[CR] รีวิว Peninsula Korean BBQ Buffet ปิ้งย่างและอาหารเกาหลีบุฟเฟ่ต์เพียงคนละ 299฿ สาขาดอนเมือง-สรงประภา

ครั้งก่อนเราเคยไปรีวิวบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างและอาหารเกาหลีกันที่ร้าน "Peninsula Korean BBQ Buffet" สาขาโครงการบางกอกสแควร์บนถนนพระราม 3 ซึ่งพี่สาวของผมนั้นเป็นสายเกาหลีตัวยงเห็นบทความแล้วอยากตามไปทานบ้างแต่บ้านอยู่แถวรามอินทราและมีธุระต้องไปรับหลานสาวช่วงเย็นต่อ เลยหาโอกาสเหมาะๆนัดมาทานอาหารเกาหลีด้วยกันที่ร้านเดิมแต่เป็นสาขาดอนเมืองตั้งอยู่บนถนนสรงประภา เป็นบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างราคา 299 บาทเช่นเคยแต่มีเมนู-รสชาติและความหลากหลายแตกที่ต่างกันอยู่หลายจุดเลยตัดสินใจว่าหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรีวิวดีกว่า การเดินทางมาที่ร้านหากขับรถยนต์ส่วนตัวให้ปักหมุดตาม Google Maps เริ่มจากเส้นทางที่สะดวกได้ด้วยตัวเอง ส่วนพื้นที่จอดรถมีให้บริการด้านหลังร้านเป็นลานกว้างขนาดใหญ่รองรับได้หลายสิบคัน หากเดินทางมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะให้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงลงที่สถานีดอนเมืองแล้วเรียกรถเข้าไปถนนสรงประภาผ่านวิทยาลัยเทคนิคดอนเมืองแล้วเตรียมเลี้ยวซ้ายเข้า "@สรงประภา Night Market" เข้ามาประมาณ 60 เมตรร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือ เป็นบ้านล้อมรอบด้วยบานกระจกหลังคาทรงสามเหลี่ยมมีหน้าจั่วขนาดใหญ่เขียนชื่อร้านพื้นสีขาวมองเห็นได้ชัดจากระยะไกลพร้อมป้ายสีแดงเขียนว่า 299 บาทและขวดโซจูวางเรียงเป็นชั้นสวยงามแบบนี้แสดงว่ามาถูกร้านแล้วครับ

เปิดประตูเข้ามาด้านในค่อนข้างกว้างขวางเป็นห้องปรับอากาศเปิดแอร์เย็นฉ่ำล้อมรอบด้วยกระจกบานใหญ่รับแสงสว่างจากธรรมชาติได้มาก มีโต๊ะไม้เรียงกันเป็นแนวยาวจนถึงหลังร้านส่วนเก้าอี้เป็นโครงเหล็กแข็งแรงทาด้วยสี Rose Gold ดูหรูหราแบบเดียวกับสาขาพระราม 3 ส่วนเตาย่างมีเปลี่ยนจากกระทะร้อนพร้อมช่องที่ให้ใส่น้ำซุปตรงกลางวางบนเตาแก๊สพกพาเป็นเตาย่างไฟฟ้าอินฟาเรดไร้กลิ่นและควันแทน บรรยากาศการนั่งทานของสาขานี้จะไม่มีส่วนของ Out Door ให้นั่งชิลล์/ไม่มีน้ำซุปให้เลือกและต้องย่างหมูด้วยตัวเอง 100% ไม่เหมือนกันหลายจุดเลยครับ

เดินมาดูไลน์อาหารของสาขาดอนเมือง-สรงประภานี้มีเมนูบางอย่างที่ถูกตัดออกและเพิ่มเข้ามาใหม่ (คาดว่าน่าจะปรับเปลี่ยนไปตามพื้นที่และกลุ่มลูกค้า) เริ่มจากของสดสำหรับย่างโดยรวมแล้วคล้ายๆกันคือมีผักสำหรับย่างทั้งเห็ดนางรมหลวง (เห็ดออเร็นจิ)/เห็ดเข็มทอง/หัวหอมใหญ่/ฟักทอง/พริกชี้ฟ้าเขียว ส่วนเนื้อสัตว์มีให้ตักมากมายทั้งสันคอหมูสไลด์สด/หมูสามชั้นสไลด์สด/หมูสามชั้นสไลด์หมักโคชูจัง/เนื้อไก่หมักโคชูจัง/สันคอหมูสไลด์หมักซีอิ๊วดำ /เนื้อไก่หมักซีอิ๊วดำและหมูสามชั้นสไลด์หมักซีอิ๊วดำ ส่วนน้ำจิ้มสาขานี้มีให้ทานเพียง 3 สูตรคือซอสซัมจัง/ซอสซีฟู๊ดและซอสซีอิ๊วดอง (ไม่มีซอสเต้าเจี้ยวให้บริการ) ปรุงรสเพิ่มความเผ็ดแซ่บได้ด้วยพริก-กระเทียมสด พร้อมหัวไชเท้าดองสีม่วงช่วยลดความเลี่ยนไขมันเนื้อและกระเทียมสไลด์สอดไส้กับผักห่อเนื้อเพิ่มความฉุนสดชื่นก็มีให้บริการครับ

โซนต่อมาเป็น Hot Dish อาหารเกาหลีปรุงสำเร็จลงหม้ออุ่นร้อนพร้อมตกทานได้ทันที มองผ่านๆด้วยสายตาดูสีเข้มข้นยิ่งกว่าสาขาพระราม 3 เริ่มจาก "เนื้อหมูผัดบูลโกกิ" เป็นเนื้อหมูสไลด์ผัดกับหอมใหญ่และแครอทใส่โคชูจังปรุงรสเค็ม-หวานหอมกลิ่นน้ำมันงาเข้มข้นเหมาะสำหรับทานกับข้าวสวยมากกว่าทานเปล่าๆ เมนูต่อไปนั้นก็คือ "ขาหมูซอสเผ็ด" เป็นขาหมูตุ๋นในน้ำพะโล้จนเนื้อและหนังนุ่มก่อนจะหั่นเป็นชิ้นเต๋าแล้วนำไปคลุกลงในซอสเกาหลีเข้มข้นรสชาติหวาน-เผ็ดหอมกลิ่นน้ำมันงาทานอร่อยสุดๆ หม้อต่อไปคือ "ผัดปลาหมึกซอสเกาหลี" ร้านใช้ปลาหมึกวงนำมาผัดกับโคชูจังและใส่ผักต่างๆปรุงให้รสเผ็ดหอมกลิ่นน้ำมันงาทานกับข้าวสวยเข้ากันได้ดีสุดๆ เนื่องจากสาขานี้เตาย่างไม่มีช่องใส่น้ำซุปแต่ทางร้านก็ทำแยกออกมาต่างหากให้ตักทานเป็นเมนู "ต๊อกบกกี" เส้นต๊อกโฮมเมดทำเองยาวเรียวต้มกับผัก/ลูกชิ้นในซุปปลา/โคชูจังปรุงรสให้หวาน-เผ็ดดีงามไม่ต่างจากเสิร์ฟในเตาที่สาขาพระราม 3 เลยครับ

หมวดต่อมาก็ยังคงเป็น Hot Dish อาหารเกาหลีกับเมนู "ตีนไก่จี๊ดจ๊าด" สูตรของที่ร้านนี้ทำมาซอสเข้มข้นไม่มีน้ำนองเต็มหม้อทานอร่อยแต่ตุ๋นตีนไก่ไม่ค่อยเปื่อยเท่าไหร่ถ้าเพิ่มเวลาต้มให้นานอีกนิดจะดีมากๆเลยครับ จานต่อไปที่สาขาพระราม 3 จะเสิร์ฟแบบแยกน้ำซอสแต่ร้านนี้ราดมาให้พร้อมทานคือ "โบซัม" หรือหมูสามชั้นตุ๋นหั่นเป็นชิ้นไว้ทานกับกิมจิที่สูตร Original คือสามชั้นต้มเปล่าๆทานกับกิมจิแต่ที่นี่ราดซอสรสหวาน-เค็มหอมกลิ่นน้ำมันงาเอาใจคนไทยที่ชอบทานรสจัดจ้านก็อร่อยไปอีกแบบครับผม จานต่อไปเป็นเมนูสามัญประจำร้านอาหารเกาหลีคือ "ผัดวุ้นเส้นเกาหลี" รสชาติเหมือนผัดวุ้นเส้นไทยแต่เส้นที่ใช้หนา-เหนียวนุ่มมากกว่าหอมกลิ่นน้ำมันงาทานเพลินๆดีครับผม ต่อกันด้วยเมนูยอดนิยมอันดับต้นๆในเกาหลีอย่าง "ข้าวห่อสาหร่าย" สูตรของที่ร้านนี้อัดมาไส้แน่นหั่นเป็นชิ้นใหญ่มีซอสรสเปรี้ยวเค็มหอมกลิ่นน้ำมันงาเอาไว้ทานคู่ด้วยกันอีกเช่นเคยหรือทานคู่กับเนื้อย่างเป็นคำๆก็เป็นไอเดียที่ดีครับ

ข้างกันเป็นเครื่องเคียงอื่นๆอย่างกิมจิที่มีให้เลือกถึง 3 ประเภทก็คือกิมจิแตงกวาไทย/กิมจิมะละกอและกิมจิผักกาดขาว (โดยรวมแล้วที่นี่ถือว่ามีเครื่องเคียงและผักสดต่างๆให้ทานน้อยกว่าสาขาพระราม 3 เพราะตัดเรื่องหม้อไฟออกไป) แต่รสชาติโดยรวมก็ยังคงเป็นกิมจิรสเปรี้ยวเค็มเข้มข้นทานอร่อยเช่นเคย หม้อขนาดใหญ่สีดำแบบนี้ดูก็รู้ว่าเป็นซุปร้อนๆมี 2 สูตรคือ "ซุปสาหร่าย" สูตรร้านนี้เข้มข้นหอมกลิ่นสาหร่ายสดกับปลาแห้งแถมใส่เต้าหู้ชิ้นเล็กๆเพิ่มความมันอร่อยไปอีกขั้นดีงามสุดๆ "ซุปกิมจิหมูสามชั้น" สูตรที่ร้านนี้ใส่ปริมาณหมูสามชั้นเยอะกว่าเนื้อกิมจิแน่นหม้อรสชาติเปรี้ยวเผ็ดเหมือนแกงส้มซดแล้วสดชื่นสุดๆ ส่วนอาหารปรุงสำเร็จพร้อมทานอื่นๆยังคงมีเหมือนเดิมนั่นคือหัวหอมทอดและปลากระพง แพนเค้กต้นหอมกับกิมจิที่ร้านนี้ทำแผ่นใหญ่-หนาและรสชาติเข้มข้นกว่าและไก่ทอดที่ร้านพระราม 3 จะอยู่ในหมวดของ Hot Dish แต่สาขานี้ทำมาวางไว้ข้างกับของทอดชิ้นใหญ่เคี้ยวเต็มคำดีสุดๆเลยครับ

เมนูต่อมาหน้าตาอลังการเพราะเป็นอาหารชาววังฉบับเกาหลีที่มีเฉพาะสาขานี้นั่นคือ "คูจอลพัน" หรือเจ้าหญิงนพเก้า เป็นแผ่นแป้งสาลีบางๆทานกับเครื่องทั้งไข่-เนื้อสัตว์และผักต่างๆรวม 9 ชนิด อยากทานอะไรเยอะน้อยหรือแป้งกี่แผ่นก็หยิบไปได้ตามใจ (แต่อย่าลืมตักน้ำจิ้มไปด้วยนะ) สุดท้ายคือผักสดสำหรับห่อเนื้อที่ร้านมีให้บริการอยู่ 3 ชนิดนั่นก็คือผักกาดหอม/ผักกาดขาวและผักคอสราคาแพง กลับมาที่โต๊ะจะได้รับยำผักรสเปรี้ยว-เผ็ดหอมน้ำมันงาอ่อนๆไว้ทานคู่กันอีกโต๊ะละ 1 ที่เช่นเคย (หากทานหมดแล้วก็สามารถขอเติมได้อีก) สาขานี้เขาใช้เตาไฟฟ้าอินฟาเรดไร้ควันแบบไม่ต้องกลัวผมกับหัวเหม็นนำเข้าจากประเทศเกาหลีก็ตักเนื้อสัตว์ที่อยากทานไปไว้บนโต๊ะอันดับแรกครับ

ตักอาหารอื่นๆที่อยากทานมาไว้บนโต๊ะอย่างละนิดหน่อย โดยอาหารส่วนใหญ่ของที่ร้านนี้รสชาติค่อนข้างเข้มข้นเอาใจคนไทยไม่เหมือนกับสาขาพระราม 3 ที่ปรุงรสชาติมาค่อนข้างอ่อนทำให้ทานได้ง่ายๆเรื่อยๆไม่รู้สึกหนักลิ้นมากเกินไป ถึงขนาดพี่สาวผมต้องไปตักข้าวสวยเอามาคลุกกับเมนูอาหารเกาหลีที่ตักมาแทบจะทานเป็นอาหารจานเดียวได้เลย เรียกได้ว่ามีความแตกต่างกันมากๆจนต้องยกกล้องขึ้นมาถ่ายเก็บภาพรีวิวกันอีกรอบ ส่วนผักสดของสาขานี้มีให้เลือกน้อยกว่าแต่คุณภาพดีใบใหญ่จนต้องฉีกครึ่งก่อนห่อเนื้อและที่นี่ไม่มีหม้อไฟจึงได้ตัดผักส่วนนั้นออกไปครับ

ซุปที่ร้านนี้ก็หนักเครื่องทั้งสาหร่าย-หมูสามชั้นใส่ให้แบบเน้นๆปรุงรสมาเข้มข้นซดร้อนๆสะใจสุดๆ ก่อนจะมาเริ่มย่างเนื้อสัตว์ต่างๆขอลองชิม "คูจอลพัน" หรือเจ้าหญิงนพเก้า ซึ่งวิธีการทานก็คือนำเครื่องทั้ง 8 อย่างหรือคัดเฉพาะที่ชอบวางลงบนแผ่นแป้งสีขาวก่อนจะราดหรือจิ้มซอสรสเค็มหวานอมเปรี้ยวหอมกลิ่นน้ำมันงากลมกล่อม รสชาติก็เหมือนกับทานผักสลัดใส่เนื้อสัตว์ที่ห่อด้วยแป้งหนึบๆได้ความสดชื่นและเคี้ยวสนุกจากสัมผัสที่แตกต่างของวัตถุดิบที่หลากหลายในคำเดียวกันแต่ตัวซอสที่ใช้ทานคู่กันค่อนข้างเหลวทำให้ควบคุมยากไปหน่อยนอกนั้นก็ถือว่าดีครับผม

******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ *******
ชื่อสินค้า:   Peninsula Korean BBQ Buffet สาขาดอนเมือง-สรงประภา
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่