สวัสดีค่ะทุกคน
วันนี้จะมารีวิววิธีเวรคืนกรรมธรรม์ที่ซื้อในประเทศไทย ขณะที่ตัวเราอยู่ต่างประเทศนะคะ การเวรคืนที่ต่างประเทศมันก็จะยากนิดนึงตรงเรื่องการส่งเอกสาร และการโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ เราโทรได้เฉพาะ 02 นำหน้า พวกเบอร์พิเศษแบบ 1373 อะไรพวกนี้จะโทรไม่ได้ค่ะ
เกริ่น。。。เราย้ายมาอยู่ต่างประเทศ ไม่ต้องการได้รับความคุ้มครอง และไม่ได้ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากประกันที่ซื้อไว้ 4 ฉบับจาก 4 บริษัท จึงตัดสินใจเวรคืนกรรมธรรม์ 2 ฉบับ ซึ่งแน่นอนว่าได้เงินคืนแค่นิดเดียวไม่ซีเรียส เราถือว่าเป็นเงินค่าคุ้มครองชีวิตในปีที่ผ่านไปแล้ว ตอนนี้แค่ไม่อยากจ่ายต่อ อยากเก็บออมด้วยตัวเองค่ะ ประกอบกับเหตุการณ์หลายอย่างทำให้เริ่มเห็นว่าถ้าเราตายไป พ่อแม่ซึ่งแก่มากแล้วอาจดำเนินเอกสารรับเงินประกันเองไม่ได้
เพราะขนาดเรายังไม่ตาย เรื่องการติดต่อและดำเนินการกับบริษัทประกันยังลำบากและรู้สึกถึงความตุกติกในหลายอย่าง ถ้าเราตายไปคนข้างหลังปวดหัวกับเอกสารแน่นอน
เริ่มต้นที่ Generali เรามี เจนโปรแคช 15 (ไม่ปันผล)
- เราไลน์ไปใน official Line ของบริษัทที่เขาโปรโมทนักหนาว่าติดต่อง่าย เพื่อสอบถามเบื้องต้น ไม่มีใครตอบตามปกติ มีแต่auto chat เด้งขึ้นมา
- เราส่งข้อความไปใน Facebook page มีauto chat เด้งขึ้นมา สลับกันนานๆทีมีพนักงานพิมพ์ตอบกลับมา แต่พอเราพิมพ์อะไรกลับไป ก็จะมี autochat เด้งขึ้นมาใหม่ นานๆไปก็มีพนักงานมาตอบ ตอบแบบเหมือนเพิ่มเข้างาน ไม่ได้อ่านข้อความด้านบน ก็ถามเราวนไปวนมา
- คุยกันข้ามวัน เพราะรอพนักงานตอบคำถาม สลับกับรำคาณ auto chat พนักงานให้ส่งสำเนาบัตรประชาชน บัญชีธนาคารไป และใช้เวลาทำเรื่องประมาณเดือนนึง จะได้เงินคืน โดยให้วันที่เงินจะเข้ามาให้ ถ้าเงินไม่เข้าให้ติดต่อกลับมา
-
ตามคาด เงินไม่เข้าจริงๆด้วย เลยติดต่อกลับ พนักงานให้รอเพิ่มอีกไม่นาน ประมาณสัปดาห์นึง
- เงินเวรคืนกรรมธรรม์เข้าบัญชี
สรุป : เวรคืนกรมธรรม์ Generali ทางออนไลน์ได้ เงินเข้าบัญชีเลย แม้จะเห็นได้ชัดว่าบริษัทควรปรับปรุงระบบแชต/ลูกค้าสัมพันธ์อีกเยอะ รวมๆการเป็นลูกค้ามา 3 ปีถือว่าดีนะคะ คนขายประกันมีมาเยี่ยมบ้าน เอากระเช้านู่นนี่มาสวัสดีปีใหม่นานๆที ถ้าวันนึงจะซื้อประกันสุขภาพอาจจะพิจารณายี่ห้อนี้อีกครั้ง
มาต่อที่ Allianz เรามีมายแพลน 15/5 ที่โดนหลอกซื้อมาทางโทรศัพท์ ตัดเบี้ยผ่านบัตรเครดิต
- เราอีเมล์ไปที่อีเมล์หลักของบริษัท
- มีอีเมลตอบกลับมาทันที เร็วมาก!เราถามขั้นตอนไป จากนั้นบริษัทบอกว่าจะมีพนักงานติดต่อกลับมา
-
ตามคาด เงียบ--- ไม่มีอีเมลอะไรตอบกลับมาอีกเลยวันนึง
- วันถัดมาเราเมลไปทวงถามอีกครั้งเพราะวันศุกร์แล้ว ไม่อยากให้ติดเสาร์อาทิตย์ ซึ่งบริษัทไม่ทำการ
- มีพนักงานส่งข้อมูลที่เราหาได้จากหน้าเว็บมาให้ ว่าต้องส่งเล่ม ฟอร์มพร้อมเซ็นสด และสำเนาบัตรประชาชนเซ็นสด ไปที่บริษัท ทุกอย่างไม่รับสำเนา ฟอร์มต้องปริ้นออกมาเซ็นไม่รับภาพถ่ายจากมือถือ ก็คือส่งเอกสารตามปกติเหมือนอยู่ไทย ไม่สนใจว่าอยู่ต่างประเทศ
- คืนเงินด้วยเช็คส่งไปที่บ้านเท่านั้น ไม่มีตัวเลือกคืนเงินเข้าบัญชี
สรุป : เรามั่นใจว่าเราตัดสินใจไม่ผิดที่จะยกเลิกธุรกรรมกับบริษัทนี้ เคยโทรไปคอลเซ็นเตอร์ถามเรื่องรายละเอียดประกัน พนักงานใช้เสียงเหวี่ยงสุด มีทิ้งท้ายด้วยนะถ้าจะยกเลิกก็ส่งเล่มคืนมา แล้วนี่การใช้เวลา 2 วันในการตอบคำถามง่ายๆว่า “ใช้ขั้นตอนเดียวกับยกเลิกในประเทศค่ะ” ทำให้ชัวร์ละว่าถ้าเราตายไปจริงแล้วมีเหตุให้พ่อแม่แจ้งตายช้ากว่า 14 วัน คงไม่มีโอกาสได้เงินคืนแน่ๆ (ทีตอนโทรมาขายนะ โทรมาได้เช้าสายบ่ายเย็น เอกสารเร็วเว่อร์)
ขอเล่าถึงอีก 2 ยี่ห้อที่เรามี เผื่อใครมีประสบการณ์อะไรเอามาแลกกันนะคะ
1. เมืองไทยประกันชีวิต Prolife 80/4
อันนี้มั่นใจเลยว่าโดนหลอกซื้อมา จากพนักงานแบงค์กสิกร นางบอกว่าเหมือนลงทุนกองทุน ไม่กี่ปี ก็ได้เงินต้นคืนหรืออยากถือไว้ให้คุ้มครองไปจนถึง 80 ปีก็ได้ ซึ่งมันไม่ใช่นาจา มันคือจ่ายเบี้ยไปแล้วหมดสัญญารับเงินคืนที่น้อยกว่าเบี้ยที่จ่ายไปได้เมื่อเรา 80
อะช่างมัน คือรู้แล้วว่าโดนหลอกหลังซื้อมาสักพัก แต่ด้วยความที่จ่ายแค่ 4 ปี แล้วเราเคยทำเล่มหาย โทรไปคอลเซ็นเตอร์ รับเร็วตอบดี และไปที่หน้าร้านที่เซ็นทรัล พนักงานช่วยดำเนินเรื่องให้สะดวกมากๆ เราเลยคิดง่ายๆเองว่าติดต่อง่ายก็ค่อยตายตาหลับหน่อย ถือว่าความดีของ customer service ที่นี่ลบล้างความชั่วร้ายของพนักงานที่กสิกรไปละกัน
2. AIA ประกันสุขภาพ + โรคร้าย + ประกันชีวิต จำชื่อแพลนไม่ได้
หลังจากมีประสบการณ์มาเยอะละ งวดนี้ถามละเอียดเลยอะไรยังไง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคนที่ขายเราหรือเพราะเค้าเทรนมา รู้สึกว่าเซลที่ขายเราตรงไปตรงมาอยู่นะ มีจุดที่เราไม่คุ้มเค้าก็ชี้ให้เห็นเลยแล้วบอกตรงๆแต่ก็บอกว่ายังไงก็ต้องจ่ายอันนี้ถ้าอยากได้อีกอัน เพราะบริษัทมันก็หากินจากตรงนี้อะ เอาอันนี้ออกจากแผนไม่ได้ เออตรงดี ซื้อ แต่อันนี้เรายังไม่เคยเจ็บป่วยยังไม่เคยเคลม ยังไม่รู้ว่าตอนเคลมจะยังไง ยังไม่กล้าอวย
ทั้งหมดที่เล่ามาไม่ได้สนับสนุนให้ใครยกเลิกประกันชีวิต เพราะมีไว้ก็อุ่นใจละค่ะและถ้าได้ใช้ลดหย่อนภาษีด้วยก็ดี แต่จากประสบการณ์ก็เห็นมาหลายเคสละที่พอตายแล้ว การเดินเอกสารยื่นเรื่องขอเงินประกันไม่ได้สะดวกสบาย และถ้ามีวินัยออมเงินเองแล้วไม่ตายภายใน 4 ปีแรกหลังจากเริ่มออม เราจะกำไรมากกว่าซื้อประกัน แล้วไม่ต้องทำเอกสารอะไรด้วย ก่อนตายทิ้งบัตรกับรหัส ATM ให้ที่บ้านไว้กดเงินออกไปเลย(อันนี้แล้วแค่คนคำนวนเบี้ยของตัวเองนะคะ เราคำนวนแบบเทียบประกันของเรากับเราออมเอง)ก็เผื่อไว้สำหรับใครที่กำลังที่หาขั้นตอนยกเลิกประกันอยู่นะคะ
ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้ค่ะ เผื่อจะมีประโยชน์กับใครได้บ้างค่ะ
รีวิวขั้นตอนการเวรคืนประกันชีวิตเทียบกันสดๆระหว่าง Generali และ Allianz จากประสบการณ์ยกเลิกประกันจากต่างประเทศ
วันนี้จะมารีวิววิธีเวรคืนกรรมธรรม์ที่ซื้อในประเทศไทย ขณะที่ตัวเราอยู่ต่างประเทศนะคะ การเวรคืนที่ต่างประเทศมันก็จะยากนิดนึงตรงเรื่องการส่งเอกสาร และการโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์ เราโทรได้เฉพาะ 02 นำหน้า พวกเบอร์พิเศษแบบ 1373 อะไรพวกนี้จะโทรไม่ได้ค่ะ
เกริ่น。。。เราย้ายมาอยู่ต่างประเทศ ไม่ต้องการได้รับความคุ้มครอง และไม่ได้ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากประกันที่ซื้อไว้ 4 ฉบับจาก 4 บริษัท จึงตัดสินใจเวรคืนกรรมธรรม์ 2 ฉบับ ซึ่งแน่นอนว่าได้เงินคืนแค่นิดเดียวไม่ซีเรียส เราถือว่าเป็นเงินค่าคุ้มครองชีวิตในปีที่ผ่านไปแล้ว ตอนนี้แค่ไม่อยากจ่ายต่อ อยากเก็บออมด้วยตัวเองค่ะ ประกอบกับเหตุการณ์หลายอย่างทำให้เริ่มเห็นว่าถ้าเราตายไป พ่อแม่ซึ่งแก่มากแล้วอาจดำเนินเอกสารรับเงินประกันเองไม่ได้ เพราะขนาดเรายังไม่ตาย เรื่องการติดต่อและดำเนินการกับบริษัทประกันยังลำบากและรู้สึกถึงความตุกติกในหลายอย่าง ถ้าเราตายไปคนข้างหลังปวดหัวกับเอกสารแน่นอน
เริ่มต้นที่ Generali เรามี เจนโปรแคช 15 (ไม่ปันผล)
- เราไลน์ไปใน official Line ของบริษัทที่เขาโปรโมทนักหนาว่าติดต่อง่าย เพื่อสอบถามเบื้องต้น ไม่มีใครตอบตามปกติ มีแต่auto chat เด้งขึ้นมา
- เราส่งข้อความไปใน Facebook page มีauto chat เด้งขึ้นมา สลับกันนานๆทีมีพนักงานพิมพ์ตอบกลับมา แต่พอเราพิมพ์อะไรกลับไป ก็จะมี autochat เด้งขึ้นมาใหม่ นานๆไปก็มีพนักงานมาตอบ ตอบแบบเหมือนเพิ่มเข้างาน ไม่ได้อ่านข้อความด้านบน ก็ถามเราวนไปวนมา
- คุยกันข้ามวัน เพราะรอพนักงานตอบคำถาม สลับกับรำคาณ auto chat พนักงานให้ส่งสำเนาบัตรประชาชน บัญชีธนาคารไป และใช้เวลาทำเรื่องประมาณเดือนนึง จะได้เงินคืน โดยให้วันที่เงินจะเข้ามาให้ ถ้าเงินไม่เข้าให้ติดต่อกลับมา
- ตามคาด เงินไม่เข้าจริงๆด้วย เลยติดต่อกลับ พนักงานให้รอเพิ่มอีกไม่นาน ประมาณสัปดาห์นึง
- เงินเวรคืนกรรมธรรม์เข้าบัญชี
สรุป : เวรคืนกรมธรรม์ Generali ทางออนไลน์ได้ เงินเข้าบัญชีเลย แม้จะเห็นได้ชัดว่าบริษัทควรปรับปรุงระบบแชต/ลูกค้าสัมพันธ์อีกเยอะ รวมๆการเป็นลูกค้ามา 3 ปีถือว่าดีนะคะ คนขายประกันมีมาเยี่ยมบ้าน เอากระเช้านู่นนี่มาสวัสดีปีใหม่นานๆที ถ้าวันนึงจะซื้อประกันสุขภาพอาจจะพิจารณายี่ห้อนี้อีกครั้ง
มาต่อที่ Allianz เรามีมายแพลน 15/5 ที่โดนหลอกซื้อมาทางโทรศัพท์ ตัดเบี้ยผ่านบัตรเครดิต
- เราอีเมล์ไปที่อีเมล์หลักของบริษัท
- มีอีเมลตอบกลับมาทันที เร็วมาก!เราถามขั้นตอนไป จากนั้นบริษัทบอกว่าจะมีพนักงานติดต่อกลับมา
- ตามคาด เงียบ--- ไม่มีอีเมลอะไรตอบกลับมาอีกเลยวันนึง
- วันถัดมาเราเมลไปทวงถามอีกครั้งเพราะวันศุกร์แล้ว ไม่อยากให้ติดเสาร์อาทิตย์ ซึ่งบริษัทไม่ทำการ
- มีพนักงานส่งข้อมูลที่เราหาได้จากหน้าเว็บมาให้ ว่าต้องส่งเล่ม ฟอร์มพร้อมเซ็นสด และสำเนาบัตรประชาชนเซ็นสด ไปที่บริษัท ทุกอย่างไม่รับสำเนา ฟอร์มต้องปริ้นออกมาเซ็นไม่รับภาพถ่ายจากมือถือ ก็คือส่งเอกสารตามปกติเหมือนอยู่ไทย ไม่สนใจว่าอยู่ต่างประเทศ
- คืนเงินด้วยเช็คส่งไปที่บ้านเท่านั้น ไม่มีตัวเลือกคืนเงินเข้าบัญชี
สรุป : เรามั่นใจว่าเราตัดสินใจไม่ผิดที่จะยกเลิกธุรกรรมกับบริษัทนี้ เคยโทรไปคอลเซ็นเตอร์ถามเรื่องรายละเอียดประกัน พนักงานใช้เสียงเหวี่ยงสุด มีทิ้งท้ายด้วยนะถ้าจะยกเลิกก็ส่งเล่มคืนมา แล้วนี่การใช้เวลา 2 วันในการตอบคำถามง่ายๆว่า “ใช้ขั้นตอนเดียวกับยกเลิกในประเทศค่ะ” ทำให้ชัวร์ละว่าถ้าเราตายไปจริงแล้วมีเหตุให้พ่อแม่แจ้งตายช้ากว่า 14 วัน คงไม่มีโอกาสได้เงินคืนแน่ๆ (ทีตอนโทรมาขายนะ โทรมาได้เช้าสายบ่ายเย็น เอกสารเร็วเว่อร์)
ขอเล่าถึงอีก 2 ยี่ห้อที่เรามี เผื่อใครมีประสบการณ์อะไรเอามาแลกกันนะคะ
1. เมืองไทยประกันชีวิต Prolife 80/4
อันนี้มั่นใจเลยว่าโดนหลอกซื้อมา จากพนักงานแบงค์กสิกร นางบอกว่าเหมือนลงทุนกองทุน ไม่กี่ปี ก็ได้เงินต้นคืนหรืออยากถือไว้ให้คุ้มครองไปจนถึง 80 ปีก็ได้ ซึ่งมันไม่ใช่นาจา มันคือจ่ายเบี้ยไปแล้วหมดสัญญารับเงินคืนที่น้อยกว่าเบี้ยที่จ่ายไปได้เมื่อเรา 80
อะช่างมัน คือรู้แล้วว่าโดนหลอกหลังซื้อมาสักพัก แต่ด้วยความที่จ่ายแค่ 4 ปี แล้วเราเคยทำเล่มหาย โทรไปคอลเซ็นเตอร์ รับเร็วตอบดี และไปที่หน้าร้านที่เซ็นทรัล พนักงานช่วยดำเนินเรื่องให้สะดวกมากๆ เราเลยคิดง่ายๆเองว่าติดต่อง่ายก็ค่อยตายตาหลับหน่อย ถือว่าความดีของ customer service ที่นี่ลบล้างความชั่วร้ายของพนักงานที่กสิกรไปละกัน
2. AIA ประกันสุขภาพ + โรคร้าย + ประกันชีวิต จำชื่อแพลนไม่ได้
หลังจากมีประสบการณ์มาเยอะละ งวดนี้ถามละเอียดเลยอะไรยังไง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคนที่ขายเราหรือเพราะเค้าเทรนมา รู้สึกว่าเซลที่ขายเราตรงไปตรงมาอยู่นะ มีจุดที่เราไม่คุ้มเค้าก็ชี้ให้เห็นเลยแล้วบอกตรงๆแต่ก็บอกว่ายังไงก็ต้องจ่ายอันนี้ถ้าอยากได้อีกอัน เพราะบริษัทมันก็หากินจากตรงนี้อะ เอาอันนี้ออกจากแผนไม่ได้ เออตรงดี ซื้อ แต่อันนี้เรายังไม่เคยเจ็บป่วยยังไม่เคยเคลม ยังไม่รู้ว่าตอนเคลมจะยังไง ยังไม่กล้าอวย
ทั้งหมดที่เล่ามาไม่ได้สนับสนุนให้ใครยกเลิกประกันชีวิต เพราะมีไว้ก็อุ่นใจละค่ะและถ้าได้ใช้ลดหย่อนภาษีด้วยก็ดี แต่จากประสบการณ์ก็เห็นมาหลายเคสละที่พอตายแล้ว การเดินเอกสารยื่นเรื่องขอเงินประกันไม่ได้สะดวกสบาย และถ้ามีวินัยออมเงินเองแล้วไม่ตายภายใน 4 ปีแรกหลังจากเริ่มออม เราจะกำไรมากกว่าซื้อประกัน แล้วไม่ต้องทำเอกสารอะไรด้วย ก่อนตายทิ้งบัตรกับรหัส ATM ให้ที่บ้านไว้กดเงินออกไปเลย(อันนี้แล้วแค่คนคำนวนเบี้ยของตัวเองนะคะ เราคำนวนแบบเทียบประกันของเรากับเราออมเอง)ก็เผื่อไว้สำหรับใครที่กำลังที่หาขั้นตอนยกเลิกประกันอยู่นะคะ
ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้ค่ะ เผื่อจะมีประโยชน์กับใครได้บ้างค่ะ