กระทู้นี้เราขอระบายหน่อยนะ
คือเราเป็นลูกคนแรกอายุ 23 ปีแล้ว แม่เราตอนนี้อายุ 40 ปีต้องบอกก่อนว่าแม่เรามีลูกทั้งหมดสี่คนเราเป็นลูกคนแรกซึ่งแม่มีเราตอนอายุ 17 ปีและมีโดยที่ไม่ได้ตั้งใจเพราะแม่โดนยายคลุมถุงชน จนออกมาเป็นเราและน้องชายอีกหนึ่งคน และสุดท้ายก็เลิกรากับพ่อไปต่อมาแม่ก็มีแฟนใหม่และมีลูกเพิ่มอีกสองคนเป็นลูกชายและลูกสาว น้องสาวคนสุดท้องอันเนี่ยแม่ไม่ได้ตั้งใจมีเป็นลูกหลง ตอนแรกทุกคนจะไม่เอาน้องไว้แต่เราขอให้แม่เก็บน้องเอาไว้ พอน้องคลอดออกมาคือหน้าโคลนนิ่งเราออกมาเลยจนทุกคนคิดว่าเป็นลูกเรา เรากับแฟนยังคิดเลยว่าน่าจะทำบุญร่วมกับน้องมาเพราะตอนนั้นทุกคนคือยืนยันว่าจะไม่เอาน้องไว้แต่เราเป็นคนขอไว้เอง จนตอนเนี่ยน้องอายุหนึ่งขวบกับแปดเดือนแล้วแต่คือน้องยังพูดภาษาต่างดาวอยู่เลย ซึ่งเราคุยกับหมอพัฒนาการเด็กมาน่าห่วงมากเพราะปกติวัยนี้ควรจะพูดคำที่มีความหมายได้แล้ว เราเลยส่งบทความไปให้แม่อ่านเกี่ยวกับการพัฒนาการเด็กวัยนี้ในเฟสเพราะเราทำงานอยู่คนละที่กับแม่ แม่อ่านนะแต่ไม่ตอบเราเลยโทรไป สรุปแม่บอกว่าคนที่อ่านไม่ใช่แม่แต่เป็นพ่อเลี้ยง เราเลยบอกให้แม่เข้าไปกดอ่านดู แต่แม่ก็ทำเสียงรำคาญแล้วก็กดวางสายไปเลย เรานี่ร้องไห้เลย ดูแม่ไม่ให้ความสำคัญ ตรงนี้จริงๆมันเป็นเรื่องน่าห่วงมาก แล้วแม่ก็เลี้ยงน้องแบบผิดๆชอบเลี้ยงน้องด้วยสมาร์ทโฟนให้น้องดู YouTube เล่น TikTok ถ้าน้องร้องก็แก้ปัญหาด้วยสมาร์ทโฟนหรือทีวี ทิ้งให้น้องเรียนรู้อยู่คนเดียวไม่เคยสอนให้น้องพูดอันนี้ก็เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้น้องพัฒนาการช้าด้วยซึ่งหมอพัฒนาการที่เราคุยเค้าก็บอกว่าน้องมีความเสี่ยงจะเป็นออทิสติกเทียมได้ ปกติเด็กวัยนี้ควรจะพูดเป็นคำที่มีความหมายได้มากกว่า 20 คำแล้วแต่น้องเราพูดได้แค่ชื่อเราคำเดียวจริงๆ แม้แต่คำว่าพ่อกับแม่ยังพูดไม่ได้เลย แล้วคืออะไรเราโทรไปกดวางสายมันสะท้อนให้เห็นอะไรหลายหลายอย่าง เพราะเราเองก็ไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาแบบที่ควรจะเป็นด้วย แต่น้องไม่ใช่ลูกคนแรกมันต้องมีการเรียนรู้กันบ้างหรือเปล่า แม่มีลูกมาตั้งสี่คนแล้ว เลี้ยงเราไม่ดีเราไม่ว่านะเพราะเราเป็นคนแรก เราเข้าใจและตอนนั้นแม่อายุยังน้อยด้วย เราไม่เคยมีไม่เคยได้อะไรจากแม่เลย อยากได้อยากได้อะไรอยากมีอะไรคือต้องสร้างเองทำเองทุกอย่างแม้กระทั้งห้องส่วนตัว เราเก็บตังค์สร้างห้องส่วนตัวเราได้ตอนที่อายุ 16 จะ 17 ปีแล้วตอนนี้อายุ 23 ปีเราซื้อทุกอย่างครบแล้วรถส่วนตัวตู้เตียงเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างยกเว้นบ้าน หลังจากนี้เราก็จะทำงานเก็บเงินเพราะที่ผ่านมาเราหมดไปกับการซื้อการสร้างทุกอย่างจนไม่มีเงินเก็บเลย คือ มันมีหลายเรื่องที่ไม่โอเค แม่ไม่เคยให้อะไรเราได้เลยแต่กลับเอาเราไปเปรียบเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกับเราหรือกับลูกพี่ลูกน้องรุ่นเดียวกับเรา เค้ามีทองใส่มีโทรศัพท์แพงแพงใช้มีรถใช้แม่ก็จะหันกลับมาที่เราทันทีว่าทำไมเราไม่มีแต่ไม่เคยย้อนกลับไปมองตัวเองเลยด้วยซ้ำ จะบอกให้ว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันที่มีทุกอย่างก็มาจากพ่อแม่เค้าทั้งนั้นเค้าไม่จำเป็นต้องมาลำบากทำงานตั้งแต่เด็กเหมือนกับเราเลย และอีกและอีกเรื่องหนึ่งที่เราไม่เคยโอเคเลยคือแม่เราไม่เคยดูแลยายแบบที่มันควรจะเป็น เราเองทำงานอยู่ต่างจังหวัดนานนานกลับบ้านทีแต่กลับบ้านทีไรยายก็จะมาเล่าให้ฟังตลอดว่าแม่ไม่เคยเรียกยายกินข้าวเลย ซึ่ซึ่งมันคือความจริงตอนเรากลับไปบ้านทีไรก็ไม่เคยได้ยินแม่เรียกยายกินข้าวเหมือนกันทำกับข้าวเสร็จก็เรียกแค่แฟนเค้ากิน และข้อสุดท้ายคือน้องชายเราคนที่สองเป็นคนกินเยอะกินจุแล้วเวลาพ่อแม่กินอะไรไม่หมดก็ชอบเรียกน้องเราว่ารถขยะ เพราะน้องจะไปตามเก็บตามกินทีหลังแม่ตลอด เป็นอะไรที่แย่สำหรับเรามากเราพูดอะไรกับใครมากไม่ได้เลย แต่แต่ถ้าวันนึงเรามีครอบครัวเราก็คงจะมีตอนที่เราพร้อมแล้วเราก็จะเลี้ยงดูให้ลูกไม่รู้สึกเหมือนเรา
ขอระบายหน่อย เรารู้สึกว่าเเม่เรายังไม่มีความเป็นเเม่มากพอ
กระทู้นี้เราขอระบายหน่อยนะ
คือเราเป็นลูกคนแรกอายุ 23 ปีแล้ว แม่เราตอนนี้อายุ 40 ปีต้องบอกก่อนว่าแม่เรามีลูกทั้งหมดสี่คนเราเป็นลูกคนแรกซึ่งแม่มีเราตอนอายุ 17 ปีและมีโดยที่ไม่ได้ตั้งใจเพราะแม่โดนยายคลุมถุงชน จนออกมาเป็นเราและน้องชายอีกหนึ่งคน และสุดท้ายก็เลิกรากับพ่อไปต่อมาแม่ก็มีแฟนใหม่และมีลูกเพิ่มอีกสองคนเป็นลูกชายและลูกสาว น้องสาวคนสุดท้องอันเนี่ยแม่ไม่ได้ตั้งใจมีเป็นลูกหลง ตอนแรกทุกคนจะไม่เอาน้องไว้แต่เราขอให้แม่เก็บน้องเอาไว้ พอน้องคลอดออกมาคือหน้าโคลนนิ่งเราออกมาเลยจนทุกคนคิดว่าเป็นลูกเรา เรากับแฟนยังคิดเลยว่าน่าจะทำบุญร่วมกับน้องมาเพราะตอนนั้นทุกคนคือยืนยันว่าจะไม่เอาน้องไว้แต่เราเป็นคนขอไว้เอง จนตอนเนี่ยน้องอายุหนึ่งขวบกับแปดเดือนแล้วแต่คือน้องยังพูดภาษาต่างดาวอยู่เลย ซึ่งเราคุยกับหมอพัฒนาการเด็กมาน่าห่วงมากเพราะปกติวัยนี้ควรจะพูดคำที่มีความหมายได้แล้ว เราเลยส่งบทความไปให้แม่อ่านเกี่ยวกับการพัฒนาการเด็กวัยนี้ในเฟสเพราะเราทำงานอยู่คนละที่กับแม่ แม่อ่านนะแต่ไม่ตอบเราเลยโทรไป สรุปแม่บอกว่าคนที่อ่านไม่ใช่แม่แต่เป็นพ่อเลี้ยง เราเลยบอกให้แม่เข้าไปกดอ่านดู แต่แม่ก็ทำเสียงรำคาญแล้วก็กดวางสายไปเลย เรานี่ร้องไห้เลย ดูแม่ไม่ให้ความสำคัญ ตรงนี้จริงๆมันเป็นเรื่องน่าห่วงมาก แล้วแม่ก็เลี้ยงน้องแบบผิดๆชอบเลี้ยงน้องด้วยสมาร์ทโฟนให้น้องดู YouTube เล่น TikTok ถ้าน้องร้องก็แก้ปัญหาด้วยสมาร์ทโฟนหรือทีวี ทิ้งให้น้องเรียนรู้อยู่คนเดียวไม่เคยสอนให้น้องพูดอันนี้ก็เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้น้องพัฒนาการช้าด้วยซึ่งหมอพัฒนาการที่เราคุยเค้าก็บอกว่าน้องมีความเสี่ยงจะเป็นออทิสติกเทียมได้ ปกติเด็กวัยนี้ควรจะพูดเป็นคำที่มีความหมายได้มากกว่า 20 คำแล้วแต่น้องเราพูดได้แค่ชื่อเราคำเดียวจริงๆ แม้แต่คำว่าพ่อกับแม่ยังพูดไม่ได้เลย แล้วคืออะไรเราโทรไปกดวางสายมันสะท้อนให้เห็นอะไรหลายหลายอย่าง เพราะเราเองก็ไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาแบบที่ควรจะเป็นด้วย แต่น้องไม่ใช่ลูกคนแรกมันต้องมีการเรียนรู้กันบ้างหรือเปล่า แม่มีลูกมาตั้งสี่คนแล้ว เลี้ยงเราไม่ดีเราไม่ว่านะเพราะเราเป็นคนแรก เราเข้าใจและตอนนั้นแม่อายุยังน้อยด้วย เราไม่เคยมีไม่เคยได้อะไรจากแม่เลย อยากได้อยากได้อะไรอยากมีอะไรคือต้องสร้างเองทำเองทุกอย่างแม้กระทั้งห้องส่วนตัว เราเก็บตังค์สร้างห้องส่วนตัวเราได้ตอนที่อายุ 16 จะ 17 ปีแล้วตอนนี้อายุ 23 ปีเราซื้อทุกอย่างครบแล้วรถส่วนตัวตู้เตียงเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างยกเว้นบ้าน หลังจากนี้เราก็จะทำงานเก็บเงินเพราะที่ผ่านมาเราหมดไปกับการซื้อการสร้างทุกอย่างจนไม่มีเงินเก็บเลย คือ มันมีหลายเรื่องที่ไม่โอเค แม่ไม่เคยให้อะไรเราได้เลยแต่กลับเอาเราไปเปรียบเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกับเราหรือกับลูกพี่ลูกน้องรุ่นเดียวกับเรา เค้ามีทองใส่มีโทรศัพท์แพงแพงใช้มีรถใช้แม่ก็จะหันกลับมาที่เราทันทีว่าทำไมเราไม่มีแต่ไม่เคยย้อนกลับไปมองตัวเองเลยด้วยซ้ำ จะบอกให้ว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันที่มีทุกอย่างก็มาจากพ่อแม่เค้าทั้งนั้นเค้าไม่จำเป็นต้องมาลำบากทำงานตั้งแต่เด็กเหมือนกับเราเลย และอีกและอีกเรื่องหนึ่งที่เราไม่เคยโอเคเลยคือแม่เราไม่เคยดูแลยายแบบที่มันควรจะเป็น เราเองทำงานอยู่ต่างจังหวัดนานนานกลับบ้านทีแต่กลับบ้านทีไรยายก็จะมาเล่าให้ฟังตลอดว่าแม่ไม่เคยเรียกยายกินข้าวเลย ซึ่ซึ่งมันคือความจริงตอนเรากลับไปบ้านทีไรก็ไม่เคยได้ยินแม่เรียกยายกินข้าวเหมือนกันทำกับข้าวเสร็จก็เรียกแค่แฟนเค้ากิน และข้อสุดท้ายคือน้องชายเราคนที่สองเป็นคนกินเยอะกินจุแล้วเวลาพ่อแม่กินอะไรไม่หมดก็ชอบเรียกน้องเราว่ารถขยะ เพราะน้องจะไปตามเก็บตามกินทีหลังแม่ตลอด เป็นอะไรที่แย่สำหรับเรามากเราพูดอะไรกับใครมากไม่ได้เลย แต่แต่ถ้าวันนึงเรามีครอบครัวเราก็คงจะมีตอนที่เราพร้อมแล้วเราก็จะเลี้ยงดูให้ลูกไม่รู้สึกเหมือนเรา