วานนี้ ผ่านแถวตลาดพลอย เจอกระบะติดหลังคา แปะโลโก้ทีวีสาธารณะช่องนึง จอดแถวนั้น พนง คงมาหาข่าว คนแอฟริกันครึ่งร้อย มีความเสี่ยงโควิด
ผมรู้รายงานว่า มีการขอให้คนในตลาดพลอย ตลาดพระ มาตรวจโควิด ก็นึกออกว่า วันถัดมาน่าจะมีข่าว
ผมไม่ได้คุยกับคนที่คลองบายพาสน้ำมานาน บางคนมีทั้งสวน มีทั้งพลอย มาวิ่ง มาปั่นจักรยาน เดิมทีผมจะแพ้ทางคารมคนเดินพลอย พ่อค้าพลอย แพ้จนขอห่าง ต่อจากนี้ก็คงอาจจะหายหน้ากันไปอีกยาวๆ จนเหมือนลืมหน้ากัน เพราะโควิด
พลอย ตั้งแต่แถวบ้านเลิกเผาพลอย เจียพลอย เดี๋ยวนี้ในท้องถิ่น แทบไม่มีแล้ว บางคนไปแอฟริกา เอาพลอยมาขาย จนรวย แอฟริกันหลายคนเริ่มเข้าสู่วงการตลาดพลอย มาอยู่กินมากกว่าสิบๆ ปี
แอฟริกันมีชีวิตอยู่ในเมืองแบบสังคมไม่รวมกับคนท้องถิ่นมากนัก มีรถขับขี่ มีที่พักเป็นกลุ่มของเขา ชอบวิ่งที่อ่างเก็บน้ำทุ่งนาเชย ชอบเตะบอล ไม่ค่อยเห็นเล่นบาส ไม่ค่อยเห็นขี่จักรยาน ถ้าจะคุยกับเค้า คุยอังกฤษง่ายๆ เค้าก็พอทนคุยกับเราได้ พวกเค้าเป็นมิตร ฐานะความเป็นอยู่ก็ถือว่าดีอยู่ (จะว่าไปคนกัมพูชาทำงานในตลาด ชีวิตเค้าก็มีการพัฒนาความเป็นอยู่ดีขึ้น ถ้าเทียบกับอดีต)
ด้วยความที่ไม่ได้แวะแถวนั้นบ่อย เลยขอแวะบ้าง ฝั่งโบสถ์โรมันคนก็ใช้ชีวิตปกติ คนเดิน เด็กเล่น ชิวๆ ข้ามสะพานมา ถนนริมน้ำ ก็เงียบ คือ เงียบเหมือนวันไม่มีตลาดพลอย แถวศาลเจ้ายังมีคนแก่อยู่ ตลาดพระดูเหมือนจะปิดมานาน
พอเข้าตลาดน้ำพุ มันก็ไม่ได้มีคนพร่องลงสักเท่าไร การทำมาค้าขายเป็นปกติ ผมเคยกินอะไร ก็ซื้อได้ครบไม่ขาด สายข่าวที่ขายของในตลาด ก็ไม่ได้แสดงความกังวลอะไร ทั้งที่แอฟริกันมีชีวิตที่นี่มากมาย แต่ที่นี่เค้าไม่ค่อยมาเดินเอง
ออกตลาดน้ำพุ ขอดูทุ่งนาเชยเสียหน่อย คนออกมาใช้พื้นที่ออกกำลังเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะมีมากขึ้นบ้างก็พวกเปิดท้ายขายของ (ผมไปไหน เจอแต่ขายทุเรียน) อัตราคนมาออกกำลังกายและใส่แมส ก็ดูดีขึ้นหน่อย
โดยรวมแล้วมันก็ไม่มีอะไร รพ เอกชน มีกี่เตียงก็เต็ม รพ สนาม ยังว่าง รพ รัฐ ยังมี ใครป่วยก็รักษากันไป ถ้าไม่อยากลำบากก็ทำตามรัฐบาลสั่ง และก็หาฉีดวัคซีนให้จบๆ ไป
ตลาดพลอย แอฟริกัน โควิด
ผมรู้รายงานว่า มีการขอให้คนในตลาดพลอย ตลาดพระ มาตรวจโควิด ก็นึกออกว่า วันถัดมาน่าจะมีข่าว
ผมไม่ได้คุยกับคนที่คลองบายพาสน้ำมานาน บางคนมีทั้งสวน มีทั้งพลอย มาวิ่ง มาปั่นจักรยาน เดิมทีผมจะแพ้ทางคารมคนเดินพลอย พ่อค้าพลอย แพ้จนขอห่าง ต่อจากนี้ก็คงอาจจะหายหน้ากันไปอีกยาวๆ จนเหมือนลืมหน้ากัน เพราะโควิด
พลอย ตั้งแต่แถวบ้านเลิกเผาพลอย เจียพลอย เดี๋ยวนี้ในท้องถิ่น แทบไม่มีแล้ว บางคนไปแอฟริกา เอาพลอยมาขาย จนรวย แอฟริกันหลายคนเริ่มเข้าสู่วงการตลาดพลอย มาอยู่กินมากกว่าสิบๆ ปี
แอฟริกันมีชีวิตอยู่ในเมืองแบบสังคมไม่รวมกับคนท้องถิ่นมากนัก มีรถขับขี่ มีที่พักเป็นกลุ่มของเขา ชอบวิ่งที่อ่างเก็บน้ำทุ่งนาเชย ชอบเตะบอล ไม่ค่อยเห็นเล่นบาส ไม่ค่อยเห็นขี่จักรยาน ถ้าจะคุยกับเค้า คุยอังกฤษง่ายๆ เค้าก็พอทนคุยกับเราได้ พวกเค้าเป็นมิตร ฐานะความเป็นอยู่ก็ถือว่าดีอยู่ (จะว่าไปคนกัมพูชาทำงานในตลาด ชีวิตเค้าก็มีการพัฒนาความเป็นอยู่ดีขึ้น ถ้าเทียบกับอดีต)
ด้วยความที่ไม่ได้แวะแถวนั้นบ่อย เลยขอแวะบ้าง ฝั่งโบสถ์โรมันคนก็ใช้ชีวิตปกติ คนเดิน เด็กเล่น ชิวๆ ข้ามสะพานมา ถนนริมน้ำ ก็เงียบ คือ เงียบเหมือนวันไม่มีตลาดพลอย แถวศาลเจ้ายังมีคนแก่อยู่ ตลาดพระดูเหมือนจะปิดมานาน
พอเข้าตลาดน้ำพุ มันก็ไม่ได้มีคนพร่องลงสักเท่าไร การทำมาค้าขายเป็นปกติ ผมเคยกินอะไร ก็ซื้อได้ครบไม่ขาด สายข่าวที่ขายของในตลาด ก็ไม่ได้แสดงความกังวลอะไร ทั้งที่แอฟริกันมีชีวิตที่นี่มากมาย แต่ที่นี่เค้าไม่ค่อยมาเดินเอง
ออกตลาดน้ำพุ ขอดูทุ่งนาเชยเสียหน่อย คนออกมาใช้พื้นที่ออกกำลังเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะมีมากขึ้นบ้างก็พวกเปิดท้ายขายของ (ผมไปไหน เจอแต่ขายทุเรียน) อัตราคนมาออกกำลังกายและใส่แมส ก็ดูดีขึ้นหน่อย
โดยรวมแล้วมันก็ไม่มีอะไร รพ เอกชน มีกี่เตียงก็เต็ม รพ สนาม ยังว่าง รพ รัฐ ยังมี ใครป่วยก็รักษากันไป ถ้าไม่อยากลำบากก็ทำตามรัฐบาลสั่ง และก็หาฉีดวัคซีนให้จบๆ ไป