มาอวดเมืองไทยกันค่ะ

เนื่องจากแฟนเรา เป็นชาวต่างชาติ จริง ๆ แฟนมาเที่ยวเมืองไทยทุกปีกับครอบครัว เป็นระยะเวลานับ 10 ปี ก่อนที่จะได้มารู้จักกับเรา พอมาเจอกันก็เลยสอบถามว่าไปไหนมาบ้าง เธอว่าส่วนใหญ่คือนอนโรงแรมที่หาดในยาง จังหวัดภูเก็ต ตกเย็นก็ออกมาดูพระอาทิตย์ตก เดินเล่น อาบแดดกับคุณแม่เค้า และเค้าก็ยังชวนเราไปที่เดิม😁 
ในใจก็แอบคิดแล้วว่า นั้งเครื่องบินข้ามซีกโลก เพื่อมานอนในโรงแรมที่ห่างจากสนามบินแค่ไม่กี่ร้อยเมตรเนี่ยนะ🤣
เราเลยบอกเค้าว่า เดี๋ยวเราจะพาไปดูเมืองไทยในแบบของเรา มาดูสิว่ามันต่างกันกับแบบที่เค้าเคยรู้จักหรือเปล่า
คุณแม่เป็นผู้ร่วมทริป เราจัดให้ไปพังงา พานั่งกระบะข้างหลัง ขึ้นไปเสม็ดนางชี 😆😆😆 ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมาก ว่าแม่จะปลื้มหรือเปล่า คุณแม่แฟนอายุ 65 แล้วค่ะ ปรากฏว่าแม่ชอบมาก นั่งกระบะหลัง ฝุ่นแดงลอยขึ้นมาเลยตอนรถเร่งขึ้นเขา แล้วก็พาไปนั่งเรือล่องเรือชมป่าโกงกาง จนไปถึงเขาตะปู ตอนนี้คุณแม่แฟนบินกลับบ้านไปได้พักใหญ่แล้ว แฟนเลยชวนออกสำรวจเมืองไทย เพื่อที่จะได้เลือกว่าเมื่อคุณแม่บินมาเยี่ยมอีกครั้ง เราจะพาคุณแม่ไปเที่ยวที่ไหนกันดี โดยให้เราเป็นคนเลือกสถานที่ และหาไอเดีย เราก็จะมีหน้าที่เขียนแพลน เสนอทริป เสนองบ เหมือนเลขาเสนองานให้เจ้านาย พอแฟนอนุมัติก็เริ่มทำการจองทริปกันทันทีค่ะ
นั่งคิดอยู่นาน เราพาเค้าไปหัวหิน เชียงใหม่ สมุทรสงคราม
ระนอง สมุทรปราการ ราชบุรีมาแล้ว เลยตัดสินใจว่า ไปกระบี่กันดีกว่า เธอน่าจะชอบกระบี่ เพราะเป็นจังหวัดที่มีครบทุกอย่างเลย ทริปจึงเริ่มขึ้น เราไปกระบี่กันราว ๆ 2 สัปดาห์ แฟนปลาบปลื้มกระบี่มาก ระหว่างทริปก็เรียนภาษไทยด้วย ตอนนี้เธอเริ่มเรียนได้ราว ๆ 6 เดือนแล้ว
ทักษะด้านฟังและพูด ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเลยค่ะ และเริ่มหัดอ่าน หัดเขียนแล้ว
ทริปกระบี่ของเรา เริ่มต้นที่หาดทับแขก เราพักกันที่ เดอะทับแขก บูทีค รีสอร์ทค่ะ มาถึงวันแรกคือพระอาทิตย์ตกสวยมาก เป็นสีชมพูทั่วท้องฟ้าเลยค่ะ 
บรรยากาศด้านหน้าโรงแรม ทานอาหารวิวนี้กันทุกวันเลย และถ้าใครมาถึงหาดทับแขกแล้ว จะพลาดไม่ได้กับการนั่งเรือไปเที่ยวหมู่เกาะห้อง และเกาะรอบ ๆ ค่ะ
จองเรือกับโรงแรม ในราา 3,500 บาท สักพักเรือก็พาเรามาถึงเกาะห้อง แนะนำว่าควรออกเช้านิด เพราะอากาศร้อน เวลาที่จะเดินขึ้นจุดชมวิว 360° บันไดขึ้นประมาณ 400 ขั้นค่ะ พกน้ำขึ้นไปด้วยก็ดีนะคะ
เราสั่งชุดปิคนิคจากโรงแรมไปด้วย โชคดีทริปนี้ชายหาดเล็ก ๆ ก่อนที่จะเข้าสู่เกาะห้องใหญ่ เป็นของเรา มีกันสองคนบนเกาะค่ะ
มาถึงหาดทับแขกแล้ว อีกอย่างที่พลาดไม่ได้คือการเดินขึ้นสู่จุดชมวิวเขาหงอนนาค ต้องใส่รองเท้าผ้าใบ แต่งกายรัดกุมนะคะ เรือเดินกันราว ๆ 5ชั่วโมง เริ่มต้นจากโรงแรมเลยค่ะ เหนื่อยแต่คุ้มค่ะ เพราะข้างบนสวยจริง ๆ ลมแรงด้วย 

] ทางเดินขึ้นเขาไม่ยากค่ะ ค่อย ๆ เดิน 
หลังจากนั้นเราก็ย้ายมาพักแถวอ่าวนางค่ะ กิจกรรมแน่นมาก ไปลงเกาะกันอีกแล้วทัวร์4 เกาะ ราคา2,200 บาท ราคามาตรฐานเลยค่ะ 
แฟนชอบทะเลแหวกที่สุด ในบรรดา 4เกาะที่เราไปกันมาค่ะ ระหว่างที่เราอยู่กระบี่ เพื่อนก็แนะนำมาว่าไปคลองหรูดสิ ลองเช็คข้อมูล เราไปถึงกันแต่เช้าเลยค่ะ เตรียมตัวไปพายคะยัคกัน แอบพายยากเพราะตอไม้เยอะแต่สนุกมากค่ะ ช่วยกันดูทาง 🤣

นี่คือจุดที่เรียกว่าคลองน้ำใส ใส่แจ๋วเลย จริง ๆ สามารถลงเล่นน้ำได้แต่เรา 2 คน กลัวเลยไม่ได้ลงค่ะ
จุดนี้คือจุดที่ลึกที่สุดเป็นตาน้ำ น้ำสีฟ้าใสแจ๋ว บริเวณนี้ห้ามลงเล่นน้ำค่ะ ถ้าพายมาถึงจุดนี้ก็คือต้องกลับแล้ว ไปต่อไม่ได้
หลังจากพายคะยัคที่คลองหรูดแล้ว คุณป้าที่ร้านอาหารที่เราไปทานกันบ่อย ๆ แกแนะนำให้ไปคลองสระแก้ว เราก็ตามนั้น ใครว่าตรงไหนสวยเราไปดูหมดเลย พอไปถึงก็เช่าคะยัคเหมือนเดิม ที่นี่มีค่าเข้าด้วย แล้วก็เริ่มออกสำรวจธรรมชาติ แฟนก็เริ่มบ่นว่าผมยังไม่เคยเห็นจระเข้เลย🤣
เราก็บอกว่า ห้ามพูดเพราะคนไทยเค้าถือ ยังไม่ทันอธิบายจบ เราก็เจอตัวเงินตัวทองตัวใหญ่มากยืนอยู่ใกล้ ๆ เรือ แฟนบอกไม่พูดแล้ว😅
ถ้าเทียบระหว่างคลองหรูดกับคลองสระแก้ว เราสองคนให้คะแนนคลองหรูดมากกว่า เพราะเส้นทางยาวกว่า แต่คลองสระแก้วมีจุดที่สามารถลงเล่นน้ำได้ เราพากันลงเล่นน้ำ น้ำเย็นสบายมากเลยค่ะ
ยังมีอีกที่ ที่เป็นไฮไลท์ของการพายคะยัคของจังหวัดกระบี่ด้วยการเคลมว่าที่นี่เป็นจุดพายคะยัคที่สวยมากอีกจุดหนึ่งเพราะเป็นจุดที่เชื่อมระหว่างทะเล และป่าชายเลน นั่นคืออ่าวท่าเลนค่ะ ทริปนี้เราจ้างไกด์ เพราะค่อนข้างเสี่ยงที่จะหลงทาง เพื่อความปลอดภัยค่ะ ฝนตกตั้งแต่เริ่มพาย จนกระทั่งจบทริปเลยได้รูปมาน้อย เราพายผ่านป่าชายเลยไปจนถึงทางออกสู่ทะเล ฝนหนาเม็ดรวมถึงลมแรงเลยตัดสินใจหลบฝนอยู่บนเกาะเล็ก ๆ เป็นชั่วโมงเลย พอฝนเริ่มเบาก็พากันพายออกมาเพื่อข้ามฝั่งทะเลกลับไปยังจุดเริ่มต้นค่ะ
ตกเย็นของอีกวันเรานัดหมายกับทัวร์เพื่อที่จะไปพายคะยัคใส ดูแพลงก์ตอนเรืองแสง ที่อ่าวไร่เลย์กันค่ะ
ด้วยความโชคดีจ่ายเงินหลักพัน เพื่อจอยทริปแต่สุดท้ายมีแค่เราสองคน พี่เจ้าของทัวร์แกบอกว่าปกติทริปไพรเวทราคาหลักหมื่นนะ น้องโชคดีมากเลย อยู่ดูให้เต็มที่เลย
คืนที่เราไปพระจันทร์เต็มดวง เราเริ่มพายคะยัคตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตก รอจนพระอาทิตย์ตก ท้องฟ้าเริ่มมืดสนิท จนเราเริ่มมองเห็นแพลงก์ตอนเรืองแสงแบบระยิบระยับ เป็นความงดงามและมหัศจรรย์ของธรรมชาติจริง ๆ ค่ะ 
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่