'พิธา'จี้รบ.ตอบ4ข้อปมวัคซีนแอสตราฯ มาตามนัดหรือไม่?
https://www.dailynews.co.th/politics/845650
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงสถานการณ์การเเพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาล ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประชาชน ว่า ในวันนี้ตนมีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งต่อสถานการณ์การจัดซื้อและกระจายวัคซีนของประเทศไทย ที่ไม่กระจายความเสี่ยง เลือกที่จะแทงม้าตัวเดียวทั้งยังล่าช้าอีกด้วย ทั้งที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้เคยออกมาเตือนไปแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่กลับถูกรัฐบาลฟ้องร้องดำเนินคดี และวันนี้คำเตือนเหล่านั้นก็กลับมาเป็นจริงที่หลอกหลอนผู้มีอำนาจตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง
เนื่องจากความหวังของประเทศไทยทั้งหมดฝากเอาไว้กับวัคซีนแอสตราเซเนกา รัฐบาลสัญญาไว้ว่าจะมีเข้ามาล็อตใหญ่ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ถึงวันนี้ ยังไม่มีความชัดเจนจากรัฐบาลว่า วัคซีนแอสตราเซเนกา ล็อตแรกที่สัญญากับประชาชนไว้ จะมาตามนัดได้หรือไม่ เพราะจากแผนเดิมที่รัฐบาลประกาศว่าจะมีวัคซีนจากสยามไบโอไซเอนซ์ เข้ามา 1.7 ล้านโดส ในช่วงวันที่ 17-21 พ.ค.นั้น ปัจจุบันชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลไม่สามารถทำได้อย่างที่พูดไว้ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะ “อาจจะมีปัญหาเรื่องค่าเบี่ยงเบนตามเอกสารนิดหน่อย” ตามคำของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
นาย
พิธา กล่าวต่อไปว่า ประเด็นเเรก จากพฤติการณ์ทั้งหมดที่ปรากฏในหน้าข่าว ทั้งการให้ข่าวของนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ที่ระบุ ว่าการออกมาสื่อสารของโรงพยาบาลเองก็ดี หรือแม้แต่ข้อมูลที่ได้มาจากเจ้าหน้าที่กระทรวงในชั้นกรรมาธิการ สรุปแล้ว ประเทศไทยจะได้รับวัคซีนแอสตราฯ ตั้งแต่เดือนมิ.ย.เป็นต้นไป จนครบตามจำนวนและได้ภายในเงื่อนเวลาที่รัฐบาลประกาศไว้ตั้งแต่แรกหรือไม่ จะมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเงื่อนไขใดๆ หรือไม่อย่างไร ประเด็นที่สอง อุบัติเหตุหรือความขัดข้องใดๆ ในกระบวนการผลิตและส่งมอบวัคซีนนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ปัญหาที่เกิดจากการแทงม้าตัวเดียวต่างจากประเทศส่วนมากในโลกตั้งแต่แรกนั้น ถ้าเกิดความขัดข้องใดๆ เราจะมีแผนสำรองเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างไรบ้าง
นาย
พิธา กล่าวต่อว่า ประเด็นที่สาม การระบาดในประเทศก็ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากในกทม.เกิดคลัสเตอร์ใหม่จำนวนมาก ไม่มีแนวโน้มลดลง ส่วนในต่างจังหวัดทั่วประเทศก็มีคลัสเตอร์เกิดใหม่เพิ่มขึ้น และที่จ.นราธิวาสพบเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ทำให้แนวโน้มการระบาด ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในอนาคตอันใกล้ยังคงน่าเป็นห่วง ดังนั้นรัฐมีแนวทางในการรับมืออย่างไร ถ้าเกิดการระบาดด้วยไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ในประเทศไทย ในขณะที่วัคซีนหลักอย่างแอสตราฯ มีรายงานว่ามีประสิทธิภาพต่ำเมื่อเจอกับไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ประเด็นสุดท้าย สรุปแล้วแผนหลักของการกระจายวัคซีนของรัฐบาลมีเนื้อหาหน้าตาอย่างไร และควรจะต้องประกาศให้ประชาชนรับทราบให้ตรงกัน พร้อมกับเหตุผลคำอธิบาย เพื่อไม่ทำให้เกิดคำถามหรือคำครหาตามหลังมาว่า มีการเลือกปฏิบัติในบางจังหวัด บางพื้นที่ หรือให้เฉพาะแค่ประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
“การให้ข้อมูลที่แท้จริงกับประชาชนเป็นสิ่งปกติที่พึงกระทำ ยิ่งในห้วงวิกฤตแบบนี้ ยิ่งควรต้องสื่อสารให้ข้อมูลอย่างตรงประเด็น รอบด้านที่สุด เท่าที่จะทำได้ ดังนั้นผมจึงขอใช้โอกาสนี้สื่อสารเพื่อสอบถามไปยังรัฐบาลให้เร่งรีบชี้แจงให้สังคมได้รับความกระจ่างเพื่อยุติความโกลาหลทางข้อมูลข่าวสารและให้ประชาชนมั่นใจโดยมีพื้นฐานบนข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว.
ท่องเที่ยวน่าห่วง อังกฤษฟื้นครึ่งเดียวเทียบก่อนโควิด ส่วนไทยอาจต้องรอถึง 5 ปี ถึงฟื้น
https://brandinside.asia/tourism-industry-get-worse/
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังน่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะยังเผชิญความกดดันอย่างหนักจากโควิดระลอกแล้วระลอกเล่า ไม่มีทีท่าจะฟื้นตัวได้สักที ในอังกฤษที่แม้สถานการณ์ดูดีขึ้นก็คาดการณ์กันว่าการท่องเที่ยวในปีนี้จะกลับมาแค่ครึ่งเดียว ส่วนประเทศไทยอาจต้องรอไปถึง 5 ปีกว่าจะฟื้นตัวในปี 2026
อังกฤษเริ่มฟื้นตัว แต่การท่องเที่ยวยังฟื้นแค่ครึ่งเดียวเทียบกับก่อนการระบาด
การท่องเที่ยวยังคงอาการหนัก ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศที่โควิดกำลังคลายตัวอย่างอังกฤษ โดย VisitBritain หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักรคาดการณ์สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวปี 2021 เอาไว้ดังนี้
• รายได้การท่องเที่ยวภายในประเทศ 5.14 หมื่นล้านปอนด์ (2.28 ล้านล้านบาท)
• รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.2 พันล้านปอนด์ (2.75 แสนล้านบาท)
ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับรายได้ก่อนการระบาดในปี 2019
• รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศ 91.6 หมื่นล้านปอนด์ (4.07 ล้านล้านบาท)
• รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.84 หมื่นล้านปอนด์ (1.26 ล้านล้านบาท)
พูดง่ายๆ ก็คือ รายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็นเกือบครึ่งนึงเทียบกับช่วงก่อนการระบาด และที่สำคัญมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติน้อยกว่า 1 ใน 4
แม้แต่ในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวกลับมาแล้วอย่างอังกฤษ ตัวเลขด้านการท่องเที่ยวยังน่ากังวล จึงน่าเป็นห่วงว่าประเทศไทยที่เพิ่งจะเจอการระบาดระลอกใหม่ที่ดูจะรุนแรงที่สุดตั้งแต่เกิดการระบาดจะเป็นอย่างไร
ไทยย่ำแย่ จะให้การท่องเที่ยวกลับมาอีกทีต้องรอไปอีก 5 ปี
ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจพึ่งพาการท่องเที่ยวสูงที่สุดประเทศหนึ่งในโลก
• ปี 2019 ไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเกือบ 2 ล้านล้านบาท (คิดเป็น 1 ใน 5 ของเศรษฐกิจประเทศ)
• คนกว่า 7 ล้านคน ทำงานในภาคการท่องเที่ยว (คิดเป็น 10% ของประชากร)
ณ ตอนนี้ เศรษฐกิจไทยหดตัว 5 ไตรมาสติดต่อกันเข้าไปแล้ว และข่าวร้ายสำหรับภาคการท่องเที่ยวก็คือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ออกมาประกาศเองว่าภาคการท่องเที่ยวจะไม่ฟื้นตัวจนกว่าจะถึงปี 2569
JJNY : พิธาจี้ตอบ4ข้อปมแอสตราฯ│ท่องเที่ยวไทยอาจต้องรอถึง5ปีถึงฟื้น│แก้มบุ๋มชี้ตายเพราะไม่มีจะกิน│ชาวโคราชโวย!วัคซีนไม่พอ
https://www.dailynews.co.th/politics/845650
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงสถานการณ์การเเพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาล ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประชาชน ว่า ในวันนี้ตนมีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งต่อสถานการณ์การจัดซื้อและกระจายวัคซีนของประเทศไทย ที่ไม่กระจายความเสี่ยง เลือกที่จะแทงม้าตัวเดียวทั้งยังล่าช้าอีกด้วย ทั้งที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้เคยออกมาเตือนไปแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่กลับถูกรัฐบาลฟ้องร้องดำเนินคดี และวันนี้คำเตือนเหล่านั้นก็กลับมาเป็นจริงที่หลอกหลอนผู้มีอำนาจตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง
เนื่องจากความหวังของประเทศไทยทั้งหมดฝากเอาไว้กับวัคซีนแอสตราเซเนกา รัฐบาลสัญญาไว้ว่าจะมีเข้ามาล็อตใหญ่ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ถึงวันนี้ ยังไม่มีความชัดเจนจากรัฐบาลว่า วัคซีนแอสตราเซเนกา ล็อตแรกที่สัญญากับประชาชนไว้ จะมาตามนัดได้หรือไม่ เพราะจากแผนเดิมที่รัฐบาลประกาศว่าจะมีวัคซีนจากสยามไบโอไซเอนซ์ เข้ามา 1.7 ล้านโดส ในช่วงวันที่ 17-21 พ.ค.นั้น ปัจจุบันชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลไม่สามารถทำได้อย่างที่พูดไว้ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะ “อาจจะมีปัญหาเรื่องค่าเบี่ยงเบนตามเอกสารนิดหน่อย” ตามคำของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
นายพิธา กล่าวต่อไปว่า ประเด็นเเรก จากพฤติการณ์ทั้งหมดที่ปรากฏในหน้าข่าว ทั้งการให้ข่าวของนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ที่ระบุ ว่าการออกมาสื่อสารของโรงพยาบาลเองก็ดี หรือแม้แต่ข้อมูลที่ได้มาจากเจ้าหน้าที่กระทรวงในชั้นกรรมาธิการ สรุปแล้ว ประเทศไทยจะได้รับวัคซีนแอสตราฯ ตั้งแต่เดือนมิ.ย.เป็นต้นไป จนครบตามจำนวนและได้ภายในเงื่อนเวลาที่รัฐบาลประกาศไว้ตั้งแต่แรกหรือไม่ จะมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเงื่อนไขใดๆ หรือไม่อย่างไร ประเด็นที่สอง อุบัติเหตุหรือความขัดข้องใดๆ ในกระบวนการผลิตและส่งมอบวัคซีนนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ปัญหาที่เกิดจากการแทงม้าตัวเดียวต่างจากประเทศส่วนมากในโลกตั้งแต่แรกนั้น ถ้าเกิดความขัดข้องใดๆ เราจะมีแผนสำรองเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างไรบ้าง
นายพิธา กล่าวต่อว่า ประเด็นที่สาม การระบาดในประเทศก็ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากในกทม.เกิดคลัสเตอร์ใหม่จำนวนมาก ไม่มีแนวโน้มลดลง ส่วนในต่างจังหวัดทั่วประเทศก็มีคลัสเตอร์เกิดใหม่เพิ่มขึ้น และที่จ.นราธิวาสพบเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ทำให้แนวโน้มการระบาด ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในอนาคตอันใกล้ยังคงน่าเป็นห่วง ดังนั้นรัฐมีแนวทางในการรับมืออย่างไร ถ้าเกิดการระบาดด้วยไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ในประเทศไทย ในขณะที่วัคซีนหลักอย่างแอสตราฯ มีรายงานว่ามีประสิทธิภาพต่ำเมื่อเจอกับไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ประเด็นสุดท้าย สรุปแล้วแผนหลักของการกระจายวัคซีนของรัฐบาลมีเนื้อหาหน้าตาอย่างไร และควรจะต้องประกาศให้ประชาชนรับทราบให้ตรงกัน พร้อมกับเหตุผลคำอธิบาย เพื่อไม่ทำให้เกิดคำถามหรือคำครหาตามหลังมาว่า มีการเลือกปฏิบัติในบางจังหวัด บางพื้นที่ หรือให้เฉพาะแค่ประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
“การให้ข้อมูลที่แท้จริงกับประชาชนเป็นสิ่งปกติที่พึงกระทำ ยิ่งในห้วงวิกฤตแบบนี้ ยิ่งควรต้องสื่อสารให้ข้อมูลอย่างตรงประเด็น รอบด้านที่สุด เท่าที่จะทำได้ ดังนั้นผมจึงขอใช้โอกาสนี้สื่อสารเพื่อสอบถามไปยังรัฐบาลให้เร่งรีบชี้แจงให้สังคมได้รับความกระจ่างเพื่อยุติความโกลาหลทางข้อมูลข่าวสารและให้ประชาชนมั่นใจโดยมีพื้นฐานบนข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว.
ท่องเที่ยวน่าห่วง อังกฤษฟื้นครึ่งเดียวเทียบก่อนโควิด ส่วนไทยอาจต้องรอถึง 5 ปี ถึงฟื้น
https://brandinside.asia/tourism-industry-get-worse/
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังน่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะยังเผชิญความกดดันอย่างหนักจากโควิดระลอกแล้วระลอกเล่า ไม่มีทีท่าจะฟื้นตัวได้สักที ในอังกฤษที่แม้สถานการณ์ดูดีขึ้นก็คาดการณ์กันว่าการท่องเที่ยวในปีนี้จะกลับมาแค่ครึ่งเดียว ส่วนประเทศไทยอาจต้องรอไปถึง 5 ปีกว่าจะฟื้นตัวในปี 2026
อังกฤษเริ่มฟื้นตัว แต่การท่องเที่ยวยังฟื้นแค่ครึ่งเดียวเทียบกับก่อนการระบาด
การท่องเที่ยวยังคงอาการหนัก ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศที่โควิดกำลังคลายตัวอย่างอังกฤษ โดย VisitBritain หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักรคาดการณ์สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวปี 2021 เอาไว้ดังนี้
• รายได้การท่องเที่ยวภายในประเทศ 5.14 หมื่นล้านปอนด์ (2.28 ล้านล้านบาท)
• รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.2 พันล้านปอนด์ (2.75 แสนล้านบาท)
ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับรายได้ก่อนการระบาดในปี 2019
• รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศ 91.6 หมื่นล้านปอนด์ (4.07 ล้านล้านบาท)
• รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.84 หมื่นล้านปอนด์ (1.26 ล้านล้านบาท)
พูดง่ายๆ ก็คือ รายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็นเกือบครึ่งนึงเทียบกับช่วงก่อนการระบาด และที่สำคัญมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติน้อยกว่า 1 ใน 4
แม้แต่ในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวกลับมาแล้วอย่างอังกฤษ ตัวเลขด้านการท่องเที่ยวยังน่ากังวล จึงน่าเป็นห่วงว่าประเทศไทยที่เพิ่งจะเจอการระบาดระลอกใหม่ที่ดูจะรุนแรงที่สุดตั้งแต่เกิดการระบาดจะเป็นอย่างไร
ไทยย่ำแย่ จะให้การท่องเที่ยวกลับมาอีกทีต้องรอไปอีก 5 ปี
ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจพึ่งพาการท่องเที่ยวสูงที่สุดประเทศหนึ่งในโลก
• ปี 2019 ไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเกือบ 2 ล้านล้านบาท (คิดเป็น 1 ใน 5 ของเศรษฐกิจประเทศ)
• คนกว่า 7 ล้านคน ทำงานในภาคการท่องเที่ยว (คิดเป็น 10% ของประชากร)
ณ ตอนนี้ เศรษฐกิจไทยหดตัว 5 ไตรมาสติดต่อกันเข้าไปแล้ว และข่าวร้ายสำหรับภาคการท่องเที่ยวก็คือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ออกมาประกาศเองว่าภาคการท่องเที่ยวจะไม่ฟื้นตัวจนกว่าจะถึงปี 2569