ผมเคยให้ความเห็นตอนรีวิว Rurouni Kenshin : The Final ไว้ว่า ภาค The Beginning มีศักยภาพพอที่จะเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในตระกูล Rurouni Kenshin ฉบับคนแสดงได้ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง
เราจะเห็นได้ว่า เนื้อเรื่องในส่วนของโทโมเอะนั้น จะมีความกะทัดรัด ตัวละครที่เดินเรื่องก็จะเน้นไปที่เคนชินและโทโมเอะเป็นหลัก การทำเนื้อหาออกมาให้ได้ใจครบถ้วนตามต้นฉบับจึงไม่ใช่เรื่องยาก ฉากต่อสู้ภายในเรื่องก็ไม่พิสดารเหนือมนุษย์หรือยืดเยื้อจนเกินไป ไม่เพียงแค่นั้น ตัวเนื้อเรื่องในภาคโทโมเอะเองก็มีความดาร์คและดราม่าที่เข้มข้น จนทำให้แฟนๆ ที่อ่านมังงะหรือดู OVA ภาค Trust & Betrayal ก็ประทับใจกันมาแล้ว
ยิ่งพอได้เห็นโปสเตอร์ของภาค The Beginning ที่งดงามมาก พร้อมกับรับชมหนังตัวอย่างแล้ว ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าหนังน่าจะเป็นไปตามที่ผมได้คาดหวัง เพราะตัวอย่างฉากเคนชินตะลุยไปช่วยโทโมเอะตอนท้ายเรื่อง ก็ให้ความรู้สึกว่าถอดฉากจากในมังงะมาแบบเป๊ะๆ ฉากต่อสู้ก็ดูดุเดือดเลือดสาดสมกับที่เป็นเรื่องราวสมัยที่เคนชินยังเป็นบัตโตไซ ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีความเป็นไปได้ว่าภายในเรื่องจะมีการเพิ่มเติมเนื้อหาใหม่ เกี่ยวกับปฏิบัติการของบัตโตไซด้วย ดังที่เห็นได้จากฉากบัตโตไซใส่ชุดดำบุกฐานของเป้าหมายแบบลุยแหลกด้วย
แต่พอได้ไปดูจริงแล้ว ผมก็รู้สึกว่าภาค The Beginning นี้ แม้จะไม่ได้แย่ แต่ก็มีจุดที่รู้สึกไม่สมใจหลายอย่าง จนคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นการปิดฉากภาพยนตร์ชุดซามูไรพเนจรได้อย่างน่าเสียดาย
ข้อดี
- คุณภาพ Production ของฉากมีความสวยงาม สัมผัสได้ถึงความตั้งใจทำ โทนอาคารบ้านช่องของภาคนี้
- พระเอกนางเอก หรือตัวบอสตอนท้ายเรื่อง เล่นสีหน้าแสดงอารมณ์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะโทโมเอะที่รับบทโดยคาสุมิ อาริมุระ ที่มีทั้งตอนที่เศร้าสร้อย ใจสลาย อ่อนหวาน และมีความรัก
- เนื้อเรื่องเป็นไปตามต้นฉบับเกิน 80% มีจุดที่ดัดแปลงนิดหน่อย
สปอยล์เนื้อหาในหนัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- ฉากเคนชินสู้กับพวกชินเซนกุมิ ตามมังงะและ OVA เหตุการณ์จะเกิดขึ้นหลังโทโมเอะตายแล้ว แต่ในหนังจะเกิดก่อนโทโมเอะตาย
และโอคิตะจะได้ดวลกับเคนชิน
- บอสจะใช้ดาบ ไม่ใช้ปลอกแขนไร้พ่าย และไม่มีท่าระเบิดขวานเหล็ก
ข้อที่เสียดาย
1.
ส่วนดราม่า
เนื้อหาหลายฉาก ถ้าตัดแยกออกมาเป็นคลิปสั้นแบบเดี่ยวๆ จะดูดีมาก แต่พอเอามาเรียงต่อเนื่องกันยาวๆ กลับให้ความรู้สึกว่าผู้กำกับยังชงจังหวะและขยี้อารมณ์คนดูได้ไม่สุด แต่จะว่าไปแล้ว ผมว่าตัวผู้กำกับภาพยนตร์ชุดเคนชินนี้ น่าจะเก่งการทำฉากบู๊มากกว่าฉากดราม่าหรือโรแมนติก เพราะฉากดราม่าหรือโรแมนติกในภาคก่อนๆ ของเคนชิน (เช่นฉากเคนชินกอดลาคาโอรุไปเกียวโต)ก็จะให้ความรู้สึกว่า “ก็ดี แต่ยังไม่สุด” คล้ายๆ กัน
ด้วยความที่ว่าเนื้อหาในภาคโทโมเอะจะมีส่วนที่เป็นดราม่าอยู่มาก ตอนที่ผมดูหนังภาค The Beginning จึงมีช่วงที่รู้สึกยืดๆ และง่วงนอนคล้ายๆ กับตอนต้นเรื่องของภาค The Legend Ends (ชิชิโอภาคจบ)
2.
ฉากบู๊
ฉากบู๊ดูตื่นตาตื่นใจ และเป็นจุดเด่นของภาคก่อนๆ นั้น กลับถูก Downgrade ลงในภาคนี้จนดูสั้นเกินไป และให้ความรู้สึกว่า “ธรรมดา” ยิ่งกว่า Rurouni Kenshin ภาคแรกเสียอีก นี่อาจจะเป็นผลจากการที่ผู้กำกับเห็นว่า ตัวบัตโตไซในภาคโทโมเอะนั้น ไม่ได้ใช้กระบวนท่าดาบล่องนภาให้เห็นเป็นพิเศษ เน้นฟันกันตรงๆ มากกว่า อย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่าการตีความดังกล่าวของผู้กำกับไม่ถูกต้องเท่าไรนัก หากว่ากันตามท้องเรื่องในมังงะจริงๆ แล้ว เคนชินตอนต้นถึงกลางเรื่อง (ก่อนเจออาจารย์อีกครั้ง) คือบัตโตไซฉบับ Downgrade ต่างหาก
ฉากบู๊ในหลายๆ ช่วงจะให้ความรู้สึกว่า “หลอกให้อยาก แล้วจากไป” พอเปิดฉากการต่อสู้ คนดูจะรู้สึกว้าวเล็กๆ และเกิดความคาดหวังว่ามันต้องออกมาเด็ดแน่ แต่เวลาผ่านไปไม่ทันไร ฉากต่อสู้ก็จบแล้ว
สปอยล์เนื้อหาในหนัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ตอนฉากบู๊เปิดเรื่อง คนดูจะคาดหวังว่าฉากสู้ภาคนี้ต้องออกมาโหดดิบสะใจแน่ เพราะเคนชินจะมีทั้งกัดหูศัตรูขาดจนชวนให้นึกถึงชิชิโอ แล้วยังสู้ทั้งๆ ที่มือถูกมัดไว้โดยใช้ปากคาบดาบแทน แต่ฉากต่อสู้ฉากนี้ก็จบลงอย่างรวดเร็ว ส่วนฉากบู๊อื่นๆ ที่เหลือในเรื่องนี้ก็จะไม่มีท่าสู้แบบพิสดารอีกเลย
-ฉากชินเซนกุมิ บุกแหล่งกบดานของกลุ่มเคนชิน ดนตรีประกอบให้ความรู้สึกอลังการมาก นอกจากไซโตแล้วก็มีตัวเด่นๆ อย่างกอริลล่าหัวหน้าใหญ่ (นึกชื่อไม่ออก จำได้แต่ฉายาจากกินทามะ) และโอคิตะเดินเรียงแถวหน้ากระดานไปอย่างเท่ แต่พอบุกถึงฐานจริงแล้วกลับฟันดาบแบบธรรมดาๆ ไม่มีโชว์เทพ ที่จริงจะมีฉากไซโตใช้ท่าทะลวงเขี้ยวแทงลูกกระจ๊อกฝ่ายปฏิวัติกระเด็นตกระเบียง 1 ครั้ง
-ตอนเจอกับพวกชินเซนกุมิ ช่วงแรกจะให้ความรู้สึกเหมือนคล้ายตอนดูอนิเม โอคิตะ โซจิจะออกมาเจอเคนชินก่อน แถมยังได้ดวลดาบกันจริงๆ โดยไม่มีไซโตมาห้าม (เพราะตอนนั้นไซโตอยู่ห่างออกไป) หลังจากดวลไปได้สักพัก (คิวบู๊ดูดีในระดับหนึ่ง แต่ไม่ดุเดือดเท่าภาคก่อนๆ) อาการของโอคิตะจะกำเริบจนสู้ต่อไม่ไหว แล้วไซโตจะตามมาจนทัน พอถึงจุดนี้ ผมก็หวังขึ้นมาเลยว่าเดี๋ยวจะได้เห็นไซโตกับเคนชินดวลกันแบบจัดหนักแน่ๆ (ซึ่งมันจะฟินมากๆ เพราะในการ์ตูนก็ไม่ได้ลงรายละเอียดว่าการดวลกันระหว่างบัตโตไซและไซโตในเกียวโตนั้นเป็นอย่างไร และฉากบู๊ระหว่างเคนชินและไซโตในภาคแรกก็ลดความดุเดือดลงมาจากมังงะมาก) แต่ผลกลับกลายเป็นว่ามีลูกน้องกลุ่มเคนชินยกพลมาจับเคนชินแยกไปซะงั้น
- ไซโตภาคนี้ไม่ได้ดวลกับเคนชินเลย มายืนหล่อและอัดลูกกระจ๊อกฝ่ายเคยชินเป็นหลัก
- ฉากบู๊ท้ายเรื่อง หลังจากที่ดูหนังมาจนตอนท้าย ในใจก็คาดหวังว่ามันจะต้องดุเดือดแน่ๆ เพราะตอนอ่านมังงะ นี่จะได้อารมณ์เหมือนตะลุยด่าน เคนชินเองก็มาโหมดโหดแบบผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ (ผมจำได้รางๆ ว่าจะมีตอนหนึ่งที่นินจาฝ่ายผู้ร้ายกำลังลำพองโอ้อวดว่า เคนชินเสียเปรียบในเชิงพื้นที่ แต่แล้วก็โดนเคนชินฟันมือขาด พร้อมกับพูดแบบนิ่งๆว่า “แล้วไงล่ะ” ) แต่พอมาถึงในฉบับหนัง ผู้ร้ายที่ออกมาจะรับมือเคนชินมีทั้งนินจา (รุ่นพี่/อาจารย์ของเจ๊อาวุธลับภาคทัณฑ์มนุษย์) มือขวาน (ที่ต่อมากลายเป็นร็อคแมนภาคทัณฑ์มนุษย์) และเวน่อมเหมือนมังงะ แต่แทนที่พวกนี้จะได้สู้กันแบบสะใจเหมือนที่ได้ดูในภาค Final กลับกลายเป็นว่า สู้แป๊บๆ ก็แพ้แล้วกดระเบิดซะงั้น
- (อันนี้ไม่เกี่ยวกับฉากบู๊ แต่ขอบ่นถึงสักเล็กน้อย) ฉากเคนชินเจอกับหัวหน้าหลังโทโมเอะตาย หัวหน้าบอกสั้นๆว่า ส่งนักฆ่าไปเก็บคนทรยศเรียบร้อยแล้ว แต่กลับไม่มี Cameo ของชิชิโอที่รับบทโดยฟูจิวาระ เท็ตสึยะโผล่มาให้ดูเลย (ทั้งๆ ที่ในภาค Final เอาดาบสวรรค์กลับ Service คนดูแท้ๆ)
ถึงแม้บางท่านอาจจะแย้งว่า ฉากสู้ในมังงะมันก็พิสดารน้อยกว่าภาคชิชิโอและภาคเอนิชิอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ผมก็รู้สึกว่า ในมังงะจะมีความโหดและดิบเข้ามาทดแทนความพิสดารที่หายไป แต่หนังคนแสดงยังสื่อตรงนี้มาไม่ชัดพอ
4.
การใช้ Footage เก่า
ที่จริงแล้วการใช้ Footage ในบางฉากก็พอเข้าใจได้ เช่นฉากที่เคนชินได้แผลเป็นแผลแรก แต่การใช้ Footage เก่าในบางฉากก็ลดอรรถรสในการรับชมไปอย่างน่าเสียดาย
สปอยล์เนื้อหาในหนัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- ฉากโทโมเอะตาย แทบไม่มีอะไรเพิ่มมาจากที่ฉาก Flashback ในภาค Final เลย
- ฉากจบเรื่อง ในฉบับมังงะจะให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่ถึงการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย และความอัดอั้นในการฆ่าคนเพื่ออุดมการณ์ของเคนชินที่ได้รับการปลดปล่อยในที่สุด แต่ในฉบับหนังคนแสดงกลับเอาฉากสิ้นสุดสงครามในภาคแรกสุดมาใช้เกือบทั้งหมด เพิ่มมาแค่คำโปรยปิดท้ายว่า หลังสงคราม บัตโตไซก็หายสาบสูญไป หลังจากนั้นเป็นเวลาสิบปี ก็มีซามูไรพเนจรปรากฏขึ้น
บทสรุป
หลังจากที่ได้ดู Rurouni Kenshin ฉบับคนแสดงครบ 5 ภาคแล้ว ผมขอจัดอันดับความชอบดังนี้ (ภาค The Beginning ขอใช้ตัวเลขเป็นภาค 0)
อันดับในภาพรวม 2>4=3>1>0
อันดับฉาก Boss Fight 3>4>2>1>0
อันดับความตรงต่อต้นฉบับ 0>2>4>3=1
ในภาพรวมแล้ว ผมว่า Rurouni Kenshin The Beginning นั้น มีปัญหาจากการที่ผู้กำกับพยายามทำให้ตรงตามต้นฉบับมากเกินไป จนละเลยส่วนที่เป็นเสน่ห์ของเคนชินภาคก่อนๆ แต่กลับเน้นส่วนที่ไม่ใช่จุดแข็งของตัวเองอย่างฉากดราม่าแทน เลยทำให้เบญจภาคซามูไรพเนจรต้องปิดฉากลงไปอย่างน่าเสียดายเล็กๆ ว่าภาคสุดท้ายกลับออกมาจืดที่สุด
โดยส่วนตัว ผมว่าหากทางผู้กำกับเลือกที่จะเอาภาค Beginning มาฉายก่อน The Final หรือเลือกที่จะทำภาคเอนิชิแยกสองภาค แล้วเอาเนื้อหาส่วนโทโมเอะมาแทรกตอนกลางแทน (เหมือนในมังงะ) ภาพยนตร์ชุดซามูไรพเนจรก็จะปิดฉากได้สวยงามกว่านี้ครับ
[รีวิวล่วงหน้าจากญี่ปุ่น] Rurouni Kenshin: The Beginning ผลงานปิดท้ายเบญจภาค “ซามูไรพเนจร” ที่น่าเสียดายในหลายจุด
ผมเคยให้ความเห็นตอนรีวิว Rurouni Kenshin : The Final ไว้ว่า ภาค The Beginning มีศักยภาพพอที่จะเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดในตระกูล Rurouni Kenshin ฉบับคนแสดงได้ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง
เราจะเห็นได้ว่า เนื้อเรื่องในส่วนของโทโมเอะนั้น จะมีความกะทัดรัด ตัวละครที่เดินเรื่องก็จะเน้นไปที่เคนชินและโทโมเอะเป็นหลัก การทำเนื้อหาออกมาให้ได้ใจครบถ้วนตามต้นฉบับจึงไม่ใช่เรื่องยาก ฉากต่อสู้ภายในเรื่องก็ไม่พิสดารเหนือมนุษย์หรือยืดเยื้อจนเกินไป ไม่เพียงแค่นั้น ตัวเนื้อเรื่องในภาคโทโมเอะเองก็มีความดาร์คและดราม่าที่เข้มข้น จนทำให้แฟนๆ ที่อ่านมังงะหรือดู OVA ภาค Trust & Betrayal ก็ประทับใจกันมาแล้ว
ยิ่งพอได้เห็นโปสเตอร์ของภาค The Beginning ที่งดงามมาก พร้อมกับรับชมหนังตัวอย่างแล้ว ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าหนังน่าจะเป็นไปตามที่ผมได้คาดหวัง เพราะตัวอย่างฉากเคนชินตะลุยไปช่วยโทโมเอะตอนท้ายเรื่อง ก็ให้ความรู้สึกว่าถอดฉากจากในมังงะมาแบบเป๊ะๆ ฉากต่อสู้ก็ดูดุเดือดเลือดสาดสมกับที่เป็นเรื่องราวสมัยที่เคนชินยังเป็นบัตโตไซ ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีความเป็นไปได้ว่าภายในเรื่องจะมีการเพิ่มเติมเนื้อหาใหม่ เกี่ยวกับปฏิบัติการของบัตโตไซด้วย ดังที่เห็นได้จากฉากบัตโตไซใส่ชุดดำบุกฐานของเป้าหมายแบบลุยแหลกด้วย
แต่พอได้ไปดูจริงแล้ว ผมก็รู้สึกว่าภาค The Beginning นี้ แม้จะไม่ได้แย่ แต่ก็มีจุดที่รู้สึกไม่สมใจหลายอย่าง จนคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นการปิดฉากภาพยนตร์ชุดซามูไรพเนจรได้อย่างน่าเสียดาย
ข้อดี
- คุณภาพ Production ของฉากมีความสวยงาม สัมผัสได้ถึงความตั้งใจทำ โทนอาคารบ้านช่องของภาคนี้
- พระเอกนางเอก หรือตัวบอสตอนท้ายเรื่อง เล่นสีหน้าแสดงอารมณ์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะโทโมเอะที่รับบทโดยคาสุมิ อาริมุระ ที่มีทั้งตอนที่เศร้าสร้อย ใจสลาย อ่อนหวาน และมีความรัก
- เนื้อเรื่องเป็นไปตามต้นฉบับเกิน 80% มีจุดที่ดัดแปลงนิดหน่อย
สปอยล์เนื้อหาในหนัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข้อที่เสียดาย
1. ส่วนดราม่า
เนื้อหาหลายฉาก ถ้าตัดแยกออกมาเป็นคลิปสั้นแบบเดี่ยวๆ จะดูดีมาก แต่พอเอามาเรียงต่อเนื่องกันยาวๆ กลับให้ความรู้สึกว่าผู้กำกับยังชงจังหวะและขยี้อารมณ์คนดูได้ไม่สุด แต่จะว่าไปแล้ว ผมว่าตัวผู้กำกับภาพยนตร์ชุดเคนชินนี้ น่าจะเก่งการทำฉากบู๊มากกว่าฉากดราม่าหรือโรแมนติก เพราะฉากดราม่าหรือโรแมนติกในภาคก่อนๆ ของเคนชิน (เช่นฉากเคนชินกอดลาคาโอรุไปเกียวโต)ก็จะให้ความรู้สึกว่า “ก็ดี แต่ยังไม่สุด” คล้ายๆ กัน
ด้วยความที่ว่าเนื้อหาในภาคโทโมเอะจะมีส่วนที่เป็นดราม่าอยู่มาก ตอนที่ผมดูหนังภาค The Beginning จึงมีช่วงที่รู้สึกยืดๆ และง่วงนอนคล้ายๆ กับตอนต้นเรื่องของภาค The Legend Ends (ชิชิโอภาคจบ)
2. ฉากบู๊
ฉากบู๊ดูตื่นตาตื่นใจ และเป็นจุดเด่นของภาคก่อนๆ นั้น กลับถูก Downgrade ลงในภาคนี้จนดูสั้นเกินไป และให้ความรู้สึกว่า “ธรรมดา” ยิ่งกว่า Rurouni Kenshin ภาคแรกเสียอีก นี่อาจจะเป็นผลจากการที่ผู้กำกับเห็นว่า ตัวบัตโตไซในภาคโทโมเอะนั้น ไม่ได้ใช้กระบวนท่าดาบล่องนภาให้เห็นเป็นพิเศษ เน้นฟันกันตรงๆ มากกว่า อย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่าการตีความดังกล่าวของผู้กำกับไม่ถูกต้องเท่าไรนัก หากว่ากันตามท้องเรื่องในมังงะจริงๆ แล้ว เคนชินตอนต้นถึงกลางเรื่อง (ก่อนเจออาจารย์อีกครั้ง) คือบัตโตไซฉบับ Downgrade ต่างหาก
ฉากบู๊ในหลายๆ ช่วงจะให้ความรู้สึกว่า “หลอกให้อยาก แล้วจากไป” พอเปิดฉากการต่อสู้ คนดูจะรู้สึกว้าวเล็กๆ และเกิดความคาดหวังว่ามันต้องออกมาเด็ดแน่ แต่เวลาผ่านไปไม่ทันไร ฉากต่อสู้ก็จบแล้ว
สปอยล์เนื้อหาในหนัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถึงแม้บางท่านอาจจะแย้งว่า ฉากสู้ในมังงะมันก็พิสดารน้อยกว่าภาคชิชิโอและภาคเอนิชิอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ผมก็รู้สึกว่า ในมังงะจะมีความโหดและดิบเข้ามาทดแทนความพิสดารที่หายไป แต่หนังคนแสดงยังสื่อตรงนี้มาไม่ชัดพอ
4. การใช้ Footage เก่า
ที่จริงแล้วการใช้ Footage ในบางฉากก็พอเข้าใจได้ เช่นฉากที่เคนชินได้แผลเป็นแผลแรก แต่การใช้ Footage เก่าในบางฉากก็ลดอรรถรสในการรับชมไปอย่างน่าเสียดาย
สปอยล์เนื้อหาในหนัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทสรุป
หลังจากที่ได้ดู Rurouni Kenshin ฉบับคนแสดงครบ 5 ภาคแล้ว ผมขอจัดอันดับความชอบดังนี้ (ภาค The Beginning ขอใช้ตัวเลขเป็นภาค 0)
อันดับในภาพรวม 2>4=3>1>0
อันดับฉาก Boss Fight 3>4>2>1>0
อันดับความตรงต่อต้นฉบับ 0>2>4>3=1
ในภาพรวมแล้ว ผมว่า Rurouni Kenshin The Beginning นั้น มีปัญหาจากการที่ผู้กำกับพยายามทำให้ตรงตามต้นฉบับมากเกินไป จนละเลยส่วนที่เป็นเสน่ห์ของเคนชินภาคก่อนๆ แต่กลับเน้นส่วนที่ไม่ใช่จุดแข็งของตัวเองอย่างฉากดราม่าแทน เลยทำให้เบญจภาคซามูไรพเนจรต้องปิดฉากลงไปอย่างน่าเสียดายเล็กๆ ว่าภาคสุดท้ายกลับออกมาจืดที่สุด
โดยส่วนตัว ผมว่าหากทางผู้กำกับเลือกที่จะเอาภาค Beginning มาฉายก่อน The Final หรือเลือกที่จะทำภาคเอนิชิแยกสองภาค แล้วเอาเนื้อหาส่วนโทโมเอะมาแทรกตอนกลางแทน (เหมือนในมังงะ) ภาพยนตร์ชุดซามูไรพเนจรก็จะปิดฉากได้สวยงามกว่านี้ครับ