เมื่อแฟนเจอเราครั้งแรก แล้วรับไม่ได้เพราะ..

     คือต้องขอเกริ่นเรื่องตั้งแต่ตอนแรกก่อนเลยนะคะ ทุกคนจะได้เข้าใจตรงกัน
เราเป็นคนพิการตั้งแต่เกิดแล้วค่ะ(พิการตรงช่วงต้นขา เวลาที่เดินมันจะเป็นลักษณะเหมือนคนนั่งยองๆเดินอะค่ะ555)
ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเราเคยโกหกคนที่เราคุยๆหรือแฟนที่คบกัน(ทั้งที่ยังไม่เคยเจอกัน รู้จักกันในโซเชียล) 
และพอได้คุยกันมาซักพักนึง เขาก็อยากจะมาเจอเรา ในตอนนั้นเราก็เลยตัดสินใจบอกว่าเราเป็นคนพิการนะ แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่เราเคยไปโกหกเขาว่า
เราไม่ได้พิการตั้งแต่เกิด เราเกิดอุบัติเหตุประมาณนี้ค่ะ ส่วนสาเหตุที่ต้องโกหกเพราะว่าเราไม่อยากให้ใครมองว่าเราน่าสงสารที่เลือกเกิดไม่ได้ เราก็เลยคิดสร้างเรื่องเพื่อต้องการปกป้องความรู้สึกของตัวเราเองค่ะก็เลยจำเป็นต้องโกหกไปแบบนั้น พอหลังจากที่ผชคนนั้นรู้ เขาก็บอกกับเราว่า"รับได้นะ เรื่องแค่นี้เอง ไม่ต้องคิดมาก" ช่วงเวลาตอนนั้นเราโคตรแบบดีใจมากที่มีคนรับในตัวตนของเราได้ 

 *จนพอถึงวันที่ต้องมาเจอกัน เมื่อเขามาเห็นสภาพร่างกายจริงๆของเรา Reactionแรกที่เราเห็นจากสีหน้าของเขาคือ เขาตกใจมาก ดูช็อคไปเลย555 
เราก็ถามเขาไปตรงๆต่อหน้าเลยว่ารับได้จริงหรอ เขาก็ตอบแบบฝืนๆว่าก็โอเค(แต่เรารู้ เพราะเราดูออกว่าไม่โอเคแน่ๆ)
หลังจากที่ต่างคนต่างกลับบ้านแยกย้ายกันแล้ว ก็ได้คุยกันต่อในแชท ซึ่งสิ่งที่เขาพิมพ์ตอบเรามามันไม่เหมือนเดิม เขาดูไม่ค่อยอยากคุยกับเราเหมือนก่อนที่จะเจอเรา แล้วสุดท้ายเขาก็ตัดสินใจบอกเลิกเรา เขาก็ให้เหตุผลว่าเขายังช็อคกับสิ่งที่เจออยู่ เขารับไม่ได้ แล้วก็ขอโทษเรา 
ตอนนั้นเราโคตรเสียใจ เสียใจมาก เคยจะคิดสั้นเพียงเพราะแค่ผชคนเดียว แต่เราก็ยอมรับกับการตัดสินใจของเขา แล้วก็เข้าใจเขานะ
เพราะลองมองในมุมกลับกัน ถ้าเราเจอแบบนี้เราก็คงไม่โอเค แล้วก็คงจะปฏิเสธเหมือนกัน

หลังจากนั้นเราก็เลยเปลี่ยนแฟนใหม่(ยังไม่เข็ดอีกนะ555) เปลี่ยนมาหลายคนแล้วก็เลิกกันเพราะเขารับเราไม่ได้ จนเราก็เลยคิดอยากจะเปลี่ยนทัศนคติใหม่ในการที่จะยอมบอกความจริงไปเลยตั้งแต่แรกว่าเราเป็นคนพิการตั้งแต่เกิดเลยนะ เผื่อถ้าใครเข้ามาคุยกับเราแล้วรู้เรื่องนี้ ถ้ารับได้ก็จะได้คุยต่อ จะได้ไม่ต้องเสียเวลา กล้าที่จะยอมรับแสดงความจริงใจไปเลย

จนล่าสุดที่ผ่านมา เราก็ได้คุยกับผชคนนึง(ผ่านแอพๆนึง) ซึ่งเราก็บอกความจริงกับเขาไปตั้งแต่แรกว่าเราเป็นคนพิการตั้งแต่เกิดเลยนะ
ถ้ารับได้ก็คุย ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ซึ่งผชคนนั้นก็ตอบกลับมาว่า"เรื่องแค่นี้เอง รับได้อยู่แล้ว"ร้องไห้คำตอบเหมือนคนที่ผ่านมาเป๊ะ! 555)
และพอถึงตอนที่เจอกัน ..Reactionจะต่างจากคนที่ผ่านๆมาคือ ตอนเขาเจอเราครั้งแรกเขายิ้มให้เรา แล้วก็พูดว่า"ไม่เห็นเป็นอะไรเลย แค่นี้เอง
ตัวจริงเธอสวยมากเลยนะ" (คือนี่ก็แอบคิดในใจแอบหวังลึกๆว่าคนนี้น่าจะโอเคได้คบกันนานแน่ๆ)
แต่พอถึงเวลาจริงๆหลังจากที่แยกย้ายกันกลับบ้าน เขาก็ไม่โอเคเหมือนเดิม ไม่มีอะไรต่างจากคนก่อนๆเลย ต่างกันก็แค่ตอนเจอครั้งแรกแล้วเขาไม่แสดงสีหน้าว่าช็อคเท่าคนก่อน หรืออาจจะช็อคแต่เก็บทรงไว้อยู่ก็เป็นได้55555555

และที่เราเล่ามาทั้งหมดเป็นเรื่องจริงที่เราเคยเจอประสบการณ์แบบนี้ ซึ่งผ่านมาหลายครั้งต่อกี่ครั้งก็ยังรู้สึกเสียใจ เศร้ามาก จิตตก โทษแต่ตัวเองทุกรอบ ร้องไห้ตลอดเวลาที่นึกถึงเรื่องพวกนี้ เราก็ยังแอบมีคิดสงสัยว่าแล้วคนที่พิการคนอื่นๆเขาก็ยังมีแฟนได้ มีคนที่รับได้ แล้วทำไมเราถึงไม่มีใครรับในตัวตนของเราจริงๆได้เลย ไม่มีเลยค่ะ การบอกความจริงไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย มันยิ่งทำให้รู้สึกแย่หนักกว่าตอนที่โกหกช่วงแรก เพราะว่าช่วงแรกที่เรายังโกหกไปแบบนั้น พอเขามารู้ความจริงเราก็ยังมีแอบคิดเผื่อใจไว้ส่วนนึง คิดว่าเขาก็คงคาดหวังในตัวเราไว้เหมือนกัน พอเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคาดหวัง
เขาก็ต้องมีเฟลหรือช็อคหรือผิดหวังบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ครั้งนี้เราก็ยอมตัดสินใจกล้าบอกความจริงไปก่อนที่จะคบกับใครไปแล้วว่าเราเป็นอะไร
แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมามันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากคนก่อนๆเลย ไม่มีใครรับในตัวเราได้เลยซักคน...

คำถามที่อยากจะปรึกษา คือเราควรทำยังไงต่อไปดีคะ? สำหรับเราการมีแฟนไม่ใช่เรื่องยาก(เพราะเราก็สวยระดับนึงค่ะ5555555)
แต่การที่จะหาคนที่ดีและยอมรับในตัวตนของเราจริงๆได้มันยากมาก ความสวยความดีของเราก็ช่วยไม่ได้เลยค่ะ

**ปล.ถ้าใครอยากเห็นรูปว่าสวยจริงมั้ย ทักข้อความมาขอว้าปได้ค่ะ เดี๋ยวส่งให้55555

ขอบคุณที่อ่านเรื่องของเราจนจบค่ะ และหวังว่าทุกคนจะเข้าใจนะคะ
ยอมรับในความคิดเห็นของทุกคนค่ะ🙏🏻
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
คบคนจากโลกออนไลน์ การนัดเจอกัน แล้วไม่ถูกใจ รับอีกฝ่ายไม่ได้
บอกเลิกหลังจากเจอกันแล้ว  นี่ไม่ใช่เรื่องผิดปกติเลยนะคะ

บางคนเจอหนักกว่านั้น คือถูกทิ้งกลางอากาศ เจอหน้าปุ๊บ ขอตัวเข้าห้องน้ำแล้วหนีกลับเลย
อีกกรณีที่น่าหดหู่ คือ พอเจอกัน ฝ่ายชายหว่านล้อมด้วยคำหวานแล้วพาไปโรงแรมม่านรูด เสร็จแล้วก็ทิ้งไว้กลางทาง

คือ ... คนส่วนใหญ่ ต้องเจอกับความ ผิดหวัง / เจ็บปวด / ถูกหลอก / เสียเวลา ฯ
คนส่วนน้อยเท่านั้น  ที่จะเจอรักดีๆ สมปรารถนา จากแอพหาคู่
น่าจะยากพอๆกับการถูกรางวัลที่หนึ่งเลยล่ะค่ะ

หากคุณยังคิดจะหาแฟนผ่านโลกออนไลน์ คุณต้องสตรองกว่านี้ค่ะ

_การบอกความจริงทุกคนไปก่อน มันแฟร์ทั้งกับเขาและตัวคุณเอง จะได้ไม่เสียเวลา เป็นการคัดกรองคนไปในตัว

_เผื่อใจไว้เสมอ ยิ่งคาดหวังยิ่งเจ็บปวด

ถ้าคุณไม่แกร่งพอ ถ้า ทุกครั้งที่ถูกปฏิเสธจะรู้สึกเสียใจมากแบบเกินรับไหว ...
เราว่า การหาคู่ผ่านเน็ต ไม่น่าจะเหมาะกับคุณนะคะ

หาผ่านชีวิตจริง  หาคนที่ได้มีโอกาสเห็นคุณแล้ว ยอมรับในตัวคุณได้ แล้วเข้ามาจีบ
แบบนี้ น่าจะ มีโอกาสสมหวังสูงกว่า และโอกาสที่จะเสี่ยงบาดเจ็บทางใจ จะน้อยกว่าเยอะค่ะ

ช่วงที่ยังไม่มีใคร ลองฝึกใจให้พึ่งพาตัวเองได้ มีความสุขด้วยตัวเองให้ได้ไปพลางๆ

ความรักน่ะ มันไม่ได้ให้ความสุขกับใครตลอดเวลาหรอกนะคะ
มันจะแว้งกัดเราได้ทุกเมื่อ ในนามของคำว่า “อนิจจัง” นี่แหละค่ะ
เทียน
ความคิดเห็นที่ 12
อยู่เป็นโสด
ก็มีความสุขได้นะครับ

ไม่ต้องมีห่วง
ความคิดเห็นที่ 3
คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหมคะ
ถ้าคุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิต
คุณลองดำเนินชีวิตประจำวันโดยที่ไม่ใช้โลกโซเชียลในการหาแฟน ดิฉันคิดว่าถ้าพรหมลิขิตกำหนดคู่รักของคุณมาแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องมาหาแฟนในโลกออนไลน์เลย สักวันหนึ่งเขาก็จะเดินมาหาคุณเอง อย่างน่าอัศจรรย์ และนั่นจะคือรักแท้ของคุณ
ความคิดเห็นที่ 62
จขกท.รู้ไหมคะว่า ‘ปม’ นี้เกิดจากอะไร
มันเกิดจากที่คุณ ‘โกหก’ ทุกคนที่จีบกันอยู่
ซึ่งมันทำให้ เขา’ปฎิเสธ’คุณ หลังรู้ความจริง

ซึ่งถ้าคุณไม่โกหกแต่แรก
โอเคว่า คุณอาจจะหาคนคุยยากมากขึ้น
แต่มันจะไม่สร้างบาดแผลว่า
‘ทุกคน’ที่เจอตัวจริง ไม่ยอมรับคุณ

ถ้าคุณกล้าเปิดเผย โชว์รูป แต่แรก
คุณอาจจะหาคนคุยยากก็จริง
แต่ถ้าหาได้ คนคนนั้นคือคนที่รับได้อย่างแท้จริงค่ะ

คุณต้องถามตัวเองจริงๆก่อนว่า
-คุณโกหก เพราะกลัวเขามาสงสาร
-คุณโกหก เพราะกลัวเขาไม่คุยจีบต่อ
เราอ่านแล้วเราว่าเป็นข้อล่างค่ะ
ความคิดเห็นที่ 2
คุณขายจุดเด่นด้วยภาพ คุณขายจุดอ่อนด้วยคำพูด
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น โบราณก็ว่าไว้ ไม่มีใครจินตราการถึงจุดอ่อนได้
ทุกคนมีภาพจำจากรูปภาพที่คุณโปรโมตตัวเอง

ลองให้ความสำคัญกับการแสดงจุดอ่อนพร้อมๆกัน
อาจจะทำให้คุณเจอคนที่เขายอมรับคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่