เราขอแทนตัวเองว่าฟ้า เป็นลูกคนแรก มีน้องชายอีก1คน เราเหมือนเด็กมีปัญหาหรือเปล่าอันนี้เพื่อนๆลองอ่านดูนะคะ ....
พ่อ-แม่ มีเราโดยไม่ได้ตั้งใจ เกิดมาด้วยความไม่พร้อม *อันนี้แม่บอกเราเองว่ากินยาคุมหมดอายุ ช่วงวัยรุ่นทั้งคู่(พ่อคนใต้,แม่คนกทม.)ตอนเด็กอยู่กับพ่อ แม่กลับมาอยู่บ้านเพราะทะเลาะกัน พอประถมมาอยู่กับแม่ ตอนนั้นน้ำท่วมกทม.หนัก ทำให้ช่วงๆม.3 ย้ายไปอยู่ใต้ทั้งครอบครัว พอมาอยู่ใต้ได้ 2 ปีเค้าก็ทะเลาะกันอีก แม่ไปมีใหม่ แต่งงานใหม่ ยังจำความรู้สึกวันนั้นได้ดี เราก็อยู่กับพ่อ พ่อส่งเสียคนเดียวมาตลอด
จนขึ้นมหาวิทยาลัย และเลือกเรียนครุศาสตร์ ด้วยความที่ต้องใช้เงินเยอะ แถวบ้านงานไม่เยอะ รายได้ไม่พอส่ง พ่อเลยต้องขึ้นมาทำงานที่กทม. แต่แม่ไม่สนใจใยดีเราเลย พ่อเลี้ยงขัดขวางไม่ให้คุย ไม่ให้ส่งเสียด้วย เราฝังใจมากๆ ที่แม่ทิ้งพ่อไป พอเราอยู่ปี 3 แม่กลับมาหาพ่อ เพราะพ่อดูมีเงิน แล้วให้เหตุผลว่าคนนั้นไม่ดี แต่แบบเข้าใจความรู้สึกที่เสียไปไหม พ่อก็ใจอ่อน ยอมกลับไปขอคืนดี เอาจริงๆเราไม่พอใจมากๆนะ แต่ทำอะไรไม่ได้ อย่างน้อยเค้าก็แม่เรา เรื่องเครียดก็เริ่มเกิดขึ้นกับฉันอีก เงินเราถูกลดทอนลง ไม่พอใช้ในรายเดือน เหมือนแม่เข้ามาบงการชีวิตเราทุกเรื่อง จนเราเรียนจบ เราอยากอยู่ใต้ เพราะที่บ้านย่ามีธุรกิจขายออนไลน์ เราอยากมีเงินไม่อยากอยู่เฉยๆ แต่แม่บอกว่าก็เลือกดูว่าจะอยู่กับเค้าหรือครอบครัว ! เราก็เห็นใจพ่อ ปัจจุบันเลยขึ้นมาอยู่กทม. (อยู่ห้องเช่า4คน ไม่มีบ้านตั้งแต่เราเด็ก)กำลังเตรียมสอบบรรจุ แม่บอกว่าที่อยากให้ได้รับราชการครูเพราะอยากให้ซื้อบ้านตอบแทนบุญคุณ เอาจริงๆไหม เราไม่ชอบคำนี้เลยนะ ไม่ใช่เราไม่อยากตอบแทนบุญคุณ เราเลยพูดไปเลยว่า “ตอนไปแต่งงานใหม่ ยังไม่สนใจใยดีเราเลย ทีเรียนจบ พ่อมีเงินมาบ้าง ทำไมต้องมาหวังอะไรเยอะแยะด้วย” แต่ในใจเราคิดว่าแค่บ้านยังไม่มีให้ลูกอยู่เลย ที่ผ่านมาทำอะไรกันอยู่ แต่เราไม่กล้าพูด เรากลัวว่ามันจะแรงและทำให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้
เราขอสรุปเลยว่าเรากดดันมากๆ เค้าบอกว่าถ้าไม่ได้ราชการก็ไม่รู้จะว่ายังไง เรากู้กยศ.ด้วย เราควรที่จะสร้างอนาคตตัวเองก่อนไหม ? หรือเพื่อนๆว่าแม่เค้าก็พูดถูก เจตนาเราไม่ได้จะไม่เลี้ยงดูพ่อแม่ แต่ไม่อยากให้แม่ มากดดันเรา เราเหมือนเด็กไม่โต ที่ไม่กล้าตัดสินใจทางเดินชีวิต ในขณะที่คนรุ่นเราเค้าไปทำงานข้างนอก พ่อ แม่เค้ายังไม่ว่าอะไรเลย ทุกคนว่าเราควรจะตัดสินใจยังไงดี ขอบคุณทุกคนล่วงหน้านะคะ❤️
ถูกกดดันหลังเรียนจบ ถูกตีกรอบจากครอบครัว📌
พ่อ-แม่ มีเราโดยไม่ได้ตั้งใจ เกิดมาด้วยความไม่พร้อม *อันนี้แม่บอกเราเองว่ากินยาคุมหมดอายุ ช่วงวัยรุ่นทั้งคู่(พ่อคนใต้,แม่คนกทม.)ตอนเด็กอยู่กับพ่อ แม่กลับมาอยู่บ้านเพราะทะเลาะกัน พอประถมมาอยู่กับแม่ ตอนนั้นน้ำท่วมกทม.หนัก ทำให้ช่วงๆม.3 ย้ายไปอยู่ใต้ทั้งครอบครัว พอมาอยู่ใต้ได้ 2 ปีเค้าก็ทะเลาะกันอีก แม่ไปมีใหม่ แต่งงานใหม่ ยังจำความรู้สึกวันนั้นได้ดี เราก็อยู่กับพ่อ พ่อส่งเสียคนเดียวมาตลอด
จนขึ้นมหาวิทยาลัย และเลือกเรียนครุศาสตร์ ด้วยความที่ต้องใช้เงินเยอะ แถวบ้านงานไม่เยอะ รายได้ไม่พอส่ง พ่อเลยต้องขึ้นมาทำงานที่กทม. แต่แม่ไม่สนใจใยดีเราเลย พ่อเลี้ยงขัดขวางไม่ให้คุย ไม่ให้ส่งเสียด้วย เราฝังใจมากๆ ที่แม่ทิ้งพ่อไป พอเราอยู่ปี 3 แม่กลับมาหาพ่อ เพราะพ่อดูมีเงิน แล้วให้เหตุผลว่าคนนั้นไม่ดี แต่แบบเข้าใจความรู้สึกที่เสียไปไหม พ่อก็ใจอ่อน ยอมกลับไปขอคืนดี เอาจริงๆเราไม่พอใจมากๆนะ แต่ทำอะไรไม่ได้ อย่างน้อยเค้าก็แม่เรา เรื่องเครียดก็เริ่มเกิดขึ้นกับฉันอีก เงินเราถูกลดทอนลง ไม่พอใช้ในรายเดือน เหมือนแม่เข้ามาบงการชีวิตเราทุกเรื่อง จนเราเรียนจบ เราอยากอยู่ใต้ เพราะที่บ้านย่ามีธุรกิจขายออนไลน์ เราอยากมีเงินไม่อยากอยู่เฉยๆ แต่แม่บอกว่าก็เลือกดูว่าจะอยู่กับเค้าหรือครอบครัว ! เราก็เห็นใจพ่อ ปัจจุบันเลยขึ้นมาอยู่กทม. (อยู่ห้องเช่า4คน ไม่มีบ้านตั้งแต่เราเด็ก)กำลังเตรียมสอบบรรจุ แม่บอกว่าที่อยากให้ได้รับราชการครูเพราะอยากให้ซื้อบ้านตอบแทนบุญคุณ เอาจริงๆไหม เราไม่ชอบคำนี้เลยนะ ไม่ใช่เราไม่อยากตอบแทนบุญคุณ เราเลยพูดไปเลยว่า “ตอนไปแต่งงานใหม่ ยังไม่สนใจใยดีเราเลย ทีเรียนจบ พ่อมีเงินมาบ้าง ทำไมต้องมาหวังอะไรเยอะแยะด้วย” แต่ในใจเราคิดว่าแค่บ้านยังไม่มีให้ลูกอยู่เลย ที่ผ่านมาทำอะไรกันอยู่ แต่เราไม่กล้าพูด เรากลัวว่ามันจะแรงและทำให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้
เราขอสรุปเลยว่าเรากดดันมากๆ เค้าบอกว่าถ้าไม่ได้ราชการก็ไม่รู้จะว่ายังไง เรากู้กยศ.ด้วย เราควรที่จะสร้างอนาคตตัวเองก่อนไหม ? หรือเพื่อนๆว่าแม่เค้าก็พูดถูก เจตนาเราไม่ได้จะไม่เลี้ยงดูพ่อแม่ แต่ไม่อยากให้แม่ มากดดันเรา เราเหมือนเด็กไม่โต ที่ไม่กล้าตัดสินใจทางเดินชีวิต ในขณะที่คนรุ่นเราเค้าไปทำงานข้างนอก พ่อ แม่เค้ายังไม่ว่าอะไรเลย ทุกคนว่าเราควรจะตัดสินใจยังไงดี ขอบคุณทุกคนล่วงหน้านะคะ❤️