สวัสดีค่ะ เราชื่อเดล เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนโครงการ Engenius รุ่นที่ 3 เราไปที่ประเทศอเมริกาตั้งแต่เดือน กันยายน 2563 ถึงเดือน มิถุนายน 2564 เพิ่งกลับมาเมื่อวันที่ 7 มิถุนานี้เองค่ะ โครงการ Engenius เป็นโครงการเพิ่งเปิดใหม่ หลาย ๆ คนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน แต่ค่าโครงการรวม ๆ ส่วนตัวเราว่าค่อนข้างถูกกว่าโครงการอื่นแล้วพี่ ๆ Engeniusก็ดูแลดีมากเลย
ไฟลท์เราบินไปอเมริกาเมื่อตอนปลายเดือนสิงหาคม ตอนแรกไฟลท์เราจะบินจากไทยไป Frankfurt, Germany แต่ อยู่ๆทางอเมริกาก็ประกาศห้ามผู้โดยสารที่ลงที่ยูโรปเข้าประเทศโครงการเลยรีบหาไฟลท์ให้ใหม่ เราก็โทรไปบอกโฮสแฟมิลี่กับครอบครัว ทุกคนก็กังวลกันมากๆๆ รอที่สนามบินอยู่หลายชั่วโมง พี่ ๆ Engeniusก็ช่วยกันหาไฟลท์บินให้ได้ค่ะ เราก็ได้บินกับ Qatar Airway บินประมาณ 6 ชั่วโมงไปลงที่ Doha, Qatar แล้วต่ออีกประมาณ 16 ชั่วโมงเข้าอเมริกา พอถึงสนามบินที่ Minneapolis, Minnesota เราก็เจอกับโฮสตรงที่รับกระเป๋าค่ะ โฮสพาไปขึ้นรถแล้วก็ขับรถไปประมาณ 2 ชั่วโมงไปถึงบ้านโฮส ระหว่างทางเราเพลียมาก ๆ แต่โฮสก็คือตื่นเต้นที่ได้เจอเรา เขาพยายามชวนเราคุยตลอดทางเลย ต้องบอกก่อนนะคะว่าเรามีปัญหากับโฮสคนแรกแล้วย้ายโฮสหลังจากอยู่กับเขาได้ 2 เดือน พอเริ่มออกจากเมือง ก็เริ่มเห็นไร่ต่าง ๆ ค่ะ ทั้งไร่ข้าวโพด ไร่ถั่ว ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ฯลฯ โฮสคนแรกเราอยู่ในเมืองเล็ก ๆ คล้ายหมู่บ้านที่ไทยแต่บ้านแต่ละหลังอยู่ค่อนข้างห่างกันแล้วก็สไตล์ไม่เหมือนกัน เราต้องกักตัวอยู่ที่บ้านโฮส 14 วันแต่โฮสเราไม่ซีเรียสกับโควิดเท่าไหร่ เขาเลยพาเราไปเที่ยวดูรอบ ๆ จากบเานโฮสเราต้องขับรถประมาณ 40 นาทีถึงจะเจอร้านขายของแบบพวก Walmart, targetค่ะ คือค่อนข้างห่างไกลความเจริญอยู่พอสมควรแต่รอบบ้านก็เงียบสงบดีนะคะ ระหว่างกักตัวเราก็ต้องเรียนออนไลน์ด้วยค่ะ โรงเรียนส่ง Chromebook มาให้ แต่ตอนนั้นเรางง ๆ แล้วครูแต่ละคนก็ยังไม่ได้ชวนเข้าคลาสรูมเลยแทบไม่ได้เรียนเลย555 เราอยู่กับเด็กแลกเปลี่ยนจากเยอรมันอีกคนนึงค่ะชื่อว่าแดเนียล โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนที่รับตั้งแต่อนุบาลถึงม6หรือเกรด12 และเป็นโรงเรียนที่เล็กมากๆ ทั้งโรงเรียนมีทั้งหมด ประมาณ400กว่าคนแล้วHigh Schoolers (เกรด 9-12) มีประมาณร้อยกว่าคน ข้อดีของโรงเรียนเล็ก ก็คือทุกคนรู้จักกันหมดค่ะ แต่ข้อเสียคือจะไม่ค่อยเจอคนหลายแบบเท่าไหร่แบบเราเป็นคนเอเชียคนเดียวในโรงเรียนเลย แล้วก็กิจกรรมน้อยกว่าโรงเรียนใหญ่ ๆ ค่ะ วิชาที่เราเรียนก็มี Geology, American History, Advance Algebra, Choir, Band, Civics, Chemistry, English, Careersในเทอมแรก ส่วนเทอมสองเราสลับบางวิชาเป็ฯ Astronomy, Weightlifting, Digital Photographyแล้วก็Psychologyค่ะ
ที่นี่จะมีแค่ 8วิชาต่อ 1 เทอม บางวิชาต้องเรียนเต็มปี บางวิชาเรียนแค่เทอมเดียว โรงเรียนเราแบ่งวันที่เรียนคาบ1-4เรียนสลับวันกับคาบ 5-8 แล้วเรียนคาบละประมาณ 2 ชั่วโมง นักเรียนแบ่งเป็น2กลุ่มแล้วก็เรียนออนไลน์อาทิตย์นึงสลับกับไปโรงเรียนอาทิตย์นึง ทุกคนจะมีล็อคเก้อเอาไว้วางกระเป๋าแล้วเวลาเปลี่ยนคาบก็ย้ายห้องเรียนค่ะ ด้วยความที่โรงเรียนเราไม่ใหญ่มากแล้วห้องเรียนก็อยู่ติดๆกันเลยไม่ต้องรีบเท่าไหร่ ตอนพักเที่ยงจะลงไปที่cafeteria แล้วก็ต่อแถวรับอาหาร เราว่ารสชาติพอใช้ได้นะ โรงเรียนเรามีคาบพักหรือrecessหลังกินข้าว ก็คือจะเข้าไปในยิมแล้วก็ทำอะไรก็ได้ บางคนก็นั่งคุยกับเพื่อน นั่งเล่นโทรศัพท์ แต่ส่วนมากเราเล่นวอลเล่บอลกับเพื่อนค่ะ บางวันเราก็เข้าไปในห้องดนตรี เราสนิทกับครูสอนดนตรีช่วงพักเที่ยงบางวันครูเลยช่วยสอนเล่นเบส กลองชุด แคลริเนต เปียโน ทรอมโบน ฟลุตแล้วก็แซกโซโฟน ก็คือถ้าอยากเล่นเครื่องดนตรีอะไรครูเขาก็หามาให้เรายืมได้หมดเลยค่ะ ฟรีด้วยนะ!
ถ้าอยากเข้าสังคมแล้วมีเพื่อนเยอะๆที่นี่คือต้องลงกีฬาค่ะปกติเราไม่ใช่สายกีฬาแต่ก็คิดว่าลองออกจากcomfort zoneหน่อยละกัน เราลงวอลเล่บอลไปค่ะ ต้องซ้อมหลังเลิกเรียนทุกวัน วันละ 2 ชั่วโมงแล้วก็จะมีไปแข่งกับโรงเรียนอื่นด้วยค่ะ คนที่นี่supportiveมาก ๆ นะ คอยให้กำลังใจกันตลอดเวลาที่ซ้อมเลย นอกจากวอลเล่บอล American Footballยังเป็นกีฬาที่โรงเรียนเราฮิตมาก ๆ ด้วย เราได้ไปดูเขาแข่งเกือบทุกเกมเลยเพราะว่าเด็กแลกเปลี่ยนเยอรมันอยู่ในทีมฟุตบอลค่ะ เอาจริง ๆ เราดูบอลกี่รอบก็ดูไม่รู้เรื่องนะ ส่วนมากเวลาไปก็ไปให้กำลังใจเพื่อนไม่ก็ชวนคนคุย
ในช่วงเดียวกันก็จะมีงานHomecoming แต่เพราะมีโควิด แต่ละชั้นเลยส่งตัวแทนได้2คน ชายหญิงไปเข้าร่วมงาน แล้วคือเพื่อนก็โหวตเราไปกัน น่ารักมาก ๆ เลย ในงานก็คือเขาจะเรียกชื่อเราแล้วเราก็เดินไปให้เขาถ่ายรูปแล้วก็นั่งรอคนอื่นค่ะ หลังจบงานเราก็ไปกินข้าวกับเพื่อนที่ร้านอาหาร
วันฮาโลวีนเราไม่ได้ไป trick or treatค่ะ เด็กวัยเราส่วนมากจะไปปHalloween partyกันแทน ก็คือจะแต่งตัวกันแล้วก็ไปนอนบ้านเพื่อน ดูงหนังผี เล่นเกม ขับรถเล่น ประมาณนี้ค่ะ ช่วงฮาโลวีนเป็นช่วงเดียวกันกับที่เราย้ายโฮสค่ะ เรามีปัญหากับโฮสมัมบ่อยแล้วก็คิดว่าถ้าย้ายจะมีความสุขกว่า เราก็เลยย้าย แต่คือตอนย้ายเราก็ไม่รู้จะไปอยู่กับใคร เลยขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน เพื่อนก้เอาเรื่องไปบอกครูแล้วครูก็ปรึกษากันกับผอ. ช่วยหาโฮสให้เรากับแดเนียล สุดท้ายเราได้อยู่กับครูสอนAmerican Historyค่ะ โฮสใหม่เราอยู่out in the countryเลย รอบบ้านไม่มีอะไรนอกจากไร่ข้าวโพดแล้วก็ต้องขับรบไปประมาณ 10นาทีถึงจะเจอเมืองที่มีคนอยู่ บ้านโฮสเรามีม้า2ตัว หมาในบ้านตัวนึง หมาล่าสัตว์ตัวนึงอยู่นอกบ้านแล้วก็มีแมวเป็นสิบตัวเลย ในบ้านมีโฮสมัม โฮสแด๊ดแล้วก็ลูก 3 คนค่ะ ลูกชายคนโตเรียนมหาลัยก็เลยไม่อยู่บ้าน แล้วก็ลูกบุญธรรม2คนมาจากเกาหลีค่ะ โฮสใหม่เราดูแลดีมาก ๆ เลย
ช่วงหน้าหนาวของมินนิโซตาคือหนาวมาก ๆ แบบหนาวที่สุดติดลบ30กว่าองศาก็มี บางวันไม่ต้องไปโรงเรียนเพราะหิมะตกหนักเกิน ช่วงนี้ทุกคนจะอยู่บ้านกันเป็นส่วนมากซึ่งเราได้ใช้เวลากับโฮสแฟมิลี่เต็มที่เลย วันว่าง ๆ ก็ดูทีวี ทำอาหาร ทำขนม เล่นบอร์ดเกม แล้วก็ช่วงปลายพฤศจิกาถึงธันวาก็ฉลอง Thanksgiving กับ Christmas คนที่นี่ให้ความสำคัญกับของขวัญมากเลยค่ะ บ้านโฮสเรามีธรรมเนียมคือให้งบ 20 ดอลล่าร์ซื้อของขวัญอะไรก็ได้ให้ทุกคนในบ้านแล้วก็เอามาแลกกันค่ะ กิจกรรมหลังเลิกเรียนในฤดูหนาวคือบาส ละครเวทีและ เต้นแจ๊ส ซึ่งเราลงละครเวทีไปแต่เราไม่เคยเรียนการแสดงครูเลยให้บทพูดไม่เยอะมากแล้วก็ให้เราเล่นกีต้าเป็นดนตรีประกอบ นอกจากนี้โรงเรียนเรายังมีแข่งSolo Music Contestด้วยค่ะ เราลงแข่งร้องเพลง ครูสอนร้องเพลงที่โรงเรียนก็จะนัดเราไปติวในเวลาเรียนอาทิตย์ละครั้งค่ะ ปกติจะร้องบนเวทีแล้วก็มีคนมาดูแต่ว่าปีนี้ต้องแข่งทาง Zoomแทน โรงเรียนที่นี่ให้ความสำคัญกับกิจกรรมมากกว่าการเรียนแต่ว่าถ้าเรียนไม่ดีหรือมีงานค้างเขาก็ไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมนะคะ
พอเข้าฤดูใบไม้ผลิช่วงปลายมีนาคมหิมะก็ตกน้อยลงโควิดก็เริ่มซาลงแล้วโรงเรียนเลยให้เด็กไปโรงเรียนได้ปกติค่ะ โฮสเราเป็นโค้ชของทีมtrackเราก็เลยลง จะแบ่งเป็นแข่งวิ่งกับ field eventsก็คือ throwing กับ jumping trackของโรงเรียนเราไปซ้อมรวมกับโรงเรียนอื่นค่ะเพราะว่าจำนวนคนไม่พอแล้วก็ที่โรงเรียนไม่มีสนามวิ่ง ทำให้ได้รู้จักคนใหม่ ๆ เพิ่มอีกเยอะเลย
อ้อ แล้วก็ที่นี่มีงานพรอมด้วยนะ! ทุกคนจะแต่งตัวกันดี ๆ เพื่อไปงานเต้นรำ ไปกินข้าวที่ร้านอาหาร หลังจากพรอมจบก็มี after-prom โรงเรียนเราให้เล่น laser tag, บ้านลม, บอร์ดเกม แล้วทางโรงเรียนก็จ้าง Hypnotist มาแสดงด้วย
ช่วง Spring break คือเป็นปิดเทอมเล็ก ๆ 1 สัปดาห์ เป็นช่วงที่เป็นวันเกิดเราพอดี โฮสเลยพาไปฉลองที่ Black Hills รัฐSouth Dakota ได้ถ่ายรูปกับMount Rushmore ปีนเขา แล้วก็ไปเมือง Deadwood ซึ่งเป็นเมืองคาวบอยในสมัยก่อนค่ะ ในเมืองนี้เราได้ไป Ghost tourในโรงแรมผีสิงด้วยแหละ
สุดท้ายนี้ก็อยากแนะนำว่าถ้ามีโอกาสก็อยากให้ลองไปแลกเปลี่ยนดูนะคะ เราได้อะไรหลาย ๆ อย่างจากการไปแลกเปลี่ยน ได้ประสบการณ์ใหม่ ได้เพื่อน ได้พัฒนาภาษา แล้วก็ได้พัฒนาตัวเองด้วยนะ เรามีโอกาสได้คุยกับคนหลาย ๆ แบบที่ความคิดต่างกับเรามาก ๆ มันทำให้เรามองโลกได้กว้างขึ้น เรารู้สึกว่าเรารับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างรอบคอบมากขึ้นแล้วก็มีความรับผิดชอบมากขึ้นด้วยค่ะ
นักเรียนแลกเปลี่ยนประเทศสหรัฐอเมริกาช่วงโควิดกับโครงการEngenius (2020-2021)
ไฟลท์เราบินไปอเมริกาเมื่อตอนปลายเดือนสิงหาคม ตอนแรกไฟลท์เราจะบินจากไทยไป Frankfurt, Germany แต่ อยู่ๆทางอเมริกาก็ประกาศห้ามผู้โดยสารที่ลงที่ยูโรปเข้าประเทศโครงการเลยรีบหาไฟลท์ให้ใหม่ เราก็โทรไปบอกโฮสแฟมิลี่กับครอบครัว ทุกคนก็กังวลกันมากๆๆ รอที่สนามบินอยู่หลายชั่วโมง พี่ ๆ Engeniusก็ช่วยกันหาไฟลท์บินให้ได้ค่ะ เราก็ได้บินกับ Qatar Airway บินประมาณ 6 ชั่วโมงไปลงที่ Doha, Qatar แล้วต่ออีกประมาณ 16 ชั่วโมงเข้าอเมริกา พอถึงสนามบินที่ Minneapolis, Minnesota เราก็เจอกับโฮสตรงที่รับกระเป๋าค่ะ โฮสพาไปขึ้นรถแล้วก็ขับรถไปประมาณ 2 ชั่วโมงไปถึงบ้านโฮส ระหว่างทางเราเพลียมาก ๆ แต่โฮสก็คือตื่นเต้นที่ได้เจอเรา เขาพยายามชวนเราคุยตลอดทางเลย ต้องบอกก่อนนะคะว่าเรามีปัญหากับโฮสคนแรกแล้วย้ายโฮสหลังจากอยู่กับเขาได้ 2 เดือน พอเริ่มออกจากเมือง ก็เริ่มเห็นไร่ต่าง ๆ ค่ะ ทั้งไร่ข้าวโพด ไร่ถั่ว ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ฯลฯ โฮสคนแรกเราอยู่ในเมืองเล็ก ๆ คล้ายหมู่บ้านที่ไทยแต่บ้านแต่ละหลังอยู่ค่อนข้างห่างกันแล้วก็สไตล์ไม่เหมือนกัน เราต้องกักตัวอยู่ที่บ้านโฮส 14 วันแต่โฮสเราไม่ซีเรียสกับโควิดเท่าไหร่ เขาเลยพาเราไปเที่ยวดูรอบ ๆ จากบเานโฮสเราต้องขับรถประมาณ 40 นาทีถึงจะเจอร้านขายของแบบพวก Walmart, targetค่ะ คือค่อนข้างห่างไกลความเจริญอยู่พอสมควรแต่รอบบ้านก็เงียบสงบดีนะคะ ระหว่างกักตัวเราก็ต้องเรียนออนไลน์ด้วยค่ะ โรงเรียนส่ง Chromebook มาให้ แต่ตอนนั้นเรางง ๆ แล้วครูแต่ละคนก็ยังไม่ได้ชวนเข้าคลาสรูมเลยแทบไม่ได้เรียนเลย555 เราอยู่กับเด็กแลกเปลี่ยนจากเยอรมันอีกคนนึงค่ะชื่อว่าแดเนียล โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนที่รับตั้งแต่อนุบาลถึงม6หรือเกรด12 และเป็นโรงเรียนที่เล็กมากๆ ทั้งโรงเรียนมีทั้งหมด ประมาณ400กว่าคนแล้วHigh Schoolers (เกรด 9-12) มีประมาณร้อยกว่าคน ข้อดีของโรงเรียนเล็ก ก็คือทุกคนรู้จักกันหมดค่ะ แต่ข้อเสียคือจะไม่ค่อยเจอคนหลายแบบเท่าไหร่แบบเราเป็นคนเอเชียคนเดียวในโรงเรียนเลย แล้วก็กิจกรรมน้อยกว่าโรงเรียนใหญ่ ๆ ค่ะ วิชาที่เราเรียนก็มี Geology, American History, Advance Algebra, Choir, Band, Civics, Chemistry, English, Careersในเทอมแรก ส่วนเทอมสองเราสลับบางวิชาเป็ฯ Astronomy, Weightlifting, Digital Photographyแล้วก็Psychologyค่ะ
ที่นี่จะมีแค่ 8วิชาต่อ 1 เทอม บางวิชาต้องเรียนเต็มปี บางวิชาเรียนแค่เทอมเดียว โรงเรียนเราแบ่งวันที่เรียนคาบ1-4เรียนสลับวันกับคาบ 5-8 แล้วเรียนคาบละประมาณ 2 ชั่วโมง นักเรียนแบ่งเป็น2กลุ่มแล้วก็เรียนออนไลน์อาทิตย์นึงสลับกับไปโรงเรียนอาทิตย์นึง ทุกคนจะมีล็อคเก้อเอาไว้วางกระเป๋าแล้วเวลาเปลี่ยนคาบก็ย้ายห้องเรียนค่ะ ด้วยความที่โรงเรียนเราไม่ใหญ่มากแล้วห้องเรียนก็อยู่ติดๆกันเลยไม่ต้องรีบเท่าไหร่ ตอนพักเที่ยงจะลงไปที่cafeteria แล้วก็ต่อแถวรับอาหาร เราว่ารสชาติพอใช้ได้นะ โรงเรียนเรามีคาบพักหรือrecessหลังกินข้าว ก็คือจะเข้าไปในยิมแล้วก็ทำอะไรก็ได้ บางคนก็นั่งคุยกับเพื่อน นั่งเล่นโทรศัพท์ แต่ส่วนมากเราเล่นวอลเล่บอลกับเพื่อนค่ะ บางวันเราก็เข้าไปในห้องดนตรี เราสนิทกับครูสอนดนตรีช่วงพักเที่ยงบางวันครูเลยช่วยสอนเล่นเบส กลองชุด แคลริเนต เปียโน ทรอมโบน ฟลุตแล้วก็แซกโซโฟน ก็คือถ้าอยากเล่นเครื่องดนตรีอะไรครูเขาก็หามาให้เรายืมได้หมดเลยค่ะ ฟรีด้วยนะ!
ถ้าอยากเข้าสังคมแล้วมีเพื่อนเยอะๆที่นี่คือต้องลงกีฬาค่ะปกติเราไม่ใช่สายกีฬาแต่ก็คิดว่าลองออกจากcomfort zoneหน่อยละกัน เราลงวอลเล่บอลไปค่ะ ต้องซ้อมหลังเลิกเรียนทุกวัน วันละ 2 ชั่วโมงแล้วก็จะมีไปแข่งกับโรงเรียนอื่นด้วยค่ะ คนที่นี่supportiveมาก ๆ นะ คอยให้กำลังใจกันตลอดเวลาที่ซ้อมเลย นอกจากวอลเล่บอล American Footballยังเป็นกีฬาที่โรงเรียนเราฮิตมาก ๆ ด้วย เราได้ไปดูเขาแข่งเกือบทุกเกมเลยเพราะว่าเด็กแลกเปลี่ยนเยอรมันอยู่ในทีมฟุตบอลค่ะ เอาจริง ๆ เราดูบอลกี่รอบก็ดูไม่รู้เรื่องนะ ส่วนมากเวลาไปก็ไปให้กำลังใจเพื่อนไม่ก็ชวนคนคุย
ในช่วงเดียวกันก็จะมีงานHomecoming แต่เพราะมีโควิด แต่ละชั้นเลยส่งตัวแทนได้2คน ชายหญิงไปเข้าร่วมงาน แล้วคือเพื่อนก็โหวตเราไปกัน น่ารักมาก ๆ เลย ในงานก็คือเขาจะเรียกชื่อเราแล้วเราก็เดินไปให้เขาถ่ายรูปแล้วก็นั่งรอคนอื่นค่ะ หลังจบงานเราก็ไปกินข้าวกับเพื่อนที่ร้านอาหาร
วันฮาโลวีนเราไม่ได้ไป trick or treatค่ะ เด็กวัยเราส่วนมากจะไปปHalloween partyกันแทน ก็คือจะแต่งตัวกันแล้วก็ไปนอนบ้านเพื่อน ดูงหนังผี เล่นเกม ขับรถเล่น ประมาณนี้ค่ะ ช่วงฮาโลวีนเป็นช่วงเดียวกันกับที่เราย้ายโฮสค่ะ เรามีปัญหากับโฮสมัมบ่อยแล้วก็คิดว่าถ้าย้ายจะมีความสุขกว่า เราก็เลยย้าย แต่คือตอนย้ายเราก็ไม่รู้จะไปอยู่กับใคร เลยขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน เพื่อนก้เอาเรื่องไปบอกครูแล้วครูก็ปรึกษากันกับผอ. ช่วยหาโฮสให้เรากับแดเนียล สุดท้ายเราได้อยู่กับครูสอนAmerican Historyค่ะ โฮสใหม่เราอยู่out in the countryเลย รอบบ้านไม่มีอะไรนอกจากไร่ข้าวโพดแล้วก็ต้องขับรบไปประมาณ 10นาทีถึงจะเจอเมืองที่มีคนอยู่ บ้านโฮสเรามีม้า2ตัว หมาในบ้านตัวนึง หมาล่าสัตว์ตัวนึงอยู่นอกบ้านแล้วก็มีแมวเป็นสิบตัวเลย ในบ้านมีโฮสมัม โฮสแด๊ดแล้วก็ลูก 3 คนค่ะ ลูกชายคนโตเรียนมหาลัยก็เลยไม่อยู่บ้าน แล้วก็ลูกบุญธรรม2คนมาจากเกาหลีค่ะ โฮสใหม่เราดูแลดีมาก ๆ เลย
ช่วงหน้าหนาวของมินนิโซตาคือหนาวมาก ๆ แบบหนาวที่สุดติดลบ30กว่าองศาก็มี บางวันไม่ต้องไปโรงเรียนเพราะหิมะตกหนักเกิน ช่วงนี้ทุกคนจะอยู่บ้านกันเป็นส่วนมากซึ่งเราได้ใช้เวลากับโฮสแฟมิลี่เต็มที่เลย วันว่าง ๆ ก็ดูทีวี ทำอาหาร ทำขนม เล่นบอร์ดเกม แล้วก็ช่วงปลายพฤศจิกาถึงธันวาก็ฉลอง Thanksgiving กับ Christmas คนที่นี่ให้ความสำคัญกับของขวัญมากเลยค่ะ บ้านโฮสเรามีธรรมเนียมคือให้งบ 20 ดอลล่าร์ซื้อของขวัญอะไรก็ได้ให้ทุกคนในบ้านแล้วก็เอามาแลกกันค่ะ กิจกรรมหลังเลิกเรียนในฤดูหนาวคือบาส ละครเวทีและ เต้นแจ๊ส ซึ่งเราลงละครเวทีไปแต่เราไม่เคยเรียนการแสดงครูเลยให้บทพูดไม่เยอะมากแล้วก็ให้เราเล่นกีต้าเป็นดนตรีประกอบ นอกจากนี้โรงเรียนเรายังมีแข่งSolo Music Contestด้วยค่ะ เราลงแข่งร้องเพลง ครูสอนร้องเพลงที่โรงเรียนก็จะนัดเราไปติวในเวลาเรียนอาทิตย์ละครั้งค่ะ ปกติจะร้องบนเวทีแล้วก็มีคนมาดูแต่ว่าปีนี้ต้องแข่งทาง Zoomแทน โรงเรียนที่นี่ให้ความสำคัญกับกิจกรรมมากกว่าการเรียนแต่ว่าถ้าเรียนไม่ดีหรือมีงานค้างเขาก็ไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมนะคะ
พอเข้าฤดูใบไม้ผลิช่วงปลายมีนาคมหิมะก็ตกน้อยลงโควิดก็เริ่มซาลงแล้วโรงเรียนเลยให้เด็กไปโรงเรียนได้ปกติค่ะ โฮสเราเป็นโค้ชของทีมtrackเราก็เลยลง จะแบ่งเป็นแข่งวิ่งกับ field eventsก็คือ throwing กับ jumping trackของโรงเรียนเราไปซ้อมรวมกับโรงเรียนอื่นค่ะเพราะว่าจำนวนคนไม่พอแล้วก็ที่โรงเรียนไม่มีสนามวิ่ง ทำให้ได้รู้จักคนใหม่ ๆ เพิ่มอีกเยอะเลย
อ้อ แล้วก็ที่นี่มีงานพรอมด้วยนะ! ทุกคนจะแต่งตัวกันดี ๆ เพื่อไปงานเต้นรำ ไปกินข้าวที่ร้านอาหาร หลังจากพรอมจบก็มี after-prom โรงเรียนเราให้เล่น laser tag, บ้านลม, บอร์ดเกม แล้วทางโรงเรียนก็จ้าง Hypnotist มาแสดงด้วย
ช่วง Spring break คือเป็นปิดเทอมเล็ก ๆ 1 สัปดาห์ เป็นช่วงที่เป็นวันเกิดเราพอดี โฮสเลยพาไปฉลองที่ Black Hills รัฐSouth Dakota ได้ถ่ายรูปกับMount Rushmore ปีนเขา แล้วก็ไปเมือง Deadwood ซึ่งเป็นเมืองคาวบอยในสมัยก่อนค่ะ ในเมืองนี้เราได้ไป Ghost tourในโรงแรมผีสิงด้วยแหละ
สุดท้ายนี้ก็อยากแนะนำว่าถ้ามีโอกาสก็อยากให้ลองไปแลกเปลี่ยนดูนะคะ เราได้อะไรหลาย ๆ อย่างจากการไปแลกเปลี่ยน ได้ประสบการณ์ใหม่ ได้เพื่อน ได้พัฒนาภาษา แล้วก็ได้พัฒนาตัวเองด้วยนะ เรามีโอกาสได้คุยกับคนหลาย ๆ แบบที่ความคิดต่างกับเรามาก ๆ มันทำให้เรามองโลกได้กว้างขึ้น เรารู้สึกว่าเรารับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างรอบคอบมากขึ้นแล้วก็มีความรับผิดชอบมากขึ้นด้วยค่ะ