ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ แฟนที่ดีต้องเป็นแบบไหนค่ะ หาจุดกึ่งกลางไม่ถูกค่ะ ว่าแบบไหนที่ว่าดี แบบไหนที่ว่าไม่ดี เพราะเราเป็นคนคิดน้อย เลยดูอะไรไม่ค่อยออก
เจ้าของกระทู้ อายุ 28 ทั้งชีวิตเคยมีแฟนแค่ 2 คน คนแรกคบมาตั้งแต่ อายุ 16 ยันอายุ 24 แล้วเลิกกัน ฐานะทางบ้านเท่ากัน แต่แฟนคนแรกไม่ค่อยขอเงินพ่อแม่ คือไม่มีก็คือไม่ใช้ เพราะอยู่บ้านแม่เขาก็ทำกับข้าวมีของกินให้ตลอดเวลาพ่อแม่เขารักเรามาก เหมือนลูกคนนึง ทุกเทศกาลจะมีของขวัญให้เรา บางทีก็แจกเงิน ( ปีใหม่ , สงกานตร์ , ตรุษจีน , วันเกิด ) ส่วนเราฐานะมากกว่าแฟน ไปไหนมาไหนเราจะเลี้ยงเขาตลอด นานๆเขาอยากได้อะไร ก็ขอเราเราก็ซื้อให้ ถึงแม้แฟนคนแรกของเราจะไม่มีเงินเลย แต่ทุกๆวันเกิดเขา มีของขวัญให้เราทุกปี ( ของราคาแพง ) เขาพยายามทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้เงินมา แต่ข้อเสียของแฟนเก่าคือ เราเลิกกันเพราะแฟนเก่า มีเพื่อนชอบเที่ยวกลางคืน (เที่ยวเลาจ) แล้วเรารับได้ ไม่เคยห้ามแต่แฟนชอบแอบไป ชอบโกหก ปิดบัง เลยทะเลาะกันและเลิกลากันไป
แฟนคนที่สอง ตัวคนเดียว อยู่คอนโดคนเดียว พ่อแม่แยกทางกัน ฐานะที่บ้านเราดีกว่า (แต่เขาก็มีเงินเก็บมากกว่าเราช่วงแรกๆ ) คบกันตั้งแต่แรกเราก็จ่ายเลี้ยงเขามาตั้งแต่แรก เพราะเขาบอกภาระที่บ้านเยอะ ใช้หนี้ให้แม่ บราๆ เราก็เลี้ยงเขานิดๆหน่อยๆ อยากได้ไรเราก็ซื้อให้ตามประสาแฟนกัน คบกันมาปี กว่าเข้าโควิตแฟนก็ตกงาน และไม่ได้หางานทำต่อ ก็ได้ออกจากคอนโดมาอยู่บ้านเขา (อยู่กับแม่เขา) แต่แฟนก็มีภาระผ่อนรถ ช่วงตกงานเราก็ช่วย ค่าใช้จ่ายของแฟนซื้อนั่นนี่ ผ่อนรถ รวมแล้วเดือนนึง 3-4 หมื่น เราช่วยมาประมาน 4-5 เดือน การงานเราก็เริ่มแย่เช่นกัน เราก็บอกแฟนว่า เราจะตามใจเธอเหมือนเดิมไม่ได้แล้วนะ เราช่วยเธออีกไม่ได้แล้ว เธอต้องช่วยตัวเอง แต่แฟนก็ยังไม่ได้หาอะไรทำ เพราะแฟนติดสบาย งานที่แฟนเคยทำเป็นงานสบาย เงินเดือนเยอะ แฟนเลยดูเหมือนไม่ค่อยอยากทำงานทั่วไปที่เดือนละ 10,000-15,000 แต่เวลาไปไหนมาไหนเราก็ยังจ่ายให้แฟนอยู่ดี เพียงแต่จะไม่ได้ซื้อของใช้ส่วนตัวให้กับช่วยผ่อนรถ ( ถึงเราจะลำบาคหรือการเงินไม่ค่อยดี เราก็ไม่เคยเดือดร้อนแฟน เราเอาชีวิตเรารอดโดยไม่หวังพึ่งใคร เราหาอะไรทำไปเรื่อยๆ เก็บเงินก้อนแล้วหาอะไรลงทุนทำต่อไป จนมาหลังๆเริ่มมีปัญหากับแฟนบ่อย เพราะ แฟนถือ คติที่ว่า ( เรามีรายได้ แต่ทำไมเราถึงไม่ช่วยเหลือแฟนทั้งที่แฟนลำบาค ) เราทะเลาะกันบ่อยเพราะเขาชอบพูดแบบนี้ ทะเลาะกันจนเป็นเรื่องชีวิตประจำวันไปเลย จนแฟนทนไม่ไหว ก็เอาของมีค่าที่ตัว ไปขายแล้วเอาเงินประทังชีวิต ของมีค่านั้นก็ขายได้รวมแล้วเป็น 150,000 พอเขามีเงิน เขาก็ไม่เคยมาถามเรานะว่า เราลำบาคอะไรไหม เราต้องใช้เงินอะไรป่าว แต่แค่บอกว่า จะพาเราและแม่เรา ไปกินข้าว แต่แม่เราก็ไม่อยากไป เพราะมีโควิต แม่ก็เลยบอกแฟนว่า ถ้าอยากเลี้ยง ซื้อทุเรียนให้แม่กินพอแม่ชอบกิน และเขาก็ไป ซื้อ มาลูกนึง 600 และก็พาเราไปกิน จิ้มจุ่มส้มตำ ที่ผ่านมาเราซัพพอตเขาตลอด ระยะเวลา 4-5 เดือนหลัง ค่อยข้างเยอะ แต่แรกๆคบกัน ยังไม่ค่อยจ่ายส่วนตัวอะไรให้มาก แต่เวลาไปกินข้าวหรือเที่ยวเราจ่ายทั้งหมด เที่ยวต่างจังหวัด เที่ยวต่างประเทศ ไม่ว่าเขาจะอยากได้อะไร ซื้ออะไร ไปเที่ยวกินนั้นนี่ ค่านั้นค่านี้ เงินที่ยืม ก็ยืมจ่ายค่าไฟที่บ้าน ค่าแม่ซ่อมประตู ค่าใช้จ่ายบินไปหาพ่อที่ ตจว รวมที่ยืมแล้วหลักหมื่น ( เหมือนแม่เขาไม่ค่อยชอบเรา เพราะเราเคยมีปัญหากับแฟนเรื่องนึง แฟนฝากแหวน มาให้เรา ไปชุบล้าง ที่ร้านประจำของเรา และเหมือนแม่แฟนรู้ว่าแฟนฝากเรามาทำ ก็เห็นว่าทำไมนาน ก็เลยมาบ้านเรา เพื่อมาถาม แต่ก็ไม่เจอเรา แต่เจอแม่เรา แม่แฟนมาพูดกับแม่เราทำนองว่า กลัวเราจะไปหลอกลูกเขา ทำให้เราไม่ค่อยชอบคำพูดตรงนั้น ทั้งเราเป็นผู้หญิง เราหรือจะไปหลอกลูกเขาที่เป็นผู้ชาย )
ที่ผ่านมา จะมีทั้งเงินที่เราช่วยเหลือเขา และเงินที่เขาขอยืม ทุกวันเกิดของเราเขาก็ไม่มีเงิน ก็ไม่ได้มีของอะไรให้เรา มีแค่ไปเลี้ยงกินข้าวครั้งเดียว วันเกิด 3 ปี แต่ได้ไปแค่ปีเดียว ไม่มีของขวัญไม่มีอะไรทั้งนั้น เพราะเขาไม่มีเงินค่ะ และไม่เคยพยายามอะไรเพื่อเราเลย พอเขามีเงิน เขาก็ไม่ได้พูดถึงเงินที่เคยยืมเราไปเราก็ไม่ทวง เพราะเราคิดว่า มันเป็นเงินที่เขาขายของๆเขามา เขาคงยังไม่อยากใช้ ตลอดเวลาที่คบกัน เขาเป็นคนนิสัยดี แต่เสียเรื่องเงินเรื่องเดียว จนเราสับสนว่า สรุปแล้วแฟนเราดีไหม ถ้าถามว่า แฟนเรามีดีอะไร
1.แฟนเราพูดเพราะตั้งแต่แรกคบยันตอนนี้
2.แฟนดูแลเอาใจใส่ ซื่อสัตย์
3.ให้กำลังใจ เป็นผู้ฟังที่ดี
4.เสมอต้นเสมอปลาย เป็นที่ปรึกษาที่ดี
ข้อเสีย
1.ไม่มีเงิน ไม่เคยซัพพอตเราได้
2.พอมีเงินก็ไม่ได้นึกถึงเรา
เราเลยสับสนวาา คำว่าแฟนดี นี่คือต้องดีเรื่องไหนบ้าง หรือเราคิดเล็กคิดน้อยไปค่ะ หรือแฟนเราไม่ดีเราจะแก้ไข หรือจะบอกให้แฟนปรับเปลี่ยนยังไงได้บ้าง
แฟนที่ดี จุดกึ่งกลางอยู่ตรงไหนค่ะ ?
เจ้าของกระทู้ อายุ 28 ทั้งชีวิตเคยมีแฟนแค่ 2 คน คนแรกคบมาตั้งแต่ อายุ 16 ยันอายุ 24 แล้วเลิกกัน ฐานะทางบ้านเท่ากัน แต่แฟนคนแรกไม่ค่อยขอเงินพ่อแม่ คือไม่มีก็คือไม่ใช้ เพราะอยู่บ้านแม่เขาก็ทำกับข้าวมีของกินให้ตลอดเวลาพ่อแม่เขารักเรามาก เหมือนลูกคนนึง ทุกเทศกาลจะมีของขวัญให้เรา บางทีก็แจกเงิน ( ปีใหม่ , สงกานตร์ , ตรุษจีน , วันเกิด ) ส่วนเราฐานะมากกว่าแฟน ไปไหนมาไหนเราจะเลี้ยงเขาตลอด นานๆเขาอยากได้อะไร ก็ขอเราเราก็ซื้อให้ ถึงแม้แฟนคนแรกของเราจะไม่มีเงินเลย แต่ทุกๆวันเกิดเขา มีของขวัญให้เราทุกปี ( ของราคาแพง ) เขาพยายามทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้เงินมา แต่ข้อเสียของแฟนเก่าคือ เราเลิกกันเพราะแฟนเก่า มีเพื่อนชอบเที่ยวกลางคืน (เที่ยวเลาจ) แล้วเรารับได้ ไม่เคยห้ามแต่แฟนชอบแอบไป ชอบโกหก ปิดบัง เลยทะเลาะกันและเลิกลากันไป
แฟนคนที่สอง ตัวคนเดียว อยู่คอนโดคนเดียว พ่อแม่แยกทางกัน ฐานะที่บ้านเราดีกว่า (แต่เขาก็มีเงินเก็บมากกว่าเราช่วงแรกๆ ) คบกันตั้งแต่แรกเราก็จ่ายเลี้ยงเขามาตั้งแต่แรก เพราะเขาบอกภาระที่บ้านเยอะ ใช้หนี้ให้แม่ บราๆ เราก็เลี้ยงเขานิดๆหน่อยๆ อยากได้ไรเราก็ซื้อให้ตามประสาแฟนกัน คบกันมาปี กว่าเข้าโควิตแฟนก็ตกงาน และไม่ได้หางานทำต่อ ก็ได้ออกจากคอนโดมาอยู่บ้านเขา (อยู่กับแม่เขา) แต่แฟนก็มีภาระผ่อนรถ ช่วงตกงานเราก็ช่วย ค่าใช้จ่ายของแฟนซื้อนั่นนี่ ผ่อนรถ รวมแล้วเดือนนึง 3-4 หมื่น เราช่วยมาประมาน 4-5 เดือน การงานเราก็เริ่มแย่เช่นกัน เราก็บอกแฟนว่า เราจะตามใจเธอเหมือนเดิมไม่ได้แล้วนะ เราช่วยเธออีกไม่ได้แล้ว เธอต้องช่วยตัวเอง แต่แฟนก็ยังไม่ได้หาอะไรทำ เพราะแฟนติดสบาย งานที่แฟนเคยทำเป็นงานสบาย เงินเดือนเยอะ แฟนเลยดูเหมือนไม่ค่อยอยากทำงานทั่วไปที่เดือนละ 10,000-15,000 แต่เวลาไปไหนมาไหนเราก็ยังจ่ายให้แฟนอยู่ดี เพียงแต่จะไม่ได้ซื้อของใช้ส่วนตัวให้กับช่วยผ่อนรถ ( ถึงเราจะลำบาคหรือการเงินไม่ค่อยดี เราก็ไม่เคยเดือดร้อนแฟน เราเอาชีวิตเรารอดโดยไม่หวังพึ่งใคร เราหาอะไรทำไปเรื่อยๆ เก็บเงินก้อนแล้วหาอะไรลงทุนทำต่อไป จนมาหลังๆเริ่มมีปัญหากับแฟนบ่อย เพราะ แฟนถือ คติที่ว่า ( เรามีรายได้ แต่ทำไมเราถึงไม่ช่วยเหลือแฟนทั้งที่แฟนลำบาค ) เราทะเลาะกันบ่อยเพราะเขาชอบพูดแบบนี้ ทะเลาะกันจนเป็นเรื่องชีวิตประจำวันไปเลย จนแฟนทนไม่ไหว ก็เอาของมีค่าที่ตัว ไปขายแล้วเอาเงินประทังชีวิต ของมีค่านั้นก็ขายได้รวมแล้วเป็น 150,000 พอเขามีเงิน เขาก็ไม่เคยมาถามเรานะว่า เราลำบาคอะไรไหม เราต้องใช้เงินอะไรป่าว แต่แค่บอกว่า จะพาเราและแม่เรา ไปกินข้าว แต่แม่เราก็ไม่อยากไป เพราะมีโควิต แม่ก็เลยบอกแฟนว่า ถ้าอยากเลี้ยง ซื้อทุเรียนให้แม่กินพอแม่ชอบกิน และเขาก็ไป ซื้อ มาลูกนึง 600 และก็พาเราไปกิน จิ้มจุ่มส้มตำ ที่ผ่านมาเราซัพพอตเขาตลอด ระยะเวลา 4-5 เดือนหลัง ค่อยข้างเยอะ แต่แรกๆคบกัน ยังไม่ค่อยจ่ายส่วนตัวอะไรให้มาก แต่เวลาไปกินข้าวหรือเที่ยวเราจ่ายทั้งหมด เที่ยวต่างจังหวัด เที่ยวต่างประเทศ ไม่ว่าเขาจะอยากได้อะไร ซื้ออะไร ไปเที่ยวกินนั้นนี่ ค่านั้นค่านี้ เงินที่ยืม ก็ยืมจ่ายค่าไฟที่บ้าน ค่าแม่ซ่อมประตู ค่าใช้จ่ายบินไปหาพ่อที่ ตจว รวมที่ยืมแล้วหลักหมื่น ( เหมือนแม่เขาไม่ค่อยชอบเรา เพราะเราเคยมีปัญหากับแฟนเรื่องนึง แฟนฝากแหวน มาให้เรา ไปชุบล้าง ที่ร้านประจำของเรา และเหมือนแม่แฟนรู้ว่าแฟนฝากเรามาทำ ก็เห็นว่าทำไมนาน ก็เลยมาบ้านเรา เพื่อมาถาม แต่ก็ไม่เจอเรา แต่เจอแม่เรา แม่แฟนมาพูดกับแม่เราทำนองว่า กลัวเราจะไปหลอกลูกเขา ทำให้เราไม่ค่อยชอบคำพูดตรงนั้น ทั้งเราเป็นผู้หญิง เราหรือจะไปหลอกลูกเขาที่เป็นผู้ชาย )
ที่ผ่านมา จะมีทั้งเงินที่เราช่วยเหลือเขา และเงินที่เขาขอยืม ทุกวันเกิดของเราเขาก็ไม่มีเงิน ก็ไม่ได้มีของอะไรให้เรา มีแค่ไปเลี้ยงกินข้าวครั้งเดียว วันเกิด 3 ปี แต่ได้ไปแค่ปีเดียว ไม่มีของขวัญไม่มีอะไรทั้งนั้น เพราะเขาไม่มีเงินค่ะ และไม่เคยพยายามอะไรเพื่อเราเลย พอเขามีเงิน เขาก็ไม่ได้พูดถึงเงินที่เคยยืมเราไปเราก็ไม่ทวง เพราะเราคิดว่า มันเป็นเงินที่เขาขายของๆเขามา เขาคงยังไม่อยากใช้ ตลอดเวลาที่คบกัน เขาเป็นคนนิสัยดี แต่เสียเรื่องเงินเรื่องเดียว จนเราสับสนว่า สรุปแล้วแฟนเราดีไหม ถ้าถามว่า แฟนเรามีดีอะไร
1.แฟนเราพูดเพราะตั้งแต่แรกคบยันตอนนี้
2.แฟนดูแลเอาใจใส่ ซื่อสัตย์
3.ให้กำลังใจ เป็นผู้ฟังที่ดี
4.เสมอต้นเสมอปลาย เป็นที่ปรึกษาที่ดี
ข้อเสีย
1.ไม่มีเงิน ไม่เคยซัพพอตเราได้
2.พอมีเงินก็ไม่ได้นึกถึงเรา
เราเลยสับสนวาา คำว่าแฟนดี นี่คือต้องดีเรื่องไหนบ้าง หรือเราคิดเล็กคิดน้อยไปค่ะ หรือแฟนเราไม่ดีเราจะแก้ไข หรือจะบอกให้แฟนปรับเปลี่ยนยังไงได้บ้าง