ผมเป็น เกย์คับ อายุ15 ผมเคยอยู่กับพ่อแม่ตอนเป็นเด็กคับ แม่พึ่งเสียเมื่อ3ปีก่อน ส่วนพ่อหลังจากแม่เสียก่ได้มีภรรยาใหม่และได้ย้ายไปอยู่กับภรรยาใหม่ ทิ้งให้ผมต้องมาอยู่กับป้าหรือก้อคือพี่สาวของแม่นั่นแหละครับปกติเเล้วผมรู้ตัวมาตั้งแต่เด็กว่าตัวเองไม่ชอบผู้หญิงและพ่อกับแม่รวมถึงญาติคนอื่นๆก็รู้เรื่องนี้ด้วยก้อมีแซวๆบ้างแต่ผมก่ไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะว่าผมอาศัยอยู่แค่กับพ่อแม่เป็นครอบครัวเล็กๆ ซึ่งพ่อแม่ก่สนับสนุนให้ผมเป็นคนดีและตั้งใจเรียน(เพราะผมเป็นคนที่ค่อนข้างเรียนดีอยู่แล้วครับและเรียนได้ที่1ของห้องมาตลอด)และไม่เคยพูดเรื่องเพศให้ผมรู้สึกว่ามันคือปมด้อยของตัวเองเลยแม้แต่น้อยเลยครับ
จนตั้งแต่ผมได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านป้า ป้าก้อเป็นคนที่เข้าใจผมและเป็นคนมีเหตุผลเหมือนแม่ผมไม่มีผิด แต่มีข้อเสียตรงที่ป้าเป็นคนที่เกรงใจลุง(แฟนป้า)ดังนั้นเวลาลุงพูดอะไรหรือเข้าข้างใครป้าก็จะไม่กล้าขัดและเชื่อหรือตามใจในสิ่งที่ลุงพูดอยู่เสมอหรือว่าจะค่อนข้างกลัวสามีตัวเองนั่นแหละครับซึ่งลุงแกเป็นคนอีสานครับและดูเหมือนจะไม่ชอบในตัวผมด้วยที่เป็นเกย์ (ปล.ลืมบอกไปครับว่าป้ากับลุงมีลูกสาวสองคนครับคนนึงโตและมีลูกแล้วแต่ยังไม่ได้ย้ายบ้านเพราะลูกยังเล็กอยู่ ส่วนอีกคนกำลังเรียนอยู่ปี3ครับ)
ตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่นี่ ผมนั้นต้องทำงานพาสไทม์เพื่อส่งตัวเองเรียนครับ พยายามใช้ความรู้เพื่อขอทุนและสอบเพื่อชิงโควต้าต่อโรงเรียนที่เรียนฟรีหรือไม่มีค่าใช้จ่ายถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สายที่ชอบแต่ผมก้อจำเป็นต้องเรียนเพราะเป็นโรงเรียนเดียวที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายส่วนโรงเรียนสายสามัญแถวนี้ก้อค่าเทอมสุดจะสูงผมคงส่งตัวเองไม่ไหว (ปล.ผมอยากเป็นครูเป็นหมอแต่ว่าจำต้องได้เข้าโรงเรียนสายอาชีพหรือศึกษาต่อในระดับปวช. สาขาบัญชี ซึ่งไม่มีทางเป็นหมอได้อีกแล้ว และสาขานี้ก็เป็นครูของราชการหรือสายสามัญแบบที่อยากเป็นไม่ได้เพราะไม่มีหลักสูตรบัญชีในสายสามัญ ถ้าจะเป็นก่เป็นได้แค่ครูธุรการซึ่งไม่ได้สอน) ไหนจะต้องมาแบ่งเงินให้ค่าน้ำค่าไฟค่ากินอยู่ถึง25%ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดของบ้าน ซึ่งปกติแล้วผมก็พยายามจะไม่กินอาหารที่บ้านอยู่แล้วเพราะผมไปทำงานก้อจะหาซื้อขนมปังกินเอาก่พออิ่มแล้ว ส่วนเงินไปโรงเรียนก่หาเอง แค่นี้ผมก้อเหนื่อยกับชีวิตและท้อมากพออยู่แล้วนะครับแต่ผมก้อพยายามคิดในแง่บวกเสมอว่ายังมีคนที่ยังลำบากกว่าผมอยู่อีกมาก
จนเมื่ออยู่ไป ลุงรวมถึงลูกสาวทั้งสอง จะชอบมาบูลลี่หรือพูดว่าผมในทางเสียๆให้ป้าฟังตลอด หรือต่อหน้าคนข้างบ้านและผู้ใหญ่คนอื่นๆทั้งๆที่มันไม่จริงเลยก็มี หรือเเซะแซวโดยใช้คำพูดที่กระทบจิตใจเกินไป เช่น บ่นให้เพื่อนหรือผู้ใหญ่ในหมู่บ้านคนอื่นๆว่าผมเป็นตัวถ่วงความเจริญของบ้าน ผิดเพศ ทำมาหากินอะไรก็ไม่เป็นอยากมีหลานเป็นผู้ชายก้อดันเป็นกะเทย ทุกครั้งที่ผมเข้าไปร้องให้ในห้องน้ำ แล้วลูกสาวสักคนนึงหรือลุงอยากจะเข้าก้อจะชอบพูดประมาณว่า ที่เข้านานเป็นเพราะเปลี่ยนผ้าอนามัยอยู่หรอ หรือว่าขัดผิวอยู่หรอ ขัดยังไงก็ไม่สวยหรอก เพราะไม่ใช่ผู้หญิงไงหละ แต่นี่มันยังน้อยไปนะครับ เพราะว่ามันมีมากกว่านี้อีก เช่นเวลาค่าไฟเพิ่มขึ้นแล้วป้าเริ่มบ่นหรือถามถึงสาเหตุทั้งๆที่เป็นเพราะลูกคนเล็กของมัน ทั้งชาจแบตมือถือ ทั้งไอแพด คนโตก้อเปิดทีวีทิ้งไว้ทั้งวัน เปิดพัดลม3-4เครื่องทั้งวันทั้งคืน ทั้งๆที่ผมไปทำงานและไม่ได้อยู่บ้านเลย หรือ ค่าน้ำที่เพิ่มขึ้นเพราะลูกคนเล็กที่เปิดน้ำทิ้งไว้และอาบน้ำฟังเพลงเป็นชั่วโมง รวมถึงพี่คนโตที่ชอบเอาน้ำเติมใส่อ่างลมและเปลี่ยนใหม่ทุกวันโดยที่บอกว่าน้ำมันสกปรกทั้งๆที่มันก้อสะอาดแล้วลุงก็จะเข้าข้างลูกตัวเองทั้งสองคนและบอกว่าเป็นเพราะผม ที่อาบน้ำนาน ใช้ไฟเยอะ ให้ให้มาเอาค่าใช้จ่ายที่ผมเพิ่มซึ่งผมก็จำเป็นต้องให้เพราะป้าเชื่อลุงอย่างสนิทใจ นี่ยังไม่นับที่ใช้แรงงานผมคนเดียวทั้งซักผ้าให้ทุกคน กวาดบ้าน ถูบ้าน ยกน้ำ เปลี่ยนน้ำในอ่างที่พี่คนโตให้เปลี่ยนทุกวันซึ่งอ่างน้ำนั้นบรรจุน้ำอยู่มากกว่า3,000ลิตรที่ผมต้องตักทิ้งให้ทุกวันตอนนี้ผมทนอยู่แบบนี้มาแล้วตลอด3ปี ผมเหนื่อยและท้อกับชีวิตเเย่ๆนี่สุดๆ หลายครั้งที่ผมอยากตาย และร้องไห้คนเดียว ต้องไปยืมเงินเจ้านายหรือเพื่อนมาจ่ายค่าต่างๆจนมีหนี้ตั้งแต่ยังเด็ก ผมควรทำยังไงดีครับ😥
คนในครอบครัวชอบบูลลี่ ครอบครัวแสนแย่ อยากตาย!?
จนตั้งแต่ผมได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านป้า ป้าก้อเป็นคนที่เข้าใจผมและเป็นคนมีเหตุผลเหมือนแม่ผมไม่มีผิด แต่มีข้อเสียตรงที่ป้าเป็นคนที่เกรงใจลุง(แฟนป้า)ดังนั้นเวลาลุงพูดอะไรหรือเข้าข้างใครป้าก็จะไม่กล้าขัดและเชื่อหรือตามใจในสิ่งที่ลุงพูดอยู่เสมอหรือว่าจะค่อนข้างกลัวสามีตัวเองนั่นแหละครับซึ่งลุงแกเป็นคนอีสานครับและดูเหมือนจะไม่ชอบในตัวผมด้วยที่เป็นเกย์ (ปล.ลืมบอกไปครับว่าป้ากับลุงมีลูกสาวสองคนครับคนนึงโตและมีลูกแล้วแต่ยังไม่ได้ย้ายบ้านเพราะลูกยังเล็กอยู่ ส่วนอีกคนกำลังเรียนอยู่ปี3ครับ)
ตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่นี่ ผมนั้นต้องทำงานพาสไทม์เพื่อส่งตัวเองเรียนครับ พยายามใช้ความรู้เพื่อขอทุนและสอบเพื่อชิงโควต้าต่อโรงเรียนที่เรียนฟรีหรือไม่มีค่าใช้จ่ายถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สายที่ชอบแต่ผมก้อจำเป็นต้องเรียนเพราะเป็นโรงเรียนเดียวที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายส่วนโรงเรียนสายสามัญแถวนี้ก้อค่าเทอมสุดจะสูงผมคงส่งตัวเองไม่ไหว (ปล.ผมอยากเป็นครูเป็นหมอแต่ว่าจำต้องได้เข้าโรงเรียนสายอาชีพหรือศึกษาต่อในระดับปวช. สาขาบัญชี ซึ่งไม่มีทางเป็นหมอได้อีกแล้ว และสาขานี้ก็เป็นครูของราชการหรือสายสามัญแบบที่อยากเป็นไม่ได้เพราะไม่มีหลักสูตรบัญชีในสายสามัญ ถ้าจะเป็นก่เป็นได้แค่ครูธุรการซึ่งไม่ได้สอน) ไหนจะต้องมาแบ่งเงินให้ค่าน้ำค่าไฟค่ากินอยู่ถึง25%ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดของบ้าน ซึ่งปกติแล้วผมก็พยายามจะไม่กินอาหารที่บ้านอยู่แล้วเพราะผมไปทำงานก้อจะหาซื้อขนมปังกินเอาก่พออิ่มแล้ว ส่วนเงินไปโรงเรียนก่หาเอง แค่นี้ผมก้อเหนื่อยกับชีวิตและท้อมากพออยู่แล้วนะครับแต่ผมก้อพยายามคิดในแง่บวกเสมอว่ายังมีคนที่ยังลำบากกว่าผมอยู่อีกมาก
จนเมื่ออยู่ไป ลุงรวมถึงลูกสาวทั้งสอง จะชอบมาบูลลี่หรือพูดว่าผมในทางเสียๆให้ป้าฟังตลอด หรือต่อหน้าคนข้างบ้านและผู้ใหญ่คนอื่นๆทั้งๆที่มันไม่จริงเลยก็มี หรือเเซะแซวโดยใช้คำพูดที่กระทบจิตใจเกินไป เช่น บ่นให้เพื่อนหรือผู้ใหญ่ในหมู่บ้านคนอื่นๆว่าผมเป็นตัวถ่วงความเจริญของบ้าน ผิดเพศ ทำมาหากินอะไรก็ไม่เป็นอยากมีหลานเป็นผู้ชายก้อดันเป็นกะเทย ทุกครั้งที่ผมเข้าไปร้องให้ในห้องน้ำ แล้วลูกสาวสักคนนึงหรือลุงอยากจะเข้าก้อจะชอบพูดประมาณว่า ที่เข้านานเป็นเพราะเปลี่ยนผ้าอนามัยอยู่หรอ หรือว่าขัดผิวอยู่หรอ ขัดยังไงก็ไม่สวยหรอก เพราะไม่ใช่ผู้หญิงไงหละ แต่นี่มันยังน้อยไปนะครับ เพราะว่ามันมีมากกว่านี้อีก เช่นเวลาค่าไฟเพิ่มขึ้นแล้วป้าเริ่มบ่นหรือถามถึงสาเหตุทั้งๆที่เป็นเพราะลูกคนเล็กของมัน ทั้งชาจแบตมือถือ ทั้งไอแพด คนโตก้อเปิดทีวีทิ้งไว้ทั้งวัน เปิดพัดลม3-4เครื่องทั้งวันทั้งคืน ทั้งๆที่ผมไปทำงานและไม่ได้อยู่บ้านเลย หรือ ค่าน้ำที่เพิ่มขึ้นเพราะลูกคนเล็กที่เปิดน้ำทิ้งไว้และอาบน้ำฟังเพลงเป็นชั่วโมง รวมถึงพี่คนโตที่ชอบเอาน้ำเติมใส่อ่างลมและเปลี่ยนใหม่ทุกวันโดยที่บอกว่าน้ำมันสกปรกทั้งๆที่มันก้อสะอาดแล้วลุงก็จะเข้าข้างลูกตัวเองทั้งสองคนและบอกว่าเป็นเพราะผม ที่อาบน้ำนาน ใช้ไฟเยอะ ให้ให้มาเอาค่าใช้จ่ายที่ผมเพิ่มซึ่งผมก็จำเป็นต้องให้เพราะป้าเชื่อลุงอย่างสนิทใจ นี่ยังไม่นับที่ใช้แรงงานผมคนเดียวทั้งซักผ้าให้ทุกคน กวาดบ้าน ถูบ้าน ยกน้ำ เปลี่ยนน้ำในอ่างที่พี่คนโตให้เปลี่ยนทุกวันซึ่งอ่างน้ำนั้นบรรจุน้ำอยู่มากกว่า3,000ลิตรที่ผมต้องตักทิ้งให้ทุกวันตอนนี้ผมทนอยู่แบบนี้มาแล้วตลอด3ปี ผมเหนื่อยและท้อกับชีวิตเเย่ๆนี่สุดๆ หลายครั้งที่ผมอยากตาย และร้องไห้คนเดียว ต้องไปยืมเงินเจ้านายหรือเพื่อนมาจ่ายค่าต่างๆจนมีหนี้ตั้งแต่ยังเด็ก ผมควรทำยังไงดีครับ😥