ชุมชน คนเร่ร่อน กลางกรุง London ที่พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงผู้รับอย่างเดียว... แต่ผันตัวเองเป็นผู้ให้ ตอบแทนสังคมอีกด้วย
คนเร่ร่อน เป็นปัญหาที่มีมาเนิ่นนานในทุกสังคม ถ้ามองลงมาจากภาพใหญ่ บางพื้นที่กางเต้นเรียงรายยาวไปทั่วทั้งเมืองอย่าง ใน Skid row (Los Angeles) หรือในอีกหลายเมืองทั่วโลก ประชากรผู้อพยบที่ไร้ที่พึ่ง และถูกแยกออกจากคนในสังคม
ปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด ความสะอาด ทัศนียภาพของเมือง หรืออะไรก็ว่ากัน ทั่วโลกกำลังหาวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับปัญหาเหล่านี้...
แต่กลับมีพื้นที่แห่งหนึ่งใจกลางกรุงLondon ที่คนไร้บ้าน มารวมตัวกัน สร้างเป็นชุมชนย่อมๆขึ้นมา ที่นี่เป็นชุมชนที่รวมคนไร้บ้าน ให้มาสร้างที่อยู่อาศัยแบบง่ายๆ แต่สวยด้วยสีสรรค์ทางศิลป
ผู้คนที่นี่ปลูกผักกินเอง สร้างงานศิลปะ เปิดเป็น Workshop ชงชา และการทำกาแฟ หรือแบ่งปันความรู้ที่ติดตัวพวกเขาถ่ายทอดให้กับคนทั่วไปอีกด้วย
หลังจากที่ผมเดินไปซื้อแผ่นเสียงที่ร้าน ROUCH TRADE เพราะมี ออร์เดอร์ที่ต้องส่งกลับไทย เดินลัดเลาะมาเพื่อจะขึ้นรถไฟในย่าน BrickLane ผ่าน Allen Gardens สายตาก็สะดุดกับชุมชนนึง ที่พวกเขาสร้างที่อยู่อาศัยแบบง่ายๆ แต่มากไปด้วยสีสัน และศิลปที่สะท้อนแสง เชิญชวนให้ใครก็ตามที่เห็นได้เดินเข้าไปเหมือนโดนป้ายยา

ชุมชนแห่งนี้มีชื่อว่า Nomadic Community Gardens ที่แปลว่า ชุมชนของคนเร่ร่อนนั้นเอง
ที่นี่เป็น โอเอซิส กลางเมืองที่ไม่แสวงผลกำไร ที่อยู่กันมากว่า 20ปี มีเตียงที่สามารถนอนได้ถึง 160เตียง และมีกำแพง Street Art ที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอนอีกด้วย
โดยที่ตรงกลางชุมชนจะการจุดไฟเพื่อผิงในยามที่อากาศติดลบ เพื่อให้ใครก็ตามที่มาเยือนชุมชนแห่งนี้ ได้
สัมผัส พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนเร่ร่อนที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ได้แลกเปลี่ยนความคิดกัน
และทำให้คนเร่ร่อนได้มีอาชีพ และที่สำคัญพวกเขาได้เห็นคุณค่าในตัวเอง...

ในระหว่างที่เยี่ยมชม ผมเห็นบางบ้านผู้เร่ร่อนนั่งเล่นกีตาร์ร้องเพลงกันกับผู้มาเยือน บ้างก็ยืนผิงไฟแลกเปลี่ยนมุมมองวิธีคิด หรือแม้แต่นั่งวาดภาพไปด้วยกัน มันดูเหมือนเมืองในอุดมคติ หรือ ยูโทเปียของคนเร่ร่อนเลยก็ว่าได้ ซึ่งผมไม่เคยเห็นบรรยากาศแบบนี้จากที่ไหนบนโลก หรือมันอาจมีแต่ผมไม่เคยเห็น

มนุษย์สร้างความภูมิใจจากคุณค่าในตัวเอง จากเรื่องเล็กๆในวัยเด็ก ตั้งแต่หัดพูด หัดเดิน หัดเขียน หรือหัดคิด เมื่อโตขึ้นก็เริ่มหัดทำอะไรหลายๆอย่าง เพื่อให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับของคนหมู่มาก
ความภูมิใจในตัวเองเล็กๆน้อยๆในแต่ละวัน มันเป็นเหมือนแรงพลักดันให้เราได้มีชีวิตต่อ และเป็นยาต้านโรคซึมเศร้าที่ดีอย่างนึง
และเมื่อเราเป็นสัตว์สังคม มันหมายถึงเราไม่มีทางแยกตัวออกจากสังคมได้ สภาพจิตใจเราจึงสำคัญทีสุด และการเป็นที่ยอมรับ ก็เป็นภูมิคุ้มกันที่ดีอย่างหนึ่งของการเป็นมนุษย์

มันคงไม่ยากเกินไปถ้าเราใช้เวลาเพียงแค่น้อยนิดในแต่ละวันพูดและส่งต่อในสิ่งที่เราสามารถ ทำให้คนรอบตัวเราเห็นถึงคุณค่าในตัวเองได้
และมันน่าจะดีกว่าการลดทอนความเป็นมนุษย์ ในทุกครั้งที่เรากำลังคิดลบกับใครซักคนและทำให้เขาต้องอยู่ในภาวะที่ต้องดูถูกตัวเอง
การพูดมันอาจจะฟังดูง่าย เพราะในขณะเดียวกันมนุษย์ก็มีความต้องการที่จะเป็นที่ยอมรับและเป็นจ่าฝูง ได้ด้วยกลไกลในตัวเองเช่นกัน
และการบูลี่ คนอื่นมันก็เป็นวิถีการง่ายๆที่ทำให้มนุษย์เกิดความรู้สึกว่าพวกเขานั้นเหนือกว่า โดยสร้างการยอมรับขึ้นในจิตใจตัวเอง และที่ไม่ต้องให้ใครมาบอกก็ได้เช่นกัน

Nomadic Community Gardens
Contract : Facebook / Nomadic Community Gardens
Location : Brick Lane London
Facebook/LAMKATANK
Instagram/LAMKATANK
Youtube/LANKATANK
ชุมชน คนเร่ร่อน กลางกรุง London ที่ไม่ได้เป็นเพียงผู้รับ... แต่ผันตัวเองเป็นผู้ให้ ตอบแทนสังคมอีกด้วย
คนเร่ร่อน เป็นปัญหาที่มีมาเนิ่นนานในทุกสังคม ถ้ามองลงมาจากภาพใหญ่ บางพื้นที่กางเต้นเรียงรายยาวไปทั่วทั้งเมืองอย่าง ใน Skid row (Los Angeles) หรือในอีกหลายเมืองทั่วโลก ประชากรผู้อพยบที่ไร้ที่พึ่ง และถูกแยกออกจากคนในสังคม
ปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด ความสะอาด ทัศนียภาพของเมือง หรืออะไรก็ว่ากัน ทั่วโลกกำลังหาวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับปัญหาเหล่านี้...
แต่กลับมีพื้นที่แห่งหนึ่งใจกลางกรุงLondon ที่คนไร้บ้าน มารวมตัวกัน สร้างเป็นชุมชนย่อมๆขึ้นมา ที่นี่เป็นชุมชนที่รวมคนไร้บ้าน ให้มาสร้างที่อยู่อาศัยแบบง่ายๆ แต่สวยด้วยสีสรรค์ทางศิลป
ผู้คนที่นี่ปลูกผักกินเอง สร้างงานศิลปะ เปิดเป็น Workshop ชงชา และการทำกาแฟ หรือแบ่งปันความรู้ที่ติดตัวพวกเขาถ่ายทอดให้กับคนทั่วไปอีกด้วย
หลังจากที่ผมเดินไปซื้อแผ่นเสียงที่ร้าน ROUCH TRADE เพราะมี ออร์เดอร์ที่ต้องส่งกลับไทย เดินลัดเลาะมาเพื่อจะขึ้นรถไฟในย่าน BrickLane ผ่าน Allen Gardens สายตาก็สะดุดกับชุมชนนึง ที่พวกเขาสร้างที่อยู่อาศัยแบบง่ายๆ แต่มากไปด้วยสีสัน และศิลปที่สะท้อนแสง เชิญชวนให้ใครก็ตามที่เห็นได้เดินเข้าไปเหมือนโดนป้ายยา
ชุมชนแห่งนี้มีชื่อว่า Nomadic Community Gardens ที่แปลว่า ชุมชนของคนเร่ร่อนนั้นเอง
ที่นี่เป็น โอเอซิส กลางเมืองที่ไม่แสวงผลกำไร ที่อยู่กันมากว่า 20ปี มีเตียงที่สามารถนอนได้ถึง 160เตียง และมีกำแพง Street Art ที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอนอีกด้วย
โดยที่ตรงกลางชุมชนจะการจุดไฟเพื่อผิงในยามที่อากาศติดลบ เพื่อให้ใครก็ตามที่มาเยือนชุมชนแห่งนี้ ได้
สัมผัส พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนเร่ร่อนที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ได้แลกเปลี่ยนความคิดกัน
และทำให้คนเร่ร่อนได้มีอาชีพ และที่สำคัญพวกเขาได้เห็นคุณค่าในตัวเอง...
ในระหว่างที่เยี่ยมชม ผมเห็นบางบ้านผู้เร่ร่อนนั่งเล่นกีตาร์ร้องเพลงกันกับผู้มาเยือน บ้างก็ยืนผิงไฟแลกเปลี่ยนมุมมองวิธีคิด หรือแม้แต่นั่งวาดภาพไปด้วยกัน มันดูเหมือนเมืองในอุดมคติ หรือ ยูโทเปียของคนเร่ร่อนเลยก็ว่าได้ ซึ่งผมไม่เคยเห็นบรรยากาศแบบนี้จากที่ไหนบนโลก หรือมันอาจมีแต่ผมไม่เคยเห็น
มนุษย์สร้างความภูมิใจจากคุณค่าในตัวเอง จากเรื่องเล็กๆในวัยเด็ก ตั้งแต่หัดพูด หัดเดิน หัดเขียน หรือหัดคิด เมื่อโตขึ้นก็เริ่มหัดทำอะไรหลายๆอย่าง เพื่อให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับของคนหมู่มาก
ความภูมิใจในตัวเองเล็กๆน้อยๆในแต่ละวัน มันเป็นเหมือนแรงพลักดันให้เราได้มีชีวิตต่อ และเป็นยาต้านโรคซึมเศร้าที่ดีอย่างนึง
และเมื่อเราเป็นสัตว์สังคม มันหมายถึงเราไม่มีทางแยกตัวออกจากสังคมได้ สภาพจิตใจเราจึงสำคัญทีสุด และการเป็นที่ยอมรับ ก็เป็นภูมิคุ้มกันที่ดีอย่างหนึ่งของการเป็นมนุษย์
มันคงไม่ยากเกินไปถ้าเราใช้เวลาเพียงแค่น้อยนิดในแต่ละวันพูดและส่งต่อในสิ่งที่เราสามารถ ทำให้คนรอบตัวเราเห็นถึงคุณค่าในตัวเองได้
และมันน่าจะดีกว่าการลดทอนความเป็นมนุษย์ ในทุกครั้งที่เรากำลังคิดลบกับใครซักคนและทำให้เขาต้องอยู่ในภาวะที่ต้องดูถูกตัวเอง
การพูดมันอาจจะฟังดูง่าย เพราะในขณะเดียวกันมนุษย์ก็มีความต้องการที่จะเป็นที่ยอมรับและเป็นจ่าฝูง ได้ด้วยกลไกลในตัวเองเช่นกัน
และการบูลี่ คนอื่นมันก็เป็นวิถีการง่ายๆที่ทำให้มนุษย์เกิดความรู้สึกว่าพวกเขานั้นเหนือกว่า โดยสร้างการยอมรับขึ้นในจิตใจตัวเอง และที่ไม่ต้องให้ใครมาบอกก็ได้เช่นกัน
Nomadic Community Gardens
Contract : Facebook / Nomadic Community Gardens
Location : Brick Lane London
Facebook/LAMKATANK
Instagram/LAMKATANK
Youtube/LANKATANK