สวัสดีค่ะ ช่วงนี้โควิดระบาด เราจำใจต้องอยู่บ้านในช่วงวันหยุด ถ้าเราไม่หยุด คาดว่า…อาจจะเป็นหมอๆที่ต้องหยุดเอง(แย่เลย!!!!)
ตามเพจหนัง Kanin (อีกแระ ขอบคุณแอดมินนะคะ) เห็นชื่อหนังเรื่องนี้ผ่านตาแต่ต้องตาม เพราะมีดาราแม่เหล็กอย่าง Tom Hanks แสดงนำ
สิ่งที่ได้จากหนังเรื่องนี้
~ โรเจอร์( Tom Hanks) พิธีกรรายการเด็กชื่อดัง influenzer ผู้ซึ่งมีอิทธิพลต่อคนทุกรุ่น ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ คนแก่ (หืม?) ตอนแรกที่ดู บอกตรงไม่ค่อยอิน รู้สึกว่าลุงปลูกสตรอ …จนผ่านไป 3 ใน 4 ของเรื่อง ก็เริ่มเข้าใจในพฤติกรรมที่ลุงคอยบำบัดมุมมองของลอยด์
เราชอบประโยคนี้ของลุงที่พูดกับลอยด์
Just take a minute and think about all the people who loved us into being.
นึกถึงคนที่รักเราทุกคนที่ทำให้เราเป็นเราแบบทุกวันนี้ ลองทำแค่ 1 นาที
…อันนี้แนะนำลองทำตามนะคะ เป็นไงมาแชร์กันบ้าง
To die is to be human.
ความตาย ทำให้เราเป็นมนุษย์
…โรเจอร์พูดกับครอบครัวของลอยด์ ในขณะที่พ่อของลอยด์เริ่มมีอาการทรุด
สังเกตว่า โรเจอร์มักมีวิธีคิดคล้ายทางพุทธ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย หรือกระทั่งการแนะนำให้พ่อของลอยด์สวดมนต์ถึงพระเจ้าในช่วงสุดท้ายที่เหลืออยู่
~ ลอยด์ นักเขียนปากร้าย ที่ได้รับมอบหมายจากบรรณาธิการให้ไปสัมภาษณ์โรเจอร์ ลงแม็กกาซีน ในหัวข้อ" Hero"
ลอยด์เป็นนักเขียนฝีมือจัดจ้านมีดีกรีรางวัลแต่ด้วยรูปแบบการเขียนแนวจิกกัดจึงถูกเหล่าคนดังอื่นๆปฏิเสธการสัมภาษณ์ ยกเว้น โรเจอร์พ่อพระของเรา
เขามีบาดแผลในวัยเด็กจากการที่ถูกพ่อทิ้งและแม่ตาย ทำให้ลอยด์มีพฤติกรรมแข็งกร้าวรุนแรงจนชกกับพ่อของตัวเองในงานแต่งงานรอบที่สามของน้องสาว (ป้าดดด)
~ แอนเเดรีย ภรรยาของลอยด์ อาชีพนักกฏหมาย อดทนและเป็นแรงผลักดันที่เข้มแข็งอยู่ข้างลอยด์เสมอ( เลี้ยงลูกเก่งด้วย 55555 แรกๆ คุณสามีแทบจะไม่ได้ช่วยไรเลย )
~ พ่อของลอยด์ อดีตหนุ่มเพลย์บอย ที่อยากแก้ไขอดีตของตัวเองในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต
----------------------------------\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\----------------------------------
เรื่องนี้จบแบบแฮปปี้ตามสูตรหนังฟิลกู๊ด ถึงแม้พ่อของลอยด์จะจากโลกนี้ไป แต่ทุกคนที่เหลืออยู่ต่างเข้าใจและให้อภัยยอมรับกับสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
หนังดี แต่ด้วยสไตล์หนังแนวหนึบและเนิบอาจเผลอหลับได้ เพื่อนๆดูแล้วเป็นไงบ้าง? มาแชร์ความรู้สึกด้วยกันค่ะ ^^
A BEAUTIFUL DAY IN THE NEIGHBORHOOD หนังฟิลกู๊ด …
ตามเพจหนัง Kanin (อีกแระ ขอบคุณแอดมินนะคะ) เห็นชื่อหนังเรื่องนี้ผ่านตาแต่ต้องตาม เพราะมีดาราแม่เหล็กอย่าง Tom Hanks แสดงนำ
สิ่งที่ได้จากหนังเรื่องนี้
~ โรเจอร์( Tom Hanks) พิธีกรรายการเด็กชื่อดัง influenzer ผู้ซึ่งมีอิทธิพลต่อคนทุกรุ่น ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ คนแก่ (หืม?) ตอนแรกที่ดู บอกตรงไม่ค่อยอิน รู้สึกว่าลุงปลูกสตรอ …จนผ่านไป 3 ใน 4 ของเรื่อง ก็เริ่มเข้าใจในพฤติกรรมที่ลุงคอยบำบัดมุมมองของลอยด์
เราชอบประโยคนี้ของลุงที่พูดกับลอยด์
Just take a minute and think about all the people who loved us into being.
นึกถึงคนที่รักเราทุกคนที่ทำให้เราเป็นเราแบบทุกวันนี้ ลองทำแค่ 1 นาที
…อันนี้แนะนำลองทำตามนะคะ เป็นไงมาแชร์กันบ้าง
To die is to be human.
ความตาย ทำให้เราเป็นมนุษย์
…โรเจอร์พูดกับครอบครัวของลอยด์ ในขณะที่พ่อของลอยด์เริ่มมีอาการทรุด
สังเกตว่า โรเจอร์มักมีวิธีคิดคล้ายทางพุทธ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เกิด แก่ เจ็บ ตาย หรือกระทั่งการแนะนำให้พ่อของลอยด์สวดมนต์ถึงพระเจ้าในช่วงสุดท้ายที่เหลืออยู่
~ ลอยด์ นักเขียนปากร้าย ที่ได้รับมอบหมายจากบรรณาธิการให้ไปสัมภาษณ์โรเจอร์ ลงแม็กกาซีน ในหัวข้อ" Hero"
ลอยด์เป็นนักเขียนฝีมือจัดจ้านมีดีกรีรางวัลแต่ด้วยรูปแบบการเขียนแนวจิกกัดจึงถูกเหล่าคนดังอื่นๆปฏิเสธการสัมภาษณ์ ยกเว้น โรเจอร์พ่อพระของเรา
เขามีบาดแผลในวัยเด็กจากการที่ถูกพ่อทิ้งและแม่ตาย ทำให้ลอยด์มีพฤติกรรมแข็งกร้าวรุนแรงจนชกกับพ่อของตัวเองในงานแต่งงานรอบที่สามของน้องสาว (ป้าดดด)
~ แอนเเดรีย ภรรยาของลอยด์ อาชีพนักกฏหมาย อดทนและเป็นแรงผลักดันที่เข้มแข็งอยู่ข้างลอยด์เสมอ( เลี้ยงลูกเก่งด้วย 55555 แรกๆ คุณสามีแทบจะไม่ได้ช่วยไรเลย )
~ พ่อของลอยด์ อดีตหนุ่มเพลย์บอย ที่อยากแก้ไขอดีตของตัวเองในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต
----------------------------------\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\----------------------------------
เรื่องนี้จบแบบแฮปปี้ตามสูตรหนังฟิลกู๊ด ถึงแม้พ่อของลอยด์จะจากโลกนี้ไป แต่ทุกคนที่เหลืออยู่ต่างเข้าใจและให้อภัยยอมรับกับสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
หนังดี แต่ด้วยสไตล์หนังแนวหนึบและเนิบอาจเผลอหลับได้ เพื่อนๆดูแล้วเป็นไงบ้าง? มาแชร์ความรู้สึกด้วยกันค่ะ ^^