สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
คุณลองแทนตัวกลับกันก็ได้ครับ
ว่า ถ้าคุณเป็นคนขับแท็กซี่คนนั้น แล้วมีคนทำให้คุณต้องขาดรายได้
ทั้งๆ ที่มีค่าใช้จ่ายรายวัน คุณจะเดือนร้อนแค่ไหน
ผมเห็นว่า วิธีที่ยุติธรรมคือ รายได้เฉลี่ย ต่อวันของเขาเท่าไหร่ แล้วคูณจำนวนวัน
ที่เขาต้องขาดรายได้ไป ถ้าเหลือวันละ 1000 จากการขับแท็กซี่ ดังนั้นการชดเชย
10000 บาท มันก็สมเหตุสมผลครับ
คุณอย่าเอามุมมองของคุณว่า มันมากเกินไปซิครับ
นาทีนั้น ถ้าไม่มีเขามาช่วย พ่อคุณกำลังจะจากไป จะเสียเงินแสนเงินล้านหมดตัว
ผมว่าคุณก็ยังยอมตกลง อย่าเป็นเพราะว่าผ่านมาแล้ว มาเสียดายเงินเลย
ถ้าเขาไม่เดือดร้อน ผมว่าเขาก็คงไม่มารบกวนคุณหรอกครับ
ว่า ถ้าคุณเป็นคนขับแท็กซี่คนนั้น แล้วมีคนทำให้คุณต้องขาดรายได้
ทั้งๆ ที่มีค่าใช้จ่ายรายวัน คุณจะเดือนร้อนแค่ไหน
ผมเห็นว่า วิธีที่ยุติธรรมคือ รายได้เฉลี่ย ต่อวันของเขาเท่าไหร่ แล้วคูณจำนวนวัน
ที่เขาต้องขาดรายได้ไป ถ้าเหลือวันละ 1000 จากการขับแท็กซี่ ดังนั้นการชดเชย
10000 บาท มันก็สมเหตุสมผลครับ
คุณอย่าเอามุมมองของคุณว่า มันมากเกินไปซิครับ
นาทีนั้น ถ้าไม่มีเขามาช่วย พ่อคุณกำลังจะจากไป จะเสียเงินแสนเงินล้านหมดตัว
ผมว่าคุณก็ยังยอมตกลง อย่าเป็นเพราะว่าผ่านมาแล้ว มาเสียดายเงินเลย
ถ้าเขาไม่เดือดร้อน ผมว่าเขาก็คงไม่มารบกวนคุณหรอกครับ
ความคิดเห็นที่ 30
โดนห้ามทำมาหากิน 14 วัน ทั้งที่ปกติคุณต้องหามาใช้จ่ายวันต่อวัน
เรียกหมื่นเดียว ยังคิดว่าแพงอีก
วินาทีที่พ่อคุณป่วย เงินแสนก็แทบจะประเคนให้ พอหายป่วย หมื่นเดียวก็แพง
แปลกใจที่ไม่กลัวกฎแห่งกรรมบ้าง วันนึงตัวเองเดือดร้อนเพราะช่วยเหลือใครด้วยใจแล้วเราต้องลำบากจากการไปช่วยเขา เขากลับทอดทิ้ง ถึงวันนั้นน้ำตาจะตกใน
คุณไม่ใช่เจ้าของเรื่อง ไม่ใช่เจ้าของเงิน ทำอะไรไม่ค่อยได้หรอกค่ะ อย่างดีก็แค่ช่วยพูดดึงสติ ถ้าเขาว่าว่าคุณไปยุ่งเรื่องของเขา คุณก็จบเกม ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว
ถ้าเป็นปัญหาของเรา เรามีศักยภาพแก้เองได้ ก็สบายไป แต่เมื่อมันเป็นปัญหาของคนอื่น คนอื่นเท่านั้นที่มีสิทธิ์แก้ คุณก็ต้องทำใจ คุณทำเท่าที่ทำได้เพื่อความสบายใจของตัวเองคนเดียวก็พอค่ะ
เรียกหมื่นเดียว ยังคิดว่าแพงอีก
วินาทีที่พ่อคุณป่วย เงินแสนก็แทบจะประเคนให้ พอหายป่วย หมื่นเดียวก็แพง
แปลกใจที่ไม่กลัวกฎแห่งกรรมบ้าง วันนึงตัวเองเดือดร้อนเพราะช่วยเหลือใครด้วยใจแล้วเราต้องลำบากจากการไปช่วยเขา เขากลับทอดทิ้ง ถึงวันนั้นน้ำตาจะตกใน
คุณไม่ใช่เจ้าของเรื่อง ไม่ใช่เจ้าของเงิน ทำอะไรไม่ค่อยได้หรอกค่ะ อย่างดีก็แค่ช่วยพูดดึงสติ ถ้าเขาว่าว่าคุณไปยุ่งเรื่องของเขา คุณก็จบเกม ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว
ถ้าเป็นปัญหาของเรา เรามีศักยภาพแก้เองได้ ก็สบายไป แต่เมื่อมันเป็นปัญหาของคนอื่น คนอื่นเท่านั้นที่มีสิทธิ์แก้ คุณก็ต้องทำใจ คุณทำเท่าที่ทำได้เพื่อความสบายใจของตัวเองคนเดียวก็พอค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โดนเรียกร้อง ค่าชดเชยจากโควิด 19
พ่อเรารู้ผลว่าติดโควิดในวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่วนแม่นั้นยังรอผลในว่าติดเชื้อหรือไม่ในวันนี้คะ
อาการของพ่อไม่มีการบ่งบอกว่าติดเชื้อโควิด ทามไลน์ไม่ชัดเจน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาพ่อไม่สามารถลุกและเดินไหว ไม่สามารถไป รพ. ได้ด้วยตัวเอง เลยทําการวานคนรู้จักกันแถวบ้าน (เป็นคนขับแท๊กซี่) ช่วยอุ้มไปขึ้นรถและขับรถไปส่งที่ รพ. (หมอที่ รพ. ห้องฉุกเฉิน คาดว่าจากโรคอื่นไม่ใช่โควิด และมาทราบผลในวันจันทร์)
ทุกคนรอบตัวเลยต้องกักตัวเพื่อติดเชื้อที่มาช่วยในวันนั้น โดยเฉพาะคนขับแท๊กซี่ (สัมผัสโดยตรง) ต้องกักตัว 14 วัน
คร่าวนี้ทางคนรู้จักของแท๊กซี่ออกมาเรียกร้องค่าชดเชยให้คนขับแท๊กซี่ (ตัวคนขับร้องไห้อย่างเดียว เพราะกลัวลูกจะอดตาย) เนื่องจากเค้าไม่มีรายได้และเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นจํานวณเงิน 1 หมื่นบาท และยังมีคนอื่นๆตามมาอีก 1 - 2 คน แต่ยอดไม่เยอะเท่าไร
คือญาติๆ(คนถือเงินครอบครัว)ไม่เห็นด้วยที่จะให้เงินขนาดนี้ เราเป็นคนกลางทําอะไรไม่ได้ ได้แค่เป็นสื่อกลาง ถ้าไม่ช่วยเค้ามันก็ผิดหลักมนุษย์ธรรมใช่ไหมค่ะ เพราะว่าเค้าช่วยอุ้มพ่อเรา ไม่งั้นก็ไม่มีใครมาอุ้มพาไปส่ง รพ.
คิดไม่ออกว่าจะหาทางออกได้อย่างไร คนที่มีอํานาจต่อรองก็พูดไม่ได้ไปแล้ว
** แก้ไข้แท๊ก + แก้ไข้ให้อ่านง่ายขึ้น**