ข่าวดี!!! ในที่สุดก็ยอมกลับลำให้กลับมากักตัวจาก10วันเป็น14วันเหมือนเดิมแล้ว พรุ่งนี้setพุ่งทะยาน1800เลยในQ2ไหม

สธ.เตรียมถก ศบค. ประสานกระทรวงการต่างประเทศ ชะลอออกหนังสือเดินทางให้คนจากอินเดียเดินทางเข้าไทย ขณะที่ประชุมมีมติขยายกักตัวทุกประเภทเป็น 14 วัน ควบคุมเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่นไม่ให้ระบาดในไทย
วันที่ 25 เมษายน นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยถึงจำนวนผู้ได้รับวัคซีนโควิดในประเทศไทย โดยมีจำนวนการได้รับวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-24 เม.ย.2564 รวม 1,124,153 โดส ใน 77 จังหวัด ในจำนวนนี้มีผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ 2 เข็มแล้ว จำนวน 175,029 ราย

ส่วนการนำเข้าวัคซีน วานนี้ (24 เม.ย.) มีการนำเข้าวัคซีนซิโนแวค อีก 500,00 โดส ถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้จะได้ทำการตรวจสอบเอกสาร และตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อย่างช้าต้นสัปดาห์หน้า ก็จะกระจายทั้งหมดนี้ไปฉีดให้กลุ่มเป้าหมายต่างๆ ใน 77 จังหวัด ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข นอกจากนี้ต้นเดือนพฤษภาคมก็ยังจะได้วัคซีนมาเพิ่มอีก 1 ล้านโดสด้วย

ขณะที่การติดเชื้อทั่วโลกนั้น อินเดียยังมีผู้ติดเชื้อวันนี้เกือบ 3.5 แสนคน ซึ่งก็ยังต้องติดตามใกล้ชิด สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากอินเดีย ขณะที่ช่วงหลังสหรัฐฯมีจำนวนผู้ป่วยรายวันลดลงต่อเนื่อง แต่ยังคงมีจำนวนมากอยู่
นอกจากนี้ นายแพทย์โอภาส ชี้แจงกรณีเศรษฐีอินเดียเช่าเหมาลำเครื่องบินมายังประเทศไทย ว่า ไม่เป็นความจริง จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีสายการบินจากอินเดีย เดินทางมายังลงที่สนามบินนานาชาติใดๆ ทั้งสุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขได้มีข้อเสนอไปยัง ศบค.ชุดเล็ก และประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศว่า ช่วงนี้อยากให้ชะลอการออกหนังสือเดินทางเข้าประเทศในคนที่มาจากอินเดียให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แต่ยังไม่มีการชะลอในส่วนของเที่ยวบิน เนื่องจากยังมีคนไทยบางส่วนที่ยังต้องเดินทางเข้ามาได้ เนื่องจากมีคนไทยบางส่วนมีความประสงค์จะเดินทางกลับมา ช่วงต้นเดือน พ.ค.นี้ รวมถึงไม่ให้กระทบต่อการส่งเวชภัณฑ์ เนื่องจากอินเดียยังเป็นประเทศที่ส่งยา วัคซีน และเวชภัณฑ์ ซึ่งประเทศไทยอาจจำเป็นต้องใช้
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์โควิดก็เป็นเรื่องที่ต้องคำนึง ดังนั้นที่ประชุมของกระทรวงสาธารณสุข โดย ศบค.สธ. ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สธ. เข้าร่วมประชุมด้วยนั้น มีมติว่า ให้ขยายเวลาในการกักตัวของคนที่เข้าสู่ประเทศไทย จากเดิม 10 วัน หรือ 14 วัน ในช่วงนี้จะเพิ่มเป็น 14 วันในทุกประเภท และคนที่อยู่ในสถานกักกันของรัฐ ไม่ว่าจะเป็น SQ, ASQ ห้ามออกนอกห้องพักเด็ดขาด ซึ่งจะเป็นมาตรการชั่วคราว และจะมีการตรวจหาเชื้อทั้งหมด 3 ครั้ง จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง หรือสถานการณ์จะมีความชัดเจนขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าสายพันธุ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทยจะได้รับการดูแลอย่างดี ซึ่งจะได้นำข้อเสนอเข้าที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กต่อไป

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิดในประเทศไทยยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ว่าจะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นหรือไม่ และอาจจะมีการเพิ่มมาตรการ ซึ่งขณะนี้ทางศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศปค.สธ.) ได้มีการประชุม และจะได้เสนอมาตรการยกระดับให้กับทาง ศบค.ชุดเล็กต่อไป
เกี่ยวกับเรื่องการใส่หน้ากากอนามัย ขณะนี้หลายจังหวัด มีคำสั่งจากผู้ว่าฯ ให้สวมใส่หน้ากากขณะออกนอกเคหสถานทุกครั้ง เป็นข้อบังคับ หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 20,000 บาท ซึ่งมีคำสั่งศาล ปรับไปแล้วหลายท่าน
ในส่วนของ ยาฟาวิพิราเวียร์ นายแพทย์โอภาส ระบุว่า ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 1 แสนเม็ด ซึ่งต่อวันจะมีการใช้ยาดังกล่าวประมาณ 1-2 หมื่นเม็ด ซึ่งถือว่ายังเพียงพอ และคืนนี้ ประมาณตี1 จะมียาเข้ามาเพิ่มอีก 2 ล้านเม็ด และจะได้กระจายไปยังจังหวัดต่างๆ ซึ่งหากพื้นที่ไหนขาดยา ขอให้ประสานมายังสาธารณสุข หรือ สาธารณสุขจังหวัดนั้นๆ และจะได้มีการจัดส่งให้หลังจากที่ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว และอยากให้แน่ใจว่า ยามีเพียงพอ พร้อมกับมีการสั่งให้จัดหาเพิ่มอีก 2-3 ล้านเม็ดด้วย.

https://www.thairath.co.th/news/local/2077098



เม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่าเม่าเริงร่า
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่