ทั่วสากลจักรวาล มีพระพุทธเจ้ามากมาย ดั่งเม็ดทรายในจักรวาล

การหาบาตรดำเนินไปทั่วสากลจักรวาล
 ลุถึงแดนหนึ่งที่เรียกว่า " สุขาวดีพุทธเกษตร" 
เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความสุข ในดินแดน
แห่งนี้มีแต่การศึกษาธรรมะ 
แม้แต่เสียงนกที่ร้องออกมาก็เป็นธรรมะ ณ ดินแดนแห่งนี้เอง 
มีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งดำรงอยู่ ทรงพระนาามว่า
" อมิตาภะพุทธเจ้า"
 ขณะนั้น พระพุทธองค์กำลังประทับอยู่ท่ามกลางพระภิกษุสงฆ์เป็นจำนวนมาก
 พระวรกายใหญ่โตมาก พระโมคคัลลานะเถระ
ได้เหาะเข้ามาในที่ประชุมสงฆ์มีพระรพุทธเจ้าเป็นประมุข 
ได้เข้าไปยืนอยู่บนขอบบาตรของพระพุทธเจ้า
 ( แสดงว่าบาตรใหญ่โตมาก สามารถขึ้นในยืนอยู่บนขอบบาตรนั้นได้)
พร้อมประคองอัญชุลีถวายความเคารพ
เมื่อพระภิกษุทั้งหลายเห็นเช่นนั้น ก็ได้กราบทูลพระพุทธเจ้าว่า
"นี่คืออะไรหนอ ? รูปร่างเล็ก ๆ "
พระพุทธองค์ตรัสว่า 
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
 นี่ไม่ใช่อื่นไกลเลย เธอทั้งหลายอย่าได้ประมาท
 ภิกษุรูปนี้ เป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายแห่งพระสมณ
โคดมพุทธเจ้าแห่งชมพูทวีป 
ผู้มีฤทธิ์มาก กำลังแสวงหาบาตรของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นอยู่
 แล้วก็หลงเข้าสู่แดนของเรา
จากนั้น พระมหาโมคคัลลานะเถระได้ทูลถามทางที่จะกลับสู่ชมพูทวีป
 พระอภิตาภาะพุทธเจ้าตรัสว่า 
ดูกรโมคคัลลานะ
 เธอจงไปตามพุทธรัสมีแห่งเรา
 เมื่อพ้นขอบจักรวาลแห่งนั้น
 เธอก็จะเห็นพุทธรัสมีแห่งพระโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า
 ขอให้เธอตามพระพุทธรัสมีนั้นไป
 เธอก็จะสามาถเข้าสู่ชมพูทวีปได้ 
เหตุการณ์ตอนนี้เองที่คนทั้งหลายกล่าวกันว่า
 " โมคคัลลาหลงทีป" 
คือหลงแดน(หาทางกลับไม่ได้)นั่นเอง
เมื่อได้ฟังพุทธดำรัสแห่งองค์อภิตาภะพุทธเจ้าเช่นนั้นแล้ว 
พระมหาโมคคัลลานะเถระเจ้าก็ได้กราบทูลลาออกจากแดนสุขาวดีพุทธเกษตร
ตามพระพุทธรัสมีแห่งพระองค์
 เมื่อพ้นจากแดนสุขาวดี 
ก็เห็นพระพุทธรัสมีแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแห่งเราทั้งหลาย 
เข้าสู่ชมพูทวีปแล้ว
เข้าถวายอภิวาทพระบรมศาสดาทูลว่า
ข้าพระองค์ได้ออกแสวงหาบาตรไปทั่วแดนจักรวาลไม่พบเห็นเลยพระเจ้าข้า 
เมื่อพระพุทธองค์ตรัสถามพระภิกษุรูปอื่น ๆ ก็ไม่มีผู้ใด
สามารถหาบาตรพบได้ จนถึงภิกษุบวชใหม่รูปหนึ่งชื่ออชิตะ
 ยังไม่ได้บรรลุฌานอภิญญาเหาะเหินเดินอากาศก็ไม่ได้
จึงได้ออกไปยืนพร้อมอธิษฐาน
ว่าขอให้บาตรของพระพุทธองค์จงปรากฏบนมือของข้าพเจ้าบัดนี้เถิด
 พลันบาตรของพระพุทธองค์ก็ปรากฏบนมือของท่าน แล้วนำไปถวาย
พระพุทธองค์ตรัสว่า
 อชิตะภิกษุรูปนี้ ไม่ใช่พระธรรมดา
 แต่เป็นหน่อเนื้อพุทธรางกูรบำเพ็ญบารมีเพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าใน
อนาคตพระนามว่า
 " พระศรีอาริยเมตไตรย"
 แล้วตรัสปลอบใจแด่สมเด็จพระน้านางประชาบดีโคตมีว่า
 พระองค์นั้นได้ลาภอันประเสริฐแล้วที่
ได้ถวายผ้าแด่พระโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ต่อการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
 ทำให้พระนางมีพระทัยแช่มชื่นเบิกบาน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่