มหากาพย์ covid 19 ไทยแลนด์ (เทียบกับตปทให้ช้ำใจเล่น)

คำเตือน
- กระทู้ยาววว
- เนื้อหาอาจไม่เป๊ะเพราะจขกทไม่ได้ติดตามข่าวบางข่าวอย่างละเอียด อ่านเท่าที่เค้าพาดหัวกัน หากผิดพลาดประการใดบอกได้ และก็ขออภัยไง้ล่วงหน้าด้วยจ้า
**********************
เคยคิดว่าประเทศไทย ถึงแม้จะไม่ได้เจริญมาก แต่ก็ไม่ได้แย่เกินไป
แต่พอมีวิกฤติ covid 19 ถึงได้รู้ว่ามันต่างกันจริงๆ ระหว่างประเทศกำลังพัฒนากับประเทศพัฒนาแล้ว

-พอเชื้อเริ่มระบาด ทุกคนตามหาหน้ากาก และแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันตัว
สิ่งที่เกิดขึ้นในไทยคือ ทุกอย่างแพงขึ้นและหายาก มีบางคน (ที่ไม่รู้เกี่ยวข้องกับคนใหญ่คนโตใด ๆด้วยมั้ย) กักตุนไว้ปริมาณมาก แม้จะออกข่าวหรือมีคลิปออกมาชัดเจน แต่เค้ากลับไม่ได้รับโทษใด ๆ คนปล่อยข่าวซะอีกที่ถูกขู่จะโดนจับ
จนบัดนี้ยังไม่เห็นใครซักคนที่ทำเรื่องนี้ได้รับโทษ
ในขณะที่ประเทศเจริญแล้วมีข่าวคนที่กักตุนของโดนจับ โดนปรับชัดเจน หรือมีการจัดการระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ดี ทำให้ประชาชนหาซื้อหน้ากาก แอลกอล์ได้ทั่วถึง

-ระบาดไปซักพัก มีคนที่ทำตัวเป็นsuperspreader สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมากมาย แต่ไม่ได้รับโทษอะไรเช่นกัน

ในขณะที่บางประเทศตั้งกฎหมาย จับและปรับหนัก ๆ เป็นตัวอย่าง

-พอเริ่มระบาด ทุกคนกลัวว่าจะติดหรือไม่ติด คนติดแต่ไม่มีอาการเยอะมาก แม้จะไม่มีผลต่อตัวเองแต่ญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวมีความเสี่ยง ทุกคนจึงกังวล แต่พอจะไปรพ ขอตรวจ พบว่าไม่สามารถตรวจฟรีได้ ต้องเสียค่าตรวจถ้าไม่มีอาการ (แต่ขอย้ำว่าเคสที่ไม่มีอาการก็มีเยอะอยู่) และค่าตรวจ ก็ค่อนข้างแพง (2000-7000) ในขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำ 300-500 เท่านั้น ถ้าไปตรวจก็ไม่มีเงินกินข้าวไปหลายวัน จนกระทั่งดาราที่มีกำลังจ่ายค่าตรวจไปตรวจจึงค้นพบว่าระบาดจริง ๆ และพอไล่ตรวจเคสที่เสี่ยงก็พบว่าระบาดเป็นวงกว้าง
ในขณะที่ประเทศเจริญแล้วตรวจได้ฟรีทุกคน ใครอยากตรวจไปตรวจได้เลย
แล้วเราก็ยึดติดกับตัวเลขหลักร้อยหลักพัน ขณะที่ประเทศเค้าหลักหมื่น หลักแสน แม้จะฟังดูแย่กว่า แต่คือความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ส่วนตัวเลขปลอมๆ ของเราไม่รู้ว่ามีเคสที่ไม่มีอาการปะปนในสังคมมากน้อยแค่ไหน (หวาดระแวงต่อไป แอลกอฮอล์หน้ากากก็ยังแพง)
ตอนนั้นผู้มีอำนาจปกครอง ก็กล่าวอ้างว่าเชื้อนี้เป็นเรื่องใหม่ น้ำยาที่ตรวจไม่เพียงพอ ต้องจำกัดการตรวจ... อ่ะว่าไป ...รอดูภาคต่อในระลอกถัดไป

-พอระบาดหนัก จัดให้ล็อคดาวน์ ทุกคนหยุดทำงาน แต่เงินชดเชยได้แค่บางคนนะ ต้องแย่งกันลงทะเบียน ลงแล้วจะได้หรือไม่ได้ แล้วแต่ดุลพินิจ(ใคร?) มีข่าวข่มขู่ประชาชนเรื่องคนไม่เดือดร้อนแล้วลงทะเบียน ถูกจับปรับ หรือลงแล้วจะถูกทวงภาษีย้อนหลัง หลายคนกลัวไม่กล้าลงทะเบียนทั้ง ๆที่สถานการณ์ก็แย่
ในขณะที่ประเทศเจริญแล้ว เงินเยียวยาแจกทุกคน หรือมีฐานรายได้กำหนดชัดเจน คนที่ลำบากได้กันถ้วนหน้า ไม่ต้องแย่งกัน คนไม่มีอินเตอร์เน็ตก็ได้ (ไม่นับความเจริญว่าบ้านเรายังมีคนไม่เข้าถึงอินเตอร์เน็ตอีกจำนวนหนึ่ง  บางคนไม่มีมือถือที่ต่ออินเตอร์เน็ตได้ ก็โดนไล่ให้ไปซื้ออีก เครื่องนึงไม่แพงง ... จ้าาาา<กลับไปค่าแรงขั้นต่ำ และบางคนไม่มีแม้แต่ค่าแรงแล้วเพราะตกงาน>)

-หลังทุกคนใกล้อดตาย สถานการณ์เริ่มคุมได้ ประเทศกลับมาแนวโน้มค่อย ๆ ดีขึ้น ก็มีข่าวน่ารักจากฝ่ายผู้มีอำนาจการปกครองมาเป็นระยะ เช่น การอนุญาตให้ทหาร ฑูต หรือผู้มีเอกสิทธิบางคนเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว แล้วคนเหล่านั้นดันตรวจเจอเชื้อ แถมไปเที่ยวที่ต่างๆ อีก มีห้างร้านต้องปิดไปหลายที่ เพราะเหตุการณ์นี้
ทั้ง ๆที่ประชาชนทั่วไปจะกลับไทยต้องกักตัว14 วัน ตรวจทุกคนก่อนจะออกมา
ฝ่ายประชาสัมพันธ์เอาแต่โทษประชาชนการ์ดตก แต่คนทำเรื่องนี้ ก็ไม่เห็นได้รับโทษหนักอะไร ทั้ง ๆที่ประชาชนไม่ได้การ์ดตก

-ช่วงปลายปีต่างประเทศเริ่มเตรียมฉีดวัคซีน ไทยก็ได้จองวัคซีน แค่ 2 ตัว??!? ไม่เข้าร่วมโครงการวัคซีนช่วยประเทศที่ไม่มีศักยภาพ (เพราะเรามี???)
มีข่าวเอกชนเปิดจองวัคซีนตัวที่ผลิตจากบริษัทยาดี ๆ ก็โดนเตะตัดขาอย่างรวดเร็ว (ทำทำไม??? จนบัดนี้ยังไม่รู้เหตุผล)
ในขณะที่ต่างประเทศซื้อให้ทุกคน แม้ต่างชาติในประเทศเค้า เค้าก็ฉีดให้ คนไทยในต่างชาติได้วัคซีนดี ๆ ไปหลายคน ส่วนคนในชาติใส่หน้ากาก ล้างมือแอลกอฮอล์ดีที่สุด วัคซีนไม่ต้อง ... จ้าาาา

-ระบาดระลอก2 เอ๊ะหรือระลอกใหม่ ก็เกิดจากคนบ้านเราเองนี่แหละ ที่ให้เพื่อนบ้านที่กำลังระบาดหนักลักลอบเข้าประเทศมาแพร่เชื้อ และสร้างความเสียหาย (ไม่รู้ว่าคนที่เกี่ยวข้องเป็นประชาชน หรือ เจ้าหน้าที่ แต่เชื่อว่าคงต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง หรือไม่ก็หละหลวม ไม่งั้นมันจะไม่เกิดขึ้น) เศรษฐกิจที่กำลังจะดีขึ้น ย่อยยับอย่างรวดเร็ว การท่องเที่ยวที่กำลังจะฟื้นฟู ถึงเทศกาลปีใหม่ ฮวบลงถนัดตา

-สถานการณ์ยังไม่สงบดี มีclusterเป็นระยะ ๆ แต่เริ่มคลี่คลายมากขึ้น ทุกคนรอให้เศรษฐกิจดีขึ้น แต่แบบระมัดระวังเพราะมีเชื้อกระจายอยู่ในประเทศ...

-ระบาดระลอก3 เอ๊ะ หรือระลอกใหม่ในใหม่ไม่รู้  คราวนี้ประชาชนหละหลวมจริง แต่เหตุเกิดในสถานบันเทิง ที่...ไม่รู้ใครเป็นเจ้าของ และ มีคนใหญ่คนโตเป็นเมมเบอร์ ขาประจำกี่คน แต่แน่ ๆ มีคณะรัฐมนตรี ติด1คน แต่ติดจากจนทหน้าห้อง??? แต่ไทม์ไลน์ไม่เปิดเผย ไทยชนะ หมอชนะ ไม่แสกน ไม่เห็นจะถูกปรับ20000 เหมือนที่เคยขู่ประชาชนเลย

ทีนี้จนบัดนี้ยังไม่เห็นเจ้าของสถานบันเทิงตัวจริงถูกจับเลย จับแต่ผู้จัดการที่น่าจะเป็นแค่ลูกจ้างรับเงินเดือน อนาคตอาจจะจับก็ได้ แต่เดาว่าทิ้งช่วงเวลาไประยะแบบนี้ ..... ตัวจริงก็คงจะรอด

-ระบาดรอบนี้แหละที่ความจริงเปิดเผย หลังสถานการณ์สงบมากเกือบครึ่งปี

> การส่งตรวจ ระบาดอีกครั้ง ก็ไม่ได้จะตรวจได้เพิ่มจากเดิมเท่าไหร่ น้ำยายังไม่พอ บางคนยังไม่ได้ตรวจฟรี แม้จะมีเวลาครึ่งปีในการเตรียมจัดหา แทนที่จะเอางบไปจัดเตรียมสิ่งเหล่านี้ กลับเอาไปซื้อเรือดำน้ำ (อุ๊บบบส์)
(อย่าลืมว่าต่างประเทศตรวจได้หลักหมื่น หลักแสนตั้งแต่รอบแรก)

> วัคซีนที่เจรจามา2 ตัว ก็มีแต่ข่าวดีๆทั้งนั้น ตัวนึงประสิทธิภาพที่เกินครึ่งมาแค่ไม่กี่% (ประมาณ โยนเหรียญหัวก้อยว่าจะติดไม่ติด), แถมไม่มีประสิทธิภาพควบคุมเชื้อสายพันธุ์ใหม่ที่ระบาด (แต่ฉีดให้บุคลากรด้านหน้า), อีกตัวมีผลข้างเคียงที่อันตรายจนบางประเทศระงับการใช้ ไทยก็ยังใช้ต่อไป เข้าใจว่าดีลมาเยอะจริงๆ (แต่โอเค เพราะประโยชน์มากกว่าโทษ และ บางประเทศก็ใช้ต่อ แต่คนที่กลัวหรือไม่เข้าใจแล้วเลยไม่ยอมฉีดก็มี แต่ไม่มีทางเลือกอื่น ยกเว้นจะบินไปฉีดตปท)

ในขณะที่ประเทศเจริญแล้วจ่ายตังค์ให้วัคซีนหลายตัว เลือกใช้ตัวที่มีประสิทธิภาพ ลดจำนวนเคสใหม่ได้ฮวบ ๆ จนอิสราเอลเลิกใส่แมสก์แล้ว เราทำอะไรกันอยู่ (เศร้า)

แม้ประเทศที่ไม่มีศักยภาพดีพอจ่ายแบบนั้น เค้าก็เข้าร่วมโครงการวัคซีนฟรี ได้วัคซีนไปหลายล้านโดส
บ้านเราไม่เจริญ แล้วยังไม่รับวัคซีนฟรี เอกชนห้ามนำเข้า ทุกวันนี้ฉีดได้ไม่ถึง 5% ของประชากรด้วยซ้ำ (เร็ว ๆ นี้จะนำเข้า ก็คงต้องแย่งกัน ทีนี้ คนธรรมดา หาเช้ากินค่ำ จะไปแย่งกับอภิสิทธิ์ชนก็อาจจะสู้เค้าไม่ได้ ก็คงต้องรอต่อไป)

พอมาคอดดูดี ๆ คนรวยที่เป็นจุดเริ่มระบาดครั้งนี้มีตังค์จ่ายค่าวัคซีน ถ้าให้เอกชนนำเข้าตั้งแต่ตอนนู้น ตอนนี้เค้าเหล่านี้จะมีภูมิคุ้มกันแล้ว ไม่มาติดเชื้อรัว ๆ จนสร้างความลำบากให้คนจนแบบตอนนี้ แม้ร้ฐบาลจะไม่สามารถหาวัคซีนดี ๆ มาให้ แต่ถ้าไม่ห้ามเอกชนเค้า ตอนนี้บ้านเราคงไปได้ไกลมาก ๆ

>เพิ่มเติมรอบนี้ เตียงเต็มจ้ะ เพราะระบาดวงกว้างจริง จนเอกชนเตียงเต็มหมด เอาคนไม่มีอาการนอนรพ คนมีอาการไม่มีเตียง รอคิวต่อไป แถมไปกำหนดตรวจเจอที่ไหนรักษาที่นั้น แต่เตียงมันเต็ม รพเค้าเลยแก้ปัญหาด้วยการหยุดตรวจชั่วคราว เป็นการจัดการที่ดีเยี่ยมมม!?!

ต่างประเทศวางแผนรอบด้าน คนไม่มีอาการสังเกตอาการอยู่บ้าน เอาเฉพาะคนที่เสี่ยงหรือมีอาการมานอนให้หมอดูแล บุคลากรก็เหนื่อยน้อยลง เคสที่หนักก็ได้รับการดูแลอย่างดี ไม่เสียทรัพยากรดูแลคนที่ไม่หนัก

ไม่นับสภาพ รพ สนาม ที่น่านอนมาก (ภาพเทียบของเรากับสิงคโปร์แล้วเศร้าใจ) เข้าใจว่างบจำกัด แต่ถ้าไม่ไหวก็ให้คนอื่นเค้าทำบ้าง
โอเคตอนนี้เริ่มให้เอกชนมาแบ่งเบา มีhospitel คงจะดีขึ้นแหละ แค่ต้องรอ รอต่อไป
...
...

คิดว่าคงมีภาคต่อให้บ่นไปได้อีกเรื่อย ๆ ไม่จบไม่สิ้น
(ตราบใดที่ลุงยังอยู่?!?)

จากเดิมที่เราคิดว่าจะอยู่ประเทศไทยไปตลอดก็เริ่มคิดเล็ง ๆ ต่างประเทศไว้บ้างแล้ว (แม้ไม่รู้จะมีปัญญาไปหรือไม่)

ยังไงก็เกิดและโตที่ไทยก็อยากให้บ้านเมืองของเราดีขึ้น แต่ไม่รู้จะดีได้เมื่อไหร่

*****************************
กระทู้นี้อยากตั้งมาเพื่อระบาย แค่ระบายยังเขียนได้ยาวเป็นหน้า ๆ เลย
ใครมีปัญหาก็ระบายในคหของกระทู้ได้เลย แม้มองไม่เห็นทางแก้ เห็นแต่ประเทศอื่นที่ดีขึ้นจนเราอิจฉา แต่ได้ระบายออกมาบ้างก็ดีนะ ยิ้ม


********************************
editเพิ่ม

ขอโทษที่สื่อสารไม่ดี ของไทยมีการจัดการบางอย่างที่ทำได้ดี และน่าชื่นชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมแพทย์พยาบาล และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าอื่น ๆ ที่ทำได้ดีมาก ๆ และ รู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่พวกเขาเหน็ดเหนื่อย และเสี่ยง เพื่อประชาชน

เพียงแต่กระทู้นี้อยากสื่อประเด็นที่ทำให้เห็นว่ามันมีจุดหลายจุดที่ควรจะปรับปรุงจริง ๆ และ วันนี้มันจะดีกว่าที่เป็นในปัจจุบัน ถ้าตอนนั้นเราได้ทำบางอย่างที่แตกต่างไป (รวมถึงอนาคตจะดีกว่าถ้าเราแก้ไขตั้งแต่วันนี้)

เราเคยภูมิใจกับความเป็นไทยมากในระดับนึง ตอนนี้แม้จะรู้สึกเศร้าและเซ็งมาก แต่ก็ยังรักประเทศไทยมาก และหวังว่าประเทศไทยจะดีขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้

เราเชื่อว่าศักยภาพคนไทย ทำได้ดีไม่แพ้ต่างชาติ เรามีคนเก่ง ๆ หรือมีศักยภาพเยอะมาก เพียงแต่คนเหล่านั้นยังไม่ได้รับการสนับสนุนที่มากพอ
***************
Edit2 ขอลบข้อความที่ทำให้สื่อสารไปในทางที่ผิดออก
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่