
เพิ่มฟังก์ชันให้พื้นที่สำหรับการจัดเก็บใน walk-in closet ยิ่งเป็นระเบียบ และตอบโจทย์การใช้งานแบบสมาร์ท จุดไหนบ้างที่จำเป็นต้องมี
รวมไอเดียเพื่อการออกแบบพื้นที่ walk-in closet อย่างลงตัวฉบับพร้อมใช้ ทั้งปรับแต่ง ออกแบบ closet ในแบบคุณ เพื่อทุกช่องชั้นเข้าถึงและเลือกหยิบใช้ชุดที่ต้องการได้อย่างสะดวก สบาย
1. ใช้กล่องหรือถาดช่วยแยกการจัดเก็บ accessory ต่างๆ อย่างเป็นหมวดหมู่ เช่น แว่นกันแดด สร้อยคอ กำไล ผ้าพันคอฯ เพื่อความเป็นระเบียบและการหยิบใช้ที่สะดวกง่าย

2. แบ่งช่องราวแขวนสำหรับเสื้อและกางเกงแยกกัน อาจให้เสื้อทั้งหมดแขวนเรียงไล่เฉดสี แยกประเภทของเสื้อไว้ที่ช่องด้านบน ส่วนช่องราวแขวนด้านล่างจัดเรียงกางเกง กระโปรง นอกจากความเป็นหมวดหมู่แล้วยังได้มุมมองที่สวยงามอีกด้วย ขนาดความสูงของช่องแขวนชุดยาว ควรสูงอย่างน้อย 70” และขนาดความสูงของชุดสั้นหรือเสื้อต่างๆ ควรอยู่ที่ 42”
3. ช่องลิ้นชักแบบบานทึบ จัดไว้ในตำแหน่งด้านล่าง เพื่อจัดเก็บชุดชั้นใน หรือถุงเท้า หรือข้าวของที่ไม่ต้องการให้เปิดเผยหรือมองเห็น จัดระเบียบด้านในด้วยช่องแบ่งขนาดต่างๆ ตามลักษณะของใช้ที่เลือกเก็บ
4. ชั้นแนวตั้งสำหรับจัดเก็บรองเท้า แทนที่จะแบ่งช่องธรรมดาเพื่อจัดวางรองเท้า ลองเลือกใช้เป็นชั้นวางรองเท้าแบบหมุนได้ ประหยัดพื้นที่แต่สามารถจุรองเท้าได้มากถึง 36 คู่ ด้วยระบบฟังก์ชันหมุน 180 องศา ให้เลือกหยิบรองเท้าคู่โปรดได้สะดวก ซึ่งชั้นวางรองเท้าแบบหมุนนี้ใช้พื้นที่ความกว้างภายในตู้อย่างน้อย 800 มม. และมีความลึกอย่างน้อย 400 มม. ติดตั้งง่ายด้วยการยึดสกรูที่ฐานและด้านบนตู้ สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 4 กก./ ชั้นวาง
ตัวเฟรมและชั้นติดตั้งง่ายด้วยเขี้ยวเกี่ยวกับเฟรม อุปกรณ์มีระบบปิดแบบนุ่มนวล และสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้
5. มีช่องสำหรับติดตั้งตะกร้าสำหรับใส่ผ้าใช้แล้ว อาจเลือกเป็นแบบตะกร้า หรือถังใส่ผ้าที่สามารถถอดออกจากชั้น หรือหยิบเคลื่อนย้ายได้สำหรับการนำไปทำความสะอาด
6. ไม่ลืมแบ่งพื้นที่ช่องเปิดด้านบนสุดของตู้ ที่มีความสูงตั้ง 16” เพื่อเก็บกระเป๋า หรือเก็บของใช้ต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้บ่อยให้เป็นสัดส่วน
Organize Closet Wardrobe Idea ออกแบบ walk-in closet อย่างไรให้ลงตัว ตอบโจทย์พร้อมใช้งาน
เพิ่มฟังก์ชันให้พื้นที่สำหรับการจัดเก็บใน walk-in closet ยิ่งเป็นระเบียบ และตอบโจทย์การใช้งานแบบสมาร์ท จุดไหนบ้างที่จำเป็นต้องมี
รวมไอเดียเพื่อการออกแบบพื้นที่ walk-in closet อย่างลงตัวฉบับพร้อมใช้ ทั้งปรับแต่ง ออกแบบ closet ในแบบคุณ เพื่อทุกช่องชั้นเข้าถึงและเลือกหยิบใช้ชุดที่ต้องการได้อย่างสะดวก สบาย
1. ใช้กล่องหรือถาดช่วยแยกการจัดเก็บ accessory ต่างๆ อย่างเป็นหมวดหมู่ เช่น แว่นกันแดด สร้อยคอ กำไล ผ้าพันคอฯ เพื่อความเป็นระเบียบและการหยิบใช้ที่สะดวกง่าย
2. แบ่งช่องราวแขวนสำหรับเสื้อและกางเกงแยกกัน อาจให้เสื้อทั้งหมดแขวนเรียงไล่เฉดสี แยกประเภทของเสื้อไว้ที่ช่องด้านบน ส่วนช่องราวแขวนด้านล่างจัดเรียงกางเกง กระโปรง นอกจากความเป็นหมวดหมู่แล้วยังได้มุมมองที่สวยงามอีกด้วย ขนาดความสูงของช่องแขวนชุดยาว ควรสูงอย่างน้อย 70” และขนาดความสูงของชุดสั้นหรือเสื้อต่างๆ ควรอยู่ที่ 42”
3. ช่องลิ้นชักแบบบานทึบ จัดไว้ในตำแหน่งด้านล่าง เพื่อจัดเก็บชุดชั้นใน หรือถุงเท้า หรือข้าวของที่ไม่ต้องการให้เปิดเผยหรือมองเห็น จัดระเบียบด้านในด้วยช่องแบ่งขนาดต่างๆ ตามลักษณะของใช้ที่เลือกเก็บ
4. ชั้นแนวตั้งสำหรับจัดเก็บรองเท้า แทนที่จะแบ่งช่องธรรมดาเพื่อจัดวางรองเท้า ลองเลือกใช้เป็นชั้นวางรองเท้าแบบหมุนได้ ประหยัดพื้นที่แต่สามารถจุรองเท้าได้มากถึง 36 คู่ ด้วยระบบฟังก์ชันหมุน 180 องศา ให้เลือกหยิบรองเท้าคู่โปรดได้สะดวก ซึ่งชั้นวางรองเท้าแบบหมุนนี้ใช้พื้นที่ความกว้างภายในตู้อย่างน้อย 800 มม. และมีความลึกอย่างน้อย 400 มม. ติดตั้งง่ายด้วยการยึดสกรูที่ฐานและด้านบนตู้ สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 4 กก./ ชั้นวาง
ตัวเฟรมและชั้นติดตั้งง่ายด้วยเขี้ยวเกี่ยวกับเฟรม อุปกรณ์มีระบบปิดแบบนุ่มนวล และสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้
5. มีช่องสำหรับติดตั้งตะกร้าสำหรับใส่ผ้าใช้แล้ว อาจเลือกเป็นแบบตะกร้า หรือถังใส่ผ้าที่สามารถถอดออกจากชั้น หรือหยิบเคลื่อนย้ายได้สำหรับการนำไปทำความสะอาด
6. ไม่ลืมแบ่งพื้นที่ช่องเปิดด้านบนสุดของตู้ ที่มีความสูงตั้ง 16” เพื่อเก็บกระเป๋า หรือเก็บของใช้ต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้บ่อยให้เป็นสัดส่วน