ปัญหามลพิษทางอากาศจากกลิ่น

จขกท. อาศัยในบ้านเดี่ยวที่ปลูกสร้างเองบนที่ดินของพ่อแม่  ไม่ใช่บ้านจัดสรรหรือหมู่บ้าน  ดังนั้น จึงมีเพื่อนบ้านรอบข้างหลายรูปแบบ ด้านขวาในซอยเดียวกันเป็นบ้านเดี่ยวที่ไม่เคยดูแลรักษาต้นไม้ของตัวเอง ปล่อยให้รกร้างเลื้อยมาที่บ้าน จขกท. ตลอด โดยเฉพาะต้นสัตยาบรรณที่ปลูกสูงขนาดตึก 3 ชั้น ที่ปลูกติดกับรั้วฝั่งบ้าน จขกท. น่าสะพึงกลัวเวลาลมพัดแรง ๆ แล้วกิ่งมันไหวไปมา ไม่รู้ว่าวันไหนจะหักโค่นลงมา  ด้านหลังบ้านอยู่ติดกับบ้านเช่าที่เป็นทั้งบ้านและตึก  ซึ่งคนมาอยู่อาศัยก็ไม่รู้ว่าเป็นประเภทใดบ้าง  แต่คงเป็นพวกมักง่ายส่วนใหญ่เพราะชอบโยนของทิ้งลงมาจากด้านบน  ถัดไปจากตึกเป็นที่ดินเปล่าแต่มีต้นนุ่นใหญ่มากขนาดตึก 5 ชั้นขึ้นอยู่  ส่งปอยนุ่นมาที่บ้านเราตลอดจนแอร์ตันเร็วมาก   ที่กล่าวมาข้างต้นเราทนมาตลอด แต่ที่ทนไม่ไหวในช่วง 5 - 6 เดือนที่ผ่านมาคือกลิ่นเคล้ายทินเนอร์ บางครั้งก็น้ำมันเครื่อง หรือเผาอะไรสักอย่าง ลอยเข้ามาในบ้านเกือบทั้งวัน  ปิดหน้าต่าง เปิดเครื่องฟอกอากาศแล้ว ก็ยังไม่สามารถกำจัดกลิ่นออกไปได้

ยอมรับค่ะว่านอกจากสุขภาพกายจะเสียแล้ว สุขภาพจิตก็แย่  เคยร้องเรียนไปที่สำนักงานเขตก็เงียบ จนต้องร้องเรียนผ่านไปทางลูกชายท่านผู้ว่า กทม. จนได้เลขที่รับเรื่องร้องเรียนมา  แต่สำนักงานเขตฯ แจ้งว่าไม่พบอะไรเลย  จขกท. ก็พยายามทน คิดว่าสักวันความทุกข์มันต้องไปเหมือนธรรมะสอนมา  แต่สุขภาพจิตเสียจริง ๆ ค่ะ   อยากนั่งเล่นในบ้านตัวเองแบบสบาย ๆ ก็ไม่ได้  เปิดหน้าต่างก็ไม่ได้   กลิ่นพวกนี้เวลาเข้ามาในบ้านแล้ว ไล่มันออกไปยากมากจริง ๆ   ครั้นจะไปร้องเรียนอีก  ก็ไม่อยากคาดหวังอะไรจากสำนักงานฯ  เพราะเราไม่มีเส้นสาย ไม่มีพรรคพวกใหญ๋โต  และเราก็ไม่สามารถบอกได้ว่า กลิ่นมันมาจากไหน   เวลาได้กลิ่นรู้สึกเลยว่าทั้งปากและคอมันขมมันฝาดไปหมด

ถ้าร่ำรวยมีเงินทองเหลือใช้มาก ๆ คงต้องสละบ้านที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ แล้วไปหาที่อยู่ใหม่คงจะดี  แต่ตอนนี้คงทำไม่ได้  แม่นอนติดเตียงมา 5 ปีแล้ว แม่คงไม่อยากย้ายไปไหนอีก   อยากระบายและขอความคิดเห็น หรือประสบการณ์จากเพื่อน ๆ ในพันทิป เผื่อจะหาทางออกได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่