ปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นจากคนที่ตัดสินใจไม่ฉีดวัคซีนแต่เกิดจากคนที่ไม่นึกถึงส่วนรวมไม่ใส่ mask มั่วสุมเมามายปาร์ตี้กัน

ผมคิดว่ากลุ่มคนที่ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโควิทและวัคซีนโควิทแล้วตัดสินใจว่าจะไม่ฉีดวัคซีนเค้าน่าจะระมัดระวังตัวเองดีอยู่แล้ว 
เพราะการที่ไม่มีวัคซีนไม่มีภูมิอยู่ในร่างกายเลยแน่นอนเค้าจะไม่ประมาทและไม่เอาตัวเองไปอยู่ในจุดที่สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ 
กลุ่มคนที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือกลุ่มที่มักง่ายไม่นึกถึงส่วนรวมและพวกไม่มีความรู้หรือไม่สนใจเรื่องโควิทเรื่องวัคซีนเลย 

1 กลุ่มมักง่ายไม่นึกถึงสังคม - ต้องยอมรับความจริงว่าขนาด กทม ยอดผู้ติดเชื้อสูงทุกวันมีคนตายทุกวันก็ยังมีพวกที่ไม่สนใจไม่กลัวอยู่ดีทั้งไม่ใส่ mask และไปมั่วสุมเมามายปาร์ตี้กัน อย่างเคสเกย์ปาร์ตี้กลางกรุงก็วุ่นอีกหลังตรวจพบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิทอยู่ในหมู่นักเที่ยวด้วยเป็นการให้ตำรวจต้องไปตรวจหาเชื้อกันอีก คนพวกนี้ยิ่งถ้าได้รับการฉีดวัคซีนก็จะยิ่งทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงต่อการรับเชื้อและแพร่เชื้อมากขึ้นไปอีกเพราะคิดว่าตัวเองมีภูมิแล้วทั้งๆที่ความเป็นจริงถึงฉีดวัคซีนแล้วก็ยังติดเชื้อแพร่เชื้อหรือแม้แต่ตายเพราะโควิทได้อยู่ดี 

2 กลุ่มที่ไม่รู้ประสาอะไรเลย - ผมว่ายังมีคนอีกจำนวนมากที่มีความเข้าใจผิดคิดว่าฉีดวัคซีนแล้ว = ไม่ติดเชื้อ ไม่แพร่เชื้อ ไม่ตายเพราะโควิท แล้วก็จะไม่ใส่ mask รวมถึงนำพาตนเองไปอยู่ในจุดที่สุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ/รับเชื้อเพราะความเข้าใจผิดครับ 

รัฐต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างจริงจังกับคนที่ฝ่าฝืนทำผิดกฏจนอาจสร้างความชิพฮายต่อสังคมรวมถึงให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัคซีนให้ประชาชนที่อาจจะไม่รู้ประสาอะไรเลยกับโรคๆนี้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่