ผมพึงเข้าใจชัด บทเรียนการลงทุนเพื่อหวังกินปันผล (คนเกษียณ) พอร์ตรวมทั้งหมดต้องได้กำไร ระดับ 50 % ขึ้นไปในสภาวะปกติ จึงถือว่าพอปลอดภัย.
เพราะเมื่อเจอวิกฤตพอร์ตรวมจะลดลง 50% ก็คือเงินต้นจะเท่าเดิม หรือถ้ามากกว่านั้น ก็จะขาดทุนเงินต้นเพียงเล็กน้อย แต่ปันผลรวมก็ยังประกองไปได้.
ผมจึงก็ค่อยๆ ปรับพอร์ตจาก +10% เพื่อไปถึงจุดนั้น
และได้บทเรียน รู้งี้. ซึ่งความจริงแล้ว ถ้ารู้งี้? ผมทำตามลูกที่พูดตอนเกิดวิกฤตโควิตรอบแรก Set. ลง 1000.จุดแล้วว่า..
ถ้าลูกมีเงินก้อนเก็บ จะเอาเงินมาซื้อหุ้นพื้นฐานดีช่วงนี้ให้เต็มที่(แต่หนูไม่มี)
ถ้าตอนนั้นผมเอาเงินทั้งหมดที่ผมขายหุ้น ก่อนเกิดวิกฤตไปเกือบหมด เหลือทุนไม่ถึงแสน แล้วเอาเงิดสดนั้นเทซื้อไปใหม่ทั้งหมดที่ขายไปคงได้ตามเป้าหมายแล้ว แต่ผมกลับเอาเงินเล็กน้อยซื้อกลับไปใหม่ ระดับแสนนิดๆ จึงเพียงได้ทุนคืนที่ขาดทุนไปในช่วงก่อนโควิตและโควิตรอบแรกเท่านั้น ในตอนนี้
มาดูพอร์ตผม ผมก็ค่อยๆ ปรับเพื่อให้มียอดรวมเพิ่ม +% มาที่ละน้อยๆ เพื่อความมั่นคงในการหวังกินเงินปันผล เล็กๆ น้อยๆ สำหรับคนแก่เกษียณ.
บทเรียนเรื่องหุ้น ที่พึ่งเข้าใจของการหวังเงินปันผลจากหุ้น พอร์ตต้องมีกำไร 50% ขึ้นไปกับหุ้นพื้นฐานดี ถือว่ามั่นคง
เพราะเมื่อเจอวิกฤตพอร์ตรวมจะลดลง 50% ก็คือเงินต้นจะเท่าเดิม หรือถ้ามากกว่านั้น ก็จะขาดทุนเงินต้นเพียงเล็กน้อย แต่ปันผลรวมก็ยังประกองไปได้.
ผมจึงก็ค่อยๆ ปรับพอร์ตจาก +10% เพื่อไปถึงจุดนั้น
และได้บทเรียน รู้งี้. ซึ่งความจริงแล้ว ถ้ารู้งี้? ผมทำตามลูกที่พูดตอนเกิดวิกฤตโควิตรอบแรก Set. ลง 1000.จุดแล้วว่า..
ถ้าลูกมีเงินก้อนเก็บ จะเอาเงินมาซื้อหุ้นพื้นฐานดีช่วงนี้ให้เต็มที่(แต่หนูไม่มี)
ถ้าตอนนั้นผมเอาเงินทั้งหมดที่ผมขายหุ้น ก่อนเกิดวิกฤตไปเกือบหมด เหลือทุนไม่ถึงแสน แล้วเอาเงิดสดนั้นเทซื้อไปใหม่ทั้งหมดที่ขายไปคงได้ตามเป้าหมายแล้ว แต่ผมกลับเอาเงินเล็กน้อยซื้อกลับไปใหม่ ระดับแสนนิดๆ จึงเพียงได้ทุนคืนที่ขาดทุนไปในช่วงก่อนโควิตและโควิตรอบแรกเท่านั้น ในตอนนี้
มาดูพอร์ตผม ผมก็ค่อยๆ ปรับเพื่อให้มียอดรวมเพิ่ม +% มาที่ละน้อยๆ เพื่อความมั่นคงในการหวังกินเงินปันผล เล็กๆ น้อยๆ สำหรับคนแก่เกษียณ.