การขี่รถตำรวจตามติดผู้ต้องสงสัย มีแนวทางอย่างไรบ้าง เพื่อเซฟตี้ตนเองและเซฟตี้ผู้ต้องสงสัย!!!

จากข่าวน้องฟล็คที่ซ้อนท้ายเพื่อนอีก 2 คน เสียชีวิตเนื่องจากก่อนหน้านี้มีตำรวจติดตามและพยายามให้จอด แต่เด็กทั้ง 3 คนไม่ยอมจอดและยิ่งเร่งให้รถเร็วขึ้นเพื่อหลบหนี   ซึ่งเด็ก 3 คน ไม่มีใครใส่หมวกกันน็อคเลยสักคน  ส่วนตำรวจ  มีหมวกกันน็อค  เสื้อเกราะ  รองเท้าหนัง ถุงมือ คือ "พร้อมมาก" 

เพราะฉะนั้นการติดตามผู้ต้องสงสัยซึ่งไม่มีอาวุธใด ๆ  ไม่มีการต่อสู้ นอกจากขี่รถเพื่อต้องการหลบหนี   จำเป็นจะต้องติดตามติดด้วยความเร็ว 99-100 กม/ชม. ซึ่งอยู่บนถนนที่มีรถวิ่งสัญจรไปมาจำนวนมากมา ถึงแม้ในข่าวจะเป็นประมาณ ตี 2  ซึ่งช่วงเวลานี้บางคนก็บอกว่า เด็กออกมาทำไม ?  ก็คิดได้มากมาย  เช่น ออกมากินข้าวต้ม  หิว  ออกมา 7-11 ไม่แปลก  เด็กที่ออกมากลางดึกไม่จำเป็นจะต้องเป็นเด็กเลวเสมอไป  แต่ก็มีบางคนในโซเชียลว่า  เด็กดื้อ  

ไม่ได้เข้าข้างเด็กนะ   แต่เด็กอายุประมาณ 15-16 ปี  ดื้อ ตามข่าวเจอกล่องและอุปกรณ์เสพยา  นั่นคือปัญหาของสังคมที่ควรเข้าไปแก้ไขและช่วยเหลือ  ต้นตอคือคนนำมาจำหน่าย  ยาเสพติด   ตำรวจก็ทำไม่ได้!!!   

แล้วพอมาข่าวนี้  ตำรวจก็พยายามออกมาตอบโต้ว่าตนเองบริสุทธิ์ ทำถูกต้องทุกอย่าง   แต่...ควรจะใช้สมองคิดนิดนึงมิใช่หรือว่าควรจะทำอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เจอเช่นนี้   ตนเองมีพร้อมทุกอย่าง  หมวก ปืน รองเท้าหนังป้องกันบาดเจ็บ   มีครบเลยนะ  แต่เด็ก   "ไม่มี"  
โอกาส ตาย ก็สูงอยู่แล้วล่ะนะ 

เราก็ไม่ได้มีอคติกับตำรวจนะ  แต่ตำรวจก็สมควรจะขอโทษสังคมด้วยนะ    หรือตำรวจที่เป็นสายตรวจคนนั้นก็ควรจะออกมาขอโทษสังคมและไปกราบขอโทษคุณแม่เค้าด้วยก็จะดี   ถึงใครจะผิดจะถูก  

แต่  ฟลุค   ก็ตายแล้ว    ก็เท่ากับว่า   คุณเป็นคนทำให้เค้าตาย    จะตายด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม   แต่ก็ตาย นะ  

ตำรวจตายในหน้าที่ได้รับบำเน็จบำนาญ  แต่คนที่ถูกตามติดระยะกระชั้นชิดแบบไม่มีอะไรเซฟตี้เลย ตาย   ได้อะไรบ้าง   แต่สังคมดันกระหน่ำด่า เด็ก  !

ตำรวจคือผู้บริสุทธิ์ตลอดเลยหรือไม่?   ใครตอบที

ก่อนหน้านี้ก็มีการติดต่อแจ้ง ตำรวจถึงเรื่องสัญญาณไฟจราจรที่มันเสียและมีคนฝ่าไฟแดงทุกวัน     ก็รับฟังแต่ไม่เปลียนแปลง
ก่อนหน้านี้ก็เคยโทรแจ้งเรื่องที่มีคนไม่ใส่แมส   ก็รับฟังแล้วก็เงียบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่