อยากให้เข้าใจถึงจุดมุ่งหมายของกระทู้นี้ก่อนครับ กระทู้นี้ไม่ได้เขียนมาเพื่อต่อต้านเพื่อนๆที่เป็น LGBT คนที่เป็นเกย์ เลสเบี้ยน หรือเพศอื่นๆใดๆทั้งสิ้นนะครับ สิ่งที่ผมจะนำมาเล่าวันนี้ "สามารถเป็นได้กับทุกเพศ ทุกวัย" อยากให้เข้าใจว่าที่เอามาเขียนเพราะผมเป็นคนที่เจอประสบการณ์นี้โดยตรง และมันก็สร้างความเครียดและส่งผลต่ออาการซึมเศร้ากับผมอย่างที่ผมไม่เคยรู้สึกเลยครับ
ขอสาบานว่าเรื่องที่กำลังจะเล่าเป็นความจริงทั้งหมด และเหตุผลเดียวเลยที่ผมเอาเรื่องนี้มาพิมพ์ก็เผื่อว่าวันนึงมีคนเจอประสบการณ์แบบผม ผมหวังว่าเค้าจะเสริชมาเจอกระทู้นี้จะได้ไม่สับสนและทำให้เกิดอาการซึมเศร้าแบบที่ผมเจอครับ
เคสอาการคล้ายๆผม:
https://hd.co.th/ask/46606409
เล่าตามประสบการณ์ตรงของผม ผมเป็นผู้ชายโดยแท้ครับ ผมชอบผู้หญิง ผมชอบทุกๆอย่างที่เป็นเรือนร่างของผู้หญิงมาตลอด ผมหลงไหลกับส่วนเว้าโค้ง กับเสียง กับกลิ่น และไม่เคยมีความคิดที่จะชอบเพศเดียวกันเลยสักครั้ง แฟนที่คบมา คนคุยที่เคยคุยมา ล้วนเป็นผู้หญิงทั้งหมด ผมไม่เคยเปิดโอกาสให้คนเพศเดียวกันเข้ามาอยู่ในความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อนเลย ซึ่งนี่คือทางเลือกและรสนิยมของผมเอง ไม่ใช่การรังเกียจคนต่างเพศ ทุกๆคนสามารถมีรสนิยมในเรื่องเพศของตัวเองได้ตามใจชอบครับ
วันหนึ่งผมไม่รู้ว่าอะไรดลบันดาลใจให้ผมไปนึกภาพผู้ชายในหัว ผมนึกถึงภาพตัวเองกำลังมีอะไรกับผู้ชาย นึกถึงภาพตัวเองกำลังจ้องมองผู้ชายแก้ผ้า ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และผมเองก็ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นในหัวของผม ผมเริ่มค้นหาคำตอบ เพื่อดูว่ามีใครเป็นอาการเดียวกับผมรึเปล่า ค้นหาว่าสรุปแล้วผมเป็นไบหรือเป็นเกย์จริงๆใช่มั้ย ผมเริ่มรู้สึกว่าผมมองเพื่อนผู้ชายไม่เหมือนเดิม ทุกๆครั้งที่ผมมองเพื่อนผู้ชายจะมีแต่ภาพเหล่านั้นเข้ามาในหัวตลอดเวลา ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าสุดท้ายแล้วผมยังเป็นผู้ชายจริงๆรึเปล่า สรุปแล้วชีวิตผมเองที่ผมรู้จักดีมาตลอด มันคือสิ่งที่ผมโกหกและปกปิดตัวเองใช่มั้ย ถ้าคนที่ไม่เคยเจอภาวะแบบนี้มาก่อนอาจจะรู้สึกเฉยๆ แต่สำหรับคนที่เจอกับภาวะนี้โดยตรงผมบอกเลยว่ามันเครียดและทรมานมากครับ มันไม่สนุกเลยจริงๆ
ผมไม่สามารถเอาความเครียดนี้ไปคุยกับใครได้เลย แม้แต่เพื่อนสนิทที่สุดคนหนึ่งที่ผมกล้าเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังผมก็ไม่กล้าเอาไปเล่า ผมกลัวว่าเค้าจะมองผมไม่เหมือนเดิมและไม่กล้าที่จะนั่งกินเบียร์ในห้องด้วยกันสองคนอีก ผมกลัวว่าถ้าทุกคนรู้ว่าผมมีอาการนี้ผมจะโดนมองอีกแบบ เพื่อนผู้ชายจะไม่สนิทเท่าเดิม (ปกติก็ไม่มีเพื่อนผู้หญิงอยู่แล้วถ้าไม่มีเพื่อนผู้ชายด้วยก็คือหมดเลยครับ) ผมกลัวว่าแฟนของผมถ้ารู้เรื่องความคิดนี้เข้าจะเสียใจและเลิกกับผม ผมกลัวว่าอะไรในชีวิตมันจะไม่เหมือนเดิม ผมไม่ได้กลัวหรือรังเกียจคนที่เป็น LGBT หรือเพศอะไรก็ตามนะครับ ผมเคารพในทุกเพศ ผมแค่กลัวในความไม่แน่นอนของตัวผมเอง ผมกลัวการสูญเสียความสัมพันธ์ในรูปแบบที่ผมคุ้นชินไป มีคำถามหลายคำถามเข้ามาในหัว เช่น ผมควรจะเลิกกับแฟนผมเลยมั้ย ผมควรจะหันไปคบกับเพศเดียวกันมั้ย มันจะแตกต่างไปจากเดิมแค่ไหน ถ้าผมเป็นจริงๆจะบอกพ่อแม่ว่ายังไง ดูเป็นคำถามชวนเขิน แต่ความจริงมันเป็นคำถามที่โคตรซีเรียสเลยครับ เครียดมาก
ความเครียดเหล่านี้เป็นเหมือนผีที่หลอกหลอนครับ ยิ่งเครียดก็ยิ่งคิด ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ยิ่งพยายามปัดภาพหื่นกามเหล่านั้นออกจากหัว มันก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม ถ้าผมบอกกับคุณว่า อย่าคิดถึงช้างสีเหลือง คุณก็คงห้ามความคิดตัวเองให้ไม่นึกถึงมันไม่ได้ สำหรับผมก็คงคล้ายๆกันครับ เพียงแต่ช้างสีเหลืองมันไม่ได้ส่งผลอะไรกับความรู้สึกเรา เราก็จะเฉยๆและลืมมันไปในที่สุด แต่พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเพศ มันจะเป็นหนักกว่าเยอะมากครับ เราจะโดน trigger ง่าย และภาพเหล่านั้นออกจากหัวยากมาก ทุกๆครั้งที่เจอเพื่อนผู้ชาย หรืออยู่ใกล้ๆผู้ชายก็จะมีภาพนั้นขึ้นมาในหัว พยายามปัดออกแล้วแต่มันไม่หาย อีกความคิดนึงคือรู้สึกแย่กับตัวเองมาก ผมไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมมันถึงเกิดอาการแบบนี้ขึ้นโดยที่ไม่มีที่มาที่ไปและผมควบคุมมันไม่ได้เลย
จนผมได้ไปพบกับข้อมูลเกี่ยวกับอาการแบบนี้ครับ มันคือสิ่งที่พบได้กับคนทุกเพศทุกวัย อาการของคนที่มีเพศที่ชอบเพศนึงมาตั้งแต่เด็ก แต่อยู่ดีๆวันนึงกลับนึกถึงแต่ภาพของอีกเพศนึง รู้สึกมีอารมณ์กับภาพเหล่านั้นในหัว แต่ในอีกทางก็รู้สึกสับสนกับตัวเองอย่างรุนแรงจนอาจทำให้เกิดภาวะเครียดได้ นั่นก็คืออาการ HOCD หรืออีกชื่อคือ Sexual Orientation OCD ครับ ใช่ครับ มันคือการย้ำคิดย้ำทำในรูปแบบของเรื่องเพศนั่นแหละครับ (ผมเองก็เพิ่งมาเข้าใจว่าการย้ำคิดย้ำทำมันเป็นแบบนี้นี่เอง ก่อนหน้านี้เคยคิดไปเองว่า OCD เป็นแค่โรคสำหรับคนจิตอ่อน แต่เอาจริงๆไม่เลย คนสุขภาพจิตดีก็เป็นได้เช่นกันครับ)
ความเครียดที่คนเหล่านี้มักจะเจอคือความรู้สึกผิดหวังในตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองมีความบกพร่อง ไม่เหมือนเดิม รู้สึกสูญเสียความเป็นตัวเองที่เคยรู้จัก
อาการ HOCD หรือ Sexual Orientation OCD มีรากฐานมาจากการที่ตัวคนนั้นต้องการความแน่นอนในตัวเองอย่างชัดเจนในเรื่องเพศที่ตัวเองเป็น ซึ่งความต้องการความชัดเจนนั้นมันแรงมากจนทำให้เค้าต้องทดสอบตัวเองว่าเค้าเป็นเพศที่เค้าคิดว่าเค้าเป็นจริงๆรึเปล่า
คนที่เป็นอาการนี้เค้ามักจะเช็คตัวเองเพื่อดูว่าร่างกายตัวเราตอบสนองยังไงกับคนแต่ละเพศ อย่างเคสผม ผมก็จะจ้องมองดูผู้ชายที่เดินผ่านไปมาหรือเปิดรูปภาพต่างๆนาๆของผู้ชายเพื่อดูว่าผมจะรู้สึกยังไงกับร่างกายพวกเค้า ลึกๆในใจก็บอกตัวเองว่าอย่ามีอารมณ์นะ ซึ่งตรงนี้เนี่ยแหละครับ ที่จะทำให้เราสามารถรู้สึกแปลกๆได้
เพราะในความจริงแล้ว เมื่อเราพยายามที่จะหลีกเลี่ยงความรู้สึกอะไรบางอย่าง เราจะยิ่งรู้สึกกับมันง่ายขึ้น เหมือนเราพยายามบอกตัวเองว่าอย่าปวดฉี่ อีกไม่นานเราก็จะปวดฉี่เพราะเราเอาตัวเองไปโฟกัสตรงนั้นตลอดเวลาจนร่างกายมันทำงานของมันไปเอง ความรู้สึกมีอารมณ์ทางเพศก็เช่นกันครับ การพยายามที่จะไม่คิดถึงเรื่องไหนมีค่าเท่ากับการคิดเรื่องนั้นโดยตรง การพยายามไม่นึกว่าตัวเองจะเอนจอยการมีเซ็กซ์กับคนไหนก็เหมือนกับการทำให้ตัวเองนึกถึงภาพนั้นไปโดยปริยาย
ตอนที่ทดสอบตัวเอง ผมทดสอบตัวเองด้วย Mindset ที่คาดหวังให้เองเป็นผู้ชาย ซึ่งความหวังนั้นเลยก่อให้เกิดเป็นความกลัว กลัวว่าตัวเองจะเป็นอีกเพศรึเปล่า ซึ่งพอมันเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่เป็นความกลัวเมื่อไหร่ เมื่อนั้นแหละที่มันจะติดอยู่ในหัว มันจะค่อยๆสร้างภาพหื่นๆที่ชวนให้เรามีอารมณ์ร่วม พอเป็นอย่างนี้นานๆเข้าก็ทำให้เราเริ่มที่จะมองตัวเองแตกต่างไปจากเดิม ก็ยิ่งรู้สึกแย่ ยิ่งรู้สึกกลัวในเรื่องของความสัมพันธ์ เรายิ่งพยายามปัดภาพนั้นออกจากหัวแรงขึ้น แต่พอยิ่งพยายามปัดออกก็ยิ่งคิดอีก พอเรายิ่งคิดยิ่งเห็นภาพบ่อยๆบางทีมันอาจจะเริ่มทำให้เราเริ่มเข้าใจผิดกับตัวเองว่า ถ้าเรามีภาพภาพนั้นในหัวตลอดเวลา แสดงว่าเราต้องเป็นอีกเพศนึงแน่ๆเลย
สำหรับผมแล้วสิ่งที่ช่วยให้ผมออกมาจากความเครียดได้เป็นอย่างแรกคือการที่ได้รับรู้ว่าสิ่งที่เราเป็นมันไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดปกติ มันคืออาการ HOCD มันถูกวิจัยและมีการศึกษามาจริงๆ มันเป็นสิ่งที่ใครๆก็เป็นได้ ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดอายุ ไม่จำกัดนิสัย มันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของคุณ มันเป็นผลลัพท์ที่เกิดขึ้นจากความกลัวและความต้องการความแน่นอนก็เท่านั้นเอง
ความจริงในโลกนี้ที่สำคัญกว่าก็คือ เราทุกคนสามารถมองใครแล้วรู้สึกว่าคนนั้นน่าดึงดูดก็ได้ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตาม ความน่าดึงดูดไม่ได้จำกัดแค่เพศเดียว และต่อให้คุณดึงดูดกับใครก็ตามก็ไม่ได้หมายความว่าคุณอยากจะอยู่กับคนนั้นจริงๆเสมอไป มันโอเคที่จะชื่นชมเรือนร่างของกันและกันและรู้สึกว่าคนคนนี้ดูดี มันโอเคที่เราจะรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องเพศไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นเพศเดียวกับคุณหรือไม่ก็ตาม การชื่นชมสิ่งไหนไม่ได้แปลว่าเราจะชอบสิ่งนั้นเสมอไป ผมอาจจะเห็นภาพของลับของผู้ชายคนอื่นแล้วรู้สึกชื่นชมว่าทรงมันสวย ทรงมันดี รูปร่างหน้าตาขนาดมันเยี่ยม คนที่ได้ใช้งานมันน่าจะพึงพอใจ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมต้องการมันจริงๆ ผมไม่ได้รังเกียจมัน(ก็มีอยู่เองอันนึงจะไปรังเกียจมันทำไม) แต่ก็ไม่ได้แปลว่าผมอยากจะได้มันมาสักหน่อย
คนที่ผ่านอาการนี้มาได้ อาจจะเจอกับอีกอาการนึงที่เรียกว่า Backdoor Spike เป็นอาการที่เราผ่านความเครียดและความกลัวมาได้แล้ว แต่ในหัวยังมีภาพเหล่านั้นเข้ามาอยู่ ขอให้รู้ไว้ว่า อย่าไปเครียด ถ้าสมองมันอยากคิดก็ให้มันคิดไป ไม่ต้องไปห้ามความคิด อยู่นิ่ง เงียบๆ มองดูความคิดเข้ามาในหัว แล้วก็มองมันจางไป ไม่ต้องไปออกความคิดเห็นอะไรกับมันทั้งสิ้น เพราะยิ่งไปสู้กับมันมันยิ่งสู้กลับ เดี๋ยวมันจะดีขึ้นครับ เชื่อผม การทำสมาธิช่วยได้เยอะมากๆครับ ผมผ่านมันมาได้แล้ว ตอนนี้กลับมาเป็นปกติแล้ว ผมเชื่อว่าทุกคนที่เป็นสามารถผ่านมันไปได้ครับ
สำหรับใครที่เจอกับอาการนี้อยู่ ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน หรืออายุเท่าไหร่ ผมอยากบอกว่าคุณไม่ได้เป็นคนเดียว ผมเองก็ไม่ได้เป็นคนเดียว คนหลายคนเป็นอาการนี้แต่ไม่กล้าเปิดเผย ไม่กล้าคุยกับคนรอบข้าง บางทีเปิดกูเกิลก็ใช่ว่าจะเจอข้อมูลทุกอย่างถ้าไม่รู้ว่าจะต้องเสิร์ชคำว่าอะไร (ผมเสริชหาข้อมูล HOCD ภาษาไทยพบว่าหาได้น้อยมากและยังเป็นที่เข้าไม่ถึงของคนไทยหลายคนที่อาจจะไม่ได้ถนัดภาษาอังกฤษ)
ผมไม่หวังให้คนที่เข้ามาอ่านต้องเชื่อตามสิ่งที่ผมพิมพ์หมดทุกอย่าง เพราะผมเองก็เป็นแค่คนที่ประสบเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นหมอหรือนักจิตวิทยาจริงๆ บางคนอาจจะเป็นหนักกว่าผม บางคนอาจจะต้องพบแพทย์ แต่อย่างน้อยผมก็หวังว่าสิ่งที่ผมพิมพ์มานี้จะช่วยเป็นประตูบานแรกๆให้คนที่เป็นแบบผมได้เข้าใจอะไรเพิ่มเติมครับ อย่างน้อยการได้เข้าใจในภาวะนี้เบื้องต้นก็น่าจะช่วยลดความเครียดไปได้ส่วนนึง ตอนผมเป็นอาการนี้แล้วผมทุกข์มากๆ พอผมเข้าใจว่ามันคืออะไรผมก็แค่เอามาแชร์ในมุมมองของผม ผมไม่อยากให้คนต้องมาเครียดแบบผมครับ ถ้าอยากรู้จริงต้องไปอ่านเพิ่มเติมนะครับ เสิร์ชภาษาอังกฤษได้เลยครับว่า HOCD หรือ Sexual Orientation OCD ครับ
ถ้าใครฟังอังกฤษออกอยากให้ฟังคลิปนี้ครับ เนื้อหาที่ผมเขียนในนี้เอามาจากคลิปนี้เยอะครับ ไปฟังโดยตรงเลยได้ข้อมูลเยอะกว่าอ่านของผมแน่นอน:
https://youtu.be/IegwfVAGRIU
ขอให้มีความสุขทางกายและทางใจครับ
#เรื่องเพศต้องพูด
สับสน ชอบเพศนึงมาตลอด แต่จู่ๆวันนึงก็ดันไปชอบอีกเพศ คุณอาจจะกำลังเจอกับภาวะ HOCD หรือ Sexual Orientation OCD
ขอสาบานว่าเรื่องที่กำลังจะเล่าเป็นความจริงทั้งหมด และเหตุผลเดียวเลยที่ผมเอาเรื่องนี้มาพิมพ์ก็เผื่อว่าวันนึงมีคนเจอประสบการณ์แบบผม ผมหวังว่าเค้าจะเสริชมาเจอกระทู้นี้จะได้ไม่สับสนและทำให้เกิดอาการซึมเศร้าแบบที่ผมเจอครับ
เคสอาการคล้ายๆผม: https://hd.co.th/ask/46606409
เล่าตามประสบการณ์ตรงของผม ผมเป็นผู้ชายโดยแท้ครับ ผมชอบผู้หญิง ผมชอบทุกๆอย่างที่เป็นเรือนร่างของผู้หญิงมาตลอด ผมหลงไหลกับส่วนเว้าโค้ง กับเสียง กับกลิ่น และไม่เคยมีความคิดที่จะชอบเพศเดียวกันเลยสักครั้ง แฟนที่คบมา คนคุยที่เคยคุยมา ล้วนเป็นผู้หญิงทั้งหมด ผมไม่เคยเปิดโอกาสให้คนเพศเดียวกันเข้ามาอยู่ในความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อนเลย ซึ่งนี่คือทางเลือกและรสนิยมของผมเอง ไม่ใช่การรังเกียจคนต่างเพศ ทุกๆคนสามารถมีรสนิยมในเรื่องเพศของตัวเองได้ตามใจชอบครับ
วันหนึ่งผมไม่รู้ว่าอะไรดลบันดาลใจให้ผมไปนึกภาพผู้ชายในหัว ผมนึกถึงภาพตัวเองกำลังมีอะไรกับผู้ชาย นึกถึงภาพตัวเองกำลังจ้องมองผู้ชายแก้ผ้า ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และผมเองก็ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นในหัวของผม ผมเริ่มค้นหาคำตอบ เพื่อดูว่ามีใครเป็นอาการเดียวกับผมรึเปล่า ค้นหาว่าสรุปแล้วผมเป็นไบหรือเป็นเกย์จริงๆใช่มั้ย ผมเริ่มรู้สึกว่าผมมองเพื่อนผู้ชายไม่เหมือนเดิม ทุกๆครั้งที่ผมมองเพื่อนผู้ชายจะมีแต่ภาพเหล่านั้นเข้ามาในหัวตลอดเวลา ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าสุดท้ายแล้วผมยังเป็นผู้ชายจริงๆรึเปล่า สรุปแล้วชีวิตผมเองที่ผมรู้จักดีมาตลอด มันคือสิ่งที่ผมโกหกและปกปิดตัวเองใช่มั้ย ถ้าคนที่ไม่เคยเจอภาวะแบบนี้มาก่อนอาจจะรู้สึกเฉยๆ แต่สำหรับคนที่เจอกับภาวะนี้โดยตรงผมบอกเลยว่ามันเครียดและทรมานมากครับ มันไม่สนุกเลยจริงๆ
ผมไม่สามารถเอาความเครียดนี้ไปคุยกับใครได้เลย แม้แต่เพื่อนสนิทที่สุดคนหนึ่งที่ผมกล้าเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังผมก็ไม่กล้าเอาไปเล่า ผมกลัวว่าเค้าจะมองผมไม่เหมือนเดิมและไม่กล้าที่จะนั่งกินเบียร์ในห้องด้วยกันสองคนอีก ผมกลัวว่าถ้าทุกคนรู้ว่าผมมีอาการนี้ผมจะโดนมองอีกแบบ เพื่อนผู้ชายจะไม่สนิทเท่าเดิม (ปกติก็ไม่มีเพื่อนผู้หญิงอยู่แล้วถ้าไม่มีเพื่อนผู้ชายด้วยก็คือหมดเลยครับ) ผมกลัวว่าแฟนของผมถ้ารู้เรื่องความคิดนี้เข้าจะเสียใจและเลิกกับผม ผมกลัวว่าอะไรในชีวิตมันจะไม่เหมือนเดิม ผมไม่ได้กลัวหรือรังเกียจคนที่เป็น LGBT หรือเพศอะไรก็ตามนะครับ ผมเคารพในทุกเพศ ผมแค่กลัวในความไม่แน่นอนของตัวผมเอง ผมกลัวการสูญเสียความสัมพันธ์ในรูปแบบที่ผมคุ้นชินไป มีคำถามหลายคำถามเข้ามาในหัว เช่น ผมควรจะเลิกกับแฟนผมเลยมั้ย ผมควรจะหันไปคบกับเพศเดียวกันมั้ย มันจะแตกต่างไปจากเดิมแค่ไหน ถ้าผมเป็นจริงๆจะบอกพ่อแม่ว่ายังไง ดูเป็นคำถามชวนเขิน แต่ความจริงมันเป็นคำถามที่โคตรซีเรียสเลยครับ เครียดมาก
ความเครียดเหล่านี้เป็นเหมือนผีที่หลอกหลอนครับ ยิ่งเครียดก็ยิ่งคิด ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ยิ่งพยายามปัดภาพหื่นกามเหล่านั้นออกจากหัว มันก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม ถ้าผมบอกกับคุณว่า อย่าคิดถึงช้างสีเหลือง คุณก็คงห้ามความคิดตัวเองให้ไม่นึกถึงมันไม่ได้ สำหรับผมก็คงคล้ายๆกันครับ เพียงแต่ช้างสีเหลืองมันไม่ได้ส่งผลอะไรกับความรู้สึกเรา เราก็จะเฉยๆและลืมมันไปในที่สุด แต่พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเพศ มันจะเป็นหนักกว่าเยอะมากครับ เราจะโดน trigger ง่าย และภาพเหล่านั้นออกจากหัวยากมาก ทุกๆครั้งที่เจอเพื่อนผู้ชาย หรืออยู่ใกล้ๆผู้ชายก็จะมีภาพนั้นขึ้นมาในหัว พยายามปัดออกแล้วแต่มันไม่หาย อีกความคิดนึงคือรู้สึกแย่กับตัวเองมาก ผมไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมมันถึงเกิดอาการแบบนี้ขึ้นโดยที่ไม่มีที่มาที่ไปและผมควบคุมมันไม่ได้เลย
จนผมได้ไปพบกับข้อมูลเกี่ยวกับอาการแบบนี้ครับ มันคือสิ่งที่พบได้กับคนทุกเพศทุกวัย อาการของคนที่มีเพศที่ชอบเพศนึงมาตั้งแต่เด็ก แต่อยู่ดีๆวันนึงกลับนึกถึงแต่ภาพของอีกเพศนึง รู้สึกมีอารมณ์กับภาพเหล่านั้นในหัว แต่ในอีกทางก็รู้สึกสับสนกับตัวเองอย่างรุนแรงจนอาจทำให้เกิดภาวะเครียดได้ นั่นก็คืออาการ HOCD หรืออีกชื่อคือ Sexual Orientation OCD ครับ ใช่ครับ มันคือการย้ำคิดย้ำทำในรูปแบบของเรื่องเพศนั่นแหละครับ (ผมเองก็เพิ่งมาเข้าใจว่าการย้ำคิดย้ำทำมันเป็นแบบนี้นี่เอง ก่อนหน้านี้เคยคิดไปเองว่า OCD เป็นแค่โรคสำหรับคนจิตอ่อน แต่เอาจริงๆไม่เลย คนสุขภาพจิตดีก็เป็นได้เช่นกันครับ)
ความเครียดที่คนเหล่านี้มักจะเจอคือความรู้สึกผิดหวังในตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองมีความบกพร่อง ไม่เหมือนเดิม รู้สึกสูญเสียความเป็นตัวเองที่เคยรู้จัก
อาการ HOCD หรือ Sexual Orientation OCD มีรากฐานมาจากการที่ตัวคนนั้นต้องการความแน่นอนในตัวเองอย่างชัดเจนในเรื่องเพศที่ตัวเองเป็น ซึ่งความต้องการความชัดเจนนั้นมันแรงมากจนทำให้เค้าต้องทดสอบตัวเองว่าเค้าเป็นเพศที่เค้าคิดว่าเค้าเป็นจริงๆรึเปล่า
คนที่เป็นอาการนี้เค้ามักจะเช็คตัวเองเพื่อดูว่าร่างกายตัวเราตอบสนองยังไงกับคนแต่ละเพศ อย่างเคสผม ผมก็จะจ้องมองดูผู้ชายที่เดินผ่านไปมาหรือเปิดรูปภาพต่างๆนาๆของผู้ชายเพื่อดูว่าผมจะรู้สึกยังไงกับร่างกายพวกเค้า ลึกๆในใจก็บอกตัวเองว่าอย่ามีอารมณ์นะ ซึ่งตรงนี้เนี่ยแหละครับ ที่จะทำให้เราสามารถรู้สึกแปลกๆได้
เพราะในความจริงแล้ว เมื่อเราพยายามที่จะหลีกเลี่ยงความรู้สึกอะไรบางอย่าง เราจะยิ่งรู้สึกกับมันง่ายขึ้น เหมือนเราพยายามบอกตัวเองว่าอย่าปวดฉี่ อีกไม่นานเราก็จะปวดฉี่เพราะเราเอาตัวเองไปโฟกัสตรงนั้นตลอดเวลาจนร่างกายมันทำงานของมันไปเอง ความรู้สึกมีอารมณ์ทางเพศก็เช่นกันครับ การพยายามที่จะไม่คิดถึงเรื่องไหนมีค่าเท่ากับการคิดเรื่องนั้นโดยตรง การพยายามไม่นึกว่าตัวเองจะเอนจอยการมีเซ็กซ์กับคนไหนก็เหมือนกับการทำให้ตัวเองนึกถึงภาพนั้นไปโดยปริยาย
ตอนที่ทดสอบตัวเอง ผมทดสอบตัวเองด้วย Mindset ที่คาดหวังให้เองเป็นผู้ชาย ซึ่งความหวังนั้นเลยก่อให้เกิดเป็นความกลัว กลัวว่าตัวเองจะเป็นอีกเพศรึเปล่า ซึ่งพอมันเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่เป็นความกลัวเมื่อไหร่ เมื่อนั้นแหละที่มันจะติดอยู่ในหัว มันจะค่อยๆสร้างภาพหื่นๆที่ชวนให้เรามีอารมณ์ร่วม พอเป็นอย่างนี้นานๆเข้าก็ทำให้เราเริ่มที่จะมองตัวเองแตกต่างไปจากเดิม ก็ยิ่งรู้สึกแย่ ยิ่งรู้สึกกลัวในเรื่องของความสัมพันธ์ เรายิ่งพยายามปัดภาพนั้นออกจากหัวแรงขึ้น แต่พอยิ่งพยายามปัดออกก็ยิ่งคิดอีก พอเรายิ่งคิดยิ่งเห็นภาพบ่อยๆบางทีมันอาจจะเริ่มทำให้เราเริ่มเข้าใจผิดกับตัวเองว่า ถ้าเรามีภาพภาพนั้นในหัวตลอดเวลา แสดงว่าเราต้องเป็นอีกเพศนึงแน่ๆเลย
สำหรับผมแล้วสิ่งที่ช่วยให้ผมออกมาจากความเครียดได้เป็นอย่างแรกคือการที่ได้รับรู้ว่าสิ่งที่เราเป็นมันไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดปกติ มันคืออาการ HOCD มันถูกวิจัยและมีการศึกษามาจริงๆ มันเป็นสิ่งที่ใครๆก็เป็นได้ ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดอายุ ไม่จำกัดนิสัย มันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของคุณ มันเป็นผลลัพท์ที่เกิดขึ้นจากความกลัวและความต้องการความแน่นอนก็เท่านั้นเอง
ความจริงในโลกนี้ที่สำคัญกว่าก็คือ เราทุกคนสามารถมองใครแล้วรู้สึกว่าคนนั้นน่าดึงดูดก็ได้ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตาม ความน่าดึงดูดไม่ได้จำกัดแค่เพศเดียว และต่อให้คุณดึงดูดกับใครก็ตามก็ไม่ได้หมายความว่าคุณอยากจะอยู่กับคนนั้นจริงๆเสมอไป มันโอเคที่จะชื่นชมเรือนร่างของกันและกันและรู้สึกว่าคนคนนี้ดูดี มันโอเคที่เราจะรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องเพศไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นเพศเดียวกับคุณหรือไม่ก็ตาม การชื่นชมสิ่งไหนไม่ได้แปลว่าเราจะชอบสิ่งนั้นเสมอไป ผมอาจจะเห็นภาพของลับของผู้ชายคนอื่นแล้วรู้สึกชื่นชมว่าทรงมันสวย ทรงมันดี รูปร่างหน้าตาขนาดมันเยี่ยม คนที่ได้ใช้งานมันน่าจะพึงพอใจ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมต้องการมันจริงๆ ผมไม่ได้รังเกียจมัน(ก็มีอยู่เองอันนึงจะไปรังเกียจมันทำไม) แต่ก็ไม่ได้แปลว่าผมอยากจะได้มันมาสักหน่อย
คนที่ผ่านอาการนี้มาได้ อาจจะเจอกับอีกอาการนึงที่เรียกว่า Backdoor Spike เป็นอาการที่เราผ่านความเครียดและความกลัวมาได้แล้ว แต่ในหัวยังมีภาพเหล่านั้นเข้ามาอยู่ ขอให้รู้ไว้ว่า อย่าไปเครียด ถ้าสมองมันอยากคิดก็ให้มันคิดไป ไม่ต้องไปห้ามความคิด อยู่นิ่ง เงียบๆ มองดูความคิดเข้ามาในหัว แล้วก็มองมันจางไป ไม่ต้องไปออกความคิดเห็นอะไรกับมันทั้งสิ้น เพราะยิ่งไปสู้กับมันมันยิ่งสู้กลับ เดี๋ยวมันจะดีขึ้นครับ เชื่อผม การทำสมาธิช่วยได้เยอะมากๆครับ ผมผ่านมันมาได้แล้ว ตอนนี้กลับมาเป็นปกติแล้ว ผมเชื่อว่าทุกคนที่เป็นสามารถผ่านมันไปได้ครับ
สำหรับใครที่เจอกับอาการนี้อยู่ ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน หรืออายุเท่าไหร่ ผมอยากบอกว่าคุณไม่ได้เป็นคนเดียว ผมเองก็ไม่ได้เป็นคนเดียว คนหลายคนเป็นอาการนี้แต่ไม่กล้าเปิดเผย ไม่กล้าคุยกับคนรอบข้าง บางทีเปิดกูเกิลก็ใช่ว่าจะเจอข้อมูลทุกอย่างถ้าไม่รู้ว่าจะต้องเสิร์ชคำว่าอะไร (ผมเสริชหาข้อมูล HOCD ภาษาไทยพบว่าหาได้น้อยมากและยังเป็นที่เข้าไม่ถึงของคนไทยหลายคนที่อาจจะไม่ได้ถนัดภาษาอังกฤษ)
ผมไม่หวังให้คนที่เข้ามาอ่านต้องเชื่อตามสิ่งที่ผมพิมพ์หมดทุกอย่าง เพราะผมเองก็เป็นแค่คนที่ประสบเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นหมอหรือนักจิตวิทยาจริงๆ บางคนอาจจะเป็นหนักกว่าผม บางคนอาจจะต้องพบแพทย์ แต่อย่างน้อยผมก็หวังว่าสิ่งที่ผมพิมพ์มานี้จะช่วยเป็นประตูบานแรกๆให้คนที่เป็นแบบผมได้เข้าใจอะไรเพิ่มเติมครับ อย่างน้อยการได้เข้าใจในภาวะนี้เบื้องต้นก็น่าจะช่วยลดความเครียดไปได้ส่วนนึง ตอนผมเป็นอาการนี้แล้วผมทุกข์มากๆ พอผมเข้าใจว่ามันคืออะไรผมก็แค่เอามาแชร์ในมุมมองของผม ผมไม่อยากให้คนต้องมาเครียดแบบผมครับ ถ้าอยากรู้จริงต้องไปอ่านเพิ่มเติมนะครับ เสิร์ชภาษาอังกฤษได้เลยครับว่า HOCD หรือ Sexual Orientation OCD ครับ
ถ้าใครฟังอังกฤษออกอยากให้ฟังคลิปนี้ครับ เนื้อหาที่ผมเขียนในนี้เอามาจากคลิปนี้เยอะครับ ไปฟังโดยตรงเลยได้ข้อมูลเยอะกว่าอ่านของผมแน่นอน: https://youtu.be/IegwfVAGRIU
ขอให้มีความสุขทางกายและทางใจครับ
#เรื่องเพศต้องพูด