1

Elephant of the Bastille ภาพวาดสีน้ำ
โดยสถาปนิก Jean-Antoine Alavoine
.
.
ระหว่างปี 1814 - 1846
มีช้างปูนปลาสเตอร์ขนาดมหึมา
ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางกรุงปารีส
ณ ที่ตั้งของเรือนจำบาสตีย์
Bastille ในอดีต
แต่แล้วในที่สุดกลายเป็นโศกนาฎกรรม
งาข้างหนึ่งร่วงหล่นลงบนพื้น
และงาอีกข้างหนึ่งหักเหลือแต่ตอ
ร่างกายกลายเป็นสีกระดำกระด่าง
จากสายฝนและเขม่าควัน
ทั้งยังเกิดโพรงขนาดใหญ่ในลำตัวของช้าง
มีพวกหนู พวกแมวเร่ร่อน อยู่ข้างใน
และยังมีคนเร่ร่อนหลบนอนเช่นกัน
ที่ตั้งช้างก็เต็มได้วย Dandelions กับ Thistles
.
2

.
.
ช้างปูนปลาสเตอร์นี้คือ ภาพในฝันของ
Napoléon Bonaparte ที่ตั้งใจไว้ในครั้งแรก
ที่สั่งให้สร้างช้างขึ้นมาเป็นอนุสรณ์สถาน
แสดงชัยชนะของ Napoléon Bonaparte
โดยสั่งให้สร้างจากทองสัมฤทธิ์
ที่หลอมมาจากปืนใหญ่ของข้าศึก
ที่กองทัพ Napoléon Bonaparte
ยึดได้ในสงคราม
Battle of Friedland
งวงของช้างจะพ่นน้ำออกมา
ในขณะที่ขาข้างหนึ่งของช้าง
ซึ่งมีความสูง 6 ฟุตจะมีบันไดคดเคี้ยว
จะนำไปสู่กูบบนหลังช้าง
.
3

.
.
ในวันที่ 14 กรกฎาคม 1789
คุก Bastille ถูกชาวบ้านยึดได้
โดยยิงถล่มด้วยปืนใหญ่ 2 กระบอก
ซึ่งเป็นเครื่องราชบรรณาการสยาม
สมัยพระนารายณ์มหาราช
ถวายให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14
ต่อมา ชาวบ้านได้พังทะลายคุก
จนพังยับเยินในเวลาต่อมา
มีการถกเถียงกันว่าควรมีบางอย่าง
มาแทนที่เรือนจำเดิมหรือไมี่
จึงมีการตัดสินใจว่า
พื้นที่ดังกล่าวควรจะกลายเป็นจัตุรัส
เป็นพื้นที่สาธารณะใช้เฉลิมฉลองเสรีภาพ
และจะมีการสร้างเสาชัยชนะขึ้นที่นั่น
มีการวางศิลาฤกษ์เพื่อเริ่มก่อสร้าง
แต่เสานั้นไม่เคยปรากฏขึ้นมาอีกเลย
แต่มีการสร้างน้ำพุขึ้นในปี 1793
โดยเป็นภาพของเทพเจ้า
Isis แห่งอียิปต์
ที่มีน้ำไหลออกมาจากหน้าอกของเธอ
ต่อมา Napoléon Bonaparte สั่งให้ทุบทิ้ง
เพราะมีแผนการ/โครงการที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น
.
.
ในปี 1810
จักรพรรดิ Napoléon Bonaparte
จึงมีคำสั่งให้สร้างน้ำพุใหม่ในรูปของช้าง
ซึ่งจะเป็นสัญลักษณ์ความกล้าหาญ
และน่าชื่นชมยินดีสำหรับชาวบ้านทุกคนที่ได้เห็น
(คงระลึกถึง Hannibal ที่เคยไสช้างบุกยุโรป)
.
5.1
.
Dominique Vivant ศิลปินชาวฝรั่งเศส
นักเขียน นักการทูต นักโบราณคดี
และผู้อำนวยการคนแรกของพิพิธภัณฑ์
Louvre
ได้รับหน้าที่ดูแลเป็นหัวหน้าโครงการนี้
Jacques Cellerier ได้รับเลือกให้เป็นสถาปนิก
และเริ่มงานโครงการนี้ในปี 1810
ในปี 1812
งานภาคพื้นดินที่มีห้องใต้ดิน/ท่อใต้ดินเสร็จแล้ว
พอถึงตอนนี้ Jacques Cellerier ก็ถูกปลดออก
ให้
Jean-Antoine Alavoine
เข้ามาทำหน้าที่แทนเพราะตระหนักถึง
ความจำเป็นในการแสดงให้เห็นว่า
งานที่เสร็จแล้วจะเป็นอย่างไร
จึงมีการจ้างช่างปั้น
Pierre-Charles Bridan
ให้สร้างแบบจำลองขนาดเต็ม
โดยใช้ปูนปลาสเตอร์บนโครงไม้
Elephant of the Bastille ยืนสูงเท่าบ้าน 3 ชั้น
ร่างสูงยืนเด่นเป็นสง่าตั้งตระหง่านอยู่เหนือจัตุรัส
ที่เห็นการประท้วงรุนแรงมากมาย
การประท้วงที่โกรธเกรี้ยว
และนำไปสู่การล้มล้างราชวงศ์ฝรั่งเศส
.
.
ในปี 1815
จักรพรรดิ Napoléon Bonaparte
แพ้ศึกที่ Waterloo อาณาจักรก็ล่มสลายลง
และการก่อสร้างก็ต้องหยุดลง
แต่ Jean-Antoine Alavoine ยังคงสู้ต่อไป
ด้วยการหาเงินมาสนับสนุนให้สร้างต่อไป
เพื่อให้โครงการแล้วเสร็จ
แม้ว่าในช่วงปลายทศวรรษที่ 1830
ช้างปูนปลาสเตอร์จะเริ่มพังทะลายลง
ช้างตัวนี้มีการบรรยายได้อย่างเด่นชัด
ในนวนิยายเรื่อง
Les Misérables (ปี 1862)
ของ
Victor-Marie Hugo นักเขียนฝ่ายราษฏร
ได้บรรยายถึงเด็กซุกซุนเด็กกลางถนน Gavroche
เข้ามาไปหลบภายในตัวช้างที่ชำรุดทรุดโทรม
Victor Hugo ได้บรรยายสภาพได้ถูกต้องมาก
เกี่ยวกับสภาพที่น่าสังเวชของช้างปูนปาสเตอร์
.
8
Victor Hugo
.

Les Miserables
.
9

Cosette โดย Emile Bayard
ใน Les Misérables (1862)
.
10

Gavroche
.
11

.
12

Elephant of the Bastille นิรนาม
.
.
มีคนแปลกหน้าเพียงไม่กี่คนที่มาเยี่ยมชม
อาคารแห่งนี้แทบจะไม่มีผู้สัญจรไปมามองเลย
มันกลายเป็นซากปรักหักพังและทรุดโทรม
ทุกฤดูกาลปูนปลาสเตอร์ก็จะหลุดจากด้านข้าง
จะก่อให้เกิดบาดแผลที่น่ากลัวยิ่งขึ้น
The aediles เจ้าหน้าที่ปกครอง
ที่เคยมองมันอย่างหรูหราก็ลืมมันไปเเสียแล้ว
ในที่สุดในปี 1814
ที่นั่นช้างยืนอยู่ที่ในมุมที่ดูน่าเศร้าโศก
สภาพมันป่วยแตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
รอบ ๆ ตัวช้างเต็มไปด้วยสิ่งของพังทะลาย
และล้อมรอบด้วยรั้วเหล็กที่ผุพังขึ้นสนิม
พร้อมกลิ่นเหม็นเน่าจากฉี่/อ้วก
ของพวกคนขับรถม้าบรรทุกขี้เมา
รอยแตกคดเคี้ยวไปมาที่ท้องของช้าง
ไม้ระแนงโผล่ยื่นออกมาจากหาง
หญ้าขึ้นสูงระหว่างขาของมัน
และในขณะที่พื้นที่นั้นสูงขึ้นกว่าที่ดินรอบ ๆ
กินเวลานานถึง 30 ปีแล้ว
ที่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใดและต่อเนื่อง
ทำให้เหมือนกองดินขนาดใหญ่ใจกลางเมือง
เรื่องที่ไม่น่าเชื่อคือ
ช้างยังยืนอยู่แม้ว่าข้างในจะเป็นโพรง
ช้างกลายเป็นมลทินที่น่าดูหมิ่น น่ารังเกียจ
สุดยอดความน่าเกลียด
ในสายตาของชนชั้นกลาง
แต่สุดยอดความเศร้าโศก
ในสายตาของนักคิด/ศิลปิน
ในปี 1820
ช้างตัวนี้ไม่เพียงแต่จะกลายเป็น
สถานที่น่าเกลียดน่ากลัวเท่านั้น
แต่ช้างกลายเป็นภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง
เพราะทุกคืน จะมีฝูงหนูวิ่งออกมา
จากโพรงในลำตัวช้างทุกคืน
และบุกเข้าไปคุ้ยหาอาหาร
ในบ้านของคนในท้องถิ่น
ทำให้ชาวบ้านต่างร้องเรียน
และเรียกร้องให้รื้ออนุสาวรีย์ช้างทิ้งเสีย
ในที่สุดในปี 1846
ช้างปูนปลาสเตอร์จึงถูกทำลายและรื้อทิ้ง
และถูกแทนที่ด้วยเสา
July Column
ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงการปฏิวัติ
ใน
July Revolution 1830
.
13

.
14

.
.
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/32iMlus
https://bit.ly/3uQbJ76
https://bit.ly/32hcI43
.
.
15

1828 โครงสร้างน้ำพุ @ Louis Bruyère
.
16

1828 ลำธารข้างใต้ @ Louis Bruyère
.
17

1834 ภาพจำลอง @ นิรนาม
.
18

1834 ภาพจำลอง @ นิรนาม
.
19
.
20
.
21
.
22
.
23
.
24
.
Elephant of The Bastille ช้างแห่งคุกบาสตีย์
Elephant of the Bastille ภาพวาดสีน้ำ
โดยสถาปนิก Jean-Antoine Alavoine
.
.
ระหว่างปี 1814 - 1846
มีช้างปูนปลาสเตอร์ขนาดมหึมา
ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางกรุงปารีส
ณ ที่ตั้งของเรือนจำบาสตีย์ Bastille ในอดีต
แต่แล้วในที่สุดกลายเป็นโศกนาฎกรรม
งาข้างหนึ่งร่วงหล่นลงบนพื้น
และงาอีกข้างหนึ่งหักเหลือแต่ตอ
ร่างกายกลายเป็นสีกระดำกระด่าง
จากสายฝนและเขม่าควัน
ทั้งยังเกิดโพรงขนาดใหญ่ในลำตัวของช้าง
มีพวกหนู พวกแมวเร่ร่อน อยู่ข้างใน
และยังมีคนเร่ร่อนหลบนอนเช่นกัน
ที่ตั้งช้างก็เต็มได้วย Dandelions กับ Thistles
.
.
ช้างปูนปลาสเตอร์นี้คือ ภาพในฝันของ
Napoléon Bonaparte ที่ตั้งใจไว้ในครั้งแรก
ที่สั่งให้สร้างช้างขึ้นมาเป็นอนุสรณ์สถาน
แสดงชัยชนะของ Napoléon Bonaparte
โดยสั่งให้สร้างจากทองสัมฤทธิ์
ที่หลอมมาจากปืนใหญ่ของข้าศึก
ที่กองทัพ Napoléon Bonaparte
ยึดได้ในสงคราม Battle of Friedland
งวงของช้างจะพ่นน้ำออกมา
ในขณะที่ขาข้างหนึ่งของช้าง
ซึ่งมีความสูง 6 ฟุตจะมีบันไดคดเคี้ยว
จะนำไปสู่กูบบนหลังช้าง
.
.
ในวันที่ 14 กรกฎาคม 1789
คุก Bastille ถูกชาวบ้านยึดได้
โดยยิงถล่มด้วยปืนใหญ่ 2 กระบอก
ซึ่งเป็นเครื่องราชบรรณาการสยาม
สมัยพระนารายณ์มหาราช
ถวายให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14
ต่อมา ชาวบ้านได้พังทะลายคุก
จนพังยับเยินในเวลาต่อมา
มีการถกเถียงกันว่าควรมีบางอย่าง
มาแทนที่เรือนจำเดิมหรือไมี่
จึงมีการตัดสินใจว่า
พื้นที่ดังกล่าวควรจะกลายเป็นจัตุรัส
เป็นพื้นที่สาธารณะใช้เฉลิมฉลองเสรีภาพ
และจะมีการสร้างเสาชัยชนะขึ้นที่นั่น
มีการวางศิลาฤกษ์เพื่อเริ่มก่อสร้าง
แต่เสานั้นไม่เคยปรากฏขึ้นมาอีกเลย
แต่มีการสร้างน้ำพุขึ้นในปี 1793
โดยเป็นภาพของเทพเจ้า Isis แห่งอียิปต์
ที่มีน้ำไหลออกมาจากหน้าอกของเธอ
ต่อมา Napoléon Bonaparte สั่งให้ทุบทิ้ง
เพราะมีแผนการ/โครงการที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น
.
Isis กับ Oris Isis พร้อมกับ Horus
.
5
Dominique Vivant
.
.
ในปี 1810
จักรพรรดิ Napoléon Bonaparte
จึงมีคำสั่งให้สร้างน้ำพุใหม่ในรูปของช้าง
ซึ่งจะเป็นสัญลักษณ์ความกล้าหาญ
และน่าชื่นชมยินดีสำหรับชาวบ้านทุกคนที่ได้เห็น
(คงระลึกถึง Hannibal ที่เคยไสช้างบุกยุโรป)
.
.
Dominique Vivant ศิลปินชาวฝรั่งเศส
นักเขียน นักการทูต นักโบราณคดี
และผู้อำนวยการคนแรกของพิพิธภัณฑ์ Louvre
ได้รับหน้าที่ดูแลเป็นหัวหน้าโครงการนี้
Jacques Cellerier ได้รับเลือกให้เป็นสถาปนิก
และเริ่มงานโครงการนี้ในปี 1810
ในปี 1812
งานภาคพื้นดินที่มีห้องใต้ดิน/ท่อใต้ดินเสร็จแล้ว
พอถึงตอนนี้ Jacques Cellerier ก็ถูกปลดออก
ให้ Jean-Antoine Alavoine
เข้ามาทำหน้าที่แทนเพราะตระหนักถึง
ความจำเป็นในการแสดงให้เห็นว่า
งานที่เสร็จแล้วจะเป็นอย่างไร
จึงมีการจ้างช่างปั้น Pierre-Charles Bridan
ให้สร้างแบบจำลองขนาดเต็ม
โดยใช้ปูนปลาสเตอร์บนโครงไม้
Elephant of the Bastille ยืนสูงเท่าบ้าน 3 ชั้น
ร่างสูงยืนเด่นเป็นสง่าตั้งตระหง่านอยู่เหนือจัตุรัส
ที่เห็นการประท้วงรุนแรงมากมาย
การประท้วงที่โกรธเกรี้ยว
และนำไปสู่การล้มล้างราชวงศ์ฝรั่งเศส
.
Jean-Antoine Alavoine
.
7
Battle of Waterloo 1815
.
.
ในปี 1815
จักรพรรดิ Napoléon Bonaparte
แพ้ศึกที่ Waterloo อาณาจักรก็ล่มสลายลง
และการก่อสร้างก็ต้องหยุดลง
แต่ Jean-Antoine Alavoine ยังคงสู้ต่อไป
ด้วยการหาเงินมาสนับสนุนให้สร้างต่อไป
เพื่อให้โครงการแล้วเสร็จ
แม้ว่าในช่วงปลายทศวรรษที่ 1830
ช้างปูนปลาสเตอร์จะเริ่มพังทะลายลง
ช้างตัวนี้มีการบรรยายได้อย่างเด่นชัด
ในนวนิยายเรื่อง Les Misérables (ปี 1862)
ของ Victor-Marie Hugo นักเขียนฝ่ายราษฏร
ได้บรรยายถึงเด็กซุกซุนเด็กกลางถนน Gavroche
เข้ามาไปหลบภายในตัวช้างที่ชำรุดทรุดโทรม
Victor Hugo ได้บรรยายสภาพได้ถูกต้องมาก
เกี่ยวกับสภาพที่น่าสังเวชของช้างปูนปาสเตอร์
.
Victor Hugo
.
Les Miserables
.
9
Cosette โดย Emile Bayard
ใน Les Misérables (1862)
.
10
Gavroche
.
11
12
Elephant of the Bastille นิรนาม
.
.
มีคนแปลกหน้าเพียงไม่กี่คนที่มาเยี่ยมชม
อาคารแห่งนี้แทบจะไม่มีผู้สัญจรไปมามองเลย
มันกลายเป็นซากปรักหักพังและทรุดโทรม
ทุกฤดูกาลปูนปลาสเตอร์ก็จะหลุดจากด้านข้าง
จะก่อให้เกิดบาดแผลที่น่ากลัวยิ่งขึ้น
The aediles เจ้าหน้าที่ปกครอง
ที่เคยมองมันอย่างหรูหราก็ลืมมันไปเเสียแล้ว
ในที่สุดในปี 1814
ที่นั่นช้างยืนอยู่ที่ในมุมที่ดูน่าเศร้าโศก
สภาพมันป่วยแตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
รอบ ๆ ตัวช้างเต็มไปด้วยสิ่งของพังทะลาย
และล้อมรอบด้วยรั้วเหล็กที่ผุพังขึ้นสนิม
พร้อมกลิ่นเหม็นเน่าจากฉี่/อ้วก
ของพวกคนขับรถม้าบรรทุกขี้เมา
รอยแตกคดเคี้ยวไปมาที่ท้องของช้าง
ไม้ระแนงโผล่ยื่นออกมาจากหาง
หญ้าขึ้นสูงระหว่างขาของมัน
และในขณะที่พื้นที่นั้นสูงขึ้นกว่าที่ดินรอบ ๆ
กินเวลานานถึง 30 ปีแล้ว
ที่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใดและต่อเนื่อง
ทำให้เหมือนกองดินขนาดใหญ่ใจกลางเมือง
เรื่องที่ไม่น่าเชื่อคือ
ช้างยังยืนอยู่แม้ว่าข้างในจะเป็นโพรง
ช้างกลายเป็นมลทินที่น่าดูหมิ่น น่ารังเกียจ
สุดยอดความน่าเกลียด
ในสายตาของชนชั้นกลาง
แต่สุดยอดความเศร้าโศก
ในสายตาของนักคิด/ศิลปิน
ในปี 1820
ช้างตัวนี้ไม่เพียงแต่จะกลายเป็น
สถานที่น่าเกลียดน่ากลัวเท่านั้น
แต่ช้างกลายเป็นภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง
เพราะทุกคืน จะมีฝูงหนูวิ่งออกมา
จากโพรงในลำตัวช้างทุกคืน
และบุกเข้าไปคุ้ยหาอาหาร
ในบ้านของคนในท้องถิ่น
ทำให้ชาวบ้านต่างร้องเรียน
และเรียกร้องให้รื้ออนุสาวรีย์ช้างทิ้งเสีย
ในที่สุดในปี 1846
ช้างปูนปลาสเตอร์จึงถูกทำลายและรื้อทิ้ง
และถูกแทนที่ด้วยเสา July Column
ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงการปฏิวัติ
ใน July Revolution 1830
.
14
.
เรียบเรียง/ที่มา
https://bit.ly/32iMlus
https://bit.ly/3uQbJ76
https://bit.ly/32hcI43
.
.
1828 โครงสร้างน้ำพุ @ Louis Bruyère
.
16
1828 ลำธารข้างใต้ @ Louis Bruyère
.
17
1834 ภาพจำลอง @ นิรนาม
.
18
1834 ภาพจำลอง @ นิรนาม
.
19
.
20
.
21
.
22
.
23
.
24
.