รู้หรือไม่? ประมาณ 2% ของประชากรโลก หรือราว ๆ 150 ล้านคน เป็นคนไร้บ้าน ดูเหมือนจะเป็นตัวเลขที่ไม่มาก เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งหมดของโลก แต่ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงแค่ตัวเลขที่ประมาณการขึ้นเท่านั้น เพราะการจัดประเภทว่าใครเป็นคนไร้บ้านนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศจะให้นิยามของคำว่า “คนไร้บ้าน (Homeless)” เป็นเช่นไร แต่โดยทั่วไป คนไร้บ้าน หมายถึง คนเร่ร่อน ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หรืออาศัยอยู่ตามถนน
.
สาเหตุของคนไร้บ้านมีหลายแง่มุม ขึ้นอยู่กับปัญหาเชิงโครงสร้างและปัจจัยแวดล้อมของตัวบุคคล แต่หลัก ๆ มีสาเหตุ ดังนี้
.
#บ้านราคาถูกไม่มีอีกแล้ว
เมื่อเมืองเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ พื้นที่อยู่อาศัยไม่เพียงพอต่อประชากร ราคาบ้านจึงสูงขึ้น ทางเลือกก็คือการย้ายไปอยู่แถว ๆ ชานเมือง แต่ก็ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาซะทีเดียว เพราะต้องเผชิญกับปัญหาระบบขนส่งสาธารณะที่ไม่สะดวก ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามมา เช่น ค่าประกันรถยนต์ ที่จอดรถ ค่าน้ำมันรถ และอื่น ๆ แม้ว่าจะมีความพยายามในการควบคุมราคาบ้านให้เหมาะสม แต่ค่าแรงกับค่าครองชีพมักไม่สอดคล้องกัน เช่น ในประเทศออสเตรเลีย ราคาของบ้านเพิ่มขึ้น 2.7% ทุกปี ในขณะที่ค่าแรงเพิ่มขึ้นเพียง 1.9% เท่านั้น นอกจากนี้ ผลการศึกษาในปี 2559 ของประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าอัตราค่าเช่า 1 ห้องนอน อยู่ที่ 16.35 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง หรือ 2 ห้องนอนอยู่ที่ 20.30 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง แต่ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 7.25 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงเท่านั้น
.
#การว่างงาน
คิดง่าย ๆ เมื่อมีคนตกงาน เขาก็จะไม่มีรายรับ ไม่มีรายรับก็ไม่สามารถจ่ายค่าเช่าหรือซื้อบ้านได้ ท้ายที่สุดก็กลายเป็นคนไร้บ้านได้อย่างง่ายได้ แต่ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่พยายามหางานหรอกนะ แต่เพราะงานในระบบไม่เพียงพอต่อประชาชน และประวัติส่วนตัวของผู้สมัคร เช่น ประวัติอาชญากร ความเจ็บป่วย และประวัติการทำงานที่ไม่สอดคล้องกับงานที่ต้องการสมัคร ทำให้การสมัครงานดูจะไม่ใช่เรื่องที่ง่ายจริง ๆ ตัวอย่างเช่น ในปี 2548 คนไร้บ้านในประเทศสเปน 75.7% คือ คนที่ว่างงาน และ 49.6% เป็นคนที่พยายามหางาน ขณะที่มองหาที่อยู่ถาวรด้วย และในปี 2550 การศึกษาในประเทศแคนาดา แสดงให้เห็นว่าครอบครัวที่มีรายรับต่ำ จะต้องไปหางานในชุมชนอื่น ๆ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะกลายเป็นคนไร้บ้าน
.
#ความรุนแรงในครอบครัว
โดยส่วนมาก เด็กและผู้หญิงมักจะเผชิญกับปัญหาความรุนแรงในครอบครัว พวกเขาจึงมักหนีออกจากบ้านโดยไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า ถ้าไม่มีที่ให้ไป ก็มักจะนอนในรถ ป้ายรถเมล์ หรือถนน พวกเขาสามารถที่จะไปอาศัยในที่พักพิงสำหรับคนเร่ร่อนได้ แต่ทว่าการถูกคุกคามทางเพศ ทำให้เด็กและผู้หญิงหลีกเลี่ยงที่จะไปอาศัยอยู่ในบ้านพักพิง เพราะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
.
ใช่ว่าประเทศพัฒนาแล้วจะไม่มีปัญหา แต่เมื่อเขารู้ถึงปัญหาเขาก็พยายามแก้ไขให้มันเบาบางที่สุด แล้วเพื่อน ๆ คิดว่านอกจากสาเหตุข้างต้นแล้ว ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกไหมที่ทำให้ยังมีคนไร้บ้าน ในประเทศที่พัฒนาแล้ว
อ้างอิง
https://yaleglobal.yale.edu/.../cities-grow-so-do-numbers...
https://www.humanrightscareers.com/.../root-causes-of.../
https://www.un.org/.../22/2019/05/CASEY_Louise_Paper.pdf
----------------
หากคุณเป็นคนขี้สงสัย ฝากกดติดตามเพจ ทำไมถึง - Why is it? จะได้มาหาคำตอบเรื่องที่สงสัยไปพร้อม ๆ กันค่ะ
https://www.facebook.com/Why.is.it.TH/
ทำไมถึง? ยังมีคนไร้บ้าน ในประเทศที่พัฒนาแล้ว
.
สาเหตุของคนไร้บ้านมีหลายแง่มุม ขึ้นอยู่กับปัญหาเชิงโครงสร้างและปัจจัยแวดล้อมของตัวบุคคล แต่หลัก ๆ มีสาเหตุ ดังนี้
.
#บ้านราคาถูกไม่มีอีกแล้ว
เมื่อเมืองเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ พื้นที่อยู่อาศัยไม่เพียงพอต่อประชากร ราคาบ้านจึงสูงขึ้น ทางเลือกก็คือการย้ายไปอยู่แถว ๆ ชานเมือง แต่ก็ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาซะทีเดียว เพราะต้องเผชิญกับปัญหาระบบขนส่งสาธารณะที่ไม่สะดวก ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามมา เช่น ค่าประกันรถยนต์ ที่จอดรถ ค่าน้ำมันรถ และอื่น ๆ แม้ว่าจะมีความพยายามในการควบคุมราคาบ้านให้เหมาะสม แต่ค่าแรงกับค่าครองชีพมักไม่สอดคล้องกัน เช่น ในประเทศออสเตรเลีย ราคาของบ้านเพิ่มขึ้น 2.7% ทุกปี ในขณะที่ค่าแรงเพิ่มขึ้นเพียง 1.9% เท่านั้น นอกจากนี้ ผลการศึกษาในปี 2559 ของประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าอัตราค่าเช่า 1 ห้องนอน อยู่ที่ 16.35 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง หรือ 2 ห้องนอนอยู่ที่ 20.30 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง แต่ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 7.25 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงเท่านั้น
.
#การว่างงาน
คิดง่าย ๆ เมื่อมีคนตกงาน เขาก็จะไม่มีรายรับ ไม่มีรายรับก็ไม่สามารถจ่ายค่าเช่าหรือซื้อบ้านได้ ท้ายที่สุดก็กลายเป็นคนไร้บ้านได้อย่างง่ายได้ แต่ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่พยายามหางานหรอกนะ แต่เพราะงานในระบบไม่เพียงพอต่อประชาชน และประวัติส่วนตัวของผู้สมัคร เช่น ประวัติอาชญากร ความเจ็บป่วย และประวัติการทำงานที่ไม่สอดคล้องกับงานที่ต้องการสมัคร ทำให้การสมัครงานดูจะไม่ใช่เรื่องที่ง่ายจริง ๆ ตัวอย่างเช่น ในปี 2548 คนไร้บ้านในประเทศสเปน 75.7% คือ คนที่ว่างงาน และ 49.6% เป็นคนที่พยายามหางาน ขณะที่มองหาที่อยู่ถาวรด้วย และในปี 2550 การศึกษาในประเทศแคนาดา แสดงให้เห็นว่าครอบครัวที่มีรายรับต่ำ จะต้องไปหางานในชุมชนอื่น ๆ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะกลายเป็นคนไร้บ้าน
.
#ความรุนแรงในครอบครัว
โดยส่วนมาก เด็กและผู้หญิงมักจะเผชิญกับปัญหาความรุนแรงในครอบครัว พวกเขาจึงมักหนีออกจากบ้านโดยไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า ถ้าไม่มีที่ให้ไป ก็มักจะนอนในรถ ป้ายรถเมล์ หรือถนน พวกเขาสามารถที่จะไปอาศัยในที่พักพิงสำหรับคนเร่ร่อนได้ แต่ทว่าการถูกคุกคามทางเพศ ทำให้เด็กและผู้หญิงหลีกเลี่ยงที่จะไปอาศัยอยู่ในบ้านพักพิง เพราะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
.
ใช่ว่าประเทศพัฒนาแล้วจะไม่มีปัญหา แต่เมื่อเขารู้ถึงปัญหาเขาก็พยายามแก้ไขให้มันเบาบางที่สุด แล้วเพื่อน ๆ คิดว่านอกจากสาเหตุข้างต้นแล้ว ยังมีสาเหตุอื่น ๆ อีกไหมที่ทำให้ยังมีคนไร้บ้าน ในประเทศที่พัฒนาแล้ว
อ้างอิง
https://yaleglobal.yale.edu/.../cities-grow-so-do-numbers...
https://www.humanrightscareers.com/.../root-causes-of.../
https://www.un.org/.../22/2019/05/CASEY_Louise_Paper.pdf
----------------
หากคุณเป็นคนขี้สงสัย ฝากกดติดตามเพจ ทำไมถึง - Why is it? จะได้มาหาคำตอบเรื่องที่สงสัยไปพร้อม ๆ กันค่ะ
https://www.facebook.com/Why.is.it.TH/