หัวใจพลิกล็อค...บทที่ 8

        “ช่วงนี้ดูอารมณ์ดีจังเลยนะน้องแป้ง หน้าตาก็ดูแจ่มใสผิดหูผิดตา กำลังอินเลิฟหรือเปล่าจ๊ะ” เกตุกนก ซึ่งเป็นรุ่นพี่ในแผนกตั้งข้อสังเกต เมื่อเห็นอาการร่าเริงผิดปกติของรุ่นน้อง
 
        ยังไม่ทันที่ปาณฑราจะได้อ้าปากปฏิเสธ เสียงของมนฤดี เพื่อนร่วมแผนกอีกคนก็ดังแทรกขึ้นเสียก่อน
 
        “ต้องใช่แน่ๆ เลยพี่เกด เห็นลงรูปว่าไปเดตกันมาไม่กี่วันนี่เอง แหมมีแฟนแล้วเก็บเงียบเลยนะเธอเนี่ย” มนฤดีกระเซ้า
 
        “เออใช่ พี่ก็ว่าจะถามเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่ก็มัวยุ่งเรื่องโน้นเรื่องนี้จนลืมไปเลย ว่าแต่ไปเดตกับหนุ่มที่ไหนมาเหรอน้องแป้ง พี่เข้าไปส่องเฟซเขามา งานดีเหมือนกันนะเนี่ย” เกตุกนกถามอย่างใคร่รู้
 
        ด้านคนถูกถามนั้นแทบสำลักข้าวที่กำลังเคี้ยว อุตส่าห์โล่งใจที่ไม่มีใครสนใจอยากรู้แล้วเชียว 
 
        “มันใช่ที่ไหนกันเล่า ที่อารมณ์ดี ยิ้มหน้าชื่นตาบานอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะกำจัดหนุ่มตี๋ออกไปจากชีวิตได้แล้วต่างหาก” ความในใจที่ปาณฑราอยากตะโกนบอกออกไป แต่ในความเป็นจริงกลับตอบออกไปแค่ว่า “เพื่อนน่ะค่ะพี่เกด ไม่ใช่หนุ่มที่ไหนหรอก” นักการตลาดสาวยกแก้วน้ำขึ้นดื่มก่อนปดออกไปคำโต
 
        “เห็นตั้งแค็ปชั่นว่าออกเดตพี่ก็นึกว่าแฟน อุตส่าห์ตั้งใจว่าจะฉลองให้สักหน่อย” ว่าอย่างเสียดาย
 
        “เขาก็หาเรื่องแกล้งแป้งไปงั้นแหละค่ะ คงเห็นว่าแป้งไม่มีใครเอา เลยโพสต์เรียกกระแสเล่นๆ” หญิงสาวอ้างพร้อมทำทีเป็นก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ
 
        “เพื่อนจริงเหรอ” มนฤดีถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ พร้อมจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็งอย่างต้องการจับผิด
 
        “จริงสิ ถ้าเป็นแฟนจะปิดบังทำไมเล่า มีแต่จะรีบป่าวประกาศล่ะไม่ว่า เธอก็รู้นี่ว่าฉันอยากมีแฟนแค่ไหน” ยืนยันเสียงจริงจัง
 
        “เพื่อนก็เพื่อน” คนจ้องจับผิดไม่เซ้าซี้ต่อ และนั่นก็ทำให้ปาณฑราลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เห็นทีเธอคงต้องรีบไปลบแท็กในเฟซบุ๊กและบล็อกเขาได้แล้ว ก่อนที่จะมีใครมาถามเรื่องไปเดตกับเขาอีก 
 
        
 
        เมื่อถึงเวลาเลิกงาน ปาณฑราก็รีบปิดคอมพิวเตอร์และเก็บข้าวของบนโต๊ะ ตั้งใจว่าวันนี้จะไปเดินดูของสวยๆ งามๆ ในห้างสรรพสินค้าสักหน่อย จากนั้นก็หาอะไรอร่อยๆ กิน ถือเป็นการฉลองให้ตัวเองที่สลัดหนุ่มตี๋ออกไปจากชีวิตได้ 
 
        ตั้งแต่ที่นัดเจอกันวันนั้น แล้วเจอเธอทำตัวไร้มารยาทใส่ นี่ก็ผ่านมาตั้งหลายวันแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววว่าเขาจะทักมาคุยกับเธอเหมือนอย่างเคย แบบนี้จะให้คิดเป็นอื่นไปได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขารับไม่ได้กับความอุบาทว์ของเธอ ถึงได้ชิ่งไปดื้อๆ แบบนี้ 
 
        แม้การที่เขาหายเงียบไปจะทำให้ปาณฑรารู้สึกเหงา รู้สึกเหมือนชีวิตขาดอะไรไปสักอย่าง หญิงสาวก็ได้แต่บอกกับตัวเองว่านั่นเป็นเพราะเธอกับเขาเคยคุยกันทุกวัน จึงทำให้เคยชินกับการที่มีเขาคอยทักทายคอยถามถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ  พออยู่ๆ เขาหายไปดื้อๆ แบบนี้ มันเลยไม่ชิน และเธอก็เชื่อว่าอีกสักวันสองวันความรู้สึกที่กำลังเป็นอยู่ก็คงจะหายไป แล้วชีวิตเธอก็คงกลับไปเป็นปกติดังเดิม เหมือนตอนก่อนที่จะมีเขาเข้ามาในชีวิต
 
        
 
        ปาณฑราเดินออกมาจากลิฟต์อย่างอารมณ์ดี แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวหญิงสาวก็ต้องเบรกตัวโก่งเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่หน้าออฟฟิศ
 
        “มาได้ไงวะเนี่ย” 
 
        ปาณฑราพึมพำ พร้อมกับมองซ้ายทีมองขวาทีเพื่อหาที่หลบ แม้จะคิดว่าเขาคงไม่ได้มาหาเธอ แต่เธอก็ไม่ควรเดินออกไปแสดงตัวให้เขาเห็น แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะตัดสินใจช้าไป เมื่อเขากำลังเดินตรงลิ่วเข้ามาหาเธอ
 
        “สวัสดีครับคุณแป้ง” พิชญ์พงศ์กล่าวทักทายพร้อมรอยยิ้มกว้าง
 
        “สวัสดีค่ะ” ปาณฑราทักทายกลับ ขณะเดียวกันก็พายามปั้นหน้าให้เป็นปกติที่สุด ก่อนจะเอ่ยถามในสิ่งที่อยากรู้ 
 
        “คุณปราชญ์มาทำอะไรที่นี่เหรอคะ”
 
        “ผมมารับคุณแป้งไปกินข้าวเย็นครับ” 
 
        “คุณรู้ได้ไงคะว่าฉันทำงานที่นี่” หญิงสาวถามอย่างสงสัย เงยหน้ามองเขาอย่างระแวง 
 
        “คุณแป้งเป็นคนบอกผมเอง จำไม่ได้เหรอครับ”
 
        ได้ยินอย่างนั้นปาณฑราก็ได้แต่ก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ ไม่น่าพลาดไปบอกเขาเลยว่าทำงานที่ไหนอย่างไร เพราะความบ้าผู้บังตาแท้ๆ ถึงบอกข้อมูลอะไรต่ออะไรเขาไปหมด หากเขาเป็นมิจฉาชีพ ไม่รู้ว่าเธอจะเป็นยังไงบ้าง
 
        “ไปกันเลยนะครับ” 
 
        ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับหรือปฏิเสธ ร่างสูงก็เดินนำออกไปทันที เล่นเอาปาณฑราถึงกับเหวอ เมื่อเจอประโยคเหมือนมัดมือชกของเขา แต่เธอก็ยังเดินตามเขาไปอย่างช่วยไม่ได้ แล้วคำถามมากมายก็ผุดขึ้นมาในหัวของหญิงสาว 
 
 
        เขาสมองกลับหรือเปล่าเนี่ย เธอทำตัวอุบาทว์ขนาดนั้นยังจะอยากมากินข้าวกับเธออีก สิ่งที่เธออุตส่าห์ทำไปทั้งหมดมันไม่ได้ผลสักนิดเลยหรือยังไง หญิงสาวครุ่นคิดระหว่างเดินตามเขาไปยังทิศทางของที่จอดรถ 
 
        “คุณแป้งอยากกินอะไรครับวันนี้” 
 
        พิชญ์พงศ์หยุดเดินแล้วหันกลับมาถามความเห็นของหญิงสาว และนั่นก็ทำให้คนที่มัวแต่วุ่นวายอยู่กับคำถามมากมายในหัวของตัวเอง ไม่ทันได้สังเกตว่าคนที่เดินนำหน้าไปนั้นหยุดเดินกะทันหัน เธอที่เดินตามเขาไปติดๆ จึงชนแผ่นอกกว้างเข้าอย่างจัง
 
        ด้วยกลัวว่าหญิงสาวจะล้มลงไปกองกับพื้นพิชญ์พงศ์จึงตวัดวงแขนกำยำโอบประคองเอวบางไว้แนบกายเสียแน่น   
 
        “อุ๊ย” 
 
        หญิงสาวอุทานด้วยความตกใจ ก่อนจะชะงักค้างเมื่อเงยหน้าขึ้นสบประสานกับดวงตาเรียวเล็กที่ทอประกายระยิบระยับ อยู่ๆ ใบหน้านวลก็เห่อร้อนจนขึ้นสีระเรื่อ แถมก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายยังเต้นกระหน่ำรัว ราวจะทะลุออกมานอกอก จนเจ้าตัวนึกแปลกใจ พลันอดคิดไม่ได้ว่าหัวใจเธอมีปัญหาหรือเปล่า พักนี้ถึงได้มีอาการแปลกๆ อยู่บ่อยครั้ง เห็นทีเธอคงต้องหาเวลาไปพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อตรวจเช็คสุขภาพของหัวใจบ้างแล้ว เผื่อมีความผิดปกติอะไรจะได้รีบรักษา 
 
        เมื่อได้ข้อสรุปของอาการที่กำลังเป็นอยู่ หญิงสาวขืนตัวออกจากวงแขนแกร่ง ที่ไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยเธอเป็นอิสระเสียที
 
        “ปล่อยได้แล้วค่ะ” บอกไปแล้วก็ก้มหน้างุด ไม่กล้ามองสบดวงตาที่มีประกายแปลกๆ ของเขา  
 
        “ขอโทษครับ” เขาเอ่ยเสียงสุภาพพร้อมคลายวงแขนออก 
 
        ทันทีที่เป็นอิสระ ปาณฑราก็รีบถอยห่างจากร่างสูง เห็นอาการของหญิงสาวแล้วพิชญ์พงศ์ก็ได้แต่นึกขบขันอยู่ในใจ
 
        “จะบอกได้หรือยังครับว่าคุณแป้งอยากกินอะไร” เขาถามซ้ำเมื่อยังไม่ได้รับคำตอบ
 
        ปาณฑรากำลังจะบอกปฏิเสธ แต่พอคิดดูอีกทีไปกินข้าวกับเขาอีกสักมื้อก็ดีเหมือนกัน ถือว่าเป็นการส่งท้าย และเธอจะถือโอกาสนี้บอกกับเขาไปตามตรงเรื่องที่เพื่อนเธอเข้าไปขอเบอร์ผิดคน เพื่อเขาจะได้ไม่ต้องมาหวังอะไรในตัวเธอ เมื่อคิดได้อย่างนั้นปาณฑราจึงบอกสิ่งที่อยากกินออกไป
 
        “อาหารญี่ปุ่นเป็นไงคะ คุณกินได้ไหม” ถึงจะอยากกินแค่ไหนแต่เธอก็อยากถามความเห็นเขาก่อน เผื่อเขาไม่ชอบกินเธอจะได้เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น 
 
        “ผมกินได้หมดครับ”
 
        “งั้นคุณขับรถตามฉันมาเลยนะคะ ร้านจะอยู่ถัดจากนี้ไปสองซอย เข้าซอยไปประมาณสองร้อยเมตร ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ” หญิงสาวบอก เผื่อเขาขับตามเธอไม่ทัน
 
        “โอเคครับ” 
 
        เมื่อตกลงกันได้พิชญ์พงศ์ก็ยืนรอจนปาณฑราขึ้นรถไปก่อน เขาถึงได้เดินไปขึ้นรถของตัวเองบ้าง และเมื่อรถของหญิงสาวเคลื่อนตัวออกไปเขาก็เหยียบคันเร่งตามไปติดๆ 
 
        ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้หัวใจดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่