.
อุตสาหกรรมการก่อสร้าง
มักจะเป็นอันตรายอย่างมาก
เพราะในความเป็นจริง
เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นมา
หายนะต่อชีวิตและทรัพย์สิน
จะกลายเป็นเรื่องที่น่าสยดสยอง
หลายชีวิตที่เสียไป ในโครงการต่อไปนี้
แม้ว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างง่ายดาย
แต่นั่นเป็นการมองย้อนกลับไปในอดีต

ความจริงที่น่าเศร้า
ความสำเร็จทางวิศวกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
บางโครงการ/บางส่วนในประวัติศาสตร์
เป็นผลงานที่มาจากเลือดและน้ำตาอย่างแท้จริง
นอกเหนือจากเรื่องจริยธรรมแล้ว
ยังมีประวัติศาสตร์โครงการก่อสร้าง
ที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพราะเป็นข้อมูลจาก InterestingEngineering
.

---

.

.
ผู้เสียชีวิต: คนงานก่อสร้างทั้งหมด 51 คน

เป็นโครงการก่อสร้างที่ล้มเหลวอย่างร้ายแรง
แม้ว่าจะมีโครงการอื่นมีคนตายมากกว่า
และโครงการนี้น่าจะมาเป็นอันดับที่ 10
แต่โศกนาฏกรรมที่แท้จริงของโครงการนี้
ทำให้เหนือกว่าโครงการอื่น ๆ
ลองนึกภาพเหตุการณ์ที่น่าสยดสยอง
ที่คร่าชีวิตคนงานทั้งหมดในบัดดล
นั่นคือ สิ่งที่เกิดขึ้นที่ Willow Island
เครนของโครงการล้มลงมาและถล่มลงมา
กระแทกหอคอยซึ่งต่อมาก็ถล่มลงมา
และคนงานทั้งหมด 51 คนในที่นั้นถูกทับตาย
.

.
ผู้เสียชีวิต: คนงาน 81+ คน

การสร้างเขื่อนเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยง
ต้องมีการระเบิดหิน/การทำงานหนัก
บ่อยครั้งที่ตัองทำงานบนที่สูง
ในระหว่างปี 1933 - 1942
เขื่อนแห่งนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
บนแม่น้ำ Columbia River ในสหรัฐ ฯ

สภาพการทำงานที่ยากลำบากมากในบางจุด
มีชาย 78 คนเสียชีวิตจากการทำงานในเขื่อน
เสียชีวิตอีก 3 คนในการสร้างโรงไฟฟ้าแห่งที่ 3
ซึ่งเริ่มดำเนินการในช่วงปลายทศวรรษที่ 1960
ในปี 1984 มีผู้เสียชีวิตอีก 1 คน
ในขณะชักลากสิ่งของสกปรก/กีดขวางทางน้ำ
ไปตามทะเลสาบ Lake Roosevelt
เพื่อรักษาชายฝั่งใกล้กับเขื่อนให้ไร้ของสกปรก
เรื่องที่น่าเศร้าที่การเสียชีวิตก่อนหน้านี้
ส่วนใหญ่มาจากเศษซากที่ตกลงมาจากเขื่อน
แม้ว่าปัจจุบันคือ เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำ
ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐ ฯ
.

.
ผู้เสียชีวิต: 96 คน

แม้ว่าะเขื่อนนี้เป็นหนึ่งในโครงการก่อสร้าง
ที่มีชื่อเสียงมากในประวัติศาสตร์/น่าประทับใจ
เพราะควบคุมพลังของแม่น้ำ Colorado River
และเมื่อพิจารณาจากขนาดของโครงการ
เทียบกับจำนวนผู้เสียชีวิตค่อนข้างต่ำ
แต่การเสียชีวิตเกิดจาก โรคลมแดด
ภาวะหัวใจล้มเหลว และปัจจัยอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับงานที่ต้องทำ
ทำให้มีข่าวลือ/ตำนานเล่าขานว่า
มีศพที่ฝังอยู่ในบล็อกคอนกรีต
ที่เชื่อมต่อกันเป็นสันเขื่อน/กำแพงเขื่อน 
.

.
ผู้เสียชีวิต: ประมาณ 500+คน

จำนวนคนงานมากกว่า 30,000 คน
มีคนราว 500 คนเสียชีวิตในเขตพื้นที่รอบนอก
โครงการนี้ต้องการการผันแม่น้ำ Nile River
ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม
อย่างรุนแรงภายในพื้นที่โดยรอบ
ขนาดของโครงการต้องมีการย้ายผู้คน
ออกมาประมาณ 100,000 คน
และทำให้สถานที่ทางโบราณคดีล้ำค่า
จำนวนมากสูญหาย/จมน้ำไป
.

.
ผู้เสียชีวิต: 900+ คน

ทางหลวงสายนี้ยาวกว่า 1,200 กิโลเมตร
และเชื่อมระหว่างกรุงอิสลามาบัด ในปากีสถาน
กับเมือง คัชการ์ ในประเทศจีน 
เป็นถนนลาดยางสากลที่มีความสูงที่สุดในโลก
ถนนลัดเลาะไปตามไหล่เขาที่สูงชัน
และสภาพหินไหล่ทางที่ไม่แข็งแรง/ผุกร่อนง่าย
ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจ
ที่ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากดินถล่ม 
แม้ในทุกวันนี้ยังคงเป็นอันตรายอย่างแรง
สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนจำนวนมากในเส้นทางนี้
.

.
ผู้เสียชีวิต: คนงาน 470 ถึง 1,000 คน

ในตอนแรกมีจุดมุ่งหมาย
เพื่อสร้างทางเบี่ยงง่าย ๆ
สำหรับแม่น้ำ New River ใน West Virginia
แต่โครงการก่อสร้างนี้
กลับกลายเป็นภัยพิบัติร้ายแรงสำหรับสหรัฐฯ
เพราะไร้กฎระเบียบด้านสุขภาพ/ความปลอดภัย
ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากโรค Silicosis จำนวนมาก
โรคปอดจากฝุ่นหิน จากการทำงานที่มีสาเหตุ
จากการสูดหายใจเอาฝุ่นซิลิกอนไดออกไซด์
หรือผลึกซิลิก้าส่วนมากจะพบในหินทรายเข้าไป

มีคนงานชายราว 5,000 คนที่ทำงานในโครงการ
จำนวน 2,900 คนที่ทำงานอยู่ในอุโมงค์
ในบรรดาชายเหล่านี้ต่างเป็นโรค Silicosis
คนงานอย่างน้อย 764 คนและอาจมีอีกหลายคน
ที่ตายเพราะสาเหตุจากโรคนี้
.

.
ผู้เสียชีวิต: คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 1,000-1500

ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1800 
รัฐบาลสหรัฐได้ตัดสินใจสร้างทางรถไฟ
ระหว่าง Council Bluff กับ San Francisco
แต่เมื่อพิจารณาถึงอายุคนงาน
และความกังวลต่อความเป็นอยู่ของคนงาน
ในบันทึกของทางการจึงมีค่อนข้างน้อยมาก
แรงงานส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพชาวจีน
และมักจะไม่จดบันทึกการเสียชีวิต
ดังนั้นจึงไม่มีใครทราบจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริง
 .


.
ผู้เสียชีวิต: 12,000 - 25,000 คน


Baltic Sea Canal เชื่อมต่อ White Sea รัสเซีย
กับ ทะเลสาบ Lake Onega
รวมระยะทาง 227 กม. (141 ไมล์)
โครงการนี้ต้องใช้คนงานทั้งหมด 126,000 คน
จำนวนผู้เสียชีวิตจะแตกต่างกัน
ระหว่าง 12,000 ถึง 25,000 คน
คนงานหลายคนเป็นนักโทษการเมือง
ในยุคสตาลิน จอมโหดเป็นผู้นำประเทศ

สภาพการทำงานย่ำแย่มาก
มีเครื่องมือแบบดั้งเดิมในการทำงาน
และอุปกรณ์ความปลอดภัยเพียงเล็กน้อย
นักโทษหลายคนเสียชีวิตจากความอดอยาก
ความหนาวเย็นและความเหนื่อยล้าทางร่างกาย

หมายเหตุ

สตาลินเป็นคนจอร์เจีย ไม่ใช่คนรัสเซีย
เลยฆ่าคนรัสเซียได้แบบบายใจถึง 45 ล้านคน
เพราะไม่ใช่ญาติพี่น้อง/คนรู้จักแต่อย่างใด

รัฐไทยชอบใช้วิธีการนี้ยุคปราบคอมมิวนิสต์
มีร่องรอย ถังแดงที่พัทลุง 6 ตุลา และอีกหลายที่
เช่น เอาทหารแขก 3 จังหวัดมาที่พัทลุง
เอาทหารภาคใต้ไปรบที่อีศาน กับเหนือ
ไม่ใช่ญาติพี่น้องกู เลยฆ่าได้ ซ้อมได้ กระทืบได้

หลังจากครุชชอฟขึ้นครองอำนาจ
มีการวิพากษ์ประวัติศาสตร์ยุคสตาลิน
จนตัองแอบนำศพที่ฝังไว้สุสานหลวงไปฝังที่ลับ
เพราะกลัวชาวบ้านจะไปเหยียบย่ำทำลายศพ
จะเสียเหลี่ยมเสียชื่อผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์

แต่ที่ประเทศจอร์เจียจะเชิดชูสตาลิน
และเคยซ่าท้ารบรัสเซีย เลยถูกรัสเซียตบสั่งสอน
สงครามแค่ 7 วันจบ จอร์เจียยอมแพ้ราบคาบ

เรื่องแปลกแต่จริง พวกเผด็จการคอมมิวนิสต์
ฆ่ากันเอง และฆ่าประชาชน มากมายยิ่งนัก
รวมทั้งกดขี่ประชาชนหนักหน่วงมาก
ตัวอย่างจีน รัสเซีย เยอรมันแดง เขมรแดง
มากกว่าพวกเผด็จการขวาจัดในหลายประเทศ



.
ผู้เสียชีวิต: อย่างน้อย 27,500 - ตลอดระยะคลอง


คลองแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในหลายขั้นตอน
และในที่สุดก็กลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศอย่างแท้จริง
โครงการนี้ริเริ่มโดยชาวฝรั่งเศสในปี 1880 จนถึงปี 1904
มีผู้เสียชีวิตคาดว่าจะมีอย่างน้อย 22,000 คน
ส่วนใหญ่เสียชีวิตด้วย โรคมาลาเรียและไข้เหลือง
แต่จำนวนที่แท้จริงนั้นยากที่จะระบุ
เพราะชาวฝรั่งเศสบันทึกคนตายไว้
เฉพาะที่เสียชีวิตภายในโรงพยาบาลของฝรั่งเศส

หลังจากที่สหรัฐฯเข้าควบคุมในปี 1904 
มีคนงานราว 5,609 คนตายจากโรค/อุบัติเหตุ 
มีผู้เสียชีวิตเพียง 350 รายที่เป็นอเมริกันผิวขาว 
ส่วนคนงานอีก 4,500 คนเป็น West Indian
.


.
ผู้เสียชีวิต: พลเรือน 90,000 คนและเชลยศึก 12,400 คน (หรือ 16,000)


ทางรถไฟเส้นนี้คือ ทางรถไฟสายมรณะ
ทางรถไฟสายนี้สร้างขึ้นโดยญี่ปุ่น
เพื่อส่งกำลังทหารและเสบียงไปยังพม่า
ในสงครามโลกครั้งที่ 2
เป้าหมายต่อไปคือ ยึดอินเดีย
พลเรือนถูกบังคับมาจาก
อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลย์ เกาหลี จีน
และเชลยศึกสัมพันธมิตรถูกบังคับ
ให้สร้างทางรถไฟประมาณ 60,000 คน
มีเชลยศึกอย่างน้อย 12,400 รายเสียชีวิต
ไม่มีตัวเลขพลเรือนที่ตาย แต่เกินหลักหมื่นขึ้นไป
ระหว่างการก่อสร้างทางรถไฟสายนี้

ความสูญเสียจำนวนมากเกิดจากความอดอยาก
และความโหดร้ายจากผู้คุมที่ซาดืสต์
ตลอดจนโรคภัยไข้เจ็บและความเหนื่อยล้า
สะพานข้ามแม่น้ำแคว 
ทำให้การต่อสู้ของเชลยศึก
กลายเป็นตำนาน/เรื่องอมตะ
ในช่วงเวลาที่น่าสยดสยองของประวัติศาสตร์นี้

หลังสงครามสิ้นสุดลง พลเรือนที่ถูกเกณฑ์มา
บางส่วนก็ยอมกลับประเทศ บางส่วนก็หลบหนี
เป็นโจรบ้าง ทหารรับจ้างพม่าช่วงกู้เอกราชบ้าง
หรือกลมกลืนกลายเป็นชาวบ้านไทยบ้าง
ไม่มีตัวเลขที่แน่ชัด/ไม่มีสุสานพลเรือนเหล่านี้
น่าจะฝังแถว 2 ข้างทางรถไฟ หรือถูกเผาทิ้ง