สวัสดีครับพี่ๆ ชาว PT
วันนี้ผมจะมาแบ่งปันประสบการณ์
โรคซึมเศร้า ที่ตัวผมเป็น
ปัจจุบันผมยังหาจิตแพทย์ทุกเดือน
กินยาปรับอารมณ์ตอนตื่นนอน
จริงๆต้องกินหลังอาหาร
เพราะจะทำให้มีอาการคลื่นใส้ แต่ชินแล้ว
ส่วนยานอนหลับและคลายเครียด ไม่กินแล้ว
- เกิดมาเป็นคน สิ่งที่หนีไม่พ้น คือ
ความผิดหวัง และ ความตาย และ อีกมากมาย
เราไม่สามารถแบกรับมันเอาไว้ทั้งหมด
เราไม่สามารถเลี่ยงไม่ให้เจอ
เช่น ตอนเด็ก เราต้องโดนขัดใจ
เรื่อง ขนม ของเล่น การ์ตูน
การสูญเสียญาติผู้ใหญ่ คือ เราที่ทุกคนต้องเจอ
แต่ถามว่า เรารับมือกับปัญหาพวกนี้อย่างไร
ระบายออก หรือ สะสมมันไว้
พอโตขึ้นมา เราผิดหวังเรื่องความรัก
และผิดหวังในเรื่องเงินทองและธุรกิจ
มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ว่า
ออกกำลังกายจะหาย
บวชเป็นพระ แม่ชี จะหาย
กินยาจิตเวชจะหาย
รักษาด้วยการช๊อตไฟฟ้าจะหาย
ผ่าตัดสมองจะหาย
หรือ จากโลกใบนี้ไปแล้ว..จะหาย
เคล็ดลับของผมคือ ชินกับมัน มองเค้าคือ เพื่อน
- อีกสาเหตุนึงที่ทำให้เป็น คือ
เวลาเราไปสถาบันจิตเวชศาสตร์ ครั้งแรก
จนท.จะคัดกรองเราด้วยคำถามว่า
1. ดูดบุหรี่ไหม / นิโคตินส่งผลต่อสมอง /
2. ดื่มแอลกอฮอล์ไหม / แอลกอฮอล์ส่งผลต่อสมอง /
3. ใช้สารเสพติดไหม / สารเสพติดทำลายประสาท /
4. เคยประสบอุบัติเหตุกระทบกระเทือนทางสมองไหม
จะเห็นได้ว่า 3 ใน 4 ข้อ
คือ ทางออกสำหรับคนที่ ผิดหวัง เครียด
หาทางออกไม่เจอ จึงใช้สิ่งเหล่านั้น
ตอนใช้รู้สึกดี สร้างความเคยชินให้สมองไปแล้ว
นานวันๆ เข้าก็ต้องการมากขึ้น
จริงๆแล้ว โรคซึมเศร้า คือ การที่สารเคมีในสมอง
ทำงานไม่สมดุลอีกต่อไป
เกิดจากความผิดหวังต่างๆ ที่สะสมมาเรื่อยๆ
ที่นี่เราจะรู้ได้ยังไง ว่าเราเป็น โรคซึมเศร้า
หรือ ภาวะซึมเศร้า
1. ภาวะซึมเศร้าจะมีอาการ กิน นอน พูด
เก็บตัว ร่าเริง อาการเหล่านี้จะไม่ปกติ
คือมีมาก หรือ น้อยเกินไป
แต่ภาวะจะเป็นแค่ 3 วัน แต่ไม่เกิน 14 วัน
2. โรคซึมเศร้าจะมีอาการ กิน นอน พูด
อาการเหล่านี้จะมีเกิน 14 วัน นานไปถึง
30 หรือ 60 วัน มีปัจจัยหลายอย่าง
ทำให้อารมณ์ขึ้นๆลงๆ
เช่น สุขมาก ทุกข์มาก ร้องไห้มาก
ถ้าอยากรู้ว่าเป็นภาวะหรือโรค
ให้ลองหาแบบทดสอบใน กูเกิ้ล ทำดู
และถ้าเป็นถึงขั้นต้องไปพบจิตแพทย์
จะมีการทำแบบทดสอบ ที่ลึกและละเอียดกว่า
คือ การดูภาพหยดหมึก
การวาดภาพบ้านในจิตนาการ
และ แบบทดสอบต่างๆอีก 2-3 อย่าง
ใช้เวลาแปลผล 2 อาทิตย์
* สำหรับคนที่มองว่าคนเป็นโรคซึมเศร้า
คือ คนที่ไม่เข้มแข็ง หรือ ถูกเลี้ยงตามใจมากเกินไป
นั่นคือการเข้าใจผิดนะครับ
อาจจะมีบ้างเป็นส่วนน้อย
แต่มีคนเคยพูดว่า คนเป็นโรคซึมเศร้าแข็งแกร่งมาก
จนทนแบกรับมันไม่ไหวแล้ว ...
* สำหรับคนที่มีคนรัก คนในครอบครัว
เป็นโรคซึมเศร้า ถัาเราบอกว่าเราเข้าใจเค้า
ใช่ครับเราเข้าใจเค้า
แต่เราไม่มีทาง รู้สึก ในแบบที่
คนเป็นโรคซึมเศร้า รู้สึก นะครับ
บางทีเค้าอาจจะไม่ได้อยากที่จะเป็นแบบน้น
แต่เพราะสารเคมีในสมอง สั่งให้เป็นแบบนั้น
* ถ้าถามว่ายาจิตเวช ช่วยแค่ไหน
ผมเคยลองเปรียบเทียบความรู้สึก
ตอนที่กิน กับ ตอนที่ไม่กิน
ความคิดเรื่อง .... ตัวเอง
ตอนที่ไม่กินยา จะคิด 1 2 3 จนถึง 10 ครั้ง
ตอนที่กินยา จะคิด 1 ครั้งแล้วก็ไม่คิดเลย
สำหรับคนที่กลัวการกินยา ติดยา
ถ้าคุณกินในปริมาณที่ จิตแพทย์แนะนำ
คุณจะปลอดภัยครับ
สุดท้ายขอจบกระทู้แต่เพียงเท่านี้
สำหรับเพื่อนๆที่ต้องการคำปรึกษา
สามารถ ส่งข้อความมาได้เลยนะครับ
เพื่อนของฉัน ชื่อ " โรคซึมเศร้า "
วันนี้ผมจะมาแบ่งปันประสบการณ์
โรคซึมเศร้า ที่ตัวผมเป็น
ปัจจุบันผมยังหาจิตแพทย์ทุกเดือน
กินยาปรับอารมณ์ตอนตื่นนอน
จริงๆต้องกินหลังอาหาร
เพราะจะทำให้มีอาการคลื่นใส้ แต่ชินแล้ว
ส่วนยานอนหลับและคลายเครียด ไม่กินแล้ว
- เกิดมาเป็นคน สิ่งที่หนีไม่พ้น คือ
ความผิดหวัง และ ความตาย และ อีกมากมาย
เราไม่สามารถแบกรับมันเอาไว้ทั้งหมด
เราไม่สามารถเลี่ยงไม่ให้เจอ
เช่น ตอนเด็ก เราต้องโดนขัดใจ
เรื่อง ขนม ของเล่น การ์ตูน
การสูญเสียญาติผู้ใหญ่ คือ เราที่ทุกคนต้องเจอ
แต่ถามว่า เรารับมือกับปัญหาพวกนี้อย่างไร
ระบายออก หรือ สะสมมันไว้
พอโตขึ้นมา เราผิดหวังเรื่องความรัก
และผิดหวังในเรื่องเงินทองและธุรกิจ
มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ว่า
ออกกำลังกายจะหาย
บวชเป็นพระ แม่ชี จะหาย
กินยาจิตเวชจะหาย
รักษาด้วยการช๊อตไฟฟ้าจะหาย
ผ่าตัดสมองจะหาย
หรือ จากโลกใบนี้ไปแล้ว..จะหาย
เคล็ดลับของผมคือ ชินกับมัน มองเค้าคือ เพื่อน
- อีกสาเหตุนึงที่ทำให้เป็น คือ
เวลาเราไปสถาบันจิตเวชศาสตร์ ครั้งแรก
จนท.จะคัดกรองเราด้วยคำถามว่า
1. ดูดบุหรี่ไหม / นิโคตินส่งผลต่อสมอง /
2. ดื่มแอลกอฮอล์ไหม / แอลกอฮอล์ส่งผลต่อสมอง /
3. ใช้สารเสพติดไหม / สารเสพติดทำลายประสาท /
4. เคยประสบอุบัติเหตุกระทบกระเทือนทางสมองไหม
จะเห็นได้ว่า 3 ใน 4 ข้อ
คือ ทางออกสำหรับคนที่ ผิดหวัง เครียด
หาทางออกไม่เจอ จึงใช้สิ่งเหล่านั้น
ตอนใช้รู้สึกดี สร้างความเคยชินให้สมองไปแล้ว
นานวันๆ เข้าก็ต้องการมากขึ้น
จริงๆแล้ว โรคซึมเศร้า คือ การที่สารเคมีในสมอง
ทำงานไม่สมดุลอีกต่อไป
เกิดจากความผิดหวังต่างๆ ที่สะสมมาเรื่อยๆ
ที่นี่เราจะรู้ได้ยังไง ว่าเราเป็น โรคซึมเศร้า
หรือ ภาวะซึมเศร้า
1. ภาวะซึมเศร้าจะมีอาการ กิน นอน พูด
เก็บตัว ร่าเริง อาการเหล่านี้จะไม่ปกติ
คือมีมาก หรือ น้อยเกินไป
แต่ภาวะจะเป็นแค่ 3 วัน แต่ไม่เกิน 14 วัน
2. โรคซึมเศร้าจะมีอาการ กิน นอน พูด
อาการเหล่านี้จะมีเกิน 14 วัน นานไปถึง
30 หรือ 60 วัน มีปัจจัยหลายอย่าง
ทำให้อารมณ์ขึ้นๆลงๆ
เช่น สุขมาก ทุกข์มาก ร้องไห้มาก
ถ้าอยากรู้ว่าเป็นภาวะหรือโรค
ให้ลองหาแบบทดสอบใน กูเกิ้ล ทำดู
และถ้าเป็นถึงขั้นต้องไปพบจิตแพทย์
จะมีการทำแบบทดสอบ ที่ลึกและละเอียดกว่า
คือ การดูภาพหยดหมึก
การวาดภาพบ้านในจิตนาการ
และ แบบทดสอบต่างๆอีก 2-3 อย่าง
ใช้เวลาแปลผล 2 อาทิตย์
* สำหรับคนที่มองว่าคนเป็นโรคซึมเศร้า
คือ คนที่ไม่เข้มแข็ง หรือ ถูกเลี้ยงตามใจมากเกินไป
นั่นคือการเข้าใจผิดนะครับ
อาจจะมีบ้างเป็นส่วนน้อย
แต่มีคนเคยพูดว่า คนเป็นโรคซึมเศร้าแข็งแกร่งมาก
จนทนแบกรับมันไม่ไหวแล้ว ...
* สำหรับคนที่มีคนรัก คนในครอบครัว
เป็นโรคซึมเศร้า ถัาเราบอกว่าเราเข้าใจเค้า
ใช่ครับเราเข้าใจเค้า
แต่เราไม่มีทาง รู้สึก ในแบบที่
คนเป็นโรคซึมเศร้า รู้สึก นะครับ
บางทีเค้าอาจจะไม่ได้อยากที่จะเป็นแบบน้น
แต่เพราะสารเคมีในสมอง สั่งให้เป็นแบบนั้น
* ถ้าถามว่ายาจิตเวช ช่วยแค่ไหน
ผมเคยลองเปรียบเทียบความรู้สึก
ตอนที่กิน กับ ตอนที่ไม่กิน
ความคิดเรื่อง .... ตัวเอง
ตอนที่ไม่กินยา จะคิด 1 2 3 จนถึง 10 ครั้ง
ตอนที่กินยา จะคิด 1 ครั้งแล้วก็ไม่คิดเลย
สำหรับคนที่กลัวการกินยา ติดยา
ถ้าคุณกินในปริมาณที่ จิตแพทย์แนะนำ
คุณจะปลอดภัยครับ
สุดท้ายขอจบกระทู้แต่เพียงเท่านี้
สำหรับเพื่อนๆที่ต้องการคำปรึกษา
สามารถ ส่งข้อความมาได้เลยนะครับ