คิดถึง 2 บทที่ 53

กระทู้สนทนา

.

                 ไดอารี่ความคิดถึง

                 เช้าวันที่สดใสท้องฟ้าปลอดโปร่ง ดูท่าจะแดดร้อนด้วยซ้ำ หลังทานข้าวมื้อเช้าเสร็จ พี่บอมกับพี่บอลไปนากับตา ตาพาไปหว่านข้าวเพราะถึงฤดูทำนาแล้ว หลังจากเลี้ยงบ้านหรือเลี้ยงปู่ตาเสร็จหลายครอบครัวก็เริ่มทยอยลงนา

                     บางครอบครัวทำนาหว่าน บางครอบครัวทำนาดำ ส่วนครอบครัวของเธอเลือกวิธีทำนาดำ เพราะมันได้ข้าวเยอะกว่า เวลาเกี่ยวก็เกี่ยวง่าย มีหญ้าเกิดแซมน้อย นาดำมันย่อมดีกว่านาหว่านเห็นผลได้ชัดเจนหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต ถ้าใครทำนาหว่านต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ

                  เช้าวันนี้ตากับยายและพี่ชายทั้งสองคนพากันไปนา ไปหว่านข้าวเฉย ๆ หว่านวันเดียวก็เสร็จ ตาพาวัวนำหน้าไปก่อน ส่วนยายให้พี่ปาวขับมอเตอร์ไซค์ไปส่งที่นา พี่บอมกับพี่บอลซ้อนรถไปด้วยกันอีกคัน

                  ยายกับตาจ้างลูกชายอีกคนของตนมาไถนาให้ นั่นก็คือลุงโล่ ลุงโล่รับอาสารับเหมาทำให้เองแค่เงินถึง แม่กับพ่อก็ไม่เคยขัด ว่าเท่าไหร่จ่ายเท่านั้นแค่ให้เสร็จหน้านา พอไถฮุตนาเสร็จก็หว่านข้าวให้มันเกิดเป็นต้นกล้า จากนั้นพอโตได้ที่ก็ถอนและนำไปปักดำอีกทีหนึ่งก็เป็นอันเสร็จ รอเก็บเกี่ยวอย่างเดียว

                   ทุก ๆ ปีตาจะหว่านข้าวมากกว่าใคร ๆ หรือตกกล้าเยอะกว่าใคร ๆ ต้องทำเผื่อนาของพี่ ๆ ด้วย ลุงป้าทำงานที่กรุงเทพเหมือนแม่ของเธอ ก็ได้ตากับยายดูแลให้เช่นกัน ตั้งแต่หว่านกล้ายันเกี่ยวข้าวกันเลย บางปีลุงป้าก็มาทำเอง

                    ส่วนหลานสาวอย่างพวกเธอก็ไม่ต้องทำอะไรอยู่เฝ้าบ้านไปก่อนในช่วงนี้ เมื่อไหร่ที่ข้าวโตเป็นต้นกล้า เมื่อนั้นพวกเธอต้องไปช่วยยายทำ ต้องไปถอนกล้าเอาไว้ดำ ตอนนี้พี่แป้งยังไม่กลับมา เห็นว่าอีกสองวันก็จะกลับมาแล้ว เมื่อไหร่ที่พี่แป้งกลับมาถึงบ้าน พวกเธอจะพากันเข้าไปในเมืองไปหาซื้อชุดนักเรียนกัน

                  หลังจากที่พี่ปาวไปส่งยายกลับมา พี่ปาวก็พาพวกเธอปิดบ้านใหญ่ไว้ พาพวกเธอสองพี่น้องไปเล่นที่บ้านคุ้มใต้ เป็นบ้านของพี่ปาวเอง ไปทำความสะอาดไว้ทุกสัปดาห์ รอลุงกับป้ากลับมาจากกรุงเทพในช่วงเทศกาล อีกอย่างพี่คงคิดถึงบ้านด้วย จึงมาเล่นที่บ้านของตนทุกอาทิตย์ อีกเหตุผลคงอยากอยู่เล่นกับพี่อุ้ยนั่นแหละ  

                    ทีแรกเธอกะว่าจะไม่ไปด้วย คิดไปคิดมาไปเล่นคุ้มใต้ก็ดีเหมือนกัน เปลี่ยนบรรยากาศหน่อย ที่นู่นก็พอมีเพื่อนอยู่คือชมพู่ ไปเล่นกับชมพู่ก็ไม่เลว พี่ปาวพาขับมอเตอร์ไซค์ซ้อนสามกันไป พี่ปาวขับน้องบีมนั่งตรงกลางปิดท้ายด้วยเธอ พูดถึงยายก็ไม่ได้ห้ามหากจะไป แต่พวกเธอก็ไม่ได้บอกเอาไว้ กะว่าสักบ่ายสามก็จะกลับมาทำงานบ้านก่อนที่ยายกับตาจะกลับมาจากนา จึงไม่ได้ซีเรียสอะไร

                บ้านชั้นเดียวตั้งอยู่หากจากตัวหมู่บ้านพอประมาณ แถวนี้มีบ้านคนอยู่ห้าหลัง มีถนนตัดผ่านอย่างดีเลย เป็นเส้นทางที่รถสองแถวใช้วิ่งโดยสารเข้าไปในตัวเมือง เลยไปประมาณสองกิโลก็เป็นอีกหมู่บ้าน ที่ผืนนี้เมื่อก่อนเป็นป่าบักแต้ ตาถางเองไม่ได้ซื้อในสมัยก่อน จากนั้นก็ไปขอออกโฉนดที่อำเภอ

                    ตายกให้ลูกชายสองคนหนึ่งในนั้นก็คือพ่อพี่ปาว ในอนาคตคงมีคนมาปลูกบ้านขยายออกมาเยอะแน่นอน ทว่าตอนนี้มีเพียงบ้านไม่กี่หลังที่ปลูกสร้างอยู่ ณ ตรงนี้ ทำให้บรรยากาศมันเงียบสงบ ดีที่ติดถนนยังพอมีรถวิ่งผ่านให้ไม่เงียบเหงา

                 บ้านของพี่ปาวเป็นบ้านชั้นเดียวหลังเล็ก ๆ กะทัดรัดสำหรับอยู่สี่คนพ่อแม่ลูก พี่ปาวขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้าน พวกเธอลงจากรถกัน รอพี่ปาวเปิดประตูบ้านให้เข้าไป ปัดกวาดฝุ่นนิดหน่อยก็นั่งได้แล้ว มาบ้านพี่ปาวก็ไม่ได้ทำอะไร มานั่งนอนดูทีวีให้พ้นระหว่างวันเท่านั้น พี่ก็คงจะคิดถึงบ้านนั่นแหละ จึงชวนพวกเธอมาและชอบมาทุกวันหยุดในช่วงเปิดเทอม

                  พี่ปาวเปิดประตูบ้านเรียบร้อย บอสรู้งานเป็นอย่างดีเดินไปหยิบไม้กวาดมากวาดฝุ่นที่พื้นออก น้องบีมเดินไปเปิดหน้าต่างทุกบานทั่วบ้านให้ลมเข้า พี่ปาวก็หยิบไม้ขนไก่มาปัดฝุ่นหลังทีวีและตู้เย็น ส่วนหยากไย่ยังไม่ต้องปัด เพราะสัปดาห์ที่แล้วปัดกวาดไปแล้ว ทำความสะอาดคร่าว ๆ พอได้นั่งและนอนเล่นกัน เมื่อทุกคนทำความสะอาดบ้านเสร็จก็เปิดทีวีดู ไม่นานพี่อุ้ยก็ขับรถมาเล่นด้วย

                  นั่นไง ! ถึงว่า ! บอสปรายตามองพร้อมนึกในใจ ทว่าเธอก็ไม่คิดจะบอกยายกับตาหรือใครแน่นอน

                 “พี่อุ้ยมาทำไม บ้านพี่ปาวน้องบีมนะ” น้องบีมยืนจังก้าจ้องหน้าแขกมาใหม่ พี่อุ้ยหัวเราะให้

                   “มาหาพี่ปาวนั่นล่ะค๊าบ” จอดรถเสร็จก็เดินเข้ามาในบ้าน มีน้องบีมเดินตามไปด้วย

                  บอสกับน้องบีมคุ้นเคยกับพี่อุ้ยเป็นอย่างดี ไม่เคอะเขิน พี่อุ้ยทำตัวตามสบาย เข้าไปนั่งเล่นในบ้านกับพี่ปาว ทักทายพวกเธอพอหอมปากหอมคอ จากนั้นก็ต่างคนต่างอยู่

                 น้องบีมออกมาเล่นขายของคนเดียวที่หน้าบ้าน ส่วนเธอนั่งเป็นก้างขวางคอพี่อุ้ยอยู่ ในใจคิดว่าหรือตัวเองจะไปเล่นกับชมพู่ดีนะ ถัดไปจากบ้านพี่ปาวหนึ่งหลังก็เป็นบ้านของชมพู่ ระหว่างวันรถราก็วิ่งสวยกันไปมาให้รู้สึกรำคาญนิดหน่อย บ้านติดถนนมันก็รำคาญเสียงรถเหมือนกันนะ ดีอยู่อย่างเดียวคือช่วงเล่นสงกรานต์นั่นแหละ บอสค่อนข้างที่จะรำคาญกับรถวิ่งผ่านไปมาเข้าให้แล้ว

                   บอสออกมาเล่นกับน้องสาวอยู่ข้างนอก นั่งดูน้องสาวเล่นขายของคนเดียว มีกะลามะพร้าว แก้วไอศกรีม ช้อน และใบไม้อีกทั้งต้นหญ้าที่น้องบีมเก็บมาเล่นขายของ นึก ๆ แล้วก็อยากกลับไปอยู่ประถมเหมือนเดิม กลับไปตัวเท่านี้อยากเล่นขายของคงสนุก บอสมองน้องสาวเหมือนเห็นตัวเองตอนเด็ก ๆ

                   “พี่บอสเอาก๋วยเตี๋ยวมั้ย น้องบีมทำให้” จู่ ๆ น้องบีมก็พูดขึ้น คงอยากให้เธอมาร่วมเล่นด้วย “น้องบีมขายสิบบาท” แม่ค้าสมมุติตัวน้อยหันมาคุยกับเธอ มือก็กำลังสาละวนอยู่กับการทำกับข้าว เสมือนตัวเองเป็นแม่ค้าจริง ๆ

                  “ไม่อ่ะ ไม่หิว ขายแพงไปห้าบาทได้ไหม” บอสตอบ ว่าจะไม่เล่นด้วย สักหน่อยก็ดีเล่น ๆ ไปตามน้ำก็แล้วกัน น้องบีมจะได้ไม่เหงารวมทั้งตนเองด้วย วันนี้ขอลดอายุตัวเองมาเล่นขายของเป็นเพื่อนน้องสาวแล้วกัน

                   “ห้าบาทก็ได้เอากี่ชาม เอาเส้นไร” น้องบีมยอมลดราคาให้เธอ ทำท่าลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวอย่างจริงจัง

                    “ห้าบาทก็แพงไปอ่ะ สามบาทได้มั้ยบีมงั้นไม่ซื้อนะ” บอสตอบนึกสนุกอยากแกล้งน้องสาวเล่น ๆ ต่อราคาลงไปอีก น้องบีมทำสีหน้าไม่พอใจ อย่างกับขายจริง ๆ ยิ่งเพิ่มความสนุกให้เธอเข้าไปอีก

               “จะต่ออะไรนักหนา โอ้ยกำไรฉันหายไปหมดแล้ว สามบาทก็สามบาท” น้องบีมสวมบทบาทเป็นแม่ค้า พูดสมจริงมาก นั่งลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวให้เธอใหญ่เลย โดยการนำเส้นหญ้ามาทำเป็นเส้นเล็ก นำฝาแป้งฝุ่นมาทำเป็นช้อนลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว และนำน้ำมาทำน้ำชุปสมจริงมาก ๆ

                 “แต๊งกิ้วมากย่ะ อร่อยมั้ยเนี่ย” ไม่ใช่แค่น้องบีมที่สมบทบาท เธอเองก็เช่นกัน “แอะ ! ไม่อร่อยเลย ไม่คุ้มเงินสามบาท เอาไปเลยบาทเดียวพอ” บอสควักตังค์อากาศให้น้องบีมไป

                  “เอ้า ! “ น้องบีมดูท่าจะจริงจังกับราคาก๋วยเตี๋ยวแค่หนึ่งบาทมาก “เธอไม่ต้องกินเลย ชั้นไม่ขายให้เธอแล้ว” น้องบีมตอบกลับมา หลังจากนั้นก็เลิกสนใจเธอไปเลย กลับมาเล่นคนเดียว บอสแสยะยิ้มกับท่าทางงอนตุ๊บป่องของน้องสาว

                    “เธอ ! ชั้นยังกินไม่อิ่มเลย ฮา “

                 “ไม่ ! ชั้นไม่ขายให้เธอแล้ว เธอต่อราคาชั้นเหลือบาทเดียว “

                   บอสพูดยั่งยวนกวนประสาทน้องบีมให้ถึงที่สุด พวกเธอสองคนนั่งเล่นที่โต๊ะไม้หน้าบ้านของพี่ปาว มันถูกฝังลงไปในดินถาวร มันเริ่มผุบ้างแล้วเพราะใช้งานมานาน ลุงปานทำเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน บอสนั่งพูดคุยเป็นเพื่อนน้องสาวถึงจะเบื่ออยู่บ้าง ถึงจะอยากกลับบ้านตัวเองไปเล่นกับสองฝาแฝดอยู่บ้างก็ตาม ได้มาแล้วต้องอยู่ให้พ้นวันไป

                  “เด็ก ๆ หิวข้าวกันมั้ยเที่ยงแล้ว ไปซื้อตำป่าไปบอส” พี่ปาวเดินมาหยุดยืนตรงประตูพูดกับเธอ ในมือถือพวงกุญแจรถมอเตอร์ไซค์กับธนบัตรหนึ่งร้อยบาท น้องบีมหันไปมองตามเสียงพูดของพี่ “บีมเลิกเล่นไปล้างมือรอกินข้าว”

                “เอาตำร้านใครพี่ปาว” เธอเองก็เริ่มรู้สึกหิวเหมือนกัน เดินมารับเงินกับกุญแจรถมอเตอร์ไซค์จากพี่สาว “เอาร้านยายนีมั้ย มีโครงไก่ขายด้วย”

               “พี่บอสน้องบีมไปซื้อด้วยนะ” น้องบีมพูดแทรกขอตามเธอไปด้วย

                   “จะตามไปทำไมบีม รอที่บ้านกับพี่หนิ” พี่ปาวห้าม แต่ก็ไม่ถึงกับบังคับ อยากตามไปก็ไป

                 “หื่อน้องบีมอยากไป พี่ปาวน้องบีมเอาขนมด้วยได้มั้ย”

                  “ว่าและถึงว่าอยากตามเค้าไป ซื้อก็ซื้อ ! เอาร้านยายนีล่ะบอส อ่ะกุญแจพาน้องขับรถดี ๆ ล่ะ พี่อุ้ยก็จะทานด้วยนะ”

                  “จ้า ! “ บอสตอบ เดินมาเข็นรถออกไป น้องบีมเดินไปล้างมือก่อนจะรีบวิ่งมาขึ้นรถซ้อนท้ายเธอไปซื้อตำป่า บอสพาน้องขับมอเตอร์ไซค์มาทางคุ้มเหนือ เกือบถึงโรงเรียนประถมกันเลย ร้านค้ายายนีอยู่ตรงนี้

                 บอสค่อย ๆ พาน้องสาวขับมาตามถนน ขับมาอีกเส้นทางของหมู่บ้าน ผ่านคุ้มของหมิว เอ้ นิด และน้ำ ทว่าไม่ได้แวะหาขี้เกียจจะแวะคุย อีกไม่กี่วันก็เปิดเรียนไว้ค่อยคุยก็แล้วกัน

                   บอสขับผ่านหน้าตาเฉยแม้จะเห็นน้ำนั่งอยู่หน้าบ้านก็ตาม พอมาถึงร้านค้าก็พบมามีผู้คนในหมู่บ้านมารอคิวซื้อมากมาย เป็นเรื่องปกติของที่นี่เป็นร้านที่อร่อยที่สุด บอสถอนหายใจจะได้กินตอนไหนคนเยอะขนาดนี้

               บอสนำรถมาจอดใต้ต้นตะขบของบ้านตรงข้ามกับร้านยายนี เจ้าของบ้านก็ไม่ว่าอะไร มีน้ำใจให้จอดได้ตามสบาย บอสกับน้องบีมเดินเข้ามาในร้าน เขียนรายการปักลงที่เสียบให้แม่ค้า จากนั้นก็นั่งรอตามอัธยาศัย นั่งคุยกันสองคนพี่น้องรวมกับคนอื่นที่รอคิว

                  ระหว่างที่รอตำป่าเตือนใจเพื่อนหมู่ 3 ขับรถมาซื้อส้มตำที่ร้านยายนี ไม่เพียงคนในหมู่บ้านเท่านั้นที่ติดใจฝีมือ คนต่างหมู่บ้านก็ติดใจ ส่วนมากจะเป็นพวกวัยรุ่นเสียมากกว่า เนื่องจากทำเลของร้านเหมาะ และมันเป็นเส้นทางผ่านไปโรงเรียนมัธยมพอดี นับว่าเป็นทำเลที่เหมาะมาก ๆ ช่วงเปิดเทอมหลังเลิกเรียนยายนีจะขายดีมาก เพราะนักเรียนที่ขับผ่านขากลับบ้านจอดซื้อ มีหลายหมู่บ้านที่ผ่านเส้นทางนี้ระหว่างเดินทางไปกลับโรงเรียน

                   “ป๊าด ! อี่เตือนมืงนี่ลงทุนน้อ ส้มตำที่บ้านไม่มีขายหรือไง ฮา” เมื่อเห็นเพื่อนสาวเดินเข้ามาภายในร้าน บอสเดินไปทักทายด้วยความตื่นเต้น

                  “อี่เตือนใจอยากเลาะหาผู้บ่าวไม่รู้เหรอบอส ฮา “ เอ็มตอบแทน ส่วนเจ้าตัวเอาแต่หัวเราะ ถ้าจะใช่บอสนึกในใจ พร้อมปรายตามองเพื่อน

                  “ไผน้อ !” บอสแซว “ไปสั่ง ๆ อีกนานอยู่กว่าจะได้ คิวยาวเกิน”

                 “รอก่อนนะสาว ๆ ยายนีเร่งให้ทุกคนแน่นอน รีบเกินมันจะไม่อร่อย” ยายนีเมื่อเห็นพวกเธอยืนคุยกัน และได้ยินสิ่งที่เธอพูดก็พูดแทรกด้วยท่าทางขบขัน พวกเธอหันมายิ้มให้ ไม่ได้เร่งรีบอะไรอยู่แล้ว บอสกับน้องบีมและเตือนใจและเอ็มพากันไปนั่งรอบนศาลา พูดคุยกันไปเรื่อยฆ่าเวลา สักพักก็เป็นคิวของเธอ ยายนี้เรียกไปรับตำป่า บอสลุกไปเอาพร้อมน้องบีมลุกตามไปด้วย

                    “บีมไปเลือกเอาขนมเลยไป” บอสหันมาคุยกับน้องสาว “ยายนีบอสเอาโครงไก่ด้วย ขนมน้องบีมด้วยน่ะ เป็นเท่าไหร่ “

                  “หกสิบพอดีจ้าผู้สาว” ยายนีตอบบอสควักเงินจ่ายไป

                   “เตือน เอ็ม กลับก่อนนะพวกมืง เจอกันเปิดเทอมเพื่อน” ก่อนกลับบอสไม่ลืมที่จะล่ำลาเพื่อนต่างหมู่บ้าน พูดคุยกันสองสามคำก็ขอตัวกลับ บอสพาน้องบีมขับรถกลับทางเดิม น้องบีมนั้นพอได้ขนมก็ไม่ค่อยสนใจคุยกับเธอเลยในระหว่างทางกลับ กินขนมท่าเดียว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่