คือตามหัวข้อเลยค่ะ เท่าที่จำความได้ตอนเด็กๆประมาณ2ขวบมั้งนะ เราเป็นเด็กเงียบๆขี้อายค่ะ ไม่ชอบยิ้มล่ะคือน้าเราบังคับให้ยิ้มแล้วทำให้รู้สึกว่ามันน่าอายมากๆจนหน้าเราเห้อร้อนไปหมดแทบจะร้องไห้เลยล่ะ ตอนนั้นอยากไปโรงเรียนมากๆจนยายต้องซื้อชุดนักเรียนมาให้ใส่พอเราอายุที่จะสามารถเข้าศูนย์เด็กเล็กได้ยายก็พาเราไปค่ะรู้สึกว่าตอนนั้นมีเพื่อนเล่นบ้างไม่มีเพื่อนเล่นบ้างเพราะเราเป็นคนไม่ชอบเข้าหาใครก่อนคือใครเข้าก็เล่นกับเราเราก็เล่นด้วยไม่มีใครมาเล่นด้วยกับเราก็เล่นคนเดียวนั่นแหล่ะ จำได้ว่าตอนนั้นเรามีเพื่อนสนิทเป็นลูกลุงเจ้าของร้านขายของชำที่ยู่บ้านตรงข้ามและเพื่อนของเด็กคนนั้น มีพี่ผู้ชายชอบเอาเราใส่ตระกร้าหน้ารถจักรยานพาเราไปขี่เล่นบ่อยๆตอนนั้นเรารู้สึกว่าเราชอบที่ไปขี่จักรยานเล่นกับพี่เขามากๆตอนนั้นเราชอบทะเลาะกับเด็กผู้ชายข้างบ้านบ่อยๆด้วยล่ะค่ะ ที่ศูนย์เด็กเล็กมีเด็กผู้ชายชอบล่อเราว่าเราเป็นผีอยู่บ่อยๆตอนนั้นเราคิดว่าเพราะทรงผมเราหรือเปล่าคือเราผมยาวแล้วปล่อยแต่พอเราเปลี่ยนทรงผมมันก็ล้อเราเหมือนเดิมอยู่ดี สรุปคือมันแค่อยากล้อเฉยๆมันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทรงผมเรา อ่า เข้าสู่ประเด็นล่ะค่ะทีนี้เราย้ายบ้านคือมีวันหนึ่งแม่เราดุเราว่าอยากได้อะไรก็ชี้บอกไม่ต้องไปหยิบเองเพราะเราชอบไปหยิบเอาเอง ย้านบ้านมาไม่นานแม่เราก็ส่งเข้ารร.ในชั้นอนุบาลคือครูอนุบาล2ดุมากชอบด่าจนเราไม่กล้าขอไปเข้าห้องน้ำจนเราต้องเหยี่ยวใส่ที่นอนบ่อยๆ พอขึ้นประถมเราไม่ค่อยมีเพื่อนและขี้อายก็นั้นแหล่ะค่ะอย่างที่บอกก่อนหน้านี้เราไม่ชอบเข้าหาใครก่อนกว่าจะมีใครเข้ามีเล่นด้วยก็ใช้เวลานานพอสมควรเลยค่ะ ตอนตอนป.3เราโดนล้อว่าเด๋อบ้างล่ะเอ๋อบ้างล่ะไม่เต็มบ้างล่ะเราโดนล้อแบบนั้นจนมาถึงม.2เพราะตอนป.3เราพูดไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่ชอบออกเสียงผิดบ่อยๆและเราเรียนได้ประมาณปานกลางเหมือนจะเก่งแต่ก็สู้พวกหัวดีๆไม่ได้แต่เราห่วยแตกในการใช้กายภาพมากๆกีฬาเนี่ยเราห่วยแตกทุกชนิดรู้สึกว่ามันยากสำคัญเราเอามากๆตอนม.1เราโดนด่าเพราะรำไม่เป็น ตอนม.3ครูให้ฝึกเดินขบวนถือธงในงานแห่เทียนพรรษาล่ะครูให้เดินให้ดูทีล่ะแถวที่เป็นแนวนอนพอฝึกเสร็จครูให้ไปเดินให้ครูดูล่ะเราฝึกเท่าไหร่ก็เดินไม่พร้อมเพื่อนคือแถวแต่ล่ะแถวมีแค่สามคนเองเป็นเพราะเราเดินจังหวะที่เร็วกว่าเพื่อนล่ะมั้งตอนม.3ในงานปัจฉิมเราเดินไปรับใบจบพลาดล่ะค่ะคือเราขาสั่นมากๆมือเย็นไปหมดตอนขึ้นไปเวทีตอนซ้อมเราก็เราทำพลาดบ่อยมากๆลืมไหว้บ้างล่ะจับที่ใส่ใบจบผิดบ้างล่ะพอมาวันจริงก็คือทำพลาดเหมือนเช่นเคยคือเราลืมไหว้ล่ะก้าวเร็วไปเหมือนตอนนั้นสติหลุดสมองเบลอ(เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนเรามั้ยคะ แงงงง)จนผอ.ต้องให้ไปเดินมาใหม่โคตรอายเลยจนแทบอยากหายไปจากตรงนั้นกลับมาบ้านเราเครียดมากๆที่เราทำพลาดจนนอนไม่หลับ3วันดีนะที่พ่อแม่เราไม่ไปไม่งั้นเราอยากฆ่าตัวตายแน่ๆ มีครั้งหนึ่งเพื่อนมันกำลังล้อเล่นกันแล้วมีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งบอกอีกคนหนึ่งว่านั่นแหล่ะเด็กพิเศษแล้วเพื่อนที่โดนด่าก็หันมาพูดใส่เราว่า อิ(ชื่อเรา)เป็นเด็กพิเศษต่างหากเราไม่พอใจมากเราเลยพูดไปว่าถ้าเราเป็นเด็กพิเศษคุณหมอก็ต้องบอกสิล่ะคือเราไม่ชอบสบตาคนด้วยถ้าไม่สนิทยิ่งเป็นผู้ใหญ่ยิ่งแล้วเลยเรารู้สึกกลัวเวลาสบตากับคนไม่รู้จักและพวกหน้าบอกบุญไม่รับ ตอนนี้เราอยู่ม.4ไม่รู้ทำไมความกังวลเอาตอนนี้ที่ผ่านมาก็กังวลแหล่ะอยากตายแล้วเกิดใหม่เป็นคนไม่มีปัญหากับเรื่องพวกนี้หลายรอบมากหรือว่าโควิคที่ทำให้เราเป็นคนหดหู่จิตตกแบบนี้อยู่แต่บ้านเลยคิดฟุ้งซ่านประสาท- แงงงงงง
เราเล่าเรื่องไม่เก่งต้องขอโทษด้วยนะคะ ช่วยทำให้เราหายกังวลทีค่ะเราเครียดกับเรื่องนี้มาสองอาทิตย์แล้ว
เรากังวลว่าเราเป็นออทิสติกหรือเปล่า?
เราเล่าเรื่องไม่เก่งต้องขอโทษด้วยนะคะ ช่วยทำให้เราหายกังวลทีค่ะเราเครียดกับเรื่องนี้มาสองอาทิตย์แล้ว