเอารถเข็นกั้นไว้ แต่คราวนี้ลืม มีคนสูงวัย ลักษณะไม่อนามัยแน่ๆ คือ มอมแมมมาเลยละ โขยกมาอย่างรีบร้อน นึกภาพ ออกไหม คือ สยองประมาณนั้น
แต่ที่แย่กว่านั้นคือ ของที่ผมหยิบมา ผมเตรียมเงินไว้พอดีแล้ว เรียกว่า วางเงินแล้วหยิบของไปได้เลย แต่ ห้างนี้ วางของไม่ตรงกับราคา ( มันต้องมี เรื่องที่เราเตรียมไว้แล้ว แต่ไม่พอดี ) ต้องมานั่งหยิบเงินเพิ่มอีก แล้ว ผู้อาวุโสมอมแมม ก็โขยกเข้ามาแบบ เหมือนกับ จะสิงร่างกันเลยทีเดียว ผมต้องถอยสองก้าว แล้วหยิบเงิน ปล่อยผู้สูงวัยท่านนั้นรอไปก่อน พนักงานแคชเชียร์เขาก็กลัว เขารีบเอาของๆผม ไปไว้อีกฟาก ที่เหมือนกับว่า จ่ายเงินเแล้วน่ะแหล่ แล้ว ให้ผู้สูงอายุมอมแมม หยุดรอตรงสายพานวางของ ตรงยังไม่จ่ายเงิน
ก็เรียกว่า ตาไวไม่งั้นเขาอาจแนบสนิทชิดด้านหลังผม เพราะ ช่วงผมจ่ายเงินเสร็จ เขาก็โชว์สปีดโขยกๆ เหิรไปเหมือนมีวิชาตัวเบา เห็นเดินชนคนที่เดินข้างหน้าด้วย เสียดสีพอเสียวไส้ให้ผมได้ยืนดูแบบ อึ้งๆ
จริงๆ ตอนไปเอารถเข็น ผมก็เจอแล้วนะ กำลังแบบ พ่อสเปรย์ฉีดที่จับรถเข็น ( เขามีวางขวดสเปรย์ไว้ตรงที่ไปเอารถเข็น ) ฉีดเสร็จ กำลังจะเข็น หันไป ก็เจออีกคน ลักษระเหมือนแบบ มอมแมมเช่นกัน โอย ผมนี่แจ็คพ็อตมากๆ วันเดียวเจอสองราย หรือว่า ห้างนี้มีแต่ลูกค้าแบบนี้ ก็สุดจะบรรยายได้ เอาเป็นว่า ผมจะไม่ไปที่ห้างนี้อีกแล้ว อ้อ จริงๆไม่ใช่ห้างนะ เขาเรียก ซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่ขายของถูกกว่าห้าง เขาเรียกว่าอะไรผมก็ไม่แน่ใจ ไฮเปอเร์มาร์ท รึเปล่าหว่า
การเว้นระยะห่าง คือจุดอ่อนเลยนะสำหรับคนจำนวนมาก ที่เหมือนเขาไม่สน ไม่แคร์ ไม่รู้ไม่ชี้ แล้วคิดดูว่า เขามอมแมมขนาดนั้น เสื้อผ้าอนามัยพื้นฐานยังไม่มี และ พฤติกรรมประชิดตัวคนอื่นแบบเหมือนเขาไม่ใส่ใจสังคมแบบนี้ มีคนประเภทนี้ จำนวนเท่าไหร่ คนที่คิดว่า โควิด มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรง เราใกล้ชิดกันได้ในที่สาธารณะ ผมว่ามีเยอะนะ ไม่งั้นไม่ติดกันวันละ 2000 3000 นี่เอาแค่ที่ตรวจเจอนะ ยังไม่ได้คิวตรวจน่าจะมีอีกเยอะ
ก็รักษาเนื้อรักษาตัวกันนะครับ ตัวใครตัวมัน ฉีดวัดซีนแล้ว จะ 1 เข็ม 2 เข็ม ก็ยังติดได้นะครับ ถ้าแจ็คพ็อตเจอสายพันธ์ใหม่
แค่เรื่องง่ายๆ เว้นระยะ คนบางกลุ่ม และน่าจะกลุ่มใหญ่ เขายังไม่ตระหนักกัน ก็ ไม่รู้จะทำยังไงแล้วละครับ เขาคิดแค่ใส่หน้ากากจบ
สาธารณสุข น่าจะรณรงค์เรื่องระยะห่างให้มันดูซีเรียสกว่านี้ดีไหม แต่ผมก็เข้าใจนะว่า คือบังคับไม่ได้เหมือนใส่หน้ากาก แต่ก็ให้ตระหนักมากกว่านี้จะดีกว่า
สงสัยกันไหม ทำไมคนไทยติดโควิดเยอะ เพราะอะไร
แต่ที่ผมเจอกับตัวนะ ง่ายๆเลยคือ เวลาไปที่สาธารณะ คนไม่เว้นระยะห่างกันเลย
สามข้อ ใส่หน้ากาก ( กฎหมายบังคับ ) ล้างมือบ่อยๆ และ เว้นระยะห่าง
ข้อแรก ไม่มีปัญหา ใส่หน้ากากกันเพราะไม่ใส่โดนปรับ ข้อสองล้างมือผมไม่ทราบใครล้างไม่ล้าง
แต่ข้อสาม ผมเจอกับตัว และ วันนี้ก็ยังเจอคือ ไปซื้อของใน ซุปเปอร์มาร์เก็ต แล้วจะต้องมีคนรอจ่ายเงิน เดินเข้ามาแบบประชิดแทบจะติดตัวเราเลย คือเราไม่ได้เข้าไปบ่อย ก็ลืมว่าคราวก่อนก็เคยเจอ จนต้องเอารถเข็นกั้นไว้ แต่คราวนี้ลืม มีคนสูงวัย ลักษณะไม่อนามัยแน่ๆ คือ มอมแมมมาเลยละ โขยกมาอย่างรีบร้อน นึกภาพ ออกไหม คือ สยองประมาณนั้น
แต่ที่แย่กว่านั้นคือ ของที่ผมหยิบมา ผมเตรียมเงินไว้พอดีแล้ว เรียกว่า วางเงินแล้วหยิบของไปได้เลย แต่ ห้างนี้ วางของไม่ตรงกับราคา ( มันต้องมี เรื่องที่เราเตรียมไว้แล้ว แต่ไม่พอดี ) ต้องมานั่งหยิบเงินเพิ่มอีก แล้ว ผู้อาวุโสมอมแมม ก็โขยกเข้ามาแบบ เหมือนกับ จะสิงร่างกันเลยทีเดียว ผมต้องถอยสองก้าว แล้วหยิบเงิน ปล่อยผู้สูงวัยท่านนั้นรอไปก่อน พนักงานแคชเชียร์เขาก็กลัว เขารีบเอาของๆผม ไปไว้อีกฟาก ที่เหมือนกับว่า จ่ายเงินเแล้วน่ะแหล่ แล้ว ให้ผู้สูงอายุมอมแมม หยุดรอตรงสายพานวางของ ตรงยังไม่จ่ายเงิน
ก็เรียกว่า ตาไวไม่งั้นเขาอาจแนบสนิทชิดด้านหลังผม เพราะ ช่วงผมจ่ายเงินเสร็จ เขาก็โชว์สปีดโขยกๆ เหิรไปเหมือนมีวิชาตัวเบา เห็นเดินชนคนที่เดินข้างหน้าด้วย เสียดสีพอเสียวไส้ให้ผมได้ยืนดูแบบ อึ้งๆ
จริงๆ ตอนไปเอารถเข็น ผมก็เจอแล้วนะ กำลังแบบ พ่อสเปรย์ฉีดที่จับรถเข็น ( เขามีวางขวดสเปรย์ไว้ตรงที่ไปเอารถเข็น ) ฉีดเสร็จ กำลังจะเข็น หันไป ก็เจออีกคน ลักษระเหมือนแบบ มอมแมมเช่นกัน โอย ผมนี่แจ็คพ็อตมากๆ วันเดียวเจอสองราย หรือว่า ห้างนี้มีแต่ลูกค้าแบบนี้ ก็สุดจะบรรยายได้ เอาเป็นว่า ผมจะไม่ไปที่ห้างนี้อีกแล้ว อ้อ จริงๆไม่ใช่ห้างนะ เขาเรียก ซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่ขายของถูกกว่าห้าง เขาเรียกว่าอะไรผมก็ไม่แน่ใจ ไฮเปอเร์มาร์ท รึเปล่าหว่า
การเว้นระยะห่าง คือจุดอ่อนเลยนะสำหรับคนจำนวนมาก ที่เหมือนเขาไม่สน ไม่แคร์ ไม่รู้ไม่ชี้ แล้วคิดดูว่า เขามอมแมมขนาดนั้น เสื้อผ้าอนามัยพื้นฐานยังไม่มี และ พฤติกรรมประชิดตัวคนอื่นแบบเหมือนเขาไม่ใส่ใจสังคมแบบนี้ มีคนประเภทนี้ จำนวนเท่าไหร่ คนที่คิดว่า โควิด มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรง เราใกล้ชิดกันได้ในที่สาธารณะ ผมว่ามีเยอะนะ ไม่งั้นไม่ติดกันวันละ 2000 3000 นี่เอาแค่ที่ตรวจเจอนะ ยังไม่ได้คิวตรวจน่าจะมีอีกเยอะ
ก็รักษาเนื้อรักษาตัวกันนะครับ ตัวใครตัวมัน ฉีดวัดซีนแล้ว จะ 1 เข็ม 2 เข็ม ก็ยังติดได้นะครับ ถ้าแจ็คพ็อตเจอสายพันธ์ใหม่
แค่เรื่องง่ายๆ เว้นระยะ คนบางกลุ่ม และน่าจะกลุ่มใหญ่ เขายังไม่ตระหนักกัน ก็ ไม่รู้จะทำยังไงแล้วละครับ เขาคิดแค่ใส่หน้ากากจบ
สาธารณสุข น่าจะรณรงค์เรื่องระยะห่างให้มันดูซีเรียสกว่านี้ดีไหม แต่ผมก็เข้าใจนะว่า คือบังคับไม่ได้เหมือนใส่หน้ากาก แต่ก็ให้ตระหนักมากกว่านี้จะดีกว่า