สวัสดีครับวันนี้จะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และบอกทริควิธีการสอบHSKระดับ5ยังไงให้ได้คะแนนเต็มร้อยครับ มาเริ่มกันเลย
ขอเล่าประวัติส่วนตัวคร่าวๆก่อนนะครับจะได้ทราบว่าพื้นฐานด้านภาษาจีนหรือประสบการณ์มีผลอะไรกับการสอบบ้าง อันดับแรกเลยช่วงม.ปลายเราเรียนสายศิลป์ภาษาจีน แต่ถามว่ามีผลกับการเรียนภาษาจีนในตอนนี้มากมั้ย บอกเลยว่าไม่ครับ เราแทบไม่ได้อะไรจากการเรียนภาษาจีนช่วง ม.ปลายเลย พอมาถึงช่วงม.6เราได้ทุนขงจื๊อระยะสั้นไปเรียนที่จีน 2 ครั้ง ช่วงนี้รู้สึกว่าภาษาเริ่มพัฒนาขึ้นมาบ้างแล้วแต่ก็ถือว่ายังไม่มากเท่าไหร่ครับ ต่อไปก็ขึ้นมหาลัย ช่วงที่เตรียมตัวสอบนี่แหละครับคือจุดสปีดจุดสำคัญของเราเลย พอขึ้นมหาลัยมา (เราได้ทุนขงจื๊อมาเรียนที่จีน) ก็รู้สึกว่าภาษาเรายังพัฒนาได้อีกนะไม่ได้จบแค่ความรู้ม.ปลาย ทริคสำคัญของเราก็คือ พูดเยอะๆ พอเราพูดเยอะๆเราก็จะกลายเป็นคนที่ได้ฟังคนอื่นพูดไปด้วย เราก็จะได้พัฒนาทั้งสกิลการฟังและการพูดของเราไปด้วย
มาเข้าเรื่องที่เราต้องเตรียมตัวสอบ ก่อนเตรียมตัวสอบต้องทำยังไงบ้าง ถ้าเป็นพาร์ทการฟังส่วนตัวเราเองเป็นคนไม่ชอบดูหนัง อาจจะฟังเพลงจีนบ้างแต่ไม่บ่อย แต่วิธีที่เราใช้และเห็นผลที่สุดคงจะเป็นการดูสตรีมเมอร์(แอพ抖音) ข้อสำคัญเลยคือเราได้ฟังคำหรือสำนวนที่เป็น习惯用语อีกอย่างเลยคือเราก็พิมพ์ถามตอบคุยกับเค้าได้ด้วย ส่วนตัวเราไม่แนะนำให้ใช้วิธีการฟังเพลงจีนในการฝึกสกิลการฟัง เพราะว่าเพลงมันมีคีย์สูงต่ำบ้าง ร้องตามทำนองบ้าง เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราได้ฟังคือภาษาจีนที่ไม่标准เราเลยไม่ค่อยอยากแนะนำวิธีนี้ ต่อมาวิธียอดฮิตที่ใครๆก็คิดว่าน่าจะได้ผลที่สุดคือวิธีการดูหนัง เราคิดว่าถ้าว่าสมมุติว่าคนที่ไม่ได้มาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต้องได้ฟังคนจีนพูดให้ฟังทุกวัน คงจะยากมากสำหรับวิธีนี้ เพราะแน่นอนว่าต้องดูซับ และสิ่งที่เราโฟกัสกันก็คือ ซับไตเติลแล้วก็รูปภาพ ไม่ใช่สิ่งที่ตัวละครพูดออกมานั่นเอง เราว่าวิธีการดูหนังฝึกสกิลการฟังน่าจะเหมาะกับ HSK6มากกว่าHSK5 เพราะถ้าสำหรับเราคนที่สอบHSK5เพิ่งผ่านครั้งแรกหรือเตรียมตัวสอบHSK5 词汇量ยังไม่ได้เยอะพอที่จะมาดูหนังแล้วเข้าใจได้แบบ100เปอร์เซ็นต์ อีกอย่างที่เราอยากแนะนำคือแอพที่ชื่อ听马来西亚เป็นแอพคล้ายเอาไว้ฟังวิทยุแบบออนไลน์ ในตัวแอพจะมีตั้งแต่เรื่องง่ายๆจนไปถึงเรื่องยากๆ ถ้าเริ่มฟังแรกๆเราแนะนำให้ฟังพวกนิทานเด็กก่อนนอนก่อน พอเราคุ้นเคยกับมันชินกับมันแล้วก็เลือกที่เราอยากฟังได้ตามใจชอบเลยครับ สำหรับเราง่ายๆเลยครับใช้แค่2อย่างคืออย่างแรก ดูสตรีมเมอร์ อันดับที่สองคือการฟังวิทยุ
มาเข้าเรื่องการทำข้อสอบกันบ้างครับ พาร์ทการฟังของระดับ5 จะมีอยู่ทั้งหมด2พาร์ท
ย่อย พาร์ทที่1ไม่น่าจะมีปัญหาครับ เพราะเป็นแค่เรื่องหรือบทความสั้นๆไม่ได้มีอะไรยาก แค่ตั้งใจฟังก็น่าจะทำได้สบายๆแล้วครับ ฟังคีย์เวิร์ด คีย์เวิร์ดส่วนมากเป็นคำศัพท์ที่เราเคยเรียนกันมาอยู่แล้วครับ ไม่ได้เป็นศัพท์ที่ยากจนเราฟังไม่ออก เพรางั้นพาร์ทนี้แค่ตั้งใจฟังครับ มาที่พาร์ทที่2 ครึ่งแรกจะไม่ยากมากครับคล้ายๆพาร์ทแรก แค่ยาวกว่าหน่อย เราก็ใช้วิธีเดิมเลยครับ คือตั้งใจฟัง ส่วนพาร์ทหลังจุดหินของมันก็คือ การที่ต้องฟังเรื่องแล้วต้องมาตอบคำถาม3-4ข้อติดๆกัน ในพาร์ทนี้ตอนที่เราเรียนอยู่ที่ไทยแล้วสอบเราใช้วิธีที่ว่า โอเค ยากมากฟังไม่รู้เรื่องเลย เลยใช้วิธีการไล่ช้อยส์ สมมุติว่าเราแบ่งเรื่องเป็น6บรรทัด คำถามข้อที่1คือเนื้อเรื่องบรรทัดที่1-2 คำถามที่2 คือเนื้อเรื่องบรรทัดที่3-4 คำถามสุดท้ายคือบรรทัดที่5-6 ประมาณนี้ครับ ฟังไปดูช้อยส์ไป ช้อยส์อันไหนเหมือนที่เราได้ยินก็ตอบข้อนั้นเลย เป็นการแบ่งวรรคสำหรับคนลืมง่ายและไม่เข้าใจ คือวิธีการเดาที่มั่วซั่วมาก(ไม่แนะนำให้ทำ แต่ถ้ามันไม่ได้จริงๆก็ตามนี้เลยครับ) ส่วนวิธีที่ใช้ตอนรอบที่สอบได้เต็มคือวิธีการฟัง ฟัง ฟังเรื่องอย่างเดียวช้อยส์ค่อยดูตอนมันถามคำถาม คือเรื่องที่ออกสอบก็เป็นเรื่องทั่วๆไปแหละครับ เรื่องการสอนคนด้านจิตสำนึก ทำยังไงให้ชีวิตมีความสุข การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บลาๆๆประมาณนี้ครับ ยากสุดคือศัพท์วิทยาศาสตร์ แต่อย่าลืมว่าศัพท์ที่ยากๆนั้นแค่องค์ประกอบครับ ใจความสำคัญของพาร์ทนี้คือ เราสามารถฟังเรื่องแล้วจับใจความได้มั้ย ต้องจับคีย์เวิร์ดให้ได้ประมาณนี้ครับ
สำหรับพาร์ทการฟังเราว่าศัพท์แค่ระดับHSK4ก็สามารถลองทำได้นะครับมันไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้นเลย เราอ่านศัพท์กันเพื่อไปทำพาร์ทการอ่านและการเขียนครับ แต่พาร์ทการฟังนี่เอามาจากประสบการณ์ที่เราฟัง+พูดล้วนๆเลย เราจำได้ว่าตอนเราสอบครั้งแรกด้วยความรู้ที่HSK4 200+ต้นๆยังผ่านเลยครับ เราคิดว่าพาร์ทการฟังเป็นพาร์ทที่ดึงคำแนนเราให้ผ่านเยอะที่สุด ส่วนพาร์ทการอ่านกับการเขียนต้องใช้การฝึกฝนล้วนๆเลยครับ เพราะงั้นตั้งใจทำพาร์ทการฟังนะครับ ถึงพาร์ทอื่นทำไม่ได้ยังไงผ่านแน่นอน
สุดท้ายแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้สำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวสอบHSK5ในตอนนี้นะครับ ไม่มีอะไรยากไปเกินกว่าความสามารถของเราแน่นอน ทำข้อสอบเยอะๆส่วนมากข้อสอบที่เค้าเอามาออกสอบก็เป็นข้อสอบเก่าเยอะเหมือนกันครับ ฟังเยอะๆพูดเยอะๆ ผ่านแน่นอนครับ ทริคพวกนี้อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน อยู่ที่ใครถนัดใช้แบบไหนก็เอาตามที่ตัวเองถนัดเลยครับ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่กำลังเตรียมตัวสอบนะครับ
ปล.หนังสือที่ใช้ฝึกมีอยู่3เล่มครับHSK真题集ปี2018、2014สำนักพิมพ์人民教育 อีกเล่มคือเล่ม汉语水平考试模拟试题集(เล่มนี้ง่ายไปไม่ค่อยแนะนำครับ แต่ข้อดีของมันคือเฉลยอธิบายละเอียด ใครอยากลองดูก็ได้ครับ)
How to สอบ HSK5 ยังไงให้ได้คะแนนการฟังเต็ม100!
สวัสดีครับวันนี้จะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และบอกทริควิธีการสอบHSKระดับ5ยังไงให้ได้คะแนนเต็มร้อยครับ มาเริ่มกันเลย
ขอเล่าประวัติส่วนตัวคร่าวๆก่อนนะครับจะได้ทราบว่าพื้นฐานด้านภาษาจีนหรือประสบการณ์มีผลอะไรกับการสอบบ้าง อันดับแรกเลยช่วงม.ปลายเราเรียนสายศิลป์ภาษาจีน แต่ถามว่ามีผลกับการเรียนภาษาจีนในตอนนี้มากมั้ย บอกเลยว่าไม่ครับ เราแทบไม่ได้อะไรจากการเรียนภาษาจีนช่วง ม.ปลายเลย พอมาถึงช่วงม.6เราได้ทุนขงจื๊อระยะสั้นไปเรียนที่จีน 2 ครั้ง ช่วงนี้รู้สึกว่าภาษาเริ่มพัฒนาขึ้นมาบ้างแล้วแต่ก็ถือว่ายังไม่มากเท่าไหร่ครับ ต่อไปก็ขึ้นมหาลัย ช่วงที่เตรียมตัวสอบนี่แหละครับคือจุดสปีดจุดสำคัญของเราเลย พอขึ้นมหาลัยมา (เราได้ทุนขงจื๊อมาเรียนที่จีน) ก็รู้สึกว่าภาษาเรายังพัฒนาได้อีกนะไม่ได้จบแค่ความรู้ม.ปลาย ทริคสำคัญของเราก็คือ พูดเยอะๆ พอเราพูดเยอะๆเราก็จะกลายเป็นคนที่ได้ฟังคนอื่นพูดไปด้วย เราก็จะได้พัฒนาทั้งสกิลการฟังและการพูดของเราไปด้วย
มาเข้าเรื่องที่เราต้องเตรียมตัวสอบ ก่อนเตรียมตัวสอบต้องทำยังไงบ้าง ถ้าเป็นพาร์ทการฟังส่วนตัวเราเองเป็นคนไม่ชอบดูหนัง อาจจะฟังเพลงจีนบ้างแต่ไม่บ่อย แต่วิธีที่เราใช้และเห็นผลที่สุดคงจะเป็นการดูสตรีมเมอร์(แอพ抖音) ข้อสำคัญเลยคือเราได้ฟังคำหรือสำนวนที่เป็น习惯用语อีกอย่างเลยคือเราก็พิมพ์ถามตอบคุยกับเค้าได้ด้วย ส่วนตัวเราไม่แนะนำให้ใช้วิธีการฟังเพลงจีนในการฝึกสกิลการฟัง เพราะว่าเพลงมันมีคีย์สูงต่ำบ้าง ร้องตามทำนองบ้าง เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราได้ฟังคือภาษาจีนที่ไม่标准เราเลยไม่ค่อยอยากแนะนำวิธีนี้ ต่อมาวิธียอดฮิตที่ใครๆก็คิดว่าน่าจะได้ผลที่สุดคือวิธีการดูหนัง เราคิดว่าถ้าว่าสมมุติว่าคนที่ไม่ได้มาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต้องได้ฟังคนจีนพูดให้ฟังทุกวัน คงจะยากมากสำหรับวิธีนี้ เพราะแน่นอนว่าต้องดูซับ และสิ่งที่เราโฟกัสกันก็คือ ซับไตเติลแล้วก็รูปภาพ ไม่ใช่สิ่งที่ตัวละครพูดออกมานั่นเอง เราว่าวิธีการดูหนังฝึกสกิลการฟังน่าจะเหมาะกับ HSK6มากกว่าHSK5 เพราะถ้าสำหรับเราคนที่สอบHSK5เพิ่งผ่านครั้งแรกหรือเตรียมตัวสอบHSK5 词汇量ยังไม่ได้เยอะพอที่จะมาดูหนังแล้วเข้าใจได้แบบ100เปอร์เซ็นต์ อีกอย่างที่เราอยากแนะนำคือแอพที่ชื่อ听马来西亚เป็นแอพคล้ายเอาไว้ฟังวิทยุแบบออนไลน์ ในตัวแอพจะมีตั้งแต่เรื่องง่ายๆจนไปถึงเรื่องยากๆ ถ้าเริ่มฟังแรกๆเราแนะนำให้ฟังพวกนิทานเด็กก่อนนอนก่อน พอเราคุ้นเคยกับมันชินกับมันแล้วก็เลือกที่เราอยากฟังได้ตามใจชอบเลยครับ สำหรับเราง่ายๆเลยครับใช้แค่2อย่างคืออย่างแรก ดูสตรีมเมอร์ อันดับที่สองคือการฟังวิทยุ
มาเข้าเรื่องการทำข้อสอบกันบ้างครับ พาร์ทการฟังของระดับ5 จะมีอยู่ทั้งหมด2พาร์ท
ย่อย พาร์ทที่1ไม่น่าจะมีปัญหาครับ เพราะเป็นแค่เรื่องหรือบทความสั้นๆไม่ได้มีอะไรยาก แค่ตั้งใจฟังก็น่าจะทำได้สบายๆแล้วครับ ฟังคีย์เวิร์ด คีย์เวิร์ดส่วนมากเป็นคำศัพท์ที่เราเคยเรียนกันมาอยู่แล้วครับ ไม่ได้เป็นศัพท์ที่ยากจนเราฟังไม่ออก เพรางั้นพาร์ทนี้แค่ตั้งใจฟังครับ มาที่พาร์ทที่2 ครึ่งแรกจะไม่ยากมากครับคล้ายๆพาร์ทแรก แค่ยาวกว่าหน่อย เราก็ใช้วิธีเดิมเลยครับ คือตั้งใจฟัง ส่วนพาร์ทหลังจุดหินของมันก็คือ การที่ต้องฟังเรื่องแล้วต้องมาตอบคำถาม3-4ข้อติดๆกัน ในพาร์ทนี้ตอนที่เราเรียนอยู่ที่ไทยแล้วสอบเราใช้วิธีที่ว่า โอเค ยากมากฟังไม่รู้เรื่องเลย เลยใช้วิธีการไล่ช้อยส์ สมมุติว่าเราแบ่งเรื่องเป็น6บรรทัด คำถามข้อที่1คือเนื้อเรื่องบรรทัดที่1-2 คำถามที่2 คือเนื้อเรื่องบรรทัดที่3-4 คำถามสุดท้ายคือบรรทัดที่5-6 ประมาณนี้ครับ ฟังไปดูช้อยส์ไป ช้อยส์อันไหนเหมือนที่เราได้ยินก็ตอบข้อนั้นเลย เป็นการแบ่งวรรคสำหรับคนลืมง่ายและไม่เข้าใจ คือวิธีการเดาที่มั่วซั่วมาก(ไม่แนะนำให้ทำ แต่ถ้ามันไม่ได้จริงๆก็ตามนี้เลยครับ) ส่วนวิธีที่ใช้ตอนรอบที่สอบได้เต็มคือวิธีการฟัง ฟัง ฟังเรื่องอย่างเดียวช้อยส์ค่อยดูตอนมันถามคำถาม คือเรื่องที่ออกสอบก็เป็นเรื่องทั่วๆไปแหละครับ เรื่องการสอนคนด้านจิตสำนึก ทำยังไงให้ชีวิตมีความสุข การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บลาๆๆประมาณนี้ครับ ยากสุดคือศัพท์วิทยาศาสตร์ แต่อย่าลืมว่าศัพท์ที่ยากๆนั้นแค่องค์ประกอบครับ ใจความสำคัญของพาร์ทนี้คือ เราสามารถฟังเรื่องแล้วจับใจความได้มั้ย ต้องจับคีย์เวิร์ดให้ได้ประมาณนี้ครับ
สำหรับพาร์ทการฟังเราว่าศัพท์แค่ระดับHSK4ก็สามารถลองทำได้นะครับมันไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้นเลย เราอ่านศัพท์กันเพื่อไปทำพาร์ทการอ่านและการเขียนครับ แต่พาร์ทการฟังนี่เอามาจากประสบการณ์ที่เราฟัง+พูดล้วนๆเลย เราจำได้ว่าตอนเราสอบครั้งแรกด้วยความรู้ที่HSK4 200+ต้นๆยังผ่านเลยครับ เราคิดว่าพาร์ทการฟังเป็นพาร์ทที่ดึงคำแนนเราให้ผ่านเยอะที่สุด ส่วนพาร์ทการอ่านกับการเขียนต้องใช้การฝึกฝนล้วนๆเลยครับ เพราะงั้นตั้งใจทำพาร์ทการฟังนะครับ ถึงพาร์ทอื่นทำไม่ได้ยังไงผ่านแน่นอน
สุดท้ายแล้ว ขอเป็นกำลังใจให้สำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวสอบHSK5ในตอนนี้นะครับ ไม่มีอะไรยากไปเกินกว่าความสามารถของเราแน่นอน ทำข้อสอบเยอะๆส่วนมากข้อสอบที่เค้าเอามาออกสอบก็เป็นข้อสอบเก่าเยอะเหมือนกันครับ ฟังเยอะๆพูดเยอะๆ ผ่านแน่นอนครับ ทริคพวกนี้อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน อยู่ที่ใครถนัดใช้แบบไหนก็เอาตามที่ตัวเองถนัดเลยครับ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่กำลังเตรียมตัวสอบนะครับ
ปล.หนังสือที่ใช้ฝึกมีอยู่3เล่มครับHSK真题集ปี2018、2014สำนักพิมพ์人民教育 อีกเล่มคือเล่ม汉语水平考试模拟试题集(เล่มนี้ง่ายไปไม่ค่อยแนะนำครับ แต่ข้อดีของมันคือเฉลยอธิบายละเอียด ใครอยากลองดูก็ได้ครับ)