ฉู่มู่อ๋อง จอมราชันย์ใจบาปผู้ทำปิตุฆาต

ฉู่มู่อ๋อง มีชื่อตัวว่า ซางเฉิน มีแซ่ว่าหมี่ มีซื่อว่า ฉยง หากเรียกตามหลักนิยมในยุคชุนชิวก็ควรเรียกเขาว่า หวางจื่อซางเฉิน หรือ ฉยงซางเฉิน หากพูดถึงประวัติแล้วฉู่มู่อ๋อง ซางเฉิน นั้นเป็นกษัตริย์ลำดับที่ 4 ของแคว้นฉู่ (หากไม่นับตู้อ๋าว ที่ครองราชย์เพียง 4 ปีและไม่มีอารามนาม) เป็นโอรสองค์โตในฉู่เฉิงอ๋องผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคชุนชิว ในยุคของฉู่มู่อ๋องนั้นเขาก็รุกรบขยายอำนาจสร้างความยิ่งใหญ่ให้รัฐฉู่ก่อนที่จะส่งมอบมันให้กับฉู่จวงอ๋องสืบทอดต่อ หากมองในแง่ความยิ่งใหญ่ ฉู่มู่อ๋องก็ถือว่าเป็นเจ้าแคว้นที่ทรงอำนาจ ผู้ซึ่งทำให้แคว้นฉู่เป็นใหญ่ในแดนใต้เคียงคู่กับแคว้นจิ้นที่เป็นใหญ่ในแดนเหนือ เพียงแต่นิสัยส่วนตัวและการได้มาซึ่งราชสมบัติของฉู่มู่อ๋องนั้น ค่อนข้างที่จะสกปรกและชั่วช้าไม่น้อย
 
ฉู่เฉิงอ๋องพระบิดาของฉู่มู่อ๋องนั้น ได้ราชสมบัติมาก็ด้วยการก่อรัฐประหารชิงอำนาจมาจากตู้อ๋าวผู้เป็นพี่ชายเหมือนกัน แต่เมื่อเป็นกษัตริย์แล้วพระองค์ก็เป็นกษัตริย์ที่ดีพอสมควร (แต่อาจจะมีเรื่องผู้หญิงเยอะไปมาก เอาคนโน้นคนนี้ทำภรรยาไม่เลือก แม้แต่คนที่เป็นหลานสาวตัวเอง) ความเก่งกล้าสามารถกล้าได้กล้าเสียของฉู่เฉิงอ๋องก็ถ่ายทอดมาสู่ฉู่มู่อ๋องด้วย

ครั้งหนึ่งฉู่เฉิงอ๋องเคยปรึกษากับโต้วปอ ที่เป็นทั้งมือขวา และเพื่อนสนิทว่า อยากจะแต่งตั้งหวางจื่อซางเฉินขึ้นเป็นรัชทายาท (ไท่จื่อ) แต่โต้วปอ กลับตอบว่า

“เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในครอบครัวของไต้อ๋อง ข้าพเจ้าเป็นเพียงขุนนางมิอาจให้ความเห็น แต่เมื่อตรัสถามข้าพเจ้าก็จะทูลตามความจริง อันหวางจื่อซางเฉินนี้ มีดวงตาเหมือนเหยี่ยว มีเสียงพูดคล้ายหมาใน กระดูกสันหลังก็ไม่ตรง เป็นลักษณะของคนชั่วช้าไร้คุณธรรม หากไต้อ๋องตั้งเขาเป็นไท่จื่อแล้ว ต่อไปภายภาคหน้าข้าพเจ้าเกรงว่าเขาจะทำอันตรายไต้อ๋องได้

อนึ่งไต้อ๋องก็ยังทรงแข็งแรง พระชนม์ก็ยังไม่มาก ซ้ำมีนางสนมเจ้าจอมมากมาย ภายภาคหน้าคงมีโอรสประสูติอีกหลายองค์ ทำไมจึงต้องด่วนแต่งตั้งไท่จื่อด้วยเล่า”

ฉู่เฉิงอ๋องได้ฟังก็ครุ่นคิด แต่ในที่สุดพระองค์ก็ตั้งซางเฉินขึ้นเป็นไท่จื่ออยู่ดีในช่วงราวๆปีที่ 20 ในรัชกาลของพระองค์ (ตรงกับช่วงราวๆปีที่ 650-640 ก่อนคริสตกาล)

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่