โรงจำนำท่าแพ เผยยอดลดลง30% เหตุปชช.ไม่มีทรัพย์สินจำนำ บางรายมาไถ่ถอนเพื่อขายต่อ
https://www.matichon.co.th/region/news_2749860
 
โรงจำนำท่าแพ เผยยอดช่วงโควิดลดลง 30 % เหตุไม่มีทรัพย์สินจำนำอีก ไถ่ถอนคืนนำไปขายต่อ ช่วงเปิดเทอมเตรียมเงิน 50 ล้าน งดขายทรัพย์สินทอดตลาด 2 เดือน แต่ขยายเวลาไถ่ถอนคืนแทน
 
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม  นางภครัช จักขุเรือง ผู้จัดการสถาธนานุบาล 1 (ท่าแพ) เทศบาลนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สถานการณ์รับจำนำช่วงโควิดระบาดรอบ 3 ว่า มีผู้นำทร้พย์สินมาจำนำลดลงกว่า 30 % บางส่วนไม่มีทรัพย์สินมาจำนำอีก บางรายมาไถ่ถอนคืน เพื่อนำทรัพย์สินไปขายต่อ ทรัพย์สินที่นำมาจำนำส่วนใหญ่เป็นทองรูปพรรณ 90 % เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องมือช่าง 10 % โดยตีราคาทองจำนำบาทละ 20,000 บาท หรือ 80 % มูลค่าทรัพย์สิน ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าตีราคาไม่เกิน 50 % มูลค่าทรัพย์สิน เพราะมีค่าเสื่อมอยู่ ซึ่งได้เตรียมเงินจำนำช่วงโควิด และเปิดเทอม จำนวน 40-50 ล้านบาท มีบริการเพียงพอ ไม่น่าเป็นห่วงอย่างใด
 
อย่างไรก็ตาม ช่วงพฤษภาคม ที่เป็นช่วงเปิดเทอม มีผู้ใช้บริการนำทรัพย์สินมาจำนำ เฉลี่ยรายละ 20,000-30,000 บาท ขึ้นอยู่กับมูลค่าทรัพย์สิน ส่วนอัตราดอกเบี้ย เงินกู้ไม่เกิน 5,000 บาท คิดร้อยละ 20 สตางค์ ถ้าเกิน 5,000 บาท ร้อยละ 1 บาท ส่วนทรัพย์สินที่หลุดจำนำ หรือไม่มาไถ่ถอนมีน้อยลง ทำให้หยุดการขายทรัพย์สินทอดตลาดมา 2 เดือนแล้ว แต่ขยายเวลาไถ่ถอนทรัพย์สินจนถึงกรกฏาคมนี้แทน เพื่อให้ผู้ใช้บริการมีโอกาสได้ทรัพย์สินคืน
 

---

 
บราซิลลุกฮือทั่วประเทศ ชุมนุมแห่ไล่ผู้นำ รับมือโควิดห่วย
https://www.voicetv.co.th/read/DSxO5cRV2
 
ชาวบราซิลอย่างน้อย 16 เมืองทั่วประเทศ ชุมนุมประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีโบลโซนารู เหตุรับมือโควิดแย่
 
รอยเตอร์รายงานว่า เมื่อ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา ประชาชนชาวบราซิลในอย่างน้อย 16 เมืองทั่วประเทศ ออกมาชุมนุมประท้วง แสดงความไม่พอใจต่อมาตรการรับมือการระบาดโควิด-19 ของประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร ผู้นำบราซิล พร้อมป้ายข้อความขับไล่ “โบลโซนาโรออกไป” และ “ลงมติถอดถอนเดี๋ยวนี้” 
ช่วงที่ผ่านมาคะแนนนิยมของโบลโซนาโรดิ่งลงอย่างมาโดยเฉพาะวิกฤตโควิด-19 ซึ่งคร่าชีวิตชาวบราซิลไปแล้วกว่า 460,000 ราย จากการที่ผู้นำขวาจัดอย่างโบลโซนาโร ไม่ให้ความสำคัญกับการรับมือของสถานการณ์การแพร่ระบาดมากเท่าที่ควร รัฐบาลท้องถิ่นในแต่ละมลรัฐของบราซิลตั้งจัดการกันเอง ทั้งเขายังละเลยการสวมหน้ากากอนามัย และมีจุดยืนเคลือบแคลงข้อสงสัยถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีน
 
 ทั้งนี้ การชุมนุมประท้วงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งนำโดยพรรคการเมืองฝ่ายซ้าย, สหภาพแรงงาน และสมาคมนักศึกษาในกรุงบราซิเลียและนครริโอ เดอ จาเนโรเป็นไปอย่างสงบ อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ฉีดแก๊สน้ำตาและยิงกระสุนยางเข้าใส่ผู้ชุมนุมที่เมืองเรซีฟี ขณะที่การประท้วงในเมืองเซาเปาโล ซึ่งเป็นเมืองใหญ่สุดของบราซิล ผู้ชุมนุมหลายพันคนซึ่งสวมหน้ากากอนามัยได้ทำการปิดเส้นทางสัญจรของถนนสายใหญ่ของเมือง พร้อมบอลลูนหน้าโบลโซนาโรในร่างแวมไพร์ขนาดยักษ์