Cannibalization ระหว่างผลิตภัณฑ์ แย่งกำลังซื้อกันหรือไม่

กระทู้สนทนา
สวัสดีประชาโอตะทุกท่านช่วงใกล้ปีใหม่ไทย ที่ไม่ได้เฉลิมฉลองอย่างเต็มที่เป็นปีที่สองต่อเนื่องกันไปเพราะโควิดตัวดีครับ เนื่องจากผมว่างจึงมีเวลามานั่งดูนั่งคิดอะไรเล่นๆ และอยากขอความรู้เพิ่มเติมจากทุกท่านครับ
 
ในช่วงนี้ที่มีสินค้าของทาง iAm48 ออกมารัว ๆ ติด ๆ กันหลากหลายวง ทุกท่านที่ติดตามหลากหลายวงก็คงหน้ามืดหมุนเงินกันสนุกทั้ง BNK48 CGM48 และ VYRA โดยตัวผมเองก็สนับสนุนทั้งสามวงเช่นกัน ทำให้ผมมานั่งคิดว่า การที่มีการที่ทางบริษัททำการจัดตั้งหลากหลายวงจะเป็นCannibalization หรือไม่ (Cannibalization  = การที่บริษัทออกผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ที่ไปแย่งการใช้จ่ายกับฐานลูกค้าเดิมในผลิตภัณฑ์หรือบริการเดิมของบริษัท) หรือเป็นการขยายฐานลูกค้าไปตลาดใหม่ แล้วการขยายไปนี้มีมุมมองอย่างไร และจะคุ้มทุนหรือไม่ 
 
ผมจึงมองย้อนกลับไปถึงตัวแบบของโมเดลธุรกิจนี้ในแดนอาทิตย์อุทัย นิฮงแลนด์ ผมจึงหาข้อมูลประชากรและ GDP ต่อหัว ของแต่ละวงสาขามาเปรียบเทียบกันด้านล่างนี้ครับ (ข้อมูลเป็นตัวเลขของปี 2018 สำหรับประชากร และ 2014 สำหรับ GDP ต่อหัว เนื่องจากผมหาได้ล่าสุดแบบแยกจังหวัดเท่านี้ครับ)
 
AKB48 – Tokyo – ประชากร 14 ล้าน (37.5 ล้าน หากรวมปริมณฑล) – GDP ต่อหัว 2 ล้านบาท
SKE48 – Aichi – ประชากร 7.6 ล้าน – GDP ต่อหัว 1.3 ล้านบาท
NMB48 – Osaka – ประชากร 2.7 ล้าน (19.3 ล้าน หากรวมปริมณฑล) – GDP ต่อหัว 1.2 ล้านบาท
HKT48 – Fukuoka – ประชากร 5.1 ล้าน – GDP ต่อหัว 1 ล้านบาท
NGT48 – Niigata – ประชากร 2.2 ล้าน– GDP ต่อหัว 1 ล้านบาท
 
BNK48 – Bangkok – ประชากร 10.5 ล้าน (14.6 ล้าน หากรวมปริมณฑล) – GDP ต่อหัว 2.4 แสนบาท
CGM48 – Chiang Mai – ประชากร 1.3 แสน (9.6 แสน หากรวมปริมณฑล) – GDP ต่อหัว 1.3 แสนบาท
 
จากตัวเลขทั้งหมดด้านบนจะเห็นได้ถ้าวัดกันที่กำลังซื้อด้วย GDP ต่อหัว แล้วล่ะก็ วงน้องที่ไทยห่างไกลไม่เห็นฝุ่นกันเป็นสิบเท่าเลยทีเดียว ที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผมคือการที่ทาง iAm ตัดสินใจลงทุนเปิดวงที่เชียงใหม่ที่มีประชากรไม่ถึง ล้าน หากรวมปริมณฑล ซึ่งน้อยกว่า กทม เป็นสิบเท่า และมีกำลังซื้อน้อยกว่าเกือบสองเท่า หากย้อนกลับไปดูที่ญี่ปุ่นจะเห็นว่าในแต่ละที่ที่เปิดวงน้องนั้น มีจำนวนประชากรและกำลังซื้อที่มากกว่ามากมายนัก เหล่าโอตะญี่ปุ่นจึงสนับสนุนแต่ละวงได้ดีกว่า แน่นอนว่าการจับประเด็นแบบนี้เป็นการมองเพียงด้านเดียว ทำให้ผมอยากขอความรู้และความเห็นจากทุกท่านว่า เชียงใหม่ มีความน่าสนใจด้านใดเพิ่มเติมที่จะทำให้วงอยู่รอดโดยปราศจาก Cannibalization โดยเฉพาะความเป็นไปได้ของการตั้งเทียเตอร์ CGM เอง
 
ลองคิดเลขเล่น ๆ กัน ครับ
อ้างอิงจากหนังสือสัญญาที่เคยถูกเปิดเผย เงินที่บริษัทจ่ายน้อง ๆ แต่ละเดือนน่า จะมีดังนี้
เงินสนับสนุน Team member 12,000 และ Trainee 6,000
ค่าตำแหน่ง Shihinin 15,000 สมมติเท่ากัปตันวงซึ่งคงมากกว่า และ Captain 10,000
ค่า Live 10,000
หมายเหตุ ไม่ได้คำนวณว่ามีเงินพอเศษสำหรับ Top Mem
Rina Team C + Shihinin 37,000 (15,000+12,000+10,000)
Aom Team C + Captain 32,000 (10,000+12,000+10,000)
Trainee 16,000 (6,000+10,000) 
รวมต่อเดือน 437,000 (37,000+32,000+16,000*23)
ต่อไตรมาส 1.3 ล้านบาท ดังนั้น บริษัทต้องมีรายได้ ต่อหนึ่ง ซิงเกิ้ล (ออกทุกไตรมาส) เท่านี้เพื่อจ่ายเงินเดือนน้อง ๆ  หากให้กำไรจาก CD และ Mini Book 175 (50%) ต้องขายได้ กลม ๆ จำนวน 7,500 ชิ้น 
ถ้าคิดต่อเล่น ๆ จากที่เราเห็นว่าช่วงนี้ทำได้ราว ๆ 30,000 ชิ้น เป็นเงิน 10.5 ล้านบาท ก็แปลว่าอาจได้กำไรไปบริหารใช้จ่ายหากกำไร 50% ราว ๆ 5.25 ล้านบาท ต่อไตรมาส ซึ่งดู ๆ แล้วหากรวมกับสินค้าอื่น ๆ ยิ่งน่าจะอยู่รอดสบาย ๆ เรื่อย ๆ หายห่วง แม้รวมค่าใช้จ่ายงานจับมือที่ต้องจัดขึ้น และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
 
ทั้งนี้และทั้งนั้น ผมมองว่าวง CGM อยู่ได้สบาย ๆ แค่ หากมองจริง ๆ แล้วเป็น Cannibalization กับวง BNK หรือเปล่า หรือทุกท่านเห็นว่าเงินใช้จ่ายสนับสนุนน้อง ๆ สองวงนี้เตรียมไว้แยกกัน สำหรับผมที่เป็นสายซื้อสินค้าแค่อย่างละชิ้น และไม่ได้ไปร่วมงานจับมือจึงขายบัตรออกไปอีก ตัวผมเองจึงสนับสนุนหลายวงได้สบาย ๆ แต่ก็ไม่ใช่ลูกค้าแบบที่บริษัทต้องการเพราะใช้จ่ายน้อยไปครับ อิอิ ดังนั้นอยากทราบความเห็นจากท่านเลือดแท้ครับว่า Cannibalization หรือไม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่