เรียกได้ว่าประเด็นอาจจะเก่า แต่ไม่ตกเทรนด์อย่างแน่นอน กับปัญหา iPhone 12 ไม่มีสายชาร์จมาให้ และในปลายปีนี้ที่ iPhone 13 จะเปิดตัว ก็ค่อนข้างแน่ใจได้เลยว่า ไม่น่าจะมีสายชาร์จแถมมาให้ด้วยเช่นกัน ซึ่งปกติสายชาร์จ iPhone นั้นมีอายุซัก 1 – 2 ปี ก็เริ่มเปื่อยแล้ว ใครที่หวังจะเปลี่ยนมาใช้งาน iPhone 13 ในสิ้นปีนี้ ก็น่าจะต้องเตรียมตัวหาสายชาร์จรอเอาไว้ได้เลย แต่ปัญหาเรื่อง iPhone 12 ไม่มีสายชาร์จ นี้อาจจะเป็นโอกาสที่ดีให้คุณได้ลองเปิดใจกับสายชาร์จนอกแบรนด์ ที่อาจจะอยู่กับคุณได้นานกว่าสายของค่ายหลักหลายปี พร้อมทั้งคุณภาพการทำงานที่เทียบเท่าก็หรือสูงกว่าก็เป็นได้

โดยกระทู้นี้เราจะเริ่มจากสเปคพื้นฐานของสายชาร์จ Apple กันก่อน 
 


สายชาร์จ Apple iPhone 
ราคา: 690 บาท
กระแสไฟรองรับ: 2.4 A
อายุการใช้งาน: แล้วแต่คน แต่ส่วนมากจะตายที่ 2 -3 ปี
คุณสมบัติอื่น ๆ :  วัสดุย่อยสลายได้ในธรรมชาติ ดีต่อสิ่งแวดล้อม 
 
โดยเราจะใช้สเปค 4 ส่วนนี้ เป็นตัวเลือกสายที่น่าสนใจอื่น ๆ กัน โดยในส่วนอายุการใช้งานนั้น เราจะอ้างอิงจากวัสดุ สเปคจากทางแบรนด์ รวมไปถึงการใช้งานของทีมงาน Mercular เป็นหลักนะครับ

สายชาร์จ Belkin
เริ่มต้นกับแบรนด์ MFI คู่ชีวิตของ Apple อย่าง Belkin ที่นอกจากสินค้าที่ถูกออกแบบมาให้ทำงานกับ Apple ได้อย่างเข้าด้ายเข้าเข็มแล้ว การตั้งราคา ของ Belkin ก็ยังมีความ Apple ไม่ต่างกัน เรื่องคุณภาพการใช้งานคู่กับ หัวชาร์จและอุปกรณ์ iOS Device ไม่มีปัญหา เพราะ Belkin เป็นแบรนด์ที่เป็น Partner Apple อยู่แล้ว ผ่านมาตรฐาน MFI ใส ๆ แถมมีทั้งรุ่นที่ถูกกว่า และแพงกว่า โดยจะแตกต่างกันอย่างไรเราไปดูกัน
 



สายชาร์จ Belkin Lightning Sync and Charge
ราคา: 590 บาท
กระแสไฟรองรับ: 2.4 A
อายุการใช้งาน: 3 – 4 ปี
คุณสมบัติอื่น ๆ : -
สำหรับสาย Belkin Sync & Charge นั้น ต้องบอกว่า เป็นสายที่สเปคเหมือนสายชาร์จ iPhone ทุกอย่าง ใช้ได้แบตไม่เสื่อม และมีราคาถูกกว่าราคากลางอีก 100 บาท และเนื่องจากไม่ได้ใช้วัสดุย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ทำให้ตัวมันมีอายุการใช้งานเฉลี่ยยาวนานกว่านั่นเอง สำหรับใครที่อยากได้สายชาร์จแบบดีไซน์ไม่ต่างจากสาย iPhone ปกติมาก ก็แนะนำเป็นตัวนี้เลย
 

สายชาร์จ Belkin Metallic
ราคา: 790 บาท
กระแสไฟรองรับ: 2.4 A
อายุการใช้งาน: 4 ปีขึ้นไป
คุณสมบัติอื่น ๆ : -
ต่อมาด้วยสายแบบ Extra Durable อย่างสายชาร์จ MFI ถักโลหะจาก Belkin ซึ่งนอกจากที่เป็นสายถักโลหะแล้ว สายชาร์จรุ่นนี้ก็จะมีฝาแฝดเป็นสายถัก Nylon อีกเส้น ที่มีความทนทานรองลงมาเล็กน้อย แต่ก็เป็นที่ขึ้นชื่อกันอยู่แล้วว่าสายถักนั้นเป็นประเภทที่อึดและทนที่สุดในบรรดาสายชาร์จ แม้ว่าจะแลกมาด้วยขนาดที่เทอะทะขึ้นหน่อย แต่ใครที่อยากลงทุนครั้งเดียวอยู่ได้ไปนาน ๆ ก็ลองมาใช้งานสายถักดูก็ได้

สายชาร์จ Anker
สำหรับแบรนด์ Anker เป็นอีก 1 แบรนด์ Mobile Accessories ที่นิยมในประเทศอเมริกา ด้วยความได้เปรียบของการเป็นบริษัทจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นแนวหน้า ทำให้มีศักยภาพในการผลิตสินค้าคุณภาพสูงได้อย่างยอดเยี่ยม แน่นอนว่าเป็นอีก 1 เจ้าที่ทำสินค้า MFI ได้มาตรฐานจริง ๆ เป็นอีก 1 ยี่ห้อที่ตีคู่มากับ Belkin เลยก็ว่าได้ แถมในไลน์สินค้าที่ดูไม่มีอะไรให้น่าสนใจอย่างสายชาร์จ ก็ยังยังมีลูกบ้าในเรื่องการสร้างกระแสมาให้อมยิ้มประปรายเช่นกัน



สายชาร์จ Anker Powerline Series
ราคา: เริ่มต้น 390 บาท
กระแสไฟรองรับ: 2.4 A
อายุการใช้งาน: 3-4 ปี (รองรับการบิดงอไม่ต่ำกว่า 12,000 ครั้งในรุ่นต่ำสุด )
คุณสมบัติอื่น ๆ : -
ถ้าจะให้แนะนำสายชาร์จ Anker ก็แนะนำให้มองหาสาย Anker Powerline Series ที่มีให้เลือกหลายช่วงราคา โดยปัจจุบันก็มีออกมาแล้วมากมายหลายรุ่นหลายราคา โดยถ้าใครกลัวสับสนเรื่องสเปคจุดสังเกตุก็ง่าย ๆ ว่า ยิ่งใหม่กว่า ก็ยิ่งดีกว่า (ในเรื่องความทนทานและความเร็วการส่งข้อมูล) ส่วนใครที่สงสัยว่าใน Series Powerline จะมีรุ่นปกติกับ Anker Powerline+ อยู่ ก็จะเป็นเรื่องวัสดุสายแบบถัก กับแบบธรรมดานั่นเอง
 

สายชาร์จ Anker PowerLine+ III 2020 Special Edition 24K Gold
ราคา: 3,490 บาท
กระแสไฟรองรับ: 2.4 A
อายุการใช้งาน: 4 ปีขึ้นไป (รองรับการปิดงอไม่ต่ำกว่า 35,000 ครั้ง)
คุณสมบัติอื่น ๆ : เคลือบทอง 24K
 
ไม่พูดถึงไม่ได้จริง ๆ สำหรับคนมีตัง กับสายชาร์จเร็ว iPhone เคลือบทอง 24K จาก Anker แน่นอนว่าเป็นตัวเลือกสำหรับคนอยากหรู อย่างเรา ๆ เอาใจ แฟน Apple ที่สเปคไม่ว่าขอแพงไว้ก่อน ที่หลาย ๆ คนใช้สินค้าเพื่อแสดงตัวตนของตัวเอง และให้ความรู้สึกพรีเมียม เสริม Brand Image ของ Apple ขึ้นไปอีกระดับ ส่วนการใช้งานนั้นก็ไม่ต่างจากสายชาร์จ Anker ทั่ว ๆ ไป รับประกันว่าใช้งานกับ Apple ได้อย่างลื่นไหล

สายชาร์จ UNIQ
สำหรับ UNIQ เป็นแบรนด์อิเล็กทรอนิกส์ที่เน้นเรื่องการออกแบบเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นสินค้า พาวเวอร์แบงค์, อะแดปเตอร์, สายชาร์จ, เคสโทรศัพท์ UNIQ ก็จะมีการออกแบบที่สวยงามโดดเด่นจากแบรนด์อื่นที่มีราคาช่วงเดียวกัน  และถือว่าเป็นอีกแบรนด์ที่จัดว่ามีสเกลใหญ่ และเชื่อถือได้นั่นเอง



สายชาร์จ UNIQ Flex 
ราคา: 690 บาท
กระแสไฟรองรับ: 3 A
อายุการใช้งาน: 3 ปี
คุณสมบัติอื่น ๆ : -
สาย UNIQ Flex เป็นสาย Type-C to Lightning ทำให้มันมีแรงดันไฟ และกำลังไฟที่รองรับสูงกว่าสายอื่น ๆ แม้ว่าการใช้งานกับ Apple จะมีการจำกัดความแรงของกระแสไฟสูงสุดเอาไว้ แต่การที่สายรองรับกำลังและปริมาณไฟสูงสุดเกินมาเล็กน้อยทำให้สามารถคุมกระแสไฟได้ดีขึ้นและทำให้ความเร็วการชาร์จไฟสูงขึ้นตามลำดับ  สำหรับคนที่อยากได้สายชาร์จเร็ว iPhone จริง ๆ ก็แนะนำให้เลือกเป็นสาย Type C to Lightning จะได้ความเร็วสูงสุดครับ
 
สาย MFI แพงจัง แล้วแบรนด์ถูก ๆ จะไหวมั้ย ? 
ผ่านแบรนด์ Top 3 กันไปแล้ว เรามาดูแบรนด์ราคาประหยัดกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็น Remax Eloop และอื่น ๆ อีกมากมาย แม้ว่าจะมีราคาถูกอยู่ในหลักหน่วยถึงหลักร้อยต้น ๆ สบายกระเป๋าก็ตาม แต่จริง ๆ  ต้องมองว่าเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย เพราะสายชาร์จถูก ๆ ที่ไม่มีการรับรอง MFI เมื่อใช้งานต่อเนื่อง เครื่องมือถือของเราจะเรียนรู้ว่าพวกมันไม่ได้คุณภาพ และบันทึกเอาไว้ว่า มันไม่ดี ไม่เอา ไม่รับ เพราะสาย Lightning มีชิปอัจฉริยะฝังไว้ มือถือและสายชาร์จจึงคุยกันรู้เรื่องนั่นเอง นั่นทำให้พอใช้งานไปไม่กี่เดือนมือถือเราก็มักจจะแจ้งเตือน Accessory not Support ใน 3 – 6 เดือน เป็นการเตือนว่า ฉันไม่เอาสายชาร์จเส้นนี้แล้วนะ ซึ่งสาเหตุมาจากความเสถียรของกระแสไฟ ที่ส่งมานั้นมีความเหวี่ยงทำแบตเตอรี่ได้รับการชาร์จที่ไม่เสถียร ส่งผลให้แบตเสื่อมนั่นเอง ถ้ามองว่าสายเหล่านี้มีมูลค่า 100 บาทต่อเส้น ต่อให้เทียบกับสาย iPhone 690 บาท ถ้าต้องเปลี่ยนทุก 3 เดือน ก็ยังแพงกว่าใช้สาย Apple ยาว 2 ปีอีกนั่นเอง 
 
ฉะนั้นวันนี้ Mercular.com เตือนไว้ก่อนเลยว่า กับเรื่องสายชาร์จลงทุนหน่อยคุ้มกว่า และปลอดภัยกว่าแน่นอน สำหรับสุดท้ายนี้ใครมีปัญหาเกี่ยวกับสายชาร์จของตัวเองว่า ทำไมถึงใช้งานได้ไม่ดี มีปัญหาหรือว่าเป็น MFI หรือไม่ อยากได้คำแนะนำอะไรก็เข้ามาพูดคุยกันได้เลยบนกระทู้นี้นะครับ หรือจะติดต่อไปทางเพจ และเว็บ mercular.com ของเราก็ยังได้ ! แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าสวัสดีครับ