OPPO เปิดตัวตระกูล A ในไทยไปไม่นานทั้งหลากหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น OPPO A74 5G หรือ OPPO A94 แต่อีกรุ่นที่ต้องบอกว่าน่าสนใจไม่แพ้กันเลยทีเดียวคือน้องเล็กแต่สเปคไม่ธรรมดากับ OPPO A54 นั้นเองตัวนี้เมื่อเทียบกับราคาบอกเลยว่าทำได้ดีขึ้น มาพร้อมกับราคาในเรท 5 พันกว่าบาทแต่จะได้ทั้ง แบตอึด 5,000 mAh รองรับการใช้งานชาร์จไว 18W และเป็น USB-C รวมถึง ความจุตัวเครื่อง 128GB อีกทั้งยังมีดีไซน์ สีสันโดดเด่นเช่นเดิมในตัวเครื่องที่มีความบางเพียง8.4มม.พร้อมตัวเครื่องโค้ง3มิติที่มีความเข้ากันกับรูปแบบการวางกล้องแบบเมทริกซ์ และตัวเครื่องรองรับ IPX4 ด้วยเช่นกันรองรับการใช้งานได้สบายๆ และแน่นอนว่าแบตอึดใช้งานได้ทั้งวันแบบสบายๆ
OPPO A54 มาพร้อมกับการใช้งาน CPU MTK P35 เทคโนโลยี 12nm และ การ์ดจอ PowerVR GE8320 และ ใช้งาน RAM 4GB STORAGE 128GB พร้อมกับหน้าจอ Punch-hole display ขนาดใหญ่ 6.51 นิ้ว HD+ ในขนาดพิกเซลที่ 1600×720 พิกเซล และ ใช้งาน อัตราส่วน 19:9, ความสว่าง 550nit, รีเฟรชเรท 60Hz, ความถี่การตอบสนอง 120Hz พร้อมกับ ระบบตัวเครื่องจะใช้งาน Android 10 ที่ครอบด้วย ColorOS 7.2 รวมถึงกล้องหลังนั้นให้มา 3 ตัวรองรับการถ่ายกลางคืน NightMode สเปค กล้องหลัง 13MP (f/2.2) + กล้องมาโคร 2MP + กล้อง Bokeh 2MP (f/2.4) + แฟลช LED ส่วน กล้องหน้าให้มาที่ 16MP (f/2.0) รองรับการใช้งาน เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง และ สแกนใบหน้า รวมถึง ตัวเครื่องกันละอองน้ำ (IPX4) และ แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W อีกทั้งเรื่องของการออกแบบสีสันสวยงามและโดดเด่นพร้อมกับหน้าจอแบบเจาะรู Punch-hole display ลงตัวในภาพรวมทั้งหมด และมีความบางในระดับ 8.4 มม. เท่านั้นในรุ่นนี้
OPPO A54 เปิดราคามาด้วยกันทั้งหมด 2 สี สีน้ำเงิน Starry Blue / สีดา Crystal Black ใน สเปค RAM 4GB STORAGE 128GB ราคา 5,699 บาทไทย
UNBOX
ตัวกล่องดีไซน์สวยงามพร้อมกับรูปเครื่องด้านหน้าชัดเจนแน่นอนว่าสีสันโดดเด่นรวมถึงมีการบอกว่าใช้งาน RAM 4 GB STORAGE 128GB บนตัวกล่องพร้อมกับ ของที่ให้ยังคงให้มาครบๆทั้ง เคส ฟิลม์ และสายชาร์จต่างๆครับ
- ตัวเครื่อง OPPO A54
- ตัวเคสใส TPU
- ฟิลม์กันรอยหน้าจอติดตั้งมาให้เรียบร้อย
- สาย USB-C ไป USB-A
- Adaptor ชาร์จไฟ 18W
- คู่มือ และ ที่จิ้มซิม
ตัวเคสที่แถมนั้นยังคงทำได้ดีมาพร้อมกับการปกป้องการใช้งานได้ทั้งหน้าเลนส์และหน้าจอรวมถึงทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงมากขึ้นเป็นวัสดุนิ่มพร้อมกับสีใสครับแน่นอนว่าส่วนเลนส์กล้องก็ยังใส่เข้ามาคลุมได้ครอบคลุมทั้งหมด
DESIGN
งานออกแบบตัวเครื่องสีนี้ถือว่าสวยและโดดเด่นเป็นสีออกฟ้าก็จริงแต่ตัวเครื่องนั้นเมื่อเจอแสงอาทิตย์หรือว่าแหล่งแสงเช่นดวงไฟต่างๆนั้นต้องบอกว่าสวยงามในสี Starry Blue และตัวเครื่องนั้น มีขนาดบางเพียง 8.4 มม. และเบาเพียง 192 กรัม และฝาหลังตัวเครื่องโค้ง 3D และจับถือได้อย่างถนัดมือ อีกทั้งเรื่องของ ความแข็งแรง ความคงทนมากขึ้นด้วยงามออกแบบใหม่ทั้งหมด แต่ก็ยังสวยงามเช่นเดิม และ กล้องหลังเรียง 3 มุมในกรอบสี่เหลี่ยมได้ลงตัว และแน่นอนว่าภาพรวมการกันน้ำก็แอบรองรับ IPX4 ในการใช้งานชีวิตประจำวันทั่วไปได้สบายๆเลยทีเดียวครับ
หน้าจอนั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD HD+ ขนาด 6.51 นิ้ว ที่มาพร้อมกับอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 89.2% และ OPPO A54 นั้น มีกล้องแบบ punch-hole ขนาดเล็ก ซึ่งจะใช้งานกล้องหน้า 16MP เป็นการออกแบบที่มีความทันสมัยมากกว่าหน้าจอ Waterdrop แบบด้ังเดิม และขนาดกำลังดีเมื่อเทียบกับตัวเครื่องทั้งหมด
กล้องหน้าเจาะรู Single Punch-hole display ในมุมซ้ายบนพร้อมกับสเปคกล้องหน้าในความละเอียด 16MP F2.0 เมื่อเทียบกับตำแหน่งของตัวเครื่องและขนาดตัวเจาะรูถือว่าขนาดไม่ได้ใหญ่เกินไป พร้อมลำโพงในขอบบน
ส่วนขอบด้านล่างนั้นยังคงมีความหนาระดับนึงพร้อมกับปุ่มควบคุมบนหน้าจอแบบ 3 ปุ่มพื้นฐาน ที่แน่นอนว่ารุ่นนี้ก็สามารถปรับใช้งานแบบเต็มหน้าจอด้วย Gesture แล้วด้วยเช่นกันครับทำให้รองรับการทำงานได้เต็มตามากขึ้น
ขอบเครื่องในส่วนฐานล่างนั้นเป็น Layout ที่เราคุ้นเคยกันดี มาพร้อมลำโพงหลัก และพอร์ต USB-C รวมถึง รูไมค์และ รูหูฟัง 3.5 มม. ซึ่งตัวขอบเครื่องก็จะโค้งลงมาด้วยเช่นกันถือว่าทำให้จับได้ถนัดมือมากขึ้นในการใช้งานจริง
ขอบเครื่องในด้านบนนั้นจะไม่ได้มีไมค์ตัดเสียงอะไรใส่เข้ามา แต่ที่เห็นชัดเจนจะเป็นโทนสีในส่วนขอบบนที่มันเป็นสีน้ำเงินผมฟ้าสวยงามพร้อมกับเป็นการไล่สีซึ่งในส่วนขอบล่างเครื่องนั้นจะเป็นสีเงิน ถือว่าเรื่องสีสันต่างๆนั้นไว้ใจได้
ขอบเครื่องด้านขวานั้นเราจะเห็นว่าในรุ่นนี้มีการใช้งานสแกนนิ้ว ด้านข้างที่เป็นปุ่ม Power ในตัวใช้งานได้ถนัดมากขึ้นถ้าหากมองเทียบกับปุ่มสแกนนิ้วในด้านหลังในการขับถือจริงๆ และตัวเครื่องบางและไล่สีสวยงามมากๆในฝั่งขวา
ฝั่งซ้ายนั้นแน่นอนว่ายังคงมีการไล่สีเข้ามาพร้อมกับปุ่ม เพิ่ม ลด เสียง และถาดซิมแบบ Triple Slot ที่รองรับการใช้งาน ซิมคู่ และ รองรับการเพิ่มความจุ Micro-SD ด้วยเช่นกันถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานได้สบายๆทั้งหมดในรุ่นนี้
ฝาหลังในสี Starry Blue นั้นจะเป็นสีฟ้า และไล่สีเงินในส่วนขอบล่าง แต่ถ้าหากเจอแสงต่างๆนั้นในส่วนสีเงินด้านล่างนั้นจะเป็นสีรุ้งๆบอกเลยว่าเจอแสงแล้วโดดเด่นกว่าเดิมเยอะมาก หรือแม้ว่าจะไม่มีแสงกระทบก็จะเป็นสีเงินไล่สีฟ้าบอกเลยว่าไม่ธรรมดาและดูดีมากๆตัวนึงในงบราคานี้ครับ และมาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัวในกรอบสี่เหลี่ยมมุมซ้ายซึ่งตัวกรอบจะรวมกล้องไว้ทั้งหมด และมีการเขียนตัวอักษร รวมถึงไฟแฟลชต่างๆนั้นจะอยู่โซนเดียวกันทั้งหมดเช่นกัน
กล้องหลังในรุ่นนี้มาให้ 3 ตัว จัดวางไว้มุมทั้ง 3 และ มุมขวาล่างนั้นจะเป็นแค่ AI ที่เขียนไว้เท่านั้นไม่ได้มี 4 กล้องแต่อย่างใดครับ ส่วนไฟแฟลชนั้นจะอยู่ในด้านหลังแนวนอนทั้งหมด 2 ดวง กล้องหลังนั้นจะมาพร้อมกับสเปค กล้องหลัง 13MP (f/2.2) + กล้องมาโคร 2MP + กล้อง Bokeh 2MP (f/2.4) รองรับการถ่ายหลากหลายโหมดทั้ง กลางคืน หรือว่าจะเป็น Portrait หรือว่าจะเป็น Ultra Night และ Panorama รวมถึง AI Scene Recognition
SPEC
- หน้าจอ Punch-hole display 6.51 นิ้ว (1600×720พิกเซล) HD+, อัตราส่วน 20:9, ความสว่าง 550nit, รีเฟรชเรท 60Hz, ความถี่การตอบสนอง 120Hz
- ชิบประมวลผล Helio P35 (MT6765) 12nm
- ใช้การ์ดจอ IMG PowerVR GE8320
- RAM LPDDR4X 4GB + ความจำ (eMMC 5.1) 128GB, ใส่ microSD card เพิ่มได้
- ซิมคู่
- Android 10 ที่ครอบด้วย ColorOS 7.2
- กล้องหลัง 13MP (f/2.2) + กล้องมาโคร 2MP + กล้องBokeh 2MP (f/2.4) + แฟลช LED
- กล้องหน้า 16MP (f/2.0)
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่องกันละอองน้ำ (IPX4)
- ขนาดตัวเครื่อง: 163.6× 75.7 × 8.4มม. ; น้ำหนัก: 192 กรัม
- รองรับเครือข่าย Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4+5GHz), Bluetooth 5.0, GPS +GLONASS
- USB Type-C
- แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W
PERFORMANCE STORAGE 128GB !
ประสิทธิภาพในตัวเครื่องรุ่นนี้ใช้งาน CPU MTK HELIO P35 พร้อมกับ RAM 4 GB STORAGE 128 GB ในการใช้งานจะเน้นไปในเรื่องของการประหยัดพลังงานและการใช้งานทั่วไปมากกว่า และเด่นๆในเรื่องของความจุในการเก็บข้อมูลต่างๆในตัวเครื่องที่รองรับสูงสุด 128GB ในตัวเลยทีเดียว ส่วนทางด้านคะแนนการใช้งานนั้นจะทำไปได้ Antutu ที่ 105871 คะแนน และ Geekbench ที่ 167/972 คะแนน และ การอ่านเขียนทำไปได้ทั้งหมด 274 MB/s และเขียน 180 MB/s ส่วนการรองรับการดูหนังก็ตามสเปคหน้าจอที่รองรับ L3 กับหน้าจอแบบ HD+ ครับ
SYSTEM UI
ทางด้านระบบตัวเครื่องต่างๆนั้นจะใช้งาน Color OS ตัว 7.2 พร้อมกับ Android 10 หน้าตามีความเรียบ ลื่นไหล และทันสมัยมากขึ้นแถมไม่รกแล้วด้วยเช่นกันครับ แม้จะเป็น 7.2 แต่ก็หน้าตาสวยงามขึ้นจากรุ่นก่อนๆพร้อมกับ มอบประสบการณ์การเล่นเกม ความเป็นส่วนตัว และประสิทธิภาพในการทํางาน ดียิ่งขึ้น หน้าล๊อกจอ, หน้าตาหลัก และหน้ารวมแอปต่างๆนั้นใช้งานได้ดีเช่นเดิม การแจ้งเตือนต่างๆ เด้งไวชัดเจน และไอคอนอะไรก็สามารถปรับได้ครับ
หน้าตาในส่วนของการแจ้งเตือนมีการแยกสัดส่วนชัดเจนขึ้น มีความเหลี่ยมมากขึ้นและแน่นอนว่ายังคงโทนสีเขียว ขาวไว้ได้ดีเช่นเดิม ส่วนของ Quick Setting นั้นรองรับการปรับแต่งได้อิสระ และใช้งานได้เหมือนกับรุ่นก่อนๆ
ทางด้านหน่วยความจำตัวเครื่องนั้นให้มาเน้นๆที่ 128GB รองรับการใช้งานได้สบายๆระบบกินไป 17GB เหลือใช้งาน 110GB ประมาณครับเพียงพอแน่นอน ส่วนทางด้านแป้นพิมพ์อะไรนั้นรองรับภาษาไทยชัดเจนใช้งานได้ดีจาก GBoard และ RAM ให้มา 4GB ใช้งานไปทั้งหมด 2.7 เหลือ 1.3 GB
และแน่นอนว่ายังคงมีบรรดา Gesture ใส่เข้ามาให้ทั้งแบบหน้าจอปิดหรือใช้งานทั่วไป รวมถึงสแกนใบหน้า สแกนนิ้วยังคงใส่เข้ามาทั้งหมด และแน่นอนว่าปุ่มควบคุมปรับเปลี่ยนได้ และ รองรับการใช้งาน Smart Sidebar เหมือนเดิม
[SR] รีวิว OPPO A54 น้องเล็ก แบตอึด 5,000 mAh ชาร์จไว 18W พร้อมความจุ 128GB !
OPPO เปิดตัวตระกูล A ในไทยไปไม่นานทั้งหลากหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น OPPO A74 5G หรือ OPPO A94 แต่อีกรุ่นที่ต้องบอกว่าน่าสนใจไม่แพ้กันเลยทีเดียวคือน้องเล็กแต่สเปคไม่ธรรมดากับ OPPO A54 นั้นเองตัวนี้เมื่อเทียบกับราคาบอกเลยว่าทำได้ดีขึ้น มาพร้อมกับราคาในเรท 5 พันกว่าบาทแต่จะได้ทั้ง แบตอึด 5,000 mAh รองรับการใช้งานชาร์จไว 18W และเป็น USB-C รวมถึง ความจุตัวเครื่อง 128GB อีกทั้งยังมีดีไซน์ สีสันโดดเด่นเช่นเดิมในตัวเครื่องที่มีความบางเพียง8.4มม.พร้อมตัวเครื่องโค้ง3มิติที่มีความเข้ากันกับรูปแบบการวางกล้องแบบเมทริกซ์ และตัวเครื่องรองรับ IPX4 ด้วยเช่นกันรองรับการใช้งานได้สบายๆ และแน่นอนว่าแบตอึดใช้งานได้ทั้งวันแบบสบายๆ
OPPO A54 มาพร้อมกับการใช้งาน CPU MTK P35 เทคโนโลยี 12nm และ การ์ดจอ PowerVR GE8320 และ ใช้งาน RAM 4GB STORAGE 128GB พร้อมกับหน้าจอ Punch-hole display ขนาดใหญ่ 6.51 นิ้ว HD+ ในขนาดพิกเซลที่ 1600×720 พิกเซล และ ใช้งาน อัตราส่วน 19:9, ความสว่าง 550nit, รีเฟรชเรท 60Hz, ความถี่การตอบสนอง 120Hz พร้อมกับ ระบบตัวเครื่องจะใช้งาน Android 10 ที่ครอบด้วย ColorOS 7.2 รวมถึงกล้องหลังนั้นให้มา 3 ตัวรองรับการถ่ายกลางคืน NightMode สเปค กล้องหลัง 13MP (f/2.2) + กล้องมาโคร 2MP + กล้อง Bokeh 2MP (f/2.4) + แฟลช LED ส่วน กล้องหน้าให้มาที่ 16MP (f/2.0) รองรับการใช้งาน เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง และ สแกนใบหน้า รวมถึง ตัวเครื่องกันละอองน้ำ (IPX4) และ แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W อีกทั้งเรื่องของการออกแบบสีสันสวยงามและโดดเด่นพร้อมกับหน้าจอแบบเจาะรู Punch-hole display ลงตัวในภาพรวมทั้งหมด และมีความบางในระดับ 8.4 มม. เท่านั้นในรุ่นนี้
OPPO A54 เปิดราคามาด้วยกันทั้งหมด 2 สี สีน้ำเงิน Starry Blue / สีดา Crystal Black ใน สเปค RAM 4GB STORAGE 128GB ราคา 5,699 บาทไทย
UNBOX
ตัวกล่องดีไซน์สวยงามพร้อมกับรูปเครื่องด้านหน้าชัดเจนแน่นอนว่าสีสันโดดเด่นรวมถึงมีการบอกว่าใช้งาน RAM 4 GB STORAGE 128GB บนตัวกล่องพร้อมกับ ของที่ให้ยังคงให้มาครบๆทั้ง เคส ฟิลม์ และสายชาร์จต่างๆครับ
- ตัวเครื่อง OPPO A54
- ตัวเคสใส TPU
- ฟิลม์กันรอยหน้าจอติดตั้งมาให้เรียบร้อย
- สาย USB-C ไป USB-A
- Adaptor ชาร์จไฟ 18W
- คู่มือ และ ที่จิ้มซิม
ตัวเคสที่แถมนั้นยังคงทำได้ดีมาพร้อมกับการปกป้องการใช้งานได้ทั้งหน้าเลนส์และหน้าจอรวมถึงทำให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงมากขึ้นเป็นวัสดุนิ่มพร้อมกับสีใสครับแน่นอนว่าส่วนเลนส์กล้องก็ยังใส่เข้ามาคลุมได้ครอบคลุมทั้งหมด
DESIGN
งานออกแบบตัวเครื่องสีนี้ถือว่าสวยและโดดเด่นเป็นสีออกฟ้าก็จริงแต่ตัวเครื่องนั้นเมื่อเจอแสงอาทิตย์หรือว่าแหล่งแสงเช่นดวงไฟต่างๆนั้นต้องบอกว่าสวยงามในสี Starry Blue และตัวเครื่องนั้น มีขนาดบางเพียง 8.4 มม. และเบาเพียง 192 กรัม และฝาหลังตัวเครื่องโค้ง 3D และจับถือได้อย่างถนัดมือ อีกทั้งเรื่องของ ความแข็งแรง ความคงทนมากขึ้นด้วยงามออกแบบใหม่ทั้งหมด แต่ก็ยังสวยงามเช่นเดิม และ กล้องหลังเรียง 3 มุมในกรอบสี่เหลี่ยมได้ลงตัว และแน่นอนว่าภาพรวมการกันน้ำก็แอบรองรับ IPX4 ในการใช้งานชีวิตประจำวันทั่วไปได้สบายๆเลยทีเดียวครับ
หน้าจอนั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD HD+ ขนาด 6.51 นิ้ว ที่มาพร้อมกับอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 89.2% และ OPPO A54 นั้น มีกล้องแบบ punch-hole ขนาดเล็ก ซึ่งจะใช้งานกล้องหน้า 16MP เป็นการออกแบบที่มีความทันสมัยมากกว่าหน้าจอ Waterdrop แบบด้ังเดิม และขนาดกำลังดีเมื่อเทียบกับตัวเครื่องทั้งหมด
กล้องหน้าเจาะรู Single Punch-hole display ในมุมซ้ายบนพร้อมกับสเปคกล้องหน้าในความละเอียด 16MP F2.0 เมื่อเทียบกับตำแหน่งของตัวเครื่องและขนาดตัวเจาะรูถือว่าขนาดไม่ได้ใหญ่เกินไป พร้อมลำโพงในขอบบน
ส่วนขอบด้านล่างนั้นยังคงมีความหนาระดับนึงพร้อมกับปุ่มควบคุมบนหน้าจอแบบ 3 ปุ่มพื้นฐาน ที่แน่นอนว่ารุ่นนี้ก็สามารถปรับใช้งานแบบเต็มหน้าจอด้วย Gesture แล้วด้วยเช่นกันครับทำให้รองรับการทำงานได้เต็มตามากขึ้น
ขอบเครื่องในส่วนฐานล่างนั้นเป็น Layout ที่เราคุ้นเคยกันดี มาพร้อมลำโพงหลัก และพอร์ต USB-C รวมถึง รูไมค์และ รูหูฟัง 3.5 มม. ซึ่งตัวขอบเครื่องก็จะโค้งลงมาด้วยเช่นกันถือว่าทำให้จับได้ถนัดมือมากขึ้นในการใช้งานจริง
ขอบเครื่องในด้านบนนั้นจะไม่ได้มีไมค์ตัดเสียงอะไรใส่เข้ามา แต่ที่เห็นชัดเจนจะเป็นโทนสีในส่วนขอบบนที่มันเป็นสีน้ำเงินผมฟ้าสวยงามพร้อมกับเป็นการไล่สีซึ่งในส่วนขอบล่างเครื่องนั้นจะเป็นสีเงิน ถือว่าเรื่องสีสันต่างๆนั้นไว้ใจได้
ขอบเครื่องด้านขวานั้นเราจะเห็นว่าในรุ่นนี้มีการใช้งานสแกนนิ้ว ด้านข้างที่เป็นปุ่ม Power ในตัวใช้งานได้ถนัดมากขึ้นถ้าหากมองเทียบกับปุ่มสแกนนิ้วในด้านหลังในการขับถือจริงๆ และตัวเครื่องบางและไล่สีสวยงามมากๆในฝั่งขวา
ฝั่งซ้ายนั้นแน่นอนว่ายังคงมีการไล่สีเข้ามาพร้อมกับปุ่ม เพิ่ม ลด เสียง และถาดซิมแบบ Triple Slot ที่รองรับการใช้งาน ซิมคู่ และ รองรับการเพิ่มความจุ Micro-SD ด้วยเช่นกันถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานได้สบายๆทั้งหมดในรุ่นนี้
ฝาหลังในสี Starry Blue นั้นจะเป็นสีฟ้า และไล่สีเงินในส่วนขอบล่าง แต่ถ้าหากเจอแสงต่างๆนั้นในส่วนสีเงินด้านล่างนั้นจะเป็นสีรุ้งๆบอกเลยว่าเจอแสงแล้วโดดเด่นกว่าเดิมเยอะมาก หรือแม้ว่าจะไม่มีแสงกระทบก็จะเป็นสีเงินไล่สีฟ้าบอกเลยว่าไม่ธรรมดาและดูดีมากๆตัวนึงในงบราคานี้ครับ และมาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัวในกรอบสี่เหลี่ยมมุมซ้ายซึ่งตัวกรอบจะรวมกล้องไว้ทั้งหมด และมีการเขียนตัวอักษร รวมถึงไฟแฟลชต่างๆนั้นจะอยู่โซนเดียวกันทั้งหมดเช่นกัน
กล้องหลังในรุ่นนี้มาให้ 3 ตัว จัดวางไว้มุมทั้ง 3 และ มุมขวาล่างนั้นจะเป็นแค่ AI ที่เขียนไว้เท่านั้นไม่ได้มี 4 กล้องแต่อย่างใดครับ ส่วนไฟแฟลชนั้นจะอยู่ในด้านหลังแนวนอนทั้งหมด 2 ดวง กล้องหลังนั้นจะมาพร้อมกับสเปค กล้องหลัง 13MP (f/2.2) + กล้องมาโคร 2MP + กล้อง Bokeh 2MP (f/2.4) รองรับการถ่ายหลากหลายโหมดทั้ง กลางคืน หรือว่าจะเป็น Portrait หรือว่าจะเป็น Ultra Night และ Panorama รวมถึง AI Scene Recognition
SPEC
- หน้าจอ Punch-hole display 6.51 นิ้ว (1600×720พิกเซล) HD+, อัตราส่วน 20:9, ความสว่าง 550nit, รีเฟรชเรท 60Hz, ความถี่การตอบสนอง 120Hz
- ชิบประมวลผล Helio P35 (MT6765) 12nm
- ใช้การ์ดจอ IMG PowerVR GE8320
- RAM LPDDR4X 4GB + ความจำ (eMMC 5.1) 128GB, ใส่ microSD card เพิ่มได้
- ซิมคู่
- Android 10 ที่ครอบด้วย ColorOS 7.2
- กล้องหลัง 13MP (f/2.2) + กล้องมาโคร 2MP + กล้องBokeh 2MP (f/2.4) + แฟลช LED
- กล้องหน้า 16MP (f/2.0)
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่องกันละอองน้ำ (IPX4)
- ขนาดตัวเครื่อง: 163.6× 75.7 × 8.4มม. ; น้ำหนัก: 192 กรัม
- รองรับเครือข่าย Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac (2.4+5GHz), Bluetooth 5.0, GPS +GLONASS
- USB Type-C
- แบตเตอรี่ 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W
PERFORMANCE STORAGE 128GB !
ประสิทธิภาพในตัวเครื่องรุ่นนี้ใช้งาน CPU MTK HELIO P35 พร้อมกับ RAM 4 GB STORAGE 128 GB ในการใช้งานจะเน้นไปในเรื่องของการประหยัดพลังงานและการใช้งานทั่วไปมากกว่า และเด่นๆในเรื่องของความจุในการเก็บข้อมูลต่างๆในตัวเครื่องที่รองรับสูงสุด 128GB ในตัวเลยทีเดียว ส่วนทางด้านคะแนนการใช้งานนั้นจะทำไปได้ Antutu ที่ 105871 คะแนน และ Geekbench ที่ 167/972 คะแนน และ การอ่านเขียนทำไปได้ทั้งหมด 274 MB/s และเขียน 180 MB/s ส่วนการรองรับการดูหนังก็ตามสเปคหน้าจอที่รองรับ L3 กับหน้าจอแบบ HD+ ครับ
SYSTEM UI
ทางด้านระบบตัวเครื่องต่างๆนั้นจะใช้งาน Color OS ตัว 7.2 พร้อมกับ Android 10 หน้าตามีความเรียบ ลื่นไหล และทันสมัยมากขึ้นแถมไม่รกแล้วด้วยเช่นกันครับ แม้จะเป็น 7.2 แต่ก็หน้าตาสวยงามขึ้นจากรุ่นก่อนๆพร้อมกับ มอบประสบการณ์การเล่นเกม ความเป็นส่วนตัว และประสิทธิภาพในการทํางาน ดียิ่งขึ้น หน้าล๊อกจอ, หน้าตาหลัก และหน้ารวมแอปต่างๆนั้นใช้งานได้ดีเช่นเดิม การแจ้งเตือนต่างๆ เด้งไวชัดเจน และไอคอนอะไรก็สามารถปรับได้ครับ
หน้าตาในส่วนของการแจ้งเตือนมีการแยกสัดส่วนชัดเจนขึ้น มีความเหลี่ยมมากขึ้นและแน่นอนว่ายังคงโทนสีเขียว ขาวไว้ได้ดีเช่นเดิม ส่วนของ Quick Setting นั้นรองรับการปรับแต่งได้อิสระ และใช้งานได้เหมือนกับรุ่นก่อนๆ
ทางด้านหน่วยความจำตัวเครื่องนั้นให้มาเน้นๆที่ 128GB รองรับการใช้งานได้สบายๆระบบกินไป 17GB เหลือใช้งาน 110GB ประมาณครับเพียงพอแน่นอน ส่วนทางด้านแป้นพิมพ์อะไรนั้นรองรับภาษาไทยชัดเจนใช้งานได้ดีจาก GBoard และ RAM ให้มา 4GB ใช้งานไปทั้งหมด 2.7 เหลือ 1.3 GB
และแน่นอนว่ายังคงมีบรรดา Gesture ใส่เข้ามาให้ทั้งแบบหน้าจอปิดหรือใช้งานทั่วไป รวมถึงสแกนใบหน้า สแกนนิ้วยังคงใส่เข้ามาทั้งหมด และแน่นอนว่าปุ่มควบคุมปรับเปลี่ยนได้ และ รองรับการใช้งาน Smart Sidebar เหมือนเดิม
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้