JJNY : เพื่อไทยบี้สอบผลข้างเคียงซิโนแวค│พท.แนะถอดบทเรียนเยียวยาปชช.│ โควิดบราซิลแอฟริกาเข้าไทยแล้ว│ทอมรีวิวบินฉีดวัคซีน

เพื่อไทย บี้รัฐสอบผลข้างเคียง ซิโนแวค ชี้เป็นประเทศอื่นระงับฉีดไปแล้ว
https://www.khaosod.co.th/politics/news_6378457

 
เพื่อไทย บี้รัฐสอบผลข้างเคียง ซิโนแวค ชี้เป็นประเทศอื่นระงับฉีดไปแล้ว แม้จะยังไม่สามารถพิสูจน์ความเชื่อมโยงได้ก็ตาม ควรเอาประโยชน์ปชช.เป็นที่ตั้ง

วันที่ 4 พ.ค. 2564 น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีสำนักข่าวหลายแห่งได้เผยแพร่ข่าวบุคลากรทางการแพทย์ มีอาการข้างเคียงหลังได้รับ วัคซีนซิโนแวค ในหลายระดับ

น.ส.อรุณี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่รวบอำนาจการสั่งการไว้คนเดียว ได้มีความพยายามสืบหาข้อเท็จจริงของผลข้างเคียงหลังได้รับวัคซีนหรือไม่ ขณะนี้ประชาชนรู้เพียงว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพ แต่รัฐบาลไม่เคยรายงานจำนวนผู้ได้รับผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนว่ามีกี่ราย คิดเป็นสัดส่วนมากน้อยเพียงใดจากจำนวนผู้ได้รับวัคซีนทั้งหมด

ทั้งนี้การที่รัฐบาลพยายามบอกว่า อาการที่เกิดขึ้นคือปฎิกริยาของร่างกายจากความเครียดหลังการถูกฉีดวัคซีน (ISRR) และจะหายไปภายใน 2-3 วัน
 
แต่ในต่างประเทศ เช่น เดนมาร์ก สวีเดน ฝรั่งเศส มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ฯลฯ หากพบผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนบางยี่ห้อที่อาจจะมีผลเชื่อมโยงกับการเกิดลิ่มเลือด จะระงับหรือยกเลิกการฉีดวัคซีนยี่ห้อนั้นทันที แม้จะยังไม่สามารถพิสูจน์ความเชื่อมโยงได้ก็ตาม
 
ดังนั้นหากรัฐบาลเห็นประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงต้องชะลอการฉีดวัคซีนซิโนแวคออกไปก่อน พร้อมเร่งสืบสวนหาสาเหตุผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนที่แท้จริงทุกกรณี รวมถึงรับผิดชอบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต เพราะรัฐบาลเป็นผู้จัดหาวัคซีนทั้งหมด นอกจากนี้รัฐควรเพิ่มค่าเสี่ยงภัยให้กับบุคลากรทางการแพทย์ หากไม่ชะลอฉีดวัคซีนซิโนแวคอีกด้วย



‘รองโฆษกพท.’ แนะ รัฐถอดบทเรียน 2 ระลอกแรก ออกมาตรการเยียวยาปชช. อย่าให้วัวหายแล้วค่อยล้อมคอก
https://www.matichon.co.th/politics/news_2705785
 
‘รองโฆษกพท.’ แนะ รัฐถอดบทเรียน 2 ระลอกแรก ออกมาตรการเยียวยาปชช. อย่าให้วัวหายแล้วค่อยล้อมคอก
 
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย​​ (พท.) กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 ระลอก 3 ซึ่งมีต้นเหตุจากการกระทำของชนชั้นนำในสังคมอีกครั้ง ผ่านมา 1 เดือนมีผู้ได้รับผลกระทบมหาศาล ทั้งประชาชน ผู้ประกอบอาชีพอิสระ แรงงานและพ่อค้าแม่ค้า รวมทั้งผู้ประกอบการรายเล็ก รายย่อย ต้องรับกรรมโดยไร้การเยียวยาจากภาครัฐ โดยเฉพาะคนทำงานกลางคืน พนักงานผับ บาร์ และนักดนตรีจำนวนมาก ไม่มีรายได้ต่อเนื่องมากว่า 2 สัปดาห์แล้ว เมื่อมีการประกาศเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการควบคุมเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ยิ่งซ้ำเติมความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก
 
นายชนินทร์ กล่าวว่า การระบาดครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก รัฐควรนำข้อมูลจากการระบาดทั้ง 2 ระลอกที่ผ่านมาและฐานข้อมูลอาชีพจากการลงทะเบียนในหลายครั้งที่ผ่านมา จัดเตรียมเป็นกรอบการเยียวยา และจัดสรรงบประมาณไว้อย่างเป็นระบบ เมื่อต้องประกาศมาตรการเพื่อควบคุมการระบาดก็สามารถเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มๆ ได้ทันที ไม่ใช่ต้องรอให้ประชาชนลำบากหนักแล้วค่อยออกนโยบายเยียวยาปูพรมเหมือนแต่ก่อน
 
ทั้งนี้อยากให้รัฐพิจารณาข้อเสนอของสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหารในหลายจังหวัด ที่ขอให้ทบทวนคำสั่งห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้านด้วย เพราะเมื่อไม่ได้มีคำสั่งล็อกดาวน์อย่างเป็นทางการ ประชาชนยังต้องออกมาใช้ชีวิต การจัดพื้นที่ให้สามารถรับประทานอาหารในร้านได้ โดยจัดพื้นที่เปิด อากาศถ่ายเทสะดวกและทำตามมาตรการเว้นระยะห่าง จะเป็นประโยชน์โดยรวมต่อประชาชนมากกว่า
 


‘หมอเก่ง’ เผยโควิดพันธุ์บราซิล-แอฟริกา เข้าไทยแล้ว ‘ซิโนแวค’ เอาเชื้อกลายพันธุ์ไม่อยู่
https://www.matichon.co.th/politics/news_2706427

‘หมอเก่ง’ เผย โควิดพันธุ์บราซิล-แอฟริกา เข้าไทยแล้ว ‘ซิโนแวค’ เอาเชื้อกลายพันธุ์ไม่อยู่

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เปิดเผยผ่านการพูดคุยกับน.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้าผ่านรายการ “คุยให้ชัด กับพรรณิการ์” ว่า ตนกังวลใจอย่างมากที่พบรายงานจากองค์การอนามัยโลก ว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์บราซิล และแอฟริกา เข้าไทยแล้ว ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ศบค. กลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ ทั้งที่มีรายงานการวิจัยทางการแพทย์ยืนยันแล้วว่า เชื้อที่เกิดการกลายพันธุ์ มีลักษณะดื้อวัคซีน ทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง
 
นพ.วาโย ยังกล่าวอีกด้วยว่า ในทางการแพทย์รับรู้กันว่าวัคซีนที่ผลิตจากเทคโนโลยี mRNA มีแนวโน้มที่จะป้องกันเชื้อโควิดชนิดกลายพันธุ์ได้ดีกว่า แต่ในประเทศไทยขณะนี้ มีเพียงวัคซีนซิโนแวค และแอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นวัคซีนประเภทไวรัล เว็คเตอร์ มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะไม่มีประสิทธิภาพดีพอในการป้องกันการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์บราซิลและแอฟริกา เพราะฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่ต้องเร่งจัดหาวัคซีน mRNA เช่นโมเดอร์นา หรือไฟเซอร์ เข้ามาฉีดให้ประชาชน เพื่อรับมือการระบาดระลอกใหม่จากเชื้อกลายพันธุ์

นพ.วาโย กล่าวว่า แม้จะตอบได้ยากว่าการระบาดระลอก 3 จะจบลงเมื่อไหร่ แต่ที่เป็นไปได้แน่ๆคือ เราจะเจอการระบาดระลอก 3 แบบยาวนาน แล้วแทรกด้วยการเกิดระลอกใหม่ที่เป็นการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์ ซึ่งจะทำให้ระบบสาธารณสุขของไทยต้องแบกรับภาระด้านการบริหารทรัพยากรมากขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะเมื่อบุคลากรการแพทย์ส่วนใหญ่ในประเทศได้รับวัคซีนซิโนแวค ซึ่งมีประสิทธิภาพค่อนข้างต่ำในการรับมือเชื้อโควิดกลายพันธุ์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่