สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
คนอื่นสนิทหมด เราไม่สนิทคนเดียว
คนอื่นเศร้าหมด เราไม่เศร้าอยู่คนเดียว
ก็ถูกต้องแล้ว ไม่เห็นต้องแคร์
แล้วถ้าวันหนึ่ง อาจจะมีอย่างอื่นๆ เช่น
คนอื่นชวนกันไปเที่ยวกันหมด ไม่ชวนเราคนเดียว
งานของคนอื่นทีปัญหา คนอื่นช่วยกันแก้ แต่งานของเรามีปัญหา ไม่มีใครช่วย
ก็เป็นสิ่งที่ถูกแล้วเช่นกัน
ไม่แนะนำว่าต้องทำอย่างไร ชีวิตเราอยู่ที่เราเลือกเอง
บางคน มีความสุขกับการอยู่คนเดียว ก็ต้องรับผลบวกและผลลบของมันให้ได้ทั้งหมด
บางคน มีความสุขกับการอยู่กับคนอื่นในสังคม ก็ต้องรับผลบวกและผลลบของมันเช่นกัน
คนอื่นเศร้าหมด เราไม่เศร้าอยู่คนเดียว
ก็ถูกต้องแล้ว ไม่เห็นต้องแคร์
แล้วถ้าวันหนึ่ง อาจจะมีอย่างอื่นๆ เช่น
คนอื่นชวนกันไปเที่ยวกันหมด ไม่ชวนเราคนเดียว
งานของคนอื่นทีปัญหา คนอื่นช่วยกันแก้ แต่งานของเรามีปัญหา ไม่มีใครช่วย
ก็เป็นสิ่งที่ถูกแล้วเช่นกัน
ไม่แนะนำว่าต้องทำอย่างไร ชีวิตเราอยู่ที่เราเลือกเอง
บางคน มีความสุขกับการอยู่คนเดียว ก็ต้องรับผลบวกและผลลบของมันให้ได้ทั้งหมด
บางคน มีความสุขกับการอยู่กับคนอื่นในสังคม ก็ต้องรับผลบวกและผลลบของมันเช่นกัน
ความคิดเห็นที่ 42
มนุษย์ประเภทเพื่อนร่วมงานคุณนี่เป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถทำความเข้าใจได้เลยแหะ
ต่อให้พ่อแม่ผมตาย ผมก็ไม่ได้หวังจะให้ใครมาโศกเศร้าเสียใจกับผมหรอกนะ ทุกคนเค้าก็มีชีวิตเป็นของตัวเองอ่ะ ตราบใดที่เค้าไม่ได้มาโพสต์ว่าสมน้ำหน้าก็ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหายเลย มันคิดยากตรงไหน แค่นี้ก็เอามาเป็นประเด็น
ต่อให้พ่อแม่ผมตาย ผมก็ไม่ได้หวังจะให้ใครมาโศกเศร้าเสียใจกับผมหรอกนะ ทุกคนเค้าก็มีชีวิตเป็นของตัวเองอ่ะ ตราบใดที่เค้าไม่ได้มาโพสต์ว่าสมน้ำหน้าก็ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหายเลย มันคิดยากตรงไหน แค่นี้ก็เอามาเป็นประเด็น
ความคิดเห็นที่ 26
มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดไม่ผิด แต่เคยเจอคนประเภทไม่สนใจเรื่องของใคร ไม่เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา สนใจแต่เรื่องของตัวเองสนใจแต่ความรู้สึกของตัวเอง ซึ่งนิสัยแบบนี้ก็ส่งผลต่อทัศนคติในการทำงานด้วย ถ้าทั้งแผนกกำลังเศร้าเสียใจกับการสูญเสียของเพื่อนร่วมงานเราจะชะลอการโพสต์เฟสไปก่อนซักพัก เพราะตราบใดที่คนอื่นยังเข้ามาดูเฟสเราได้มันก็ไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัว แล้วถ้าเราเป็นเพื่อนร่วมงานคุณเราก็ไม่ไปตำหนิหรอกมันไม่ใช่เรื่องที่ต้องตำหนิกัน แต่มีความรู้สึกว่าคนคนนี้ไม่น่าคบ
ความคิดเห็นที่ 15
เอาใหม่ๆ พี่เจ้าของกระทู้ตายวันนี้ จขกท เสียใจ
เพื่อนๆไม่เสียใจเลย แล้วโพสต์รูปน้องแมวหน้าเฟสกันเต็มไปหมด
เพื่อนร่วมงานคนอื่นเห็นพากันกดไลค์
หน้าเฟสตัวเองทำได้อยู่แล้ว แต่คนที่อ่านบรรยากาศและกินเข้าไปในความรู้สึกของคนรอบตัวได้ คือคนที่ประสพความสำเร็จในการเข้าสังคมมากกว่า เป็นที่ชื่นชอบมากกว่า
แต่ไม่ทำหรือทำแต่สิ่งที่เราคิดว่าดีก็ไม่ได้ผิด
เพื่อนๆไม่เสียใจเลย แล้วโพสต์รูปน้องแมวหน้าเฟสกันเต็มไปหมด
เพื่อนร่วมงานคนอื่นเห็นพากันกดไลค์
หน้าเฟสตัวเองทำได้อยู่แล้ว แต่คนที่อ่านบรรยากาศและกินเข้าไปในความรู้สึกของคนรอบตัวได้ คือคนที่ประสพความสำเร็จในการเข้าสังคมมากกว่า เป็นที่ชื่นชอบมากกว่า
แต่ไม่ทำหรือทำแต่สิ่งที่เราคิดว่าดีก็ไม่ได้ผิด
แสดงความคิดเห็น
โพสต์รูปแมวแจกความสดใส โดนด่าว่าไม่รู้จักกาลเทศะ
ปล.พี่สาวของเพื่อนร่วมงานไม่ได้ทำงานที่บริษัทนี้นะ เราก็ไม่เคยเจอ