- วันนี้ผมได้ทบทวน โดยการฟังเรื่อง ฌานปัจจัย จากคลิปที่นี่
https://www.youtube.com/watch?v=9espq731-rg
- แต่ยังฟังไม่จบเรื่องฌานปัจจัย ถ้าจบต้องฟังถึงนาทีที่ 1.16.17 ในบทที่ 6/17
- ในบทดังกล่าว ประเด็นเรื่อง ฌานปัจจัย กล่าวถึง องค์ฌาน 5 ที่มีทั้ง ปุถุชน และ ฌานลาพี ซึ่งมีความแตกต่างกันที่การประหารกิเลส ปุถุชนประหารกิเลสไม่ได้ แต่ก็มีองค์ฌาน 5 แต่สำหรับฌานลาพี มีองค์ฌาน 5 แต่สามารถประหารกิเลสได้แบบ วิขัมภณประหาร จึงทำให้เวลาท่านไปเกิดท่านก็ไปเกิดในรูปพรหม อรูปพรหม แต่สำหรับปุถุชน ยังมีทั้งกุศล และอกุศล เป็นต้น
- ในประเด็นนี้ ยังมีการอธิบายเรื่อง อารัมมณูปนิชฌาน กับ ลักขณูปนิชฌาน ซึ่งเป็นฝ่ายสมถะ กับ ฝ่ายวิปัสสนา แตกต่างตรงที่ การเพ่งบัญญัติ กับ การเพ่งลักษณะ 3 คือ ไตรลักษณ์
- ในตอนนี้ ยังชี้ให้เห็น สมถยานิก กับ วิปัสสนายานิก ว่าแตกต่างกันตรงไหน และทำไม วิปัสสนายานิก ถึงได้ ฌาน 1 ด้วยเมื่อได้มรรค
- ทบทวนยังไม่จบนะครับในเรื่องของ ฌานปัจจัย
- จะเห็นว่ามีผู้สนใจน้อยมาก และมีผู้ชอบน้อยมาก ตัวเลข ในนั้นมีผมด้วย 1 ครับ
- ในนี้มีการกล่าวถึง การปฏิบัติสมถะ จนได้อัปปนาสมาธิ และการกล่าวถึง การวิปัสสนาจนได้ถึงมัค อย่างย่อๆด้วยนะครับ
- ฟังแล้วก็เพิ่มพูนความรู้ที่ลืมไปแล้วให้กลับมาสมบูรณ์ถูกต้องมากขึ้น นั่นหมายความว่า มีสัมมาทิฏฐิ เพิ่มขึ้น
- นึกถึง พวก นิยตมิจฉาทิฏฐิ ที่ปรากฏใน ห้องศาสนา ที่ท่านกัลยาณมิตรทั้งหลายได้มีเมตตากรุณาชี้แจงซ้ำซากด้วยความอดทนหวังที่จะให้พวก นิยตมิจฉาทิฏฐิ เปลี่ยนทัศนคติ กลับมามี สัมมาทิฏฐิ ซึ่งก็ยากยิ่ง เพราะพวกนิยตมิจฉาทิฏฐิเหล่านั้น ก็เห็น ท่านกัลญาณมิตรที่เล่าเรียนพระธรรมมา เป็น พวกเถรใบลานเปล่าบ้าง เป็นพวกเรียนอภิธรรมปิฎก เป็นพวกเรียนพระอภิธรรมมัตถสังคะหะบ้าง เป็นพวกเชื่อพระสาวกบ้าง เป็นพวกเชื่ออรรถกถาบ้าง เป็นพวกเชื่อคำแต่งใหม่บ้าง เป็นพวกงูพิษบ้าง หนักสุดเห็นว่าคนที่ศึกษาพระไตรปิฏก(รวมพระอภิธรรม)เป็นพวกมิจฉาทิฏฐิบ้าง เหมือนกับที่ผมเห็นเขาเป็น เท่ากับที่เขาเห็นเราเป็น
- ก็เลยนึกถึง พระอรหันต์ โปรด หนอนในบ่ออุจาระ นะครับ
- การเรียนพระธรรมที่ยากๆ ก็เป็นการสร้างสมอินทรีย์ การสร้างสมอินทรีย์ เป็นปัจจัยให้เกิดพละ ในการที่จะประหารกิเลส ต่อไป
- การเรียนพระอภิธรรม ที่จริงเป็นการเรียนพื้นฐานทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น เป็นการทำปริญญาหนึ่งคือ ญาตปริญญา ซึ่งจำเป็นมากๆในการที่จะตามรู้ทุกข์ แต่ก็เป็นไปตามระดับของปัญญาบารมีของแต่ละปุถุชน
- ก็หวังว่า แม้หัวข้อ แม้พระบาลี แม้คำแปลพระบาลี แม้คลิปยูตู๊บบรรยายเรื่องปัฏฐานเป็นตอนๆ และชีทภาพประกอบคำสอน ของอาจารย์ เพียงแค่เปิดฟังและทำความเข้าใจตามก็สามารถเรียนเข้าใจได้ทีละท่อน ทีละท่อน ทีละประเด็น ทีละประเด็น แล้วครับ
- การที่ผมตั้งใจบันทึกคำสอนแต่ละคำของอาจารย์ลงไป หนึ่งเพื่อทบทวนตัวผมเองเพื่อทำความเข้าใจให้ชัดเจนในแต่ละประเด็น ซึ่งคำสอนของอาจารย์มีคุณค่ามาก จนทำให้ผมต้องจดบันทึกทุกคำอย่างนี้ในสมุด แต่ก็จะมาลอกใส่ใน กระทู้ให้หมดจดทุกกระทู้ที่เกี่ยวกับ ปัฏฐาน นะครับ เพราะยังไม่เคยมีปรากฏในพันทิปมาก่อน หวังว่า เมื่อมีผู้สนใจขึ้นมา ก็จะสามารถทำความเข้าใจในเรื่องปัฏฐานนี้ได้อย่างชัดเจนต่อไป เป็นมหากุศลอันไม่มีประมาณที่เกิดขึ้น
การเรียน เรื่องปัฏฐาน
- แต่ยังฟังไม่จบเรื่องฌานปัจจัย ถ้าจบต้องฟังถึงนาทีที่ 1.16.17 ในบทที่ 6/17
- ในบทดังกล่าว ประเด็นเรื่อง ฌานปัจจัย กล่าวถึง องค์ฌาน 5 ที่มีทั้ง ปุถุชน และ ฌานลาพี ซึ่งมีความแตกต่างกันที่การประหารกิเลส ปุถุชนประหารกิเลสไม่ได้ แต่ก็มีองค์ฌาน 5 แต่สำหรับฌานลาพี มีองค์ฌาน 5 แต่สามารถประหารกิเลสได้แบบ วิขัมภณประหาร จึงทำให้เวลาท่านไปเกิดท่านก็ไปเกิดในรูปพรหม อรูปพรหม แต่สำหรับปุถุชน ยังมีทั้งกุศล และอกุศล เป็นต้น
- ในประเด็นนี้ ยังมีการอธิบายเรื่อง อารัมมณูปนิชฌาน กับ ลักขณูปนิชฌาน ซึ่งเป็นฝ่ายสมถะ กับ ฝ่ายวิปัสสนา แตกต่างตรงที่ การเพ่งบัญญัติ กับ การเพ่งลักษณะ 3 คือ ไตรลักษณ์
- ในตอนนี้ ยังชี้ให้เห็น สมถยานิก กับ วิปัสสนายานิก ว่าแตกต่างกันตรงไหน และทำไม วิปัสสนายานิก ถึงได้ ฌาน 1 ด้วยเมื่อได้มรรค
- ทบทวนยังไม่จบนะครับในเรื่องของ ฌานปัจจัย
- จะเห็นว่ามีผู้สนใจน้อยมาก และมีผู้ชอบน้อยมาก ตัวเลข ในนั้นมีผมด้วย 1 ครับ
- ในนี้มีการกล่าวถึง การปฏิบัติสมถะ จนได้อัปปนาสมาธิ และการกล่าวถึง การวิปัสสนาจนได้ถึงมัค อย่างย่อๆด้วยนะครับ
- ฟังแล้วก็เพิ่มพูนความรู้ที่ลืมไปแล้วให้กลับมาสมบูรณ์ถูกต้องมากขึ้น นั่นหมายความว่า มีสัมมาทิฏฐิ เพิ่มขึ้น
- นึกถึง พวก นิยตมิจฉาทิฏฐิ ที่ปรากฏใน ห้องศาสนา ที่ท่านกัลยาณมิตรทั้งหลายได้มีเมตตากรุณาชี้แจงซ้ำซากด้วยความอดทนหวังที่จะให้พวก นิยตมิจฉาทิฏฐิ เปลี่ยนทัศนคติ กลับมามี สัมมาทิฏฐิ ซึ่งก็ยากยิ่ง เพราะพวกนิยตมิจฉาทิฏฐิเหล่านั้น ก็เห็น ท่านกัลญาณมิตรที่เล่าเรียนพระธรรมมา เป็น พวกเถรใบลานเปล่าบ้าง เป็นพวกเรียนอภิธรรมปิฎก เป็นพวกเรียนพระอภิธรรมมัตถสังคะหะบ้าง เป็นพวกเชื่อพระสาวกบ้าง เป็นพวกเชื่ออรรถกถาบ้าง เป็นพวกเชื่อคำแต่งใหม่บ้าง เป็นพวกงูพิษบ้าง หนักสุดเห็นว่าคนที่ศึกษาพระไตรปิฏก(รวมพระอภิธรรม)เป็นพวกมิจฉาทิฏฐิบ้าง เหมือนกับที่ผมเห็นเขาเป็น เท่ากับที่เขาเห็นเราเป็น
- ก็เลยนึกถึง พระอรหันต์ โปรด หนอนในบ่ออุจาระ นะครับ
- การเรียนพระธรรมที่ยากๆ ก็เป็นการสร้างสมอินทรีย์ การสร้างสมอินทรีย์ เป็นปัจจัยให้เกิดพละ ในการที่จะประหารกิเลส ต่อไป
- การเรียนพระอภิธรรม ที่จริงเป็นการเรียนพื้นฐานทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น เป็นการทำปริญญาหนึ่งคือ ญาตปริญญา ซึ่งจำเป็นมากๆในการที่จะตามรู้ทุกข์ แต่ก็เป็นไปตามระดับของปัญญาบารมีของแต่ละปุถุชน
- ก็หวังว่า แม้หัวข้อ แม้พระบาลี แม้คำแปลพระบาลี แม้คลิปยูตู๊บบรรยายเรื่องปัฏฐานเป็นตอนๆ และชีทภาพประกอบคำสอน ของอาจารย์ เพียงแค่เปิดฟังและทำความเข้าใจตามก็สามารถเรียนเข้าใจได้ทีละท่อน ทีละท่อน ทีละประเด็น ทีละประเด็น แล้วครับ
- การที่ผมตั้งใจบันทึกคำสอนแต่ละคำของอาจารย์ลงไป หนึ่งเพื่อทบทวนตัวผมเองเพื่อทำความเข้าใจให้ชัดเจนในแต่ละประเด็น ซึ่งคำสอนของอาจารย์มีคุณค่ามาก จนทำให้ผมต้องจดบันทึกทุกคำอย่างนี้ในสมุด แต่ก็จะมาลอกใส่ใน กระทู้ให้หมดจดทุกกระทู้ที่เกี่ยวกับ ปัฏฐาน นะครับ เพราะยังไม่เคยมีปรากฏในพันทิปมาก่อน หวังว่า เมื่อมีผู้สนใจขึ้นมา ก็จะสามารถทำความเข้าใจในเรื่องปัฏฐานนี้ได้อย่างชัดเจนต่อไป เป็นมหากุศลอันไม่มีประมาณที่เกิดขึ้น