”โรคระบาดมรณะ“ ในประวัติศาตร์ที่เคยทำให้อารยธรรมมนุษย์สูญพันธ์มาแล้ว ระบาดเพียง 5 ปีเท่านั้นทำให้ประชากรหายไป 80%

เพื่อนๆ ครับ ช่วงนี้ผมค่อนข้างสนใจศึกษาเรื่องหาฟามรู้เพิ่มเติมเรื่องการระบาดของโรค เพื่อหาวิธีป้องกันตัวเอง เพราะตอนนี้มันใกล้ตัวเรามากๆ
กระทู้นี้ผมไม่อยากให้เพื่อนๆ ตื่นกลัวเกินไปนะครับ แต่ผมอยากให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงภัยใกล้ตัว ที่เราต้องร่วมกันป้องกันต่อต้านโรคระบาดในปัจจุบันโดยที่ไม่ประมาท ถ้าทุกฝ่ายไม่ร่วมมือกัน  ไม่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เราอาจจะไม่เหลืออะไรเลย เพราะโรคระบาดมันไม่ได้เลือกนะครับว่าคุณจะเป็นชนชั้นไหน ผู้นำ หรือ ผู้ตาม หรือรวยล้นฟ้าหรือจนต่ำต้อย แต่มันจะพาอารยธรรมของมนุษยชาติไปทั้งยวง เหมือนที่ในอดีตที่เป็นกรณีศึกษาที่จะเล่าให้ฟัง ตามนี้ครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

พอดีไปเจองานวิจัยนึงครับ ยุคชาวแอซเทค หรือตอนนั้นเรียกว่า จักรวรรดิแอซเทค เมื่อก่อนเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ยุคนึงเลยครับ ครอบครองดินแดนแถวอเมริกากลาง ปัจจุบันอยู่แถวๆเม็กซิโกครับ ซึ่งยุคนั้นอเมริกากลางมีหลายชนเผ่าหลายเผ่าอินเดียแดง แต่ชนเผ่ายุคนั้นที่ล่าอาณาจักรครอบครองได้เกือบทั้งอเมริกากลางคือชาวแอซเทค พวกชาวแอซแทคจะค่อนข้างโหด เวลาสู้รบกับชนเผ่าไหนชนะมาได้ ก็จะจับมาบูชายันครับ โดยการเอาเฉลยขึ้นแท่นพิธีจากนั้นก็ทำการควักหัวใจ  ฆ่าตัดหัวโยนลงมาจากแท่นพิธี ซึ่งเป็นพีระมิดสูงโยนหัวลงมา เพื่อนๆ ถ้านึกไม่ออกย้อนไปดูหนังเรื่อง Apocalypto จะเห็นภาพมากๆ
ก่อนหน้านี้ มีหลักฐานบอกว่า การล่มสลายของ จักรวรรดิแอซ มาจากการรุกรานของการล่าอาณานิคมของสเปน มายึด แต่งานวิจัยล่าสุด ค้นพบว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ชาวแอซเทคหายไปจากแผนที่โลกนั้นคือ โรคระบาดมรณะ หรือที่ชาวแอซเทคเรียกว่า "โคโคลิซต์ลี" (Cocoliztli)  เพื่อนๆ ไม่เชื่อลองค้นหาคีย์เวิร์ดนี้ได้เลย มีการเผยแพร่วารสารนักวิจัยเต็มเลยครับ
ถามว่าโรคระบาดนี้มันมายังไง ก็มาจากเอเลี่ยน เอเลี่ยนไม่ได้หมายถึงเฉพาะมนุษย์ต่างดาว แต่มันหมายถึง คนต่างถิ่น สายพันธุ์ต่างถิ่น ที่มาบุกรุกหรือมาเป็นพาหะเข้ามาทำลายระบบนิเวศเดิม ซึ่งการมาของชาวสเปนที่มาล่าอาณานิคมนั่นแหละครับ ที่เอาโรคแบคทีเรียที่ติดมากับสัตว์เลี้ยงของชาวสเปน เชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า เชื้อซัลโมเนลลา ซึ่งมันก่อโรคไข้ทัยฟอยด์ ในมนุษย์ตอนนั้น โรคระบาดนี้เกิดในช่วงปี 1545-1550
ถามว่ารู้ได้ไง คือ นักวิจัยได้ขุดซากศพชาวแอซแทคมาดู ปรากฏว่าหลายๆ ศพที่พบว่าฟันของแต่ละศพเจอ DNA ของเชื้อซัลโมเนลลา ครับ
ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่บันทึกโดยชาวตะวันตกระบุว่า ในปี 1545 ผู้คนพากันล้มป่วยด้วยไข้สูง ปวดศีรษะ มีเลือดออกจากตา ปาก และจมูก และพากันเสียชีวิตลงภายในเวลาเพียง 3-4 วันเท่านั้น ทำให้จำนวนประชากรของจักรวรรดิแอซเทคลดลงถึง 80% หรือราว 15 ล้านคน ภายในเวลาเพียง 5 ปี

เราจะเห็นว่าโรคระบาด มันสร้างความเสียหายในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว และเสียหายครั้งละมากๆ ในระยะเวลาอันสั้น
คือทุกฝ่ายต้องช่วยกันจริงจังครับ ถ้าเราไม่รวมพลังกันสุดท้ายมนุษยชาติจะไปกันทั้งยวง เหมือนกรณีศึกษาอย่าง จักรวรรดิแอซเทค คือระบาดเพียง 5 ปีเท่านั้นล้มตายเป็นใบไม้ร่วงไปถึง 15 ล้านคน เร็วมาก

ถึงแม้มนุษย์เราพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ไปเป็นอย่างมาก สังเกตว่า ที่ผ่านๆ มายังคงมีการระบาดของโรคอุบัติใหม่ มาตลอด เช่น อิโบล่า ไข้หวัดนก ซาส์ และก็มาที่โควิด ซึ่งไวรัสมีการพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีกด้วยการกลายพันธุ์ ตอนนี้เหมือนมนุษย์ยังตามหลังไวรัสอยุ่ 1 ก้าว
ผมคิดว่านี่มันไม่ใช้เป็นปัญหาระดับประเทศ แต่มันคือปัญหาของมนุษยชาติ หรือ แมนคายด์ ครับ เพราะยุคปัจจุบันโลกเราแคบลง การเดินทางไปมาหาสู่กันรวดเร็วได้ทั่วโลกมันเชื่อมโยงกันหมด

เพื่อนลองคิดดู ถ้าแม่ค้าพ่อค้าทำกับข้าวติด แล้วผมจะไปกินข้าวที่ไหน ทุกคนต้องกินข้าวครับ ทุกวันนี้ ทุกๆ อาทิตย์ผมจะต้องออกไปจ่ายตลาดเองอาทิตย์ละครั้งกักตุน เพื่อทำกับข้าวกินเอง
ไปตลาดซูเปอร์มาเก็ต ก็เสี่ยงเจอผู้คน ถ้าคนในตลาดติด แล้วเราจะไปซื้อข้าวปลาอาหารที่ไหน เห็นมั้ยครับว่า หว่งโซ่ทุกคนเชื่อมโยงกันหมด
ทุกบริการ ทุกเซอร์วิส ทุก Supply chain มันเชื่อมโยงกัน ถ้าหยุดการทำงานไปมันกระทบเป็นโดมิโน่เลยครับ เพื่อนๆ
เมื่อฐานพีรมิดพัง ยอดพีรมิดก็อยู่ไม่ได้สุดท้ายก็ถล่มลงมาตามกฏแรงโน้มถ่วงนิวตัน ถ้าเพื่อนๆ ไม่รอด ผมก็ไม่รอดเหมือนกัน ทุกคนจะรอดได้อย่างไร?

ท้ายนี้
ให้กำลังทีมแพทย์พยาบาลที่ทำงานหนักหน้าด่านเสี่ยงโรคทุกวัน ขอให้ปลอดภัยทุกคน
ให้กำลังใจคนที่ป้องกันและดูแลตัวเองดีอยู่ ยังรอดปลอดภัยจากการติดเชื้อ (ผมก็คือหนึ่งในนั้น) เราจะเป็นผู้รอดไปด้วยกันครับ
ให้กำลังใจทุกคนที่สนับสนุนและช่วยเหลือส่วนรวมทุกคนครับ
ให้กำลังใจทุกคนและผมด้วยที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ณ ตอนนี้
ท้ายของท้ายนี้ขอให้ประชาชนคนไทยทุกคนรอดปลอดภัยไปให้ได้จากยุคโรคระบาดนี้ด้วยเถิดครับ

หลายๆ บ้าน หลายๆ ครอบครัวต้องสูญเสียสมาชิกไปเพราะโรคระบาด คือ เศร้าใจจริงๆ ครับ 
เพื่อนๆ ทุกคนดูแลตัวเองด้วยครับ

#เรียนรู้อดีตเพื่อปรับตัวให้อยู่รอด...
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 16
ตามความเห็น 15 ขออนุญาติชี้แจงเรื่อง เชื้อแบคทีเรีย Salmonella นะครับ เพราะผมอ้างอิงจากหลักฐานงานวิจัยล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์ที่พวกเขาค้นพบหลักฐานเบาะแสใหม่ว่ามีการเชื่อมโยงในการระบาดตอนนั้น
ลองเข้าไปอ่านได้ครับ ลิงค์มีความน่าเชื่อถือ เพราะมาจาก เนชั่นแนลจีโอกราฟิค เลยครับ
https://www.nationalgeographic.com/history/article/cocoliztli-salmonella-outbreak-mexico-dna-spd
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
กินเจแล้วปลอดภัยจากโควิด Facepalm

ชาติที่กินมังสวิรัตหนัก ๆ ยังระบาดและเสียชีวิตติดอันดับโลกเลย ไม่รู้พี่แกดูข่าวบ้างหรือเปล่า
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


กินมาแค่ไม่กี่ปี ยังห่างชั้นกับสำนักที่กินมายาวนานหลายสิบปี
กินจนแก่กล้า ยังต้องป้องกันตัวเองตามหลักทางการแพทย์ปัจจุบันเลย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


อารมณ์เดียวกับ ชาวเน็ตไปหาของขลังกันโรคระบาด
แต่วัดที่สร้างของขลัง ยังเข้มงวดเรื่องหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ฯลฯ
บางวัด บางศาสนสถานประกาศปิดพื้นที่ด้วยซ้ำ

ไม่ใช่แค่เมืองไทย
ต่างประเทศ หลายที่ คลัสเตอร์ที่ระบาด เกิดในโบสถ์
เพราะคิดว่าพระเจ้าคุ้มครอง ไม่จำเป็นต้องป้องกัน

ถ้าคิดแง่บวก นี่คือการคัดเลือกโดยธรรมชาติ [Natural selection]ตามกฎที่ค้นพบโดย ชาร์ล ดาร์วิน
เพี้ยนขำหนักมาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่